ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
11-02-2025, 15:39
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ถามว่า----เรื่องนี้--ใครล่ะทีผิด---- 0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ถามว่า----เรื่องนี้--ใครล่ะทีผิด----  (อ่าน 1255 ครั้ง)
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« เมื่อ: 20-11-2006, 09:10 »

 Smile Smile Smile Smile------ขอชวนคุย  แค่คิดเล่นๆนะคะ---ไม่ถึงขั้นจริงจังอะไรหรอกนะ------




---  ถ้าถามเด็กประถมหกว่า---ทำไมไม่สนใจเรื่องทำการบ้านล่ะ  แกก็จะตอบว่า--- ก็ชอบการเล่นเกมมากกว่าการเรียนนี่นา


---  ถ้าถามเด็กมัธยมปีที่หนึ่งว่า----  ทำไมสามารถแฮค เวบของโรงเรียนได้ล่ะ ---แกก็จะตอบว่า---  ก็อ่านหนังสือแฮกเกอร์  แล้วอยากลองวิชานี่นา------


---  ถ้าถามเด็กมัธยมปีที่สามว่า----  ทำไมถึงแอบมีความสัมพันธ์ถึงขั้นร่วมเพศกันในห้องเรียน  ตอนหลังเลิกเรียนล่ะ    --  แกก็จะตอบว่า--- ก็มีคลิบวีดีโอ  มีเวบโป๊  การ์ตูนโป๊  ให้ดูเกลื่อนกลาดอยากทำตาม  อยากเลียนแบบนี่นา


---  ถ้าถามพ่อแม่ในยุคนี้ว่า---  ทำไมไม่อบรมสั่งสอนหรือพูดคุยเล่นกะลูกบ้างล่ะ --- เค้าก็จะตอบว่า---  ไม่มีเวลา  เพราะต้องเอาเวลาไปทำมาหากิน


---  ถ้าถามครูในยุคปัจจุบันนี้ว่า--  ทำไมไม่ตั้งใจอบรมสั่งสอนให้เด็กเป็นคนดีล่ะ ---  ครูก็จะตอบว่า---  พ่อแม่เค้ายังไม่สนใจลูกเค้าเลย  ทิศทางการศึกษาคืออะไรก็ไม่รู้  ทำผลงานดีกว่า----


---  ถ้าถามคนในสังคมในยุคปัจจุบันนี้ว่า---  ทำไมบ้านเมือง สังคมมันเสื่อมอย่างนี้ล่ะ--- เค้าก็จะตอบว่า---  ก็สื่อมันยั่วยุ  นักการเมืองมันสกปรกเห็นแก่ผลประโยชน์  นี่นา---


---  ถ้าถามนักการเมืองในยุคปัจจุบันนี้ว่า---  ทำไมการเมืองสมัยนี้มันถึงสับสนวุ่นวายแบบนี้---  เค้าก็จะตอบว่า---  ก็การเลือกตั้งไม่โปร่งใสนี่นา มีการซื้อเสียง ประชาชนไม่รู้จักเลือกคนดีเข้าสภา




---  ถ้าถามคุณล่ะคะว่า-----  ระหว่าง  ทุนนิยม  กับสุขนิยม  ใครล่ะที่เป็นคนทำร้ายสังคมมากกว่ากัน  ---พอจะตอบได้ไหม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2006, 09:42 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 20-11-2006, 09:17 »

---  ถ้าถามคุณรวงข้าวล้อลมว่า---  ทำไมไม่ไปตั้งคำถามนี้ที่ห้องชายคาพักใจหละ---  คุณรวงข้าวล้อลมจะตอบว่า---  คำถามนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือปล่าว


แซวนิดเถอะนะ อย่าเครียด


 
บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #2 เมื่อ: 20-11-2006, 09:20 »

