ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-04-2024, 10:31
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  รามเกียรติ์ตอนนี้ ทำร้ายความรู้สึกของคนในชาติอย่างไร 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 [2]
รามเกียรติ์ตอนนี้ ทำร้ายความรู้สึกของคนในชาติอย่างไร  (อ่าน 4780 ครั้ง)
Foxhound
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



« ตอบ #50 เมื่อ: 21-11-2006, 22:24 »

คุณพรรณชมพู  ขอแสดงความนับถือ      
 
จขกท น่าสงสาร แถไปเรื่อย ไปเล่นที่อื่นซักเดือนนะแล้วค่อยกลับมาเดียวคนในนี้ก็ลืมแล้ว



บันทึกการเข้า
THX
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 569



« ตอบ #51 เมื่อ: 21-11-2006, 23:08 »

วิถีชาวบ้านหรือวิถีประชา วัฒนธรรมท้องถิ่น มันเป็นประเพณีความเชื่อที่สืบทอดมา ถึงคุณกามชนไม่ทำตามไม่เชื่อเพราะมันไม่ผิดกฏหมายก็ใช่ แต่มันผิดธรรมเนียมและวิธีปฏิบัติ ลูกต้องเคารพบิดามารดา เลี้ยงพ่อแม่เมื่อแก่เฒ่า ถ้าคุณเป็นพวกอกตัญญู ทอดทิ้งพ่อแม่ก็คงไม่มีกฏหมายข้อไหนไปจับคุณได้ แต่ถ้าคนอื่นรับรู้ จะมองคุณแบบไหน คงไม่มีใครบอกหรอกนะว่า ไม่ผิดกฏหมาย ทำไปเถอะ กฏหมายมันบังคับที่ร่างกาย แต่วัฒนธรรมมันขัดเกลาจิตใจ ทำไมคนเกิด คนตาย ต้องทำพิธี ทำบุญ หรือคุณไม่เคยตักบาตร ไม่เคยพนมมือไหว้ใครเลยในชีวิตนี้
บันทึกการเข้า



พวกเรา..เรารู้สึกว่าจะมีสายลับปลอมมาในหมู่ของพวกเราโดยไม่รู้ตัว=__='



( づ ̄ 3 ̄ )づ~~~♡♡♡ ~~
login not found
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,523



« ตอบ #52 เมื่อ: 22-11-2006, 00:25 »

สมเถาคนนี้สำหรับผม ผมคิดว่าเขาเป็นคนไทยที่ไม่มีความเป็นไทย
เขาอาศัยความเป็นคนไทยหากินซะมกกว่า
เคยเห็นผลงาน และการสัมภาษณ์มาหลายครั้ง
แต่ละอย่างออกจะดูถูกคนเอเซีย ไม่เข้าใจวัฒนธรรมเอเซียซะด้วยซ้ำ
คล้ายๆหนังฝรั่งที่มักจะมั่วเอานินจาไปโผล่ในหนังที่มีฉากจีน
หรือเหมาว่ากัมพูชา ต้องแต่งตัว สภาพแวดล้อม แบบ30ปีที่แล้ว
หนังแบบนี้นอกจากจะขัดลูกตา มันยังดูงี่เง่าซะด้วย
บันทึกการเข้า
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 22-11-2006, 00:38 »

หนังหลายเรื่องของฮอลลีวู้ด ก็โดนสังคมแบนเยอะแยะ ไม่ใช่แค่ในไทย

เรื่อง "สังคมไม่ยอมรับ" มีทั่วโลกครับ ไม่ใช่เรื่อง "น่าอาย" แต่ประการใด

คนที่ "น่าอาย" กลับเป็นคนสร้าง คนทำนั่นต่างหากครับ "เกิดเป็นไทย" แต่ไม่รู้จัก "ไทย"


เอาพล็อตแม่นาคพระโขนงไปขายก็ไ็ด้เงินเยอะแยะแล้วมั๊ง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2006, 00:40 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

bgn
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 87


« ตอบ #54 เมื่อ: 22-11-2006, 10:51 »

ขอโอกาส ...

นอกเรื่อง
เห็นพูดกันบ่อยเรื่องพระพุทธองค์ทรงสอนชาวกาลามะ แต่ส่วนใหญ่ยกมาแค่ 10 ข้อ จริงๆแล้วออริจินัลเป็นอย่างนี้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต


ครั้งนั้น ชนกาลามโคตร ชาวเกสปุตตนิคมได้เข้าไป
เฝ้าพระผู้มีพระภาคจนถึงที่ประทับ บางพวกถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง
ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกได้ปราศรัยกับพระผู้มีพระภาค ครั้นผ่านการ
ปราศรัยพอให้ระลึกถึงกันไปแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกประนมมือ
ไปทางพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกประกาศชื่อและ
โคตรแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง บางพวกนั่งเฉยๆ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง
เมื่อต่างก็นั่งลงเรียบร้อยแล้ว จึงได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า พระเจ้าข้า มีสมณ
พราหมณ์พวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคม สมณพราหมณ์พวกนั้น พูดประกาศ
แต่เฉพาะวาทะของตัวเท่านั้น ส่วนวาทะของผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น
พูดกด ทำให้ไม่น่าเชื่อ พระเจ้าข้า มีสมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคม
ถึงพราหมณ์พวกนั้น ก็พูดประกาศแต่เฉพาะวาทะของตนเท่านั้น ส่วนวาทะของ
ผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น พูดกด ทำให้ไม่น่าเชื่อ พระเจ้าข้า พวก
ข้าพระองค์ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในสมณพราหมณ์เหล่านั้นอยู่ทีเดียวว่า ท่าน
สมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ พระผู้มีพระภาคตรัสว่า

"ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ก็ควรแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลงสงสัย และท่าน
ทั้งหลายเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในฐานะที่ควรแล้ว มาเถิดท่านทั้งหลาย
ท่านทั้งหลายอย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำ
สืบๆ กันมา อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้ อย่าได้ยึดถือโดยอ้าง
ตำรา อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน อย่าได้ยึดถือโดย
ความตรึกตามอาการ อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว อย่าได้
ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้
เป็นครูของเรา"


และนี่คือท่อนที่คนส่วนใหญ่ลืมกล่าวถึงหรืออ่านต่อจนจบ

"เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศล
ธรรมเหล่านี้มีโทษ ธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว
เป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรละธรรม
เหล่านั้นเสีย ดูกรกาลามชนทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
ความโลภ เมื่อเกิดขึ้นในภายในบุรุษ ย่อมเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสิ่งไม่เป็น
ประโยชน์"
พวกชนกาลามโคตรต่างกราบทูลว่า เพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์
พระเจ้าข้า ฯ

อันนี้แบบแปลเป็นภาษาประกฤษ (ไม่ตรงเปะเท่าไหร่)
http://www.beyondthenet.net/misc/science1.htm

"It is proper for you Kalamas, to doubt, to be uncertain; uncertainty has arisen in you about what is doubtful......... Come, Kalamas. Do not go upon what has been acquired by repeated hearing; nor upon rumour; nor upon what is in the scripture; nor upon surmise; nor upon an axiom; nor upon specious reasoning; nor upon a bias towards a notion that has been pondered over; nor upon another's seeming ability; nor upon consideration , 'The monk is our teacher'.

Kalamas, when you yourselves know; 'These things are good; these things are not blamable; these things are praised by the wise; undertaken and observed, these things lead to benefit and happiness', enter on and abide in them".

บันทึกการเข้า
ไม่อยากสมานฉันท์กับคนชั่ว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 592


เตือนให้นึกถึง Icarus ผู้ไม่ประมาณตน


« ตอบ #55 เมื่อ: 23-11-2006, 11:35 »

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเรื่องของประเพณีที่ปฏิบัติสืบกันมา  ไม่เชื่อไม่เป็นไร แต่อย่าลบหลู่
เป็นผม ผมก็ไม่กล้าเล่นเรื่องนี้หรอกครับ เพราะมันตะขิดตะขวงใจตรงที่
เรารู้ประเพณีอยู่แล้ว แล้วยังจะฝืนแหก
ไม่เกี่ยวว่าลักษณะการแสดงจะเป็นฝรั่งเป็นไทย

หนังอินเดียเขาไม่ถือประเพณีตอนยักษ์ล้ม ก็นั่นมันคนอินเดีย มันไม่ได้ถือสาแบบเรา

การที่คุณ กาลามาชน จับโยงเข้ากับเรื่องการเมือง 
พยายามจะสร้างภาพเลวร้ายให้ศัตรู โดยบิดเบือนข้อเท็จจริง  แบบนี้น่ะ ไม่อายบ้างหรือ

จะมาบอกว่าประเพณีเขานับเฉพาะโขน ไม่นับรวมโอเปร่า 
มันก็ไม่ทำให้ประเด็นการเมืองเป็นอย่างที่คุณต้องการไปได้หรอก  น่าเบื่อ 
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #56 เมื่อ: 23-11-2006, 12:02 »

ไปเจอข่าวที่เกี่ยวข้องกันจากทาง คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ  เลยเอามาฝากครับ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวช.ระงับฉากสุดท้าย การแสดงมหาอุปรากร “อโยธยา”
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 22 พฤศจิกายน 2549 19:11 น.
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9490000144324
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวช.ระงับฉากสุดท้าย การแสดงมหาอุปรากร “อโยธยา”
ฉากฆ่าทศกัณฐ์ ขยี้หัวใจเลือดสาดบนเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
       
       นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ แจ้งว่าตามที่มูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพ
ได้ขอใช้สถานที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  จัดการแสดงมหาอุปรากรเรื่อง “อโยธยา” เพื่อเฉลิมพระเกียรติ-
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสครองสิริราชสมบัติ ๖๐ ปี โดยได้นำเรื่อง “รามเกียรติ์” บทกวีอมตะมาถ่ายทอด
ในรูปแบบมหาอุปรากรแนวใหม่นั้น จากการตรวจบท (Script) สุดท้ายอันเป็นตอน หนุมานไปหลอกเอากล่องดวงใจ
ของทศกัณฐ์มาจากพระฤษีอาจารย์ของทศกัณฐ์มาให้พระรามฆ่าตายโดยการทำลายหัวใจ โดยในการซ้อมบทดังกล่าว
ได้ทราบว่า มีการจำลองหัวใจทศกัณฐ์ใส่ในภาชนะที่มีน้ำแดง ที่ทำเสมือนว่าเป็นเลือด แล้วจะจับมาโยนทิ้งกลางเวที
พร้อมใช้พระขรรค์แทงซ้ำ จนทศกัณฐ์ตาย นั้น  ทางสวช.ได้เรียนปรึกษาอาจารย์เสรี หวังในธรรม ศิลปินแห่งชาติ
และนายสิริชัยชาญ ฟักจำรูญ อดีตอธิบดีกรมศิลปากร รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านถึงความเหมาะสมในการนำเสนอ
การแสดงข้างต้นว่าเหมาะสมหรือไม่ เพียงใด ปรากฎว่าทางท่านผู้ใหญ่ได้ทักท้วงมาว่า ฉากสุดท้ายดังกล่าวนี้เแม้จะ
นำเสนอในลักษณะร่วมสมัย ที่ต้องการแสดงวรรณกรรมเดิมในรูปแบบใหม่ แต่ก็มีลักษณะที่แสดงออกถึงความรุนแรง
ก้าวร้าว ข้อสำคัญ เป็นขนบอย่างหนึ่งของไทยที่จะไม่แสดงตอนทศกัณฐ์ตายบนเวทีใดๆ เพราะเชื่อกันว่าจะเป็นอัปมงคล
และอาจนำความวิบัติมาสู่ ด้วยนับถือกันว่า ทศกัณฐ์เป็นเทพและครูองค์หนึ่งทางนาฏศิลป์ของไทย ซึ่งนับตั้งแต่มีการแสดง
รามเกียรติ์มา ฉากทศกัณฐ์ตาย ส่วนใหญ่จะทำเป็นสัญลักษณ์ให้รู้เท่านั้น จะไม่มีแสดงการตายให้เห็นอย่างที่ปรากฎในเรื่อง
“อโยธยา” ดังที่จะแสดงในครั้งนี้ ดังนั้น ทางสวช. จึงได้แจ้งให้ทางผู้จัดคือ คุณสมเถา สุจริตกุล ประธานมูลนิธิมหาอุปรากร-
กรุงเทพได้ทราบ เพื่อขอให้ปรับเปลี่ยนบท และไม่อนุญาตให้แสดงตอนนี้บนเวทีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
       
       เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กล่าวว่า  จริงอยู่ แม้การแสดงดังกล่าวจะเป็นการแสดงร่วมสมัย  แต่เรา
ก็ต้องตระหนักถึงขนบ และธรรมเนียมที่ดีงามของไทยไว้ด้วย  ซึ่งความเชื่อในเรื่องที่จะไม่แสดงตอนทศกัณฐ์ตายบนเวที
ด้วยนับถือว่า เป็นเทพและครูยักษ์นี้  ก็เพราะคนไทยถือว่า ครูเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ศิษย์จึงต้องแสดงความเคารพ
และความกตัญญู และไม่ควรกระทำการใดๆที่จะเป็นการลบหลู่ผู้ที่เราเคารพนับถือ  บางคนอาจจะบอกว่าในเรื่องทศกัณฐ์
เป็นผู้ร้าย การทำลายฝ่ายอธรรมน่าจะทำได้ ก็จริงอยู่  แต่อย่าลืมว่า ทศกัณฐ์ก็ไม่ได้เลวร้ายทั้งหมด ส่วนดีก็มีอยู่ และการ
ปราบอธรรมก็สามารถแสดงออกได้ในหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบรุนแรงหรือทำร้ายจิตใจผู้อื่น อีกทั้งเมื่อผู้รู้ส่วนใหญ่
ได้ทักท้วงดังกล่าว สวช.จึงเห็นสมควรให้ระงับการแสดงฉากข้างต้น เพื่อความเหมาะสมและสอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ดีของเรา
ซึ่งทางคุณสมเถาก็ได้รับทราบแล้ว

บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 23-11-2006, 12:11 »

สงสัยหมอนี่ไม่เคยมีครู
บันทึกการเข้า

buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #58 เมื่อ: 23-11-2006, 12:36 »

ขอบคุณคุณ จี ที่ให้ความกระจ่าง
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
Kna
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 119


Highly Flammable


« ตอบ #59 เมื่อ: 23-11-2006, 12:41 »

สงสัยหมอนี่ไม่เคยมีครู

หรือไม่ก็เป็นพนักงานอสมท.   
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
    กระโดดไป: