ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
15-05-2025, 02:27
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คิดยังไงกับการค้าขายบนทางเท้าครับ (โบ๊เบ๊ศึกษา) 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คิดยังไงกับการค้าขายบนทางเท้าครับ (โบ๊เบ๊ศึกษา)  (อ่าน 2157 ครั้ง)
mini
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407


« เมื่อ: 29-11-2006, 20:36 »

ส่วนตัว ผมเห็นด้วย ที่ต้องทำการย้ายผู้ค้าออกไป
ไม่ใช่แค่ในโบ๊เบ๊ แต่ริมถนนส่วนใหญ่ในกรุงเทพ
โดยเฉพาะบริเวณที่มีสถานที่ใหม่รองรับ
แต่ผู้ค้ากลับไม่ยอมย้าย ด้วยข้ออ้างต่างๆนาๆ
ผมคิดว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่สังคมควรจ่ายให้กับคนส่วนน้อยครับ

ยิ่งรอบๆตัวผมที่เจอ บางครั้ง ถึงขนาดตั้งโต๊ะขายอาหารกันบนทางเท้า
จนคนที่เดินไปมา ต้องออกไปเดินบนถนน เพราะมันแออัดมาก
ทั้งที่ ได้มีการจัดเตรียมบริเวณให้ ก็ไม่ยอมย้าย

รวมทั้งวินมอเตอร์ไซต์ที่ใช้พื้นที่ถนนเป็นที่จอดรถด้วยครับ

ใครมีความคิดเห็นเรื่องนี้อย่างไร เชิญครับ รออ่านอยู่
บันทึกการเข้า
ใบไม้ทะเล
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,321


In politics stupidity is not a handicap


« ตอบ #1 เมื่อ: 29-11-2006, 20:57 »

ถ้าเป็นการจัดระเบียบทางด้านสังคมก็เห็นด้วยค่ะ

เพราะทางเท้าก็คือทางเท้า ไม่ใช่ที่ขายของ....




บันทึกการเข้า

立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
Cherub Rock
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,183


น้องๆ ช่วยไปบอกผู้หญิงคนนั้นที ว่าเลิกมองผมได้แล้ว


« ตอบ #2 เมื่อ: 29-11-2006, 21:00 »

ขายของบนทางเท้าเดินลำบากมากครับ โบ๊เบ๊นี่คิดว่าสาหัสมาก
ไม่ใช่แค่คนเดิน ..แถวหน้าบ้านมนังฯผิวถนนยังไม่พ้น
ทั้งรถเข็นรถขนของ สุดยอดของความไร้ระเบียบจริงๆ
 
บันทึกการเข้า

"นายกรัฐมนตรีกำลังใช้รัฐสภาประกอบพิธีกรรมสถาปนาอำนาจของตนเองโดยเห็นรัฐสภาเป็นเพียงแค่ตรายาง และปล่อยให้มีการทำร้ายประชาชนถือว่าหมดความชอบธรรมแล้ว" รสนา โตสิตระกูล
1ktip
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,457



« ตอบ #3 เมื่อ: 30-11-2006, 18:57 »

ถนนหลายๆ สายก็มีพื้นที่ผ่อนผันให้อยู่แล้ว ตลาดของ กทม. ก็มีอยู่ถึง 18 แห่ง ไม่รวมตลาดเอกชนอีกนับไม่ถ้วน ถ้าไม่พอหรือทำเลไม่เหมาะ

ก็น่าจะเรียกร้องให้มีการจัดสรรพื้นที่ให้ ไม่ใช่นึกจะยึดที่ไหนก็ได้ตามใจชอบ หลายๆ คนยึดเป็นเจ้าของเอาไปปล่อยเช่า-เซ้งหากินอีกต่างหาก

น่าเห็นใจคนทำมาหากิน แต่ก็ต้องนึกถึงผลกระทบต่อคนส่วนรวมบ้าง
บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 30-11-2006, 19:59 »

จัดระเบียบดีแล้ว แต่ว่า ต้องมองให้ครบวงจร ต้องเข้าใจว่า เมืองไทยแข่งขันอะไรไม่ได้เลย  เพราะ

1. อาชีพปกติถูกแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว ที่เหลือก็ต้องมาแย่งกันเอง อาหารตามสั่ง, ก๋วยเตี๋ยว, ลูกชิ้นปิ้ง, เสื้อผ้า, หน้ากากมือถือ, ซื้อขายมือถือ, เบ็ดเตล็ด การเปลี่ยนจากอาชีพหนึ่งไปอีกอาชีพ ยากลำบากขึ้น โอกาสมีน้อยลงทุกวันๆ จะให้คนเคยขายเสื้อผ้าโบ๊เบ๊ไปทำอาชีพอื่น สมัยนี้แค่อาชีพเดิม เจอจีน เวียดนาม เข้ามาแข่งก็อ้วกแตกแล้ว (ใครเคยไปเห็นตลาดค้าส่งในกว่างโจว คุนหมิง ยี่วู แล้วจะสยอง) ถามว่าจะไปทำอาชีพอะไรได้อีกนอกจากข้างบน ขนาดคนทำอาชีพปกติ ตามตึกแถวสมัยนี้ยังนึกไม่ออกเลย ก๊อกๆแก๊กๆกันไปวันๆ (นี่ก็ตอบคำถามไปในตัวว่า ถ้า OTOP ประสบความสำเร็จงดงามจริง ทำไมคนไม่แห่ไปทำ OTOP ล่ะ แล้วก็เป็นคำตอบว่า ทำไมสมัยนี้คนถึงบ้าการพนัน ขายตัว ฯลฯ)

2. ที่ทางสมัยนี้ก็แพงแสนแพง สวนทางกับหนทางทำมาหากิน ตึกห้องเดียวสมัยนี้ก็ 10 ล้าน ขนาดแถวๆบางพลียังห้องละ 5 ล้าน คุณลองมานั่งนึกดู จะทำอะไรแดร๊กถึงจะคุ้ม?? รถเข็นตามทางเดินในห้างสรรพสินค้าเดือนละ 15,000.- (รวมที่ตจว.ด้วย)  พื้นที่แค่ประมาณ 4 ตร.ม.ตามเสาทางเดินในห้างเดือนละ 2-30,000.- ห้างแทบไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลย ผลตอบแทนเยอะกว่าตึกแถว 4 ชั้นปล่อยเช่าทั้งหลัง

สรุปรวมๆ เรียกเป็นภาษาแต้จิ๋วบ้านๆว่า "บ่อโหล่ว 無路" คือ หมดทาง

ถ้าจะแก้ปัญหาต้องแก้ต้นเหตุ เป็นระยะยาว
1. "คอรับชั่น" ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความยากจน
2. "การจำกัดการกระจายของห้างยักษ์" ไม่ให้มาแย่งอาชีพคนไทย ไม่ต้องมาออกกฎหมายใหม่อะไร แค่แก้กฎหมายผังเมืองบางข้อก็จบแล้ว แต่วัฒนธรรมไทยมันคือศรีธนญชัย คอรับชั่น อีก 100 ปีมันก็ได้แต่พูด
3. จัดการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาทักษะ ไม่ใช่แค่เพิ่มโรงเรียน สมัยนี้ถ้าขนาดคนจบปริญญายังต้องมาทำอาชีพที่ทักษะน้อยกว่า หรือ over qualified เพราะว่าให้ผลตอบแทนเยอะกว่าอาชีพที่ตัวเองเชี่ยวชาญ หรือหางานที่ตรงที่เรียนมาไม่ได้ ไม่ได้แปลว่า คนโง่ แต่แปลว่า การศึกษาล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง หรือไม่มีการวางแผนกำลังคนในประเทศ