ไม่เกี่ยวกับ ทุน ไม่เกี่ยวกับ สังคม


คนมันเยอะ มันจะมีการแตกประเภทคนเยอะขึ้น

และจะถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติ

ว่าแบบไหนมันจะสืบเผ่าพันธุ์ ต่อได้ในอนาคต



สิ่งที่เราคิดว่าดี อาจเป็นสิ่งที่ไม่รอด

 
บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 20-11-2006, 09:22 »

---  ถ้าถามคุณรวงข้าวล้อลมว่า---  ทำไมไม่ไปตั้งคำถามนี้ที่ห้องชายคาพักใจหละ---  คุณรวงข้าวล้อลมจะตอบว่า---  คำถามนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือปล่าว


แซวนิดเถอะนะ อย่าเครียด


 


 

----ขอตอบแบบ  ไม่เครียดเช่นกันจ๊ะ  ว่าเป็นแน่นอน----

และอยากตั้งคำถามที่ห้องนี้  เพื่อให้ห้องการเมืองเป็นห้องที่ควรบูรณาการกับสังคมจ๊ะ----

---สังคมและการเมือง  ควรยืนเคียงข้างกันอย่างคนรักกันจ๊ะ  ไม่งั้นแล้วมันจะหนาววววววว----จ๊ะ  คุณ  คนในวงการ

คุณว่า  จริงมั๊ยล่ะ  หรือคุณคาใจเรื่องไร  ถามได้นะจ๊ะ----
[/color]

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2006, 10:01 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 20-11-2006, 09:31 »

ไม่เกี่ยวกับ ทุน ไม่เกี่ยวกับ สังคม


คนมันเยอะ มันจะมีการแตกประเภทคนเยอะขึ้น

และจะถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติ

ว่าแบบไหนมันจะสืบเผ่าพันธุ์ ต่อได้ในอนาคต



สิ่งที่เราคิดว่าดี อาจเป็นสิ่งที่ไม่รอด

 



คนมันเยอะ มันจะมีการแตกประเภทคนเยอะขึ้น

และจะถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติ

ว่าแบบไหนมันจะสืบเผ่าพันธุ์ ต่อได้ในอนาคต



สิ่งที่เราคิดว่าดี อาจเป็นสิ่งที่ไม่รอด



33333333333333333333333333333333333


 

  ---คาใจข้อความข้างบนนะคะ---
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
irq5
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,149



« ตอบ #5 เมื่อ: 20-11-2006, 09:55 »

่กฎธรรมชาติ คือ กลุ่มที่มีลูกรอดตายมาอยู่เต็มบ้านหลานเต็มเมือง นั่นคือกลุ่มที่เป็นใหญ่ครับ


ตอนนี้คนมันเยอะ กฎอะไรก็สู้กฎธรรมชาติไม่ได้ครับ




ดีร้ายอีก 50 ปี จะเหลือแต่เกย์ กับผู้หญิง หรือไม่ก็เสี่ยๆ ที่นกเขาไม่ขัน

ถัดไปอีก 50 ปี มนุษย์จะเหลืออยู่จิ๊ดเดียวก็ได้

บันทึกการเข้า

.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMddMMMs..
.:MMMMMMMMMMMMMMMMMMMMMssMMMMs..
.:Mddddddddddddddddddddddddddo+ddddNs..
.:M................................................hs..
.:M.............//:................//:.............hs..
.:M...........:MMs.............NMd............hs..
.:M................................................hs..
.:M................................................hs..
.:M.............yNNNNNNNNNN................hs..
.:M.................................................hs..
.:dyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyyho..

