สุรยุทธ์-อภิรักษ์ ลงพื้นที่แก้น้ำท่วม กำชับ กทม.เฝ้าระวังบ้านเรือนริมเจ้าพระยา
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 ตุลาคม 2549 19:05 น.

พล.อ.สุรยุทธ์-อภิรักษ์ ลงพื้นที่ติดตามแก้ปัญหาน้ำท่วม กทม.พร้อมรับมือเต็มที่ ประสานขอกำลังทหารและอุปกรณ์ช่วยเร่งระบายน้ำเพิ่ม นายกฯกำชับให้เฝ้าระวังบ้านเรือนริมฝั่งเจ้าพระยา และ กทม.ฝั่งตะวันออก
ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร วันนี้ (3 ต.ค.)นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวรายงานสรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ กทม.ให้กับ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้พายุไต้ฝุ่นช้างสารได้อ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำซึ่งส่งผลให้มีฝนตกประปรายจึงไม่น่าเป็นห่วง แต่มีปัญหาเรื่องปริมาณน้ำท้ายเขื่อนที่กรมชลประทานได้ปล่อยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาถึง 3,112 ลบ.ม.ต่อวินาที ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยารับได้เต็มที่ 3,000 ลบ.ม.ต่อวินาที แต่ตนยังขอยืนยันว่า กทม.สามารถรับมือได้
พร้อมกันนี้จะประสานกรมชลประทานและกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับพายุดีเปรสชันลูกใหม่ที่กำลังก่อตัวอยู่ทางด้านตะวันออกของของหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และจะเคลื่อนตัวเข้ามาในประเทศไทยภายในวันที่ 10 ตุลาคม 2549 นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดด้วย อย่างไรก็ตาม กทม.จะประสานไปยังหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุดเพื่อขอความสนับสนุนด้านกำลังพล อุปกรณ์ และยานพาหนะ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมว่า มีความรู้สึกพอใจในระดับหนึ่ง จากนั้นผู้ว่าฯ กทม.ได้นำ พล.อ.สุรยุทธ์ และคณะลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมสถานีสูบน้ำพระโขนง เขตคลองเตย โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที จากนั้นจึงเคลื่อนขบวนไปยังหมู่บ้านกรุงเทพกรีฑา เขตบางกะปิ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวประสบปัญหาน้ำท่วมขังทุกปี
พล.อ.สุรยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทาง กทม.และหน่วยบัญชาการทหารพัฒนาได้ช่วยกันดำเนินงานได้อยู่แล้ว ที่มาครั้งนี้มาดูเพื่อรู้และเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (4 ต.ค.) จะไปลงพื้นที่กับทางกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอรับฟังคำชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งทางมหาดไทยได้ทำร่วมกันกับกองบัญชาการทหารสูงสุด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะแก้ไขอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า จะทำเท่าที่สามารถทำได้เพราะเป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย และกองบัญชาการทหารสูงสุดจะทำร่วมกัน
ด้าน นายอภิรักษ์ กล่าวว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ได้กำชับให้ กทม.ดูแลพื้นที่ 2 ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะบ้านเรือนที่รุกล้ำริมน้ำ และฝั่งตะวันออกอย่างใกล้ชิด ได้แก่ เขตลาดกระบัง ประเวศ สวนหลวง หนองจอก คลองสามวา และมีนบุรี เพราะคลองต่างๆ ในพื้นที่ยังมีน้ำขึ้นสูงระบายได้ช้า ประกอบกับวันที่ 10 ตุลาคม 2549 นี้จะมีน้ำหนุนสูงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำให้ทันก่อนวันที่ 10 ต.ค.นี้ พร้อมเฝ้าติดตามสภาพดินฟ้า อากาศให้ใกล้ชิด เพราะช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ลำพังระบบที่ กทม.มีอยู่อาจไม่พอควรต้องเตรียมแผนสำรองเผื่อฉุกเฉินไว้ด้วย และในระยะยาว กทม.จะก่อสร้างอุโมงค์ และขยายคลองโดยเฉพาะคลองที่อยู่ท้ายสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อให้เพียงพอต่อการรองรับน้ำ
นายอภิรักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วนปัญหาน้ำท่วมขังในถนนสายหลักน้ำไม่มีแล้ว จะมีแต่ถนนสายรองในตรอกซอกซอยต่างๆ ที่ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่โดยเฉพาะในพื้นที่เขตลาดกระบัง หนองจอก
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000123566