ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
02-02-2025, 11:54
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นายกฯสิงคโปร์อัดปฏิวัติในไทยทำประเทศ-ประชาธิปไตยถดถอย 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
นายกฯสิงคโปร์อัดปฏิวัติในไทยทำประเทศ-ประชาธิปไตยถดถอย  (อ่าน 1396 ครั้ง)
นทร์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 7,441



เว็บไซต์
« เมื่อ: 06-10-2006, 19:44 »

นายกฯสิงคโปร์อัดปฏิวัติในไทยทำประเทศ-ประชาธิปไตยถดถอย

6 ตุลาคม 2549 19:16 น.
(Update)นายกฯสิงคโปร์เชื่อมั่นพล.อ.สุรยุทธ์บริหารประเทศ อัดปฏิวัติทำประเทศและประชาธิปไตยถอยหลัง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายลี เซียง หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ชี้ การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน เป็นการก้าวถอยหลังสำหรับไทย และประชาธิปไตยในประเทศ

ผู้นำสิงคโปร์กล่าวว่า ไทยไม่มีสถาบันประชาธิปไตย และการปกครองโดยพลเรือนที่มั่นคง และแทนที่จะรอให้ผู้มีสิทธิออกเสียงเป็นผู้ตัดสิน ตามกำหนดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน กองทัพกลับตัดสินใจที่จะปลดพ.ต.ท.ทักษิณ ผ่านการทำรัฐประหาร

"เรื่องนี้ถือเป็นการก้าวถอยหลังของไทย ประเทศที่กำลังพยายามจัดตั้งระบบประชาธิปไตย หลังจากที่มีการปฏิวัติมายาวนานถึง 17 ครั้ง นับแต่ปี 2475 เป็นต้นมา" นายลีระบุ ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ต่อกลุ่มนักหนังสือพิมพ์จากเอเชีย และยุโรป ส่วนหนึ่งของการอธิบายเรื่องระบบการเมืองในเอเชีย

ผู้นำสิงคโปร์ ยังชี้ด้วยว่า ในขณะที่ชาวตะวันตกจำนวนมาก และชาวเอเชียบางส่วนเชื่อว่า รูปแบบประชาธิปไตยแบบตะวันตกเป็นมาตรฐาน และหนทางที่ดีที่สุดในการปกครองที่ดี

"แต่มันเป็นสูตรที่น่าอัศจรรย์สำหรับความสำเร็จ" ซึ่งสำหรับเอเชียแล้ว ประชาธิปไตยแบบตะวันตก ไม่ได้ทำให้เกิดการปกครองที่มีเสถียรภาพ ถูกต้องตามกฎหมาย และมีประสิทธิภาพเสมอไป

นอกเหนือจากที่กล่าวถึงการพัฒนาด้านประชาธิปไตยในไทยแล้ว นายลียังกล่าวถึงเหตุผลอื่นๆ รวมถึง การขาดประวัติศาสตร์อันยาวนานถึงการร่วมมือกันระหว่างประเทศ และจำนวนประชากร ที่ลงคะแนนเสียงโดยพิจารณาจากเรื่องเชื้อชาติ และศาสนา

การแสดงความคิดเห็นข้างต้นของนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เกิดขึ้นหลังสิงคโปร์ เป็นประเทศแรกในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่ส่งจดหมายแสดงความยินดีไปถึงพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย ที่มาจากการแต่งตั้ง

ระหว่างพักการประชุม นายลียังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่นว่า เคยได้พบกับพล.อ.สุรยุทธ์เมื่อนานมาแล้ว พร้อมแสดงความมั่นใจว่า นายกรัฐมนตรีคนใหม่มีความรับผิดชอบอย่างมากต่อภาระหน้าที่ของตัวเอง

ต่อข้อซักถามที่ว่า รัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ จะต้องมีการหารือระหว่างกันถึงกรณีชิน-เทมาเส็กหรือไม่นั้น นายลี ระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์ เป็นเพื่อน และต้องการเป็นเพื่อนกับรัฐบาลใหม่ของไทย และเชื่อว่าไทยก็คิดเช่นเดียวกัน

http://www.bangkokbiznews.com/2006/10/06/w001_143485.php?news_id=143485

 
บันทึกการเข้า

"ประชาชน อย่าทิ้งประเทศชาติ"
MacBookPro
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 765