....W..W::W:...AAA...NN...N...TTTTT..EEEEE...DDD..........
.....Ww.wW...AAAA..N..N..N......T.....EEE......D....D.......
.....-W...W...A......A N....NN......T.....EEEEE...DDD..........
. . . . . . . . . . . . thaksin shinawatra
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 20-11-2006, 10:26 »

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10002.msg141008;topicseen#msg141008

http://forum.serithai.net/index.php?topic=10001.msg140998;topicseen#msg140998


-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


 


----เกิดอะไรขึ้นคะ-----กลางวันแสกๆๆๆๆๆ   ----หัวกระทู้เหมือนกันแต่เนื้อกระทู้ต่างกัน
ใครรู้  ช่วยเฉลยหน่อยจ๊ะ   
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 20-11-2006, 11:52 »


- :slime_shy:----เอามาให้อ่านกันเล่นๆๆค่ะ-----ประกอบกระทุ้จ๊ะ


---------------------------------------------------------------------

ใต้กระแส : ชีวิตสาธารณะกับอัตลักษณ์ท้องถิ่น
18 พฤศจิกายน 2549 00:00 น.
อรรถจักรสัตยานุรักษ์


       สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา(LDI) และเครือข่ายพันธมิตรได้จัดการสัมมนาเวทีวิชาการประชาสังคมเรื่อง "ทำการเมืองภาคพลเมืองในท้องถิ่นไทย: ความท้าทายของยุคสมัย" และได้ให้โอกาสแก่ผมไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วย ผมจึงขออนุญาตนำเอาประเด็นร่วมของสิ่งที่คิดไว้นี้มาสู่สาธารณะครับ

       หากเราตั้งคำถามว่าอะไรคือปัญหาทางสังคมที่กระทบกระเทือนจิตใจคนไทยมากที่สุดสิ่งที่พบเห็นได้อย่างเด่นชัด ก็คือ ปัญหาอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้คนจำนวนมาก แต่ผู้คนเหล่านั้นกลับนิ่งดูดาย ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ หรือมีส่วนในการแก้ไขปัญหาแต่ประการใด


       ลองนึกถึงข่าววัยรุ่นลากเด็กนักเรียนลงจากรถเมล์เพื่อไปข่มขืนต่อหน้าต่อตาคนในรถเมล์หลายสิบคนหรือการละเมิดต่อทรัพย์สินส่วนรวมหรือส่วนตัวที่เกิดขึ้นท่ามกลางสายตาคนทั่วไป แต่กลับไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่กล้าลุกขึ้นยืนประกาศต่อต้านการกระทำนั้นๆ ตัวอย่างในท้องถิ่นที่พบเห็นอยู่ทุกวันได้แก่การทิ้งขยะในที่สาธารณะทั่วไป

       การที่สังคมไทยไม่มีคนกล้าลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อแก้ไขสิ่งที่ขัดหูขัดตาทั้งๆ ที่มัน "ไม่ถูกต้อง" ไม่ใช่เพราะคนไทยขี้ขลาดหรือคนชาติอื่นกล้าหาญมากกว่าคนไทยหรอกครับ หากแต่เป็นเพราะสังคมไทยไม่มี (หรือถูกทำให้ไม่มี) "ชีวิตสาธารณะ" นั่นเอง

       "ชีวิตสาธารณะ" คือความสำนึกว่าเราในฐานะคนๆ หนึ่งนั้น มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่กับชุมชนหรือ "พื้นที่ส่วนรวม" หนึ่งๆจนถึงระดับที่เราจะไม่สามารถทนอยู่ได้ หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่เหมาะไม่ควร เกิดขึ้นแก่ชุมชน หรือแก่สมาชิกในชุมชน ในพื้นที่ส่วนรวมนั้นๆ

       ความสำนึกใน"ชีวิตสาธารณะ" เกิดขึ้นในเงื่อนไขความสัมพันธ์ทางสังคมและเศรษฐกิจเสมอ ในอดีตก่อนที่จะมีการขยายตัวของการผลิตเพื่อขาย คนที่ดำรงชีวิตอยู่ในชุมชนหนึ่งๆ ได้ร่วมกันถักสานความสัมพันธ์ทางสังคมขึ้นมา เพื่อดูแลชีวิตของผู้คนและสมบัติร่วมกันของชุมชน

