ไม่รู้จะเรียบเรียงยังไงให้มันเข้าใจง่ายกว่านี้อ่านเองยังงงเอง คือในพรบ ต่างด้าว ไม่ได้บอกว่า
ต่างด้าวต้องเป็นกลุ่มเดียวกัน หรือมาจากที่เดียวกัน ประเทศเดียวกัน แล้วก็ไม่ได้มีเรื่องนอมินี่
ละเอียดไปถึง ผู้ถือหุ้น ของ ผู้ถือหุ้น ของ ผู้ถือหุ้น
สมมติว่า บริษัท A ถือหุ้นโดยบริษัท B 51% ที่เหลือเป็นรายย่อยที่เป็นชาวไทย วันดีคืนดี
มี บริษัท C มาถือหุ้นบริษัท B 49% แต่บริษัท C ก็มีต่างชาติถือหุ้น 49% ก็เท่ากับว่ามี
ต่างชาติมาถือหุ้น A ทางอ้อมอยู่ประมาณ 12% ที่เหลือรายย่อยในตลาดอีก 49% ถ้าผ่าน
มือหลายมือบังเอิญมีต่างชาติซื้อไป 37% ก็เท่ากับเหลือไทย 12% ถ้าบังเอิญบริษัท D
มีต่างชาติถืออยู่ 49% มาซื้อ 4% จาก 12% ของชาวไทยไป บริษัท A ก็จะผิดกฎหมาย
ต่างด้าวทันที โดยที่บริษัท D ไม่มีทางรู้ว่าผิดก่อนซื้อเลยใช่มั้ย ถ้าไม่มีการแสดงรายการ
ผู้ถือหุ้นแบบละเอียดมากดังกล่าว
ก่อนอื่น ขอตอบคำถามของจขกท.ที่ตั้งไว้ในตอนท้ายของกระทู้ว่า ในทางปฏิบัติจะเป็นไปได้หรือ
คำตอบคือ เป็นไปได้แน่น่อน ไม่วุ่นวายและไม่ยุ่งยากอะไรเลย เรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหา ปัญหามันมักจะเกิดจากการที่บางคนเจตนาทำผิดกฏหมายโดยคิดว่าไม่มีใครตามทันต่างหาก
ส่วนโจทย์สมมติของคุณนั้น ดูคุณจะสับสนเรียบเรียงโจทย์ไม่ถูก ลองเรียบเรียงดูใหม่นะ
ผมจะชี้ให้เห็นว่าโจทย์สับสนอย่างไร
1. บริษัท A ถือหุ้น B 51%
โจทย์ไม่ได้บอกว่า A เป็นบริษัทไทยหรือต่างด้าว ผมเดาว่าคุณหมายความว่า A เป็นบริษัทไทย
2. วันดีคืนดีบริษัท C มาถือหุ้นบริษัท B 49%
คำถาม หุ้น 49% ของ B ที่ C เข้ามาถือนั้น ซื้อหุ้นจาก A ซึ่งเดิมถืออยู่ 51% หรือซื้อจากผู้ถือหุ้นรายย่อยคนไทยที่ถืออยู่ 49%
3. แต่บริษัท C ก็มีต่างชาติถือหุ้น 49% ก็เท่ากับว่ามี ต่างชาติมาถือหุ้น A ทางอ้อมอยู่ประมาณ 12%
คำถาม บริษัท C ไปเกี่ยวกับ A ตั้งแต่ตอนไหนครับที่ทำให้คุณสรุปอย่างนี้
พอมาถึงข้อ 3. โจทย์นี้ก็จบแล้วครับ โจทย์ไปต่อไม่ได้
ลองไปศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติม แล้วลองเรียบเรียงดูใหม่นะ เพราะอ่านดูแล้วก็ไม่เข้าใจว่า จขกท.ไม่เข้าใจตรงไหน