จากข่าวของไทยรัฐครับ (
http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics&content=22539)
ทรท.เย้ย ครม.ใหม่ทำประเทศล้าหลัง [10 ต.ค. 49 - 05:07]
เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ครม.ที่แต่งตั้งขึ้นมานั้นเป็นพรรคราชการที่มาแทนพรรคเสรีนิยม จะทำให้การบริหารประเทศล้าหลัง และนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ลำบากมากขึ้น ที่สำคัญคือจะทำให้การทำงานล่าช้าไม่ทันใจ เหมือนกับสมัยที่นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นปลัดประเทศ จะเห็นว่าที่ผ่านมาพรรคราชการไม่เคยเห็นความสำคัญของระดับรากหญ้า เห็นได้ชัดว่าประสบความล้มเหลวในการบริหารประเทศที่ยาวนาน ดังนั้น การบริหารประเทศต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางความต้องการของข้าราชการ ไม่ได้เป็นของประชาชนอีกต่อไป ประชาชนจะไม่สามารถเข้าถึงนายกฯได้เลย เชื่อว่าการบริหารประเทศภายใน 1 ปีนี้ รัฐบาลชุดนี้จะประสบปัญหาในการบริหารประเทศอย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าประชาชนจะตอบรับ ครม.ชุดใหม่มากน้อยแค่ไหน นายนิสิตตอบว่า ประชาชนไม่ได้ตอบรับอะไร มีแต่สื่อฯ นักวิชาการบางคน และแนวร่วมเท่านั้นที่ให้การตอบรับ จากนี้ไปภาพพรรคราชการจะกลับมาหลอกหลอนอีกครั้ง ส่วนตัวไม่เคยคาดหวังอะไรจากรัฐบาลที่มาจากพรรคราชการ และไม่คิดว่าจะเป็นความหวังของประชาชนและคนยากจน
จี้ ครม.ใหม่เร่งยกเลิกกฎอัยการศึก
นายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ผอ.การเลือกตั้งภาคเหนือ พรรคไทยรักไทย ในฐานะประธานเครือข่ายพลังประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ต.ค.นี้ เวลา 09.30 น. จะเดินทางไปยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขอให้การประชุม ครม.นัดแรกได้หยิบยกการยกเลิกกฎอัยการศึกมาพิจารณาเป็นวาระแรก เนื่องจากได้จัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จและสถานการณ์คลี่คลายลงแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องคงกฎอัยการศึกไว้
โวย คมช.เอียงข้าง ปชป.-พันธมิตร
นายนิสิต สินธุไพร อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือน้ำท่วมว่า ในส่วนของพรรคไทยรักไทยไม่สามารถทำกิจกรรมทางการเมืองใดๆ เนื่องจากมีกฎอัยการศึก แม้แต่การประชุมเพื่อเลือกรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยก็ยังทำไม่ได้ แต่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) กลับปล่อยให้พรรคประชาธิปัตย์เปิดศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัย จึงอยากให้ คมช.เข้าไปตรวจสอบการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่มาห้ามเฉพาะพรรคไทยรักไทย ทำเช่นนี้เป็นการลำเอียงเข้าข้าง คล้ายกับว่า คมช.เป็นพวกเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าปล่อยให้มีการกระทำต่อไปจะเป็นการไม่ยุติธรรมต่อพรรคการเมืองอื่นๆ
สมรู้ร่วมคิดกัน-ดับเบิ้ลสแตนดาร์ด
นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา พรรคได้ทำหนังสือไปถึงหัวหน้า คมช. เพื่อขอเปิดศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนและสมาชิกพรรคที่ประสบภัยน้ำท่วม ซึ่งได้ให้คนไปส่งหนังสือเรียบร้อยแล้ว แต่จนป่านนี้ก็ยังไม่มีหนังสือตอบกลับมา แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับเปิดศูนย์ฯขึ้นได้ เห็นได้ชัดว่า คมช. พรรคประชาธิปัตย์และกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นพวกเดียวกัน สมรู้ร่วมคิดกัน เป็นเรื่องดับเบิ้ลสแตนดาร์ด ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ทำอะไรได้ ก็ควรจะให้พรรคไทยรักไทยทำได้เหมือนกัน อย่างนี้เค้าเรียก
"กรรมตามทันใช่" หรือไม่ หรือ
"กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตามสนอง" ใช่หรือไม่ครับ แล้วทีอย่างนี้ออกมาเรียกร้องหาความเป็นธรรม ทีกับคนอื่นไม่เห็นจะสนใจอะไรเลยจำได้หรือไม่
๑.นายกพบประชาชน ---หลายฝ่ายบอกหยุดเถอะ เอาเปรียบกันมากๆๆๆๆ
๒.ทัวว์นกขมิ้น----หยุดเถอะ มันเป็นการหาเสียง
๓.แจกของ เอื้ออาทร เช่น บ้าน ที่ดิน แทกซี่----หยุดเถอะเอาเปรียบคนอื่นเหลือเกิน
๔.ประกาศไม่รับของบริจาคจากประเทศอื่น กรณีสึนามิ บอกประเทศไทยช่วยตัวเองได้
ฯลฯ
แล้วทีนี้กลับมาเรียกร้องเสียเอง ผมว่ามันก็ดีเหมือนกันที่ คมช. มีดับเบิ้ลสแตนด์ดาร์ดแบบนี้ เพราะอะไร ๆ ที่ ไทยรักทุยทำ มันชอบมีเจตนาแอบแฝงอยู่เรื่อยไป หรือว่าไม่ใช่ อีกอย่างเพราะผมเกลียดมันเข้าไส้ด้วยครับ