« ตอบ #1 เมื่อ: 06-10-2006, 19:57 »

สิงคโปร์ไม่ใช่พ่อ
บันทึกการเข้า

ไอ้เหลี่ยม - ทักษิณ ชินวัตร ชาตะ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 มรณะ 19 กันยายน พ.ศ. 2549
สี่หามสามแห่
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,460



« ตอบ #2 เมื่อ: 06-10-2006, 19:57 »

วันก่อนก็ด่า มาเลย์ แล้วส่ง จม.ไปขอโทษ แม่ง ตีหัวเข้าบ้านชัดๆ

มีเพื่อนอย่างสิงคโปร์ นี่ไม่ไหววะ

เพื่อนที่ต้องระวังเพื่อน ตลอด 24 ชม.

ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะแทงหลัง
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #3 เมื่อ: 06-10-2006, 20:01 »

โถๆๆ แค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว สาเหตุน่ามาจากปฏิวัติในไทยทำเทมาเสกกำไรหดมากกว่า
บันทึกการเข้า
Neoconservative
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 407


We protect the Kingdom


« ตอบ #4 เมื่อ: 06-10-2006, 20:13 »

อืม เทมาเส็ก ขาดทุนไปเยอะ

 

ถ้า กองทุน วายุภักดิ์ ไปลงทุน ใน เขมร แล้วเกิดเหตุการณ์ แบบเดียวกัน

คนที่เป็นนายก ก็ ต้องออกหน้าไว้ก่อน

 

โดยเฉพาะ สิงคโปร์ ที่เป็น ลูกน้อง อังกฤษ อเมริกา ด้านหน้า ก็ ต้องออกมาด่าผ่านสื่อ

ด้านหลัง เป็น สมาชิก อาเซียน ก็ต้อง ส่ง จม. ขอโทษ กับ จม. แสดงความยินดีออกไป

 
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #5 เมื่อ: 06-10-2006, 20:25 »



เมียร้องไห้โฮๆๆๆๆ  นายกสิงคโปร์โกรธจนกระอักเลือด  ขนาดลีกวนยูผู้พ่อ ยังต้องคลานกลับมาเล่นการเมือง เจ๊งยับ เทมาเสก

http://www.matichon.co.th/weekly/weekly.php?srctag=MDQxMDMwNjEwNDk=&srcday=MjAwNi8xMC8wNg==&search=no

ต่างประเทศ

บทเรียนราคาแพงจากเมืองไทย ของ"เทมาเส็ก"

สตีเฟน เบนเนตต์ ทนายความแห่งสำนักงานฮันตัน แอนด์ วิลเลียมส์ ในกรุงเทพฯ ที่เป็นสำนักงานทนายความที่แนะนำให้เทมาเส็กชื้อกิจการ ชิน คอร์ปอเรชั่น บอกกับนิวยอร์ก ไทม์ส เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่า ผลสะเทือนจาก "ดีล" มูลค่า 1,900 ล้านดอลลาร์ครั้งนั้นจะมากมายถึงขนาดนี้

เขาบอกว่าไม่คิดว่าจะมีใครคาดการณ์ได้ว่าผลกระทบทางการเมืองจากดีลครั้งนั้นจะเป็นอย่างที่เห็นอยู่ ไม่เพียงไม่คาดคิดเท่านั้น แม้แต่พูดถึงกันบนโต๊ะเจรจายังไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึง

ถ้ารู้-ดีลนี้คงไม่มีทางเกิดขึ้น เขาเชื่ออย่างนั้น

หลายประโยคของ สตีฟ เบนเนตต์ บ่งบอกชัดเจนว่า การตัดสินใจของเทมาเส็ก บริษัทเพื่อการลงทุนของรัฐบาลสิงคโปร์เพื่อซื้อกิจการของครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นความผิดพลาดประการหนึ่ง-จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่

ด้วยการซื้อกิจการของชินคอร์ป ทางหนึ่งยั่วยุให้กระแสชาตินิยมพุ่งสูงขึ้นอย่างพรวดพราดในไทย ยิ่งเป็นการซื้อจากครอบครัวของนายกรัฐมนตรีที่กำลังถูกกล่าวหาอย่างกว้างขวางว่าคอร์รัปชั่น ยิ่งเสมือนหนึ่งสาดน้ำมันเข้าใส่กองไฟการชุมนุมประท้วงเพื่อต่อต้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ให้คุโชนลุกลามออกไป และในที่สุดก็อยู่นอกเหนือความควบคุม ลงเอยด้วยการยึดอำนาจ

ตอนนี้ พ.ต.ท.ทักษิณลี้ภัยการเมืองอยู่ในลอนดอน ส่วนเทมาเส็กเจ๊งไปแล้วเกือบ 690 ล้านดอลลาร์ (2.7 หมื่นล้านบาท) เพราะดีลในครั้งนั้น

วิบากกรรมดังกล่าวยังไม่จบเพียงเท่านั้น "ดีล" ครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองไทยหนนั้นยังตกเป็นเป้าการสอบสวนต่อของทางการไทยต่อไปด้วยว่า เข้าข่ายการละเมิดกฎหมายของไทยหรือไม่? สุดท้ายแล้ว ดีลชิน-เทมาเส็ก จะไปจบลงตรงไหน ยังไง ยังไม่มีใครบอกได้ในขณะนี้

ที่แน่ๆ ก็คือ ชื่อเสียงของ "เทมาเส็ก" สำหรับหลายคนในเมืองไทย "เน่าเสีย" ไปเรียบร้อยแล้ว!

ดีลหนนี้ยังทำให้บริษัทที่ปิดตัวเอง กันผู้บริหารแทบทั้งหมดจากการพูดคุย ตอบคำถามโดยตรงกับผู้สื่อข่าว ต้องออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเป็นครั้งแรก แม้จะจำกัดอยู่เพียง 3 คนจาก 3 สำนักคือ นิวสวีก, บลูมเบิร์ก และเอพี ก็ตามที

เพราะผลสะเทือนจากการทำความตกลงซื้อขายกันในครั้งนั้นทำให้เทมาเส็กตกเป็นที่สนใจในระดับโลกอย่างช่วยไม่ได้

เทมาเส็กยืนยันเสมอมาว่า แม้จะเป็นบริษัทของรัฐบาล มีกระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การดำเนินการของบริษัท ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล และปลอดจากการตัดสินใจในเชิงการเมือง

แม้จะยืนยันเสมอมา แต่ก็ถูกเคลือบแคลงเสมอมาเช่นกันว่า เป็นไปได้อย่างไรที่บริษัทซึ่งมีโครงสร้างทำนองนี้จะปลอดจากอิทธิพลของรัฐบาล เทมาเส็กไม่เพียงมี โฮ ชิง ภรรยานายกรัฐมนตรี ลี เซียน หลุง ดำรงตำแหน่งซีอีโอเท่านั้น คณะกรรมการบริหารทั้งหมดยัง "แต่งตั้ง" มาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งมี "ลี เซียน หลุง" คนเดียวกันเป็นรัฐมนตรี เอส. ธนาบาลัน ประธานของเทมาเส็ก ก็คืออดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ หนึ่งในสองรองประธานเทมาเส็ก ก็คือปลัดกระทรวงการคลังของสิงคโปร์!

ตามข้อมูลของ ทอมสัน ไฟแนนเชียล กองทุนเพื่อการลงทุนของเทมาเส็กถูกประเมินค่าไว้ว่าอยู่ที่ประมาณ 81,200 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นหนึ่งในกองทุนรวมเพื่อการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีรัฐเป็นเจ้าของ

แต่เดิมการลงทุนของเทมาเส็กเน้นหนักอยู่แต่ภายในประเทศ เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจปี 1997 ต่อด้วยฟองสบู่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีแตกในปี 2000 สิงคโปร์ตกอยู่ในสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ กองทุนของเทมาเส็กวูบหายไปราว 1 ใน 5

มาดาม โฮ ชิง วิศวกรปริญญาเอกจากสแตนฟอร์ด คือผู้ที่ถูกมอบหมายให้เข้ามากอบกู้สถานะของเทมาเส็กในปี 2002 หลายคนให้เครดิตเธอในฐานะผู้ที่เข้ามาจัดการให้เกิด "วินัยในการลงทุน" และเสริมสร้าง "ความเชี่ยวชาญในระดับโลก" ขึ้นในเทมาเส็ก