       การดูแลซึ่งกันและกันและการร่วมกันดูแลสมบัติร่วมของชุมชนต่างๆอาจจะไม่มีกฎเกณฑ์หรือข้อห้ามที่ตายตัว แต่การดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องยาวนาน ทำให้เกิดความสำนึกร่วมกันว่า การกระทำของคนๆ หนึ่ง ย่อมมีผลกระทบไปถึงคนอื่นๆ หรือต่อส่วนรวม และตระหนักว่าการกระทำบางอย่างเป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร เพราะจะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ความสำนึกร่วมเช่นนี้มีพลังเพียงพอต่อการยับยั้งการกระทำที่จะเป็นผลเสียต่อส่วนรวม การพัฒนาประเทศที่ผ่านมาได้ทำลาย "ชีวิตสาธารณะ" ไปจนเกือบจะหมดสิ้น

       เครือข่ายการแลกเปลี่ยนหรือเครือข่ายตลาดในระหว่างชุมชนและท้องถิ่นได้ถูกทำให้สิ้นพลัง เพราะตลาดทั้งหลายในชุมชนและท้องถิ่นได้ถูกทำให้ขึ้นตรงต่อตลาดกลางในกรุงเทพฯ พี่น้องประมงพื้นบ้านและพี่น้องชาวนาในเขตปลูกข้าวที่ครั้งหนึ่งเคยแลกเปลี่ยนสิ่งของ และมีวัฒนธรรมร่วมกันจนเกิดเป็นพื้นที่สาธารณะกว้างขวาง ครอบคลุมมิติที่หลากหลายของชีวิต กลับต้องส่งสินค้าที่ตนหาได้ในท้องถิ่นเข้าสู่ตลาด และไม่อาจจะรักษาสายสัมพันธ์ที่มีมาแต่เดิมให้ดำรงอยู่ต่อเนื่องไปได้


       การ"ผูกเสี่ยว"ของพี่น้องอีสานก็ได้ถูกการเพาะปลูกพืชเงินสดทำลายจนย่อยยับ ชาวนารวยในภาคอีสานหรือภาคเหนือตกอยู่ในฐานะของ "ผู้จัดการนา" ที่ใช้เงินเป็นกุญแจหลักในการว่าจ้างคนมาทำนาเท่านั้น ส่วนชาวนาจนก็กลายเป็นลูกจ้างรายวันในท้องไร่ท้องนา

       ในเขตเมืองนั้นก็ไม่ได้แตกต่างกันเพราะประสบการณ์ความเป็นเมืองเป็นประสบการณ์ใหม่ของสังคมไทย การพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยการขยายตัวของภาคการผลิตสมัยใหม่ไปในทุกพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางของการไหลเวียนของสินค้า ได้ทำให้ทุกพื้นที่ในเขตเมืองไม่เหลือความสัมพันธ์ทางสังคมใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากความสัมพันธ์เชิงพาณิชย์

       กิจกรรมร่วมกันของเมืองที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นบนจุดประสงค์ของการทำให้เป็นสินค้าทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นพิธีกรรมของชุมชนท้องถิ่นที่ถูกนำมาเป็นสินค้าทางวัฒนธรรมของเขตเมืองหรือสินค้าประจำจังหวัด

       จึงไม่น่าแปลกใจที่พิธีกรรมสำคัญๆของชุมชนท้องถิ่น เช่น งานลอยกระทง งานสงกรานต์ ถูกหน่วยราชการและกลุ่มธุรกิจดึงมาจัดแบบรวมศูนย์ เพื่อสร้างความยิ่งใหญ่ในเขตจังหวัดของตน และโฆษณาเพื่อขายแก่ตลาดนักท่องเที่ยว โดยไม่มี "ชีวิตสาธารณะ" ของคนในชุมชนหรือท้องถิ่นเหลืออยู่ในพิธีกรรมเหล่านั้นอีกต่อไป