ทางแก้ระยะสั้น ผมไม่สนับสนุนการจัดระเบียบการค้าขายริมทางแบบหักดิบครับ ขอให้เริ่มจาก
1. ปรับปรุงรูปแบบของแผงค้า และต้องทำทั่วกทม. หรือทั่วประเทศเลย (ไปดูรูปแบบเพิงขายก๋วยเตี๋ยวในเกาหลี หรือรถเข็นขายฮ็อตด็อกในอเมริกา) และอย่าไปบังคับแค่คนโบ๊เบ๊ จะบังคับใช้กฎอะไร ต้องให้เท่าเทียมกัน
2. ปราบคอรับชั่นระดับเทศกิจ (ได้แค่ฝัน)
3. Zoning บางพื้นที่สำคัญ ซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของประเทศ เช่น เขตพระนครชั้นใน โบราณสถาน สีลม สาทร เพลินจิต พวกนี้ห้ามขายไปเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-11-2006, 20:15 โดย ThaiTruth » บันทึกการเข้า

buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #5 เมื่อ: 30-11-2006, 19:59 »

มันต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ เพราะ ถึงจะเป็นส่วนน้อย ก็ต้องให้ ความเป็นธรรมกับเค้าด้วยเหมือนกัน คนมีรายได้ ทุกวันหาเลี้ยงตัวเอง แต่ ต้องมาเจอแบบนี้ ก็ต้องเดือดร้อนเป็นธรรมดาครับ

จัดระเบียบ แบบ วิน-วิน สิครับ แฟร์ ที่สุด
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
No_Tuky
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 296


« ตอบ #6 เมื่อ: 30-11-2006, 21:43 »

การจัดผัง เราคิดมาเป็นเรื่องหลังสุดก่อนอยู่เสมอ ถ้าตูเป็น อภิรักษ์ คงต้องแข็งใจลงไปคุยกับพ่อค้าแม่ขายอยู่หลายๆครั้ง ตามเวลาว่าง เพราะไงๆคนเราใจมะแข็งได้ตลอดหรอก ยิ่งมีคนพยายามเข้าใจ ตูเชื่อว่าเขาจะต้องยอมย้ายในที่สุด 
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #7 เมื่อ: 30-11-2006, 21:52 »

การค้าขายบนทางเท้านั้น มีอยู่สองประเภท คือ หาบเร่ และ แผงลอย

หาบเร่นั้น จัดอยู่ในสภาพของคนจน เพราะต้องหาบค่ะ ไม่ใช่รถเข็นนะคะ รถเข็นจัดอยู่ในจำพวกแผงลอย

แผงลอย คือกลุ่มการค้าของคนเห็นแก่ตัว ใช้ข้ออ้างความจนเป็นเกราะกำบัง แผงลอยแถวโบ๊เบ๊นั้น ค้าขายกันร่ำรวย รายได้มากมาย จ้างลูกจ้างมาขาย คนพวกนี้คือขยะสังคม ไม่ยอมทำตามระเบียบสังคม เป็นพวกทุนนิยมที่ทำลายชาติ

ข้ออ้างว่าไม่มีที่ค้าขาย จะเห็นว่าเป็นข้ออ้างที่ใช้ไม่ได้ เพราะจัดที่ค้าขายให้ ก็ไม่ไป จะอยู่มันตรงนั้นแหละ นี่ไม่ใช่คนเดือดร้อน แต่เป็นคนเห็นแก่ตัว

มหาจำลอง เคยจัดการกับปัญหานี้ด้วยวิธีเบสิก ง่ายมาก คือไม่รังแกคนที่อ้างว่าจน ไม่จับคนขาย แต่จับคนซื้อ  เป็นวิธีที่ขอยกย่องค่ะ จัดการปัญหาได้ตรงจุด ตรงเป้า ดีเลิศจนต้องขอบันทึกไว้ว่า เจ๋งจริงๆ

ปัญหาการค้าขายบนทางเท้า คือการแสดงถึงความเจริญของผู้คนในบ้านเมือง บ้านเมืองที่อุดมไปด้วยเศษมนุษย์ ก็จะรกรุงรังและสกปรก ค้าขาย ถ่มถุย ทิ้งขยะ กันไปทั่ว ไร้ระเบียบ ไร้วัฒนธรรม

วัฒนธรรมของประเทศนั้น ดูได้ตามท้องถนนค่ะ ไม่ใช่ไปดูที่ศูนย์วัฒนธรรมของชาติ 
บันทึกการเข้า
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 30-11-2006, 22:16 »

ในกทม ไม่ใช่ ที่โบ๊เบ๊ที่เดียวนะครับ มีหลายแห่งมาก

บ้านหม้อ สะพานเหล็ก คลองถม วงเวียน22 ฟุตบาทหน้าราม  .....

แต่ละที่ ทำกันมา วางขายกันมา นานมาแล้ว

ถ้าจัดเป็นระเบียบได้ก็เป็นเรื่องดี

แต่การเปลี่ยนพฤติกรรม ทัศนะคติ ทั้งเรื่องประโยชน์ของ กลุ่มคน ต้องเจอแรงต้านค่อนข้างแรง

ผมว่าเรื่องนี้ทำยากจริงๆ

ดูอย่างสะพานเหล็ก มีป้ายบอกจะปรับปรุงมาเป็นปีๆจนป้ายพังไปแล้ว ก็ยังทำอะไรไม่ได้  Confused
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 30-11-2006, 23:21 »

การค้าขายบนทางเท้านั้น มีอยู่สองประเภท คือ หาบเร่ และ แผงลอย

หาบเร่นั้น จัดอยู่ในสภาพของคนจน เพราะต้องหาบค่ะ ไม่ใช่รถเข็นนะคะ รถเข็นจัดอยู่ในจำพวกแผงลอย

แผงลอย คือกลุ่มการค้าของคนเห็นแก่ตัว ใช้ข้ออ้างความจนเป็นเกราะกำบัง แผงลอยแถวโบ๊เบ๊นั้น ค้าขายกันร่ำรวย รายได้มากมาย จ้างลูกจ้างมาขาย คนพวกนี้คือขยะสังคม ไม่ยอมทำตามระเบียบสังคม เป็นพวกทุนนิยมที่ทำลายชาติ

ข้ออ้างว่าไม่มีที่ค้าขาย จะเห็นว่าเป็นข้ออ้างที่ใช้ไม่ได้ เพราะจัดที่ค้าขายให้ ก็ไม่ไป จะอยู่มันตรงนั้นแหละ นี่ไม่ใช่คนเดือดร้อน แต่เป็นคนเห็นแก่ตัว


มหาจำลอง เคยจัดการกับปัญหานี้ด้วยวิธีเบสิก ง่ายมาก คือไม่รังแกคนที่อ้างว่าจน ไม่จับคนขาย แต่จับคนซื้อ  เป็นวิธีที่ขอยกย่องค่ะ จัดการปัญหาได้ตรงจุด ตรงเป้า ดีเลิศจนต้องขอบันทึกไว้ว่า เจ๋งจริงๆ

ปัญหาการค้าขายบนทางเท้า คือการแสดงถึงความเจริญของผู้คนในบ้านเมือง บ้านเมืองที่อุดมไปด้วยเศษมนุษย์ ก็จะรกรุงรังและสกปรก ค้าขาย ถ่มถุย ทิ้งขยะ กันไปทั่ว ไร้ระเบียบ ไร้วัฒนธรรม

วัฒนธรรมของประเทศนั้น ดูได้ตามท้องถนนค่ะ ไม่ใช่ไปดูที่ศูนย์วัฒนธรรมของชาติ


ยอมรับครับ ความเห็นคมจริงๆ บาดเป็นแผลเลยครับ อ่านแล้วจำเป็นต้องคล้อยตาม  Mr. Green
บันทึกการเข้า

คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #10 เมื่อ: 01-12-2006, 07:45 »

เห็นด้วยกับคุณไทยทรู และคุณพรรณชมพู ครับ สมบูรณ์ในเนื้อหาไม่ต้องเพิ่มเติมอะไรอีกครับ
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
mini
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407


« ตอบ #11 เมื่อ: 01-12-2006, 16:19 »

จัดระเบียบดีแล้ว แต่ว่า ต้องมองให้ครบวงจร ต้องเข้าใจว่า เมืองไทยแข่งขันอะไรไม่ได้เลย  เพราะ

1. อาชีพปกติถูกแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว ที่เหลือก็ต้องมาแย่งกันเอง อาหารตามสั่ง, ก๋วยเตี๋ยว, ลูกชิ้นปิ้ง, เสื้อผ้า, หน้ากากมือถือ, ซื้อขายมือถือ, เบ็ดเตล็ด การเปลี่ยนจากอาชีพหนึ่งไปอีกอาชีพ ยากลำบากขึ้น โอกาสมีน้อยลงทุกวันๆ

2. ที่ทางสมัยนี้ก็แพงแสนแพง สวนทางกับหนทางทำมาหากิน ตึกห้องเดียวสมัยนี้ก็ 10 ล้าน ขนาดแถวๆบางพลียังห้องละ 5 ล้าน คุณลองมานั่งนึกดู จะทำอะไรแดร๊กถึงจะคุ้ม?? รถเข็นตามทางเดินในห้างสรรพสินค้าเดือนละ 15,000.- (รวมที่ตจว.ด้วย)  พื้นที่แค่ประมาณ 4 ตร.ม.ตามเสาทางเดินในห้างเดือนละ 2-30,000.- ห้างแทบไม่ต้องลงทุนเพิ่มเลย ผลตอบแทนเยอะกว่าตึกแถว 4 ชั้นปล่อยเช่าทั้งหลัง

ผมไม่เห็นด้วยตรงข้อ 2 นะครับ
คือผมมองว่า เพราะมีหาบเร่แผงลอยยึดข้างถนนนี่แหละครับ
ทำให้ตึกแถวที่ซื้อมาในราคาแพง ไม่คุ้ม
เพราะลงทุนต่างกัน ในทำเลไม่ต่างกัน
มีพื้นที่ขายต่างกันเยอะจริง แต่ความกว้างของหน้าร้าน ต่างกันไม่เยอะนะครับ

ถ้าไม่มีพวกแผงต่างๆ กำลังซื้อก็จะกลับมาเป็นของตึกแถว ทำให้พออยู่ได้
ส่วนคนที่ เป็นแผงลอยหาบเร่ที่จนจริงๆ
ผมไม่คิดว่าเราควรจะปล่อยไปเรื่อยๆ
แต่ให้โอกาสที่จะเรียนรู้งานวิชาชีพก็ได้
หรือมีศูนย์จัดหางานให้บริการฟรี
ก็นับว่าเป็นแนวทางหนึ่งในการแก้ปัญหา

อีกส่วนหนึ่ง ที่จะจัดระเบียบ ก็มีพื้นที่รองรับที่ใหม่ให้
ก็จ่ายค่าเช่าไปสิครับ
ถ้าจ่ายไม่ได้ หรือคิดว่าไม่คุ้ม ก็ไปทำอย่างอื่น
แต่ไม่ใช่มายึดที่สาธารณะกันแบบนี้

ในห้างก็เช่นเดียวกันครับ ถ้าคิดว่าแพงก็อย่าเช่า
มันเป็นเรื่อง demand & supple ธรรมดาครับ
ถ้าไม่มีคนเช่าเยอะๆ หรือคนเช่าทำแล้วเจ๊ง ไม่เช่าต่อ
ห้างก็จะลดราคาเองครับ
ไม่จำเป็นต้องไปบิดเบือนอะไรมาก

ถ้าคุณเคยเจอที่ที่เบียดมากๆ จนต้องลงไปเดินบนถนน แล้วเกิดอุบัติเหตุแม้เพียงเล็กน้อยแล้วละก็
จะเข้าใจครับ ว่าไม่ใช่ไม่เห็นใจ
แต่ชีวิตผมก็มีค่าเหมือนกัน ผมไม่อยากเอาชีวิตผมแลกกับเรื่องแบบนี้

ทางแก้ระยะสั้น ในความคิดของผม

1 พื้นที่ไหน มีพื้นที่ใหม่รองรับแล้ว ต้องย้ายไปให้หมดครับ
(แถวบ้านผมมี แต่คนขายไม่ย้าย มาเบียดกันบนถนน
ทั้งๆที่ค่าเช่าไม่ได้แพงเลย แต่กลัวไม่มีลูกค้า แบบนี้เห็นแก่ตัวครับ)

2 พื้นที่ไหน ไม่มีพื้นที่ใหม่รองรับ กทม ก็ต้องพยายามหาพื้นที่มาครับ
ไม่ว่าจะทำเอง หรือร่วมมือกับเอกชน

3 จัดหาศูนย์รับสมัครงาน แล้วก็เปิดศูนย์ฝึกอบรมอาชีพเพิ่มเติม ให้คนที่ไม่มีทางเลือกครับ
บันทึกการเข้า
justy
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 1,250



« ตอบ #12 เมื่อ: 01-12-2006, 16:31 »

ไม่ชอบด้วยเห็นการขายของบนทางเท้าเหมือนกันค่ะ

ไม่ว่ากรุงเทพ ไม่ว่าต่างจังหวัด (ในตัวจังหวัด) ใน อำเภอ (ในตัวอำเภอ)

มักพบเห็นแบบนี้กันเกลื่อนไปหมดแทบจะเป็นเรื่องปกติของคนไทยไปเสียแล้ว

แก้ยากน่ะ  เพราะสังคมไทย เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว


เคยโมโหเหมือนกันที่เดินๆบนทางเท้าแล้ว ต้องเลี่ยงลงไปเดินบนถนนรถวิ่ง

เป็นอย่างนี้ทุกครั้งเลย ..น่าเบื่อสุดๆ

บันทึกการเข้า

พรรคไทยรักไทยมิได้ให้ความสำคัญหรือเห็นคุณค่าของสิทธิเลือกตั้งของประชาชน อันเป็นรากฐานสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังแสดงถึงการไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายบ้านเมือง ทั้งที่พรรคไทยรักไทยเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนสูงสุดในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไปก่อนหน้านี้ 2 ครั้ง ควรต้องสร้างความยั่งยืนให้แก่การปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยมั่นคงกับหลักการที่ว่า กฎหมายต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อบ่งชี้ด้วยว่า พรรคไทยรักไทย มิได้มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่มุ่งพัฒนาประเทศชาติเพื่อให้คนในชาติมีความสุขทั่วหน้าดังที่ได้รณรงค์หาเสียงไว้ต่อประชาชนอย่างแท้จริง หากแต่มุ่งประสงค์เพียงดำเนินการในทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ นอกเหนือจากครรลองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศตลอดจนบทกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่หาอุดมการณ์อันแท้จริงของพรรคให้เกิดความมั่นใจแก่ประชาชนโดยรวมว่า เมื่อเป็นรัฐบาลมีอำนาจบริหารราชการแผ่นดินแล้ว จะดำเนินการปกครองโดยสุจริต ไม่ประพฤติมิชอบหรือบริหารราชการแผ่นดินโดยแอบแฝงไว้ซึ่งผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อ
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #13 เมื่อ: 01-12-2006, 17:38 »

แต่ต้องระวัง

เหลือแต่ขายในตึก แพงโคตร นะครับ
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
อมพระมาพูด
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 918


สนิมเกิดแต่เนื้อในตน


« ตอบ #14 เมื่อ: 01-12-2006, 17:58 »

 

หาบเร่ แผงลอย อยู่คู่กับคนไทย มานานนนนนนนนน ถือว่าเป็นร้านสะดวกซื้อต้นแบบแรกๆของเมืองไทยนะครับ แต่จัดระเบียบให้เข้าที่เข้าทางซะหน่อยก้อดี !!
บันทึกการเข้า

พึงทำความเพียรในวันนี้ ใครเล่าจะรู้วันตายในวันพรุ่ง
ตาย่าน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 238



เว็บไซต์
« ตอบ #15 เมื่อ: 02-12-2006, 02:25 »

เขาเซ้งกันมาแพงนี่ จะไปตอนนี้ก็ยังไม่คุ้ม ถ้ารัฐรับเซ้งต่อรับรองสลายตัวทันทีสบายดีไม่มีปัญหา ทะเลาะแทบตายห่า เรื่องของเรื่องก็คือตะกละเงิน ถุยจริงๆ
บันทึกการเข้า

เพราะตาย่านคือตาย่าน
หน้า: [1]
    กระโดดไป: