วันนี้ไปชมสาวกระเหรี่ยงคอยาวที่แม่ฮ่องสอนกันเถอะ
กระเหรี่ยงคอยาว หรือชนเผ่าปาดอง(Padong)
เป็นชาวเขาเผ่าหนึ่งอาศัยอยู่ลึกเข้าไปในดินแดนพม่า
(ติดต่อกับเขตบ้านน้ำเพียงดินของประเทศไทย)

ยังชีพด้วยการเกษตรกรรม ปลูกข้าว ใบชา ยาสูบ
ส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธกับถือผี

หญิงชาวปาดองจะสวมห่วงทองเหลืองที่คอและ แขนขา
และจะเพิ่มจำนวนห่วงมากขึ้นเมื่อ มีอายุเพิ่มขึ้น

การสวมห่วงค้ำคอไว้ตลอดเวลา ห่วงจะดันให้คอดูยาวกว่าปกติ
แต่เคยมีการพิสูจน์ในวงการแพทย์ โดยการเอ็กซเรย์ได้ผลออกมาว่า
ความจริงแล้วคอปาดองจะไม่ยาวขึ้นกว่าคนธรรมดา กระดูกคอยังคงเท่าเดิม
แต่ห่วงจะไปกดกระดูกช่วงไหล่ให้ลู่ต่ำลงไปจนดูว่าคอยาวกว่าปกติ

หมู่บ้านนาสอย
สามารถไปชมหมู่บ้านชาวกระเหรี่ยงคอยาวได้ที่
บ้านนาสอย หมู่บ้านกระหรี่ยงคอยาว(ปาดอง)อันลือเลื่องแห่งเมืองสามหมอก
โดยขับรถไปตามเส้นทางเดิมที่คดเคี้ยวสูงชัน ลัดเลาะไปตามไหล่เขา
ที่อีกฝากหนึ่งเป็นหน้าผาและอีกฝากหนึ่งเป็นเหวลึก
มีโค้งปราบเซียนมากมาย ร่วมยี่สิบกิโลเมตรกว่า
สองกิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงบ้านนาสอย เป็นทางลูกรังที่ลำบาก

หากต้องการไปแบบง่าย ๆสะดวกสุด และใกล้สุดให้ไปที่
บ้านห้วยเสือเฒ่า หรือถ้าต้องการไปแบบนั่งเรือชมทิวทัศน์ ก็ต้องไปที่
บ้านน้ำเพียงดินแต่นักท่องเที่ยวบางคนนเลือกมาที่บ้านนายสอย
ก็เพราะว่าอยู่ใกล้สวนป่าตามโครงการพระราชดำริปางตอง 2

กะเหรี่ยงผู้อาวุโสที่สุดในหมู่บ้าน
กะเหรี่ยงคอยาวหรือปาดองต้องถือกันว่าเป็นสัญลักษณ์ และจุดดึงดูดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน
มีนักท่องเที่ยวทั้งไทย และต่างชาติมาเที่ยวชมอย่างต่อเนื่อง
ที่บ้านนายสอยมีกระเหรี่ยงคอยาวทั้งหมดอยู่ประมาณ 50-60 หลังคาเรือน
ส่วนใหญ่ย้ายมาจากบ้านน้ำเพียงดินซึ่งเคยถูกโจมตีจากทหารพม่า

ชาวกะเหรี่ยงที่นี่มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย
เต็มไปด้วยอัธยาศัย และรอยยิ้มมีบุคลิกที่เรียบร้อยพูดจาสุภาพ

ผู้หญิงชาวปาดองมีอายุได้ 3-5 ปีก็จะเริ่มใส่ห่วงแล้ว
เดิมห่วงคอทำด้วยทองคำแต่ปัจจุบันเป็นทองเหลืองจากประเทศพม่า
ชาวปาดองบางคนใส่ห่วงหนักถึง 15กิโลกรัม

การสวมห่วงคอมีความเชื่อหลายอย่าง เช่น เป็นการแสดงฐานะ
และกันการแต่งงานข้ามเผ่ารวมถึงกันภูตผีปีศาจ

ชาวกะเหรี่ยงคอยาวบ้านปาด่อง
การเดินทาง : ลงเรือที่ท่าเรือบ้านห้วยเดื่อ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
ซึ่งเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงที่มีกะเหรี่ยง 2 เผ่าอาศัยอยู่คือกะเหรี่ยงคอยาวและกะเหรี่ยงหูยาว