       จนท้ายที่สุดแล้วงานลอยกระทงก็กลายเป็นการลอยกระทงและโคมลอยส่วนตัว ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับชุมชนและท้องถิ่น และเริ่มกลายเป็นงานสงครามประทัดและดอกไม้ไฟ

       ส่วนงานสงกรานต์ก็เป็นเพียงการทำสงครามน้ำกันเพื่อความสะใจส่วนตัวเท่านั้นมิพักต้องพูดถึงงานผีตาโขน งานดอกฝ้ายบาน ฯลฯ ที่มุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น

       ที่กล่าวเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าสังคมไทยควรจะท้อถอย เพราะทุกอย่างก็พังพินาศไปหมดสิ้นแล้ว เราย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า คนทุกกลุ่มทุกสังคมย่อมต้องการพลังจาก "ชีวิตสาธารณะ" และต้องการ "อัตลักษณ์ท้องถิ่น" อยู่

       ไม่มีสังคมใดที่จะมั่นคงได้โดยมีแต่หน่วยปัจเจกชนดำรงอยู่โดยปราศจากสายสัมพันธ์ทางสังคม เพียงแต่มีความจำเป็นที่เราจะต้องปรับเปลี่ยนความหมายของ "ชีวิตสาธารณะ" และ "อัตลักษณ์ท้องถิ่น" ให้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์และถักทอสายสัมพันธ์ทางสังคมขึ้นมาใหม่ อันจะทำให้เราทั้งหลายมีชีวิตอยู่อย่างมีความหมายในโลกปัจจุบัน และสามารถที่จะใช้พลังที่เกิดขึ้นนี้ ในการแก้ปัญหาของสังคมที่ซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น

       การเลือกใช้"ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น" เป็นสายใยร้อยรัดผู้คนให้มีโอกาสหวนกลับมานั่งนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของตนเอง ตลอดจนโคตรเหง้าเหล่ากอที่เป็นบรรพบุรุษของตนเอง ว่าเคยดำรงชีวิตอยู่อย่างสัมพันธ์กับ "ชีวิตสาธารณะ" อย่างไรบ้าง เป็นเรื่องที่มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง

       การรื้อฟื้น"ชีวิตสาธารณะ" และสร้างอัตลักษณ์ของชุมชนท้องถิ่นทำได้ด้วยการรื้อฟื้นความทรงจำร่วมขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อบอกแก่คนทุกคนในชุมชนท้องถิ่นว่า ทุกคนมีอดีตร่วมกัน ซึ่งหมายถึงมีปัจจุบันและอนาคตร่วมกันด้วย และด้วยพลังของคนทุกคนเท่านั้นที่จะสร้าง "ความทรงจำร่วม" เกี่ยวกับอดีต และสร้างปัจจุบันกับอนาคตที่ดีกว่าร่วมกันได้

       ด้วยสำนึกผูกพันกับท้องถิ่นหรือ "ชีวิตสาธารณะ" เช่นนี้ ก็จะไม่มีใครอีกแล้ว ที่นิ่งเฉยต่อสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา ทุกคนจะแสดงตนออกมาปฏิเสธ "ความไม่ถูกต้อง" ที่จะเกิดแก่บ้านของตน และนับวันกระบวนการสร้างความซับซ้อนของชีวิตสาธารณะก็จะดำเนินไปอย่างเข้มข้นขึ้น

http://www.bangkokbiznews.com/level3/news_124616.jsp
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-11-2006, 11:54 โดย รวงข้าวล้อลม » บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #8 เมื่อ: 20-11-2006, 16:19 »

การที่สังคมไทยไม่มีคนกล้าลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อแก้ไขสิ่งที่ขัดหูขัดตาทั้งๆ ที่มัน "ไม่ถูกต้อง" ไม่ใช่เพราะคนไทยขี้ขลาดหรือคนชาติอื่นกล้าหาญมากกว่าคนไทยหรอกครับ หากแต่เป็นเพราะสังคมไทยไม่มี (หรือถูกทำให้ไม่มี) "ชีวิตสาธารณะ" นั่นเอง

       "ชีวิตสาธารณะ" คือความสำนึกว่าเราในฐานะคนๆ หนึ่งนั้น มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่กับชุมชนหรือ "พื้นที่ส่วนรวม" หนึ่งๆจนถึงระดับที่เราจะไม่สามารถทนอยู่ได้ หากมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ไม่เหมาะไม่ควร เกิดขึ้นแก่ชุมชน หรือแก่สมาชิกในชุมชน ในพื้นที่ส่วนรวมนั้นๆ



----------------------------------------------------------------------------------------------------------------



จริงไม๊-------   
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
In The Name Of Justice.
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 952


-_-;


« ตอบ #9 เมื่อ: 20-11-2006, 17:29 »

ประเทศนี้มันห่วยแตกครับ

"ตัวใครตัวมัน ไม่ใช่เรื่องของฉัน"

นี้แหละสุดยอดแล้ว
บันทึกการเข้า

"มนุษย์มักต้องการในสิ่งที่ตนเองไม่มี..."

"I Fight In The Name Of Justice."
No_Tuky
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 296


« ตอบ #10 เมื่อ: 20-11-2006, 17:44 »

เรื่องที่ว่ามาไม่ต้องเป็นห่วงให้มากนัก สรรพสิ่งใดๆล้วนไม่จีรัง เปลี่ยนสภาวะไปตามกาลเวลา มีอยู่ที่แน่นอนเพียงสิ่งคือ การเิกิดและตายของมนุษย์

อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อนักวิทยาศาสตร์ ทำความเข้าใจพฤติกรรมของคว๊ากได้อย่างละเอียด เมื่อนั้นเทคโนโลยีอีก 1 ใน 2 สิ่งที่โลกเราที่ยังขาด คือ การเปลี่ยนพลังงานให้เป็นวัตถุและเปลี่ยนวัตถุกลับไปเป็นพลังงาน ก็จะพัฒนาได้สำเร็จ

เมื่อวันนั้นมาถึง ระบบเงินตราจะหมดไป ความยากจนการแบ่งแยกของชาวโลกจะหมดไปด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง จะมีการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองของทั้งโลกครั้งใหญ่ ลักษณะการดำรงชีพอยู่อาศัยจะแปรเปลี่ยนไปหมด .... คุณจะอยู่ไดุ้ึถึงวันนั้นหรือไม่ โปรดติดตาม 
บันทึกการเข้า
รวงข้าวล้อลม
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,103



เว็บไซต์
« ตอบ #11 เมื่อ: 20-11-2006, 17:55 »

ประเทศนี้มันห่วยแตกครับ

"ตัวใครตัวมัน ไม่ใช่เรื่องของฉัน"

นี้แหละสุดยอดแล้ว


-----


คิดว่า  ที่ห่วย---ไม่ใช่ตัวประเทศหรอกค่ะ---
บันทึกการเข้า

&..หลายๆทำไม ..คุณตอบได้ไหม ?
http://www.oknation.net/blog/roungkaw/2008/05/27/entry-4
willing
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 186



« ตอบ #12 เมื่อ: 20-11-2006, 18:13 »

---  ถ้าถามคุณล่ะคะว่า-----  ระหว่าง  ทุนนิยม  กับสุขนิยม  ใครล่ะที่เป็นคนทำร้ายสังคมมากกว่ากัน  ---พอจะตอบได้ไหม

ขอตอบว่า ปัญหาข้างบนไม่ได้เกี่ยวกับ ทุนนิยม กับสุขนิยม ซักหน่อย
แล้วสังคมก็ไม่ได้โดนทำร้ายด้วย

สังคมไม่ใช่คนอ่อนแอนะ 
บันทึกการเข้า

Even If I am a minority of one, truth is still the truth. - Mohandas Gandhi
หน้า: [1]
    กระโดดไป: