http://www.thairath.co.th/news.php?section=economic&content=22391ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า จากการตรวจสอบของกรมการค้าภายใน พบว่าปัจจุบัน
ไทยมีสาขาของห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ขนาดใหญ่มากที่สุดในเอเชียถึง 159 แห่ง แบ่งเป็นห้างเทสโก้ โลตัส 59 แห่ง บิ๊กซี 49 แห่ง คาร์ฟูร์ 21 แห่ง แม็คโคร 29 แห่ง ขณะที่
จีนมี 145 แห่ง ส่วนญี่ปุ่นเคยมีห้างเหล่านี้เข้าไปเปิดกิจการแล้ว แต่คนญี่ปุ่นชาตินิยมจะซื้อเฉพาะสินค้าของคนญี่ปุ่นเท่านั้น จึงทำให้ห้างเหล่านี้ปิดกิจการไปหมด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กระทรวงพาณิชย์จะเร่งออก พ.ร.บ.การค้าปลีกค้าส่ง หลังมี รมว.พาณิชย์แล้ว เพื่อแก้ปัญหาการขยายสาขาอย่างไม่หยุดยั้ง เพราะหากปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากร้านค้าโชห่วยจะล้มตาย รวมถึงครอบครัว จะได้รับความเดือดร้อนแล้ว ระบบการค้าปลีกค้าส่งของไทยจะล่มสลาย และเกิดการผูกขาดทางการค้า เพราะจะเหลือห้างค้าปลีกต่างชาติรายใหญ่ 4-5 ราย ซึ่งจะกระทบต่อเนื่องไปถึงผู้นำเข้า และผู้ส่งออกสินค้าด้วย เพราะธุรกิจ ค้าปลีกรายใหญ่จะหันมานำเข้า และส่งออกสินค้าเองได้ เพราะมีศักยภาพและอำนาจต่อรองมาก
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ค้าปลีกค้าส่ง จะคุมการขยายสาขาได้อย่างแน่นอน เพราะจะกำหนดให้คณะกรรมการค้าปลีกค้าส่ง มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขจัดตั้ง หรือขยายสาขา และทำการวิเคราะห์ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในชุมชน กำหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืน รวมถึงอนุญาต หรือไม่อนุญาตการขยายสาขาใหม่ ส่วนการที่กรมการค้าภายในขอความร่วมมือให้ห้างค้าปลีกชะลอขยายสาขานั้น ขณะนี้มีเพียงห้างเทสโก้ โลตัส ที่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ โดยมีแผนว่าถึงปลายปีนี้จะขยายสาขาอีก 3-4 แห่ง และโลตัสเอกซ์เพรส อีก 100 แห่ง ทั้งๆที่ผู้บริหารคนไทย เริ่มเห็นแล้วว่าจะกระทบกับร้านโชห่วย และมีแนวโน้มจะให้ความร่วมมือ แต่ติดที่ผู้บริหารต่างชาติยังยืนยันไม่ชะลอการขยายสาขา.
ต้องรีบไปถ่ายรูปกับโชว์ห่วยข้างบ้านซ่ะแลห่ะ