27 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานที่เทมาเส็กว่าจ้างอยู่ในเวลานี้ จึงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในระดับโลกที่เป็นชาวต่างชาติ

บทเรียนในอดีตทำให้เทมาเส็กเริ่มต้นออกไปลงทุนในต่างประเทศ ในขณะนี้ยุทธศาสตร์การลงทุนของเทมาเส็ก แยกออกเป็น 3 ส่วน ด้านหนึ่งคือ การลงทุนในเอเชีย อีกด้านหนึ่งคือ การลงทุนในประเทศที่พัฒนาแล้ว และอีกด้านหนึ่ง จึงเป็นการลงทุนภายในประเทศ

ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนยอมรับว่ายุทธศาสตร์ดังกล่าวเหมาะสมกับเทมาเส็กมากกว่า เป็นผลดีกับเทมาเส็กมากกว่าจำกัดอยู่แค่การลงทุนภายในประเทศ ไม่เพียงเป็นการค้ำประกันความเสี่ยงไปในตัว ยังไปได้ด้วยดีกับยุทธศาสตร์ของสิงคโปร์ที่หวังใช้การค้าและการลงทุนเป็นสะพานเชื่อมสิงคโปร์กับประชาคมโลก

ยุทธศาสตร์เหมาะสม ถูกต้อง แต่เกิดอะไรขึ้นกับการลงทุนของเทมาเส็กในไทย โดยเฉพาะในดีลระหว่างเทมาเส็กกับชินคอร์ปหนนี้?

ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่า สาเหตุสำคัญที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เพราะความเคลือบแคลงว่า สภาพปลอดการเมืองของเทมาเส็ก-ไม่ได้ปลอดการเมืองจริงๆ

แกร์รี่ โรแดน ศาสตราจารย์ชาวออสเตรเลียประจำศูนย์วิจัยเอเชีย ของมหาวิทยาลัยเมอร์ด็อค ในเมืองเพิร์ธ เองก็ไม่เชื่อว่ารัฐบาลสิงคโปร์จะไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการตัดสินใจในการลงทุนของเทมาเส็ก เขาบอกว่า ยิ่งออกไปลงทุนข้างนอกมากเท่าไหร่ รัฐบาลสิงคโปร์ยิ่งจำเป็นต้องเข้าไปมีอิทธิพลมากขึ้นเท่านั้นว่า จะลงทุนที่ไหน ลงทุนเท่าไหร่?

ในทางหนึ่ง ความไม่เชื่อถือว่าปลอดการเมืองจริงๆ เป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่แนวความคิดแบบชาตินิยมต่อต้านดีลครั้งนี้

ในอีกทางหนึ่ง การเมืองที่เข้าแทรก ทำให้เทมาเส็กมองข้ามปัจจัยเสี่ยงทั้งหลายไป และตัดสินใจลงทุนครั้งนี้ เพราะฝ่ายการเมืองบอกว่า "ต้องซื้อ"!

นักวิเคราะห์อีกบางคนไม่เชื่อว่า เทมาเส็กจะมีการเมืองเคลือบแฝงอยู่ภายใน เขาบอกว่าปัญหาของเทมาเส็กในเมืองไทยเกิดขึ้นจาก "ความเชื่อมั่นในตัวเองมากจนเกินไป"

ใครก็ตามที่เชื่อมั่นในตัวเองจนเกินระดับเหมาะสม มักตัดสินใจผิดพลาด เมื่อผิดพลาดย่อมต้องได้รับบทเรียน

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับกระบวนการตัดสินใจของเทมาเส็กหนนี้ ผิดหรือไม่ผิด ถูกการเมืองแทรกหรือไม่ บทเรียนครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นแล้ว

เป็นบทเรียนมูลค่ามหาศาล ชนิดที่เรียกได้ว่าแพงระยับเสียด้วยซี!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2006, 20:58 โดย พรรณชมพู » บันทึกการเข้า
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 06-10-2006, 21:10 »

นายลี น่าจะรูว่าประชาธิปไตยไม่ได้มีแค่ "การเลือกตั้ง" และก็ไม่ใช่การเลือกตั้งที่ฝ่ายรัฐบาลข่มขู่ ไล่ฟ้อง ไล่กระทืบฝ่ายค้าน แบบที่นายลีเองก็ใช้วิธีนี้

รู้ไหมว่า.......ลีกวนยู+ลูกชาย กำลัง "แท็กทีม" สั่งห้ามจำหน่ายสื่อที่วิพากษ์นายลี ให้มีแต่สื่อที่เชียร์ตัวเองเท่านั้น

นี่หรือเปล่า "ประชาธิปไตย" ??



วันก่อนก็ด่า มาเลย์ แล้วส่ง จม.ไปขอโทษ แม่ง ตีหัวเข้าบ้านชัดๆ
มีเพื่อนอย่างสิงคโปร์ นี่ไม่ไหววะ
เพื่อนที่ต้องระวังเพื่อน ตลอด 24 ชม.
ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะแทงหลัง

ใช่ครับ และยิ่งกว่านั้นลีกวนยูและลีเซียนลุง ยังถูกนักการเมืองจีนไต้หวันขนานนามว่า "เลื้อยคลาน" อีกด้วย ส่วนทางจีนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่ไว้ใจสิงคโปร์
สิงคโปร์ใช้วิธีอย่างเดียวกันที่ทำกับมาเลย์ ก็ไปทำกับทั้งจีนแดง และจีนไต้หวันมาแล้ว สดๆร้อนๆ

นายลีเซียนลุง ก่อนเข้ารับตำแหน่งนายกไม่กี่วัน รู้ทั้งๆรู้ว่าแผ่นดินใหญ่โกรธแน่ แต่ก็ยังไปเยือนไต้หวัน จีนแผ่นดินใหญ่โกรธมาก ส่วนทางจีนไต้หวันก็ชื่นชมเป็นการใหญ่

พอกลับมาถึงสิงคโปร์ มัน "พลิกลิ้น" หน้าตาเฉย บอกว่า ไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน ส.ส.ไต้หวันเลยเรียกนายลีเซียนลุงว่า "ลิ้นสองแฉก" "เลื้อยคลาน" เพื่อทำเป็นเอาใจจีนแดงอีกที

ต่อมาไม่กี่เดือนสิงคโปร์ให้ Donald Rumsfeld มาเย้วๆบนเกาะ ทำนองว่า ต้องการปิดล้อมจีนไม่ให้มาคานอำนาจอเมริกาในย่านเอเชีย

ก็ดูลีเซียนลุง ในข่าวที่เจ้าของกระทู้ยกมา แรกๆให้สัมภาษณ์ ตบหัว "ประชาธิปไตยถดถอย" พอตอนท้ายทำเป็นลูบหลัง ดันมาแสดงความยินดี สมฉายา "เลื้อยคลาน" ที่ไต้หวันขนานให้จริงๆ เพราะมันเล่นแต่บทเอาตัวเองรอดตลอด อย่างน่าเกลียด

จริงอยู่ ทุกประเทศก็ย่อมต้องรักษาผลประโยชน์ตัวเอง นั่นไม่ใช่ปัญหา แต่ไม่ใช่แบบว่า ใช้วิธีแบบพลิกลิ้น ต่อหน้าเอาใจ พอกลับประเทศตัวเองไปก็ด่าปาวๆๆ หรือนึกจะด่าคนอื่นก็ด่า เสร็จทำเป็นขอโทษ

ไทยเล่นบท "ซื่อ" เกินไปด้วยแหละครับ จริงๆสิงคโปร์มันแค่เกาะเล็กๆเอง มันก็ไม่ได้มีเขตแดนติดกับเรา น่าจะลองคบกับมาเลเซียทำงานเฉพาะกิจกดดันมัน ตัดการส่งน้ำจืด ดูซิจะเป็นไง  จะอเมริกาก็อเมริกาเหอะถึงเวลาจริงๆมันจะกล้าทำอะไร ทุกวันนี้คนสิงคโปร์ถ้ามีโอกาส ก็มีแต่จะขอ green card หนีไปอยู่ประเทศอื่น
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06-10-2006, 21:41 โดย ThaiTruth » บันทึกการเข้า