ยังคงแต่งกาย อย่างมีเอกลักษณ์ ชอบนั่งทอผ้าอยู่หน้าบ้าน

ฝีมือการทอผ้าของเธอสวยงามมาก
บ้างก็มานั่งขายของที่ระลึกให้กับนั่งท่องเที่ยว ทั้งกระเป๋า เงิน เครื่องประดับต่าง ๆ
เครื่องประดับบางชิ้นทำเอง บ้างชิ้นจะมีพ่อค้ามาส่งให้ถึงที่

วัฒนธรรมดั่งเดิมที่ยังคงมีอยู่เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาที่นี่ทุกวัน
กระเหรี่ยงคอยาว(ปาดอง)จึงเป็นกลุ่มชนที่สร้างรายได้ให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นอย่างมาก

มะจัง เป็นชื่อกะเหรี่ยงคอยาวบ้านปาด่อง ที่เป็นดาวเด่นของหมู่บ้าน
ไม่ว่านักท่องเที่ยวกลุ่มใดมาเที่ยวที่นี่จะต้องประทับใจกับอัธยาศัยที่ดีของมะจัง
ซึ่งเป็นกะเหรี่ยงที่มีอารมณ์ดีตลอดเวลา มีความสามารถพิเศษด้านเล่นกีต้าและร้องเพลง





การเดินทางไปแม่ฮ่องสอนถ้าจะให้ได้สุนทรีในการท่องเที่ยวเต็มที่
ควรจะเดินทางไปโดยทางรถยนต์
เนื่องจากทิวทัศน์ 2 ข้างทางล้วนน่าสนใจและสวยงามตามธรรมชาติ
ป้าเสลาเคยเดินทางไปเที่ยวโดยรถประจำทางจากเชียงใหม่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
จำได้ว่าระหว่างทางรถวิ่งผ่านป่าโปร่งๆ
รถประจำทางสมัยนั้นไม่ใช่รถปรับอากาศ
จะมีคนขับและเด้กประจำรถซึ่งจะยืนเกาะอยู่ที่บันไดตรงประตูรถ
เป็นผู้ช่วยคอยดูเส้นทางให้กับโชเฟอร์ลูกพี่
ช่วงเวลานั้นเด้กประจำรถตาดีมองเห็นตัวแลน
ซึ่งลักษณะคล้ายๆตัว*** ซึ่งในท้องถิ่นแถบนั้นนิยมนำมารับประทาน
กำลังเลื้อยอยุ่ข้างทาง
ทันทีที่เด็กประจำรถตระโกนบอก "แลน..แลน.."
โชเฟอร์หยุดรถทันที แล้วลงไปไล่จับ 2 คนกับเด็กผุ้ช่วย
ท่ามกลางการลุ้นระทึกเอาใจช่วยของผู้โดยสารทั้งคันรถ
และแล้วชั่วเวลาไม่นาน โชเฟอร์กับผู้ช่วย
ก็ช่วยกันหิ้วเจ้าแลนผู้เคราะห์ร้ายขึ้นไปมัดเก็บบนรถ
ด้วยสีหน้ายิ้มย่อง
อีกเรื่องหนึ่ง..เมื่อเร็วๆนี้ เพื่อนรุ่นน้องป้าเสลาไปเที่ยวแม่ฮ่องสอน
ดั้นด้นไปเยือนหมู่บ้านกระเหรี่ยงคอยาว
แต่ไม่เจอสาวๆกระเหรี่ยงเลย
ต้องขับรถกลับเข้าตัวเมืองด้วยความผิดหวัง
ทั้งเหนื่อยทั้งหิว...
พอเข้ามาหาของกินที่ตลาด
ปรากฏว่า... มาเจอสาวน้อยสาวใหญ่ชาวกระเหรี่ยงคอยาวกลุ่มใหญ่กำลังซื้อของกันอยู่
...แป่วว.....
ก่อนจบเรื่องนี้ พอจะสรุปเป็นข้อคิดทิ้งท้ายได้ว่า
การท่องเที่ยวมักจะมีเรื่องราวเป็นของแถมที่ประทับใจเสมอ
หากเราเปิดใจรับทุกสถานการณ์....(ข้อมูลได้มาจากหลายๆเว็บ..ไม่บอกได้ใหม -พิมพ์ไม่หมด

)