----จะให้ ใส่เกียร์เร่งเครื่องเหรอ แค่ขับกินลมชมสาว แบบเห็นอกเห็นใจกันทุกฝ่าย หลายคนยังเรียกว่า ---เผด็จการ----!!!!333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333333
การเมือง - ระวัง!ตกม้าตาย - 1/12/2549
ระวัง!ตกม้าตาย หลังจากที่ บิ๊กแอ้ด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ออกมาพาดพิงถึงร้าน ต้มยำกุ้ง ภายในประเทศมาเลเซีย ว่าเป็นแหล่งเงินทุนให้กับกลุ่ม โจรใต้ ใช้ในการซ่องสุมกำลังก่อความไม่สงบ
ก็ดูเหมือนว่าจะยิ่งสร้างความปั่นป่วนในพื้นที่ภาคใต้ กระทั่งมีกระแสข่าวการตั้งค่าหัวของ บิ๊กแอ้ด และ บิ๊กปัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.)
จะเป็นแค่กระแสหรือเรื่องจริง ทุกฝ่ายก็ต้องให้ความสำคัญ เพราะยิ่งแสดงถึงความเหิมเกริมของกลุ่มผู้ก่อการ ที่อาจหาญจุดประเด็นความไม่ปลอดภัยของผู้นำ แต่ บิ๊กแอ้ด ก็ออกมากลบกระแส ประกาศ ไม่หวั่นไหว ต่อข่าวดังกล่าว
เพราะชีวิตของการเป็นทหาร สักวันหนึ่งก็ต้องเสียชีวิต แต่ถ้าเสียชีวิตเพราะชาติได้ก็จะยิ่งดี ถือเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้กับ ทหาร-ตำรวจ ในพื้นที่ได้มากโขทีเดียว
สิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นภาพลักษณ์ของ บิ๊กแอ้ด ตั้งแต่ในอดีต จนถึงปัจจุบัน ที่เป็นคนสุขุม ลุ่มลึก ธรรมะ ธรรมโม พร้อมที่จะทำงานรับใช้แผ่นดิน
แต่ที่สำคัญที่สุดที่ บิ๊กแอ้ด กำชับ คือ การสร้าง มวลชน การสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อประชาชนในพื้นที่ หากมีการสร้างข่าว กระแสต่างๆ อย่างต่อเนื่อง คนที่ หนักใจ คงไม่พ้น บิ๊กแอ้ด เพราะหลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ดูเหมือนว่า ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดูจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ถึงแม้ว่า บิ๊กแอ้ด จะลงทุน ขอโทษ และพร้อม กราบเท้า ก็ตาม สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น
ซึ่งการให้เวลา ในการปฏิบัติหน้าที่ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน(กอ.รมน.)เป็นเวลา 3 เดือน ก็ใช่ว่าจะเห็นผลในทันที เพราะตั้งแต่ไม่มี พล.อ.พัลลภปิ่นมณี เป็นผู้สั่งการ คอยกำชับอะไรต่อมิอะไร
การข่าว ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของทหารขาดหายไป ก็เหมือนเป็นการตัดแขนตัดขา ไปโดยปริยาย
ขณะที่แนวคิด การตั้ง เขตพัฒนาพิเศษ ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นัดพิเศษ ที่บ้านพิษณุโลก ของ บิ๊กแอ้ด นั้นจะเน้นเรื่องเศรษฐกิจมากกว่า โดยให้ผู้เกี่ยวข้องประสาน
งานกับทีมเศรษฐกิจ จึงจะเห็นผล ภายใน 6 เดือน
แม้จะเป็นผลดีต่อสถานการณ์ในพื้นที่ไม่มาก แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่หลายฝ่ายให้ความสำคัญ เพราะการแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาส่วนใหญ่ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า
ซึ่งความจริงแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นความหวาดระแวง เจ้าหน้าที่ของรัฐ
ประเด็นสำคัญ คงหนีไม่พ้น การฆ่าตัดตอน กว่า 2,500 ราย ในสมัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายพยายามกดดัน รัฐบาล และ คมช.ให้รื้อคดีต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ กลับขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเรียกความน่าเชื่อถือ ระหว่าง เจ้าหน้าที่ของรัฐ กับ ประชาชน ที่นับวันจะกลายเป็น จุดบอด หรือ ช่องโหว่ ให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีอย่างไม่ปราณี
สิ่งเหล่านี้ หากรัฐบาลและ คมช. ยังไม่สามารถ ลบ จุดบอดและช่องโหว่ ที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม
เชื่อ ขนม กินได้เลยว่า ในไม่ช้านี้ เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องทวีความรุนแรงมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉะนั้น รัฐบาล และ คมช.จะต้อง ใส่เกียร์ เร่งเครื่อง โดยไม่ต้องแตะ เบรก ยิ่งเป็นรัฐบาลมาจากการแต่งตั้ง ยิ่งไม่ต้องเหนียม
ไม่เช่นนั้นจะ ตกม้าตาย !! http://www.siamrath.co.th/Politic.asp?ReviewID=158505