นู๋เจ๋ง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,877



« ตอบ #7 เมื่อ: 06-10-2006, 21:18 »

จากประวัติศาสตร์อันยาวนาน

สิงคโปร์ไม่เคยเป็นมิตรแท้และยังฉวยโอกาสเอาเปรียบไทยตลอดมา

บันทึกการเข้า

~จะแน่วแน่...แก้ไข...ในสิ่งผิด~
superager
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 152


Olivier@ขบวนการโจ๋เรนเจอร์


« ตอบ #8 เมื่อ: 06-10-2006, 23:33 »

ทำไมไม่พูดมาตรงๆละว่าอย่ามายึดสัมปทานคืนไปนะ 
บันทึกการเข้า
คนเดินดิน
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 388


« ตอบ #9 เมื่อ: 07-10-2006, 00:05 »

ลี เซียง หลุง มันเป็นใคร ทำเป็นมาอวดอ้างเรื่องประชาธิปไตย

ประชาธิปไตยบนเกาะบ้านเอ็งน่ะมันเป็นไง เผด็จการรัฐสภาชัดๆ สื่อในบ้านคุณมีเสรีภาพ พอที่จะวิจารณ์รัฐบาลได้หรือปล่าว

ไอ้ที่คุณ เห่า มาทั้งหมดนี่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ ธุรกิจ ของคุณใช่ไหม ไม่ช้าหรอก สัมปทานทั้งหลาย จะกลับคืนสู่อ้อมกอดคนไทย

กุหลาบแก้ว กำลังถูกกระชากหน้ากาก นอมินี่ ยังไง ก็คือ นอมินี่ วันยังค่ำ มันปิดไม่มิดหรอก เสียใจก็แต่ ไทยพาณิชย์ ธนาคารของคนไทย ทำไม ไปทำตัวช่วยต่างชาติ ปล้นคนไทยด้วยกันเองนะ
บันทึกการเข้า
aiwen^mei
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,732



« ตอบ #10 เมื่อ: 07-10-2006, 00:24 »

ทำให้เกลียดอีกแล้ว สิงคโปร์เนี่ยะ

สงสัยแค้นเรื่อง เทมาเส็ก โสน้าน่า   
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2006, 00:28 โดย aiwen^mei » บันทึกการเข้า

有缘千里来相会,无缘对面不相逢。
ไทมุง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,543



« ตอบ #11 เมื่อ: 07-10-2006, 01:48 »

ลี เซียง หลุง มันเป็นใคร ทำเป็นมาอวดอ้างเรื่องประชาธิปไตย


อ้าว....คุณพี่  ไม่รู้เหรอว่านายลีเป็นลูกทักษิณ

พฤติกรรมเหมือนกันเดะ

ด่า UN ไม่ใช่พ่อ  ไม่กี่เดือนส่งจดหมายฟ้องว่าประชาธิปไตยถูกคุกคาม
บันทึกการเข้า
ทองเปลว
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 541



« ตอบ #12 เมื่อ: 07-10-2006, 04:42 »

น่าจะจั่วหัวอย่างนี้มากกว่านะครับ

นายกฯสิงคโปร์อัดปฏิวัติในไทยทำประเทศ-สิงคโปร์ฉิบหาย

 
บันทึกการเข้า

เพื่อนหมัก หักเหลี่ยมหด
เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #13 เมื่อ: 07-10-2006, 11:42 »


การปฏิวัติครั้งนี้ ทำเอา คนสิงคดปร์ ร้องไห้ โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หมดตูดแล้ว  หมดตูดแล้ว 73000ล้าน โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
บันทึกการเข้า
samrung
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 226



« ตอบ #14 เมื่อ: 07-10-2006, 13:47 »

ที่ถดถอย หมายถึง ราคาหุ้นของชินคอร์ป หรือเปล่า 
บันทึกการเข้า
buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #15 เมื่อ: 07-10-2006, 13:56 »

ผู้นำพันธ์ เหลี่ยม ยังมีอยู่เหรอเนี๊ยะ 

คุณไทยทรูธ ชัดเจนมาก 
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
z e a z
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 564



« ตอบ #16 เมื่อ: 07-10-2006, 15:04 »

หมายถึงประชาธิปไตยแบบสิงคโปร์ล่ะมั้งที่ถดถอย ...  หุบปากไปเลยดีกว่า. 
บันทึกการเข้า

<a href="http://www.stopglobalwarming.org/countmein.asp" target="blank"><img src="http://msglblwarm.vo.llnwd.net/o16/assets/banners/728x90/sgw_728_90.gif" alt="StopGlobalWarming.org" border="0"></img></a>
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #17 เมื่อ: 07-10-2006, 16:14 »

นายกฯสิงคโปร์อัดปฏิวัติในไทยทำประเทศ-ประชาธิปไตยถดถอย

6 ตุลาคม 2549 19:16 น.
(Update)นายกฯสิงคโปร์เชื่อมั่นพล.อ.สุรยุทธ์บริหารประเทศ อัดปฏิวัติทำประเทศและประชาธิปไตยถอยหลัง
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ : นายลี เซียง หลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ชี้ การทำรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน เป็นการก้าวถอยหลังสำหรับไทย และประชาธิปไตยในประเทศ



นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มี"สิทธิ"พูดถึงระบอบประชาธิปไตยด้วย.........ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #18 เมื่อ: 07-10-2006, 16:24 »

ถูกของเขาครับ...แต่เขาก็คงไม่สนใจตอนประชาธิปไตยเดินหน้าเต็มสูบพาประเทศลงเหวทุนนิยมในช่วงหน้าเหลี่ยม (ก็ประเทศเขามันก็แค่บริษัทบริษัทนึงแค่นั้นเอง ทุนนิยมคงเป็นรัฐธรรมนูญสูงสุดของประเทศสิงคโปร์)

ผมอยากบอกว่า ประชาธิปไตยไทยถอยหลังออกมาน่ะดีแล้ว ... แล้วเริ่มเดินหน้าใหม่แบบระมัดระวังกว่าเดิม ช้ากว่าเดิม แต่มั่นคง ไม่ปล่อยให้กะหรี่การเมืองออกมาหากินจนทหารต้องออกมาปฏิวัติอีก

สิงคโปร์พัฒนามากกว่าไทย สิงคโปร์ร่ำรวยกว่าไทยก็จริง...แต่ผมก็เป็นคนไทย  ผมก็เห็นว่า ...ถึงเราจะพัฒนาประเทศแบบไทย ๆ ..แต่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าทุนนิยมไม่ใช่สิ่งที่คนไทยหลงใหลได้ปลื้มไปด้วยแบบประชากรสิงคโปร์..เราจะจน เราก็รวยน้ำใจ เราก็รวยอุดมการณ์ เราก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจในประเทศเรา

แผ่นดินไทยเป็นแผ่นดินที่เต็มไปด้วยคน จีน แขก เขมญ ลาว ญวน กระเหรี่ยง มอญ แม้กระทั่ง คนมลายู...ความหลากหลายในวัฒนธรรมท้องถิ่นทำให้ประเทศเราขัดแย้งกันเองค่อนข้างบ่อย...แต่สิ่งนี้ก็ได้สร้างคนดี คนเก่งขึ้นมา (อย่าลืมว่ามหาราชเราเององค์หนึ่งก็เป็นคนเชื้อสายจีน) ..... คนไทยหลากหลาย จึงวุ่นวายเป็นธรรมดา แต่ก็ยังดีกว่าบางประเทศ ที่อพยพกันออกไปตั้งประเทศ อาศัยทุนนิยมพัฒนาประเทศ จนก้าวหน้า ... แต่คนในประเทศก็ก้มหน้าก้มตาใส่ใจกับปากท้อง ปล่อยให้ประเทศเดินหน้าไปด้วยคนเพียงกลุ่มเดียว

วันไหนประเทศสิงคโปร์เจอวิกฤต จะผ่านไปได้หรือไม่ก็ยังพิสูจน์ไม่ได้ในเมื่อประวัติศาสตร์ของประเทศเขาไม่ไ้ด้ยาวนาน แต่ของเราผ่านมานานแล้ว เจอวิกฤตมามากแล้ว..........ป่วยการที่ประเทศเด็กเมื่อวานซืน จะมาสอนทิศทางเดินให้กับประเทศที่เก่าแก่กว่าอย่างไทย
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
หน้า: [1]
    กระโดดไป: