ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
17-01-2025, 14:22
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  นักวิชาการม.เที่ยงคืนฉีกรธน.ชั่วคราว พร้อมระบุเลือกตั้งเสร็จ คปค.ต้องสลายตัว 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
นักวิชาการม.เที่ยงคืนฉีกรธน.ชั่วคราว พร้อมระบุเลือกตั้งเสร็จ คปค.ต้องสลายตัว  (อ่าน 1180 ครั้ง)
taworn09220
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 302


« เมื่อ: 29-09-2006, 08:56 »

นักวิชาการม.เที่ยงคืนฉีกรธน.ชั่วคราว พร้อมระบุเลือกตั้งเสร็จ คปค.ต้องสลายตัว   

ที่มา - สำนักข่าวประชาธรรม

28 ก.ย.2549 - คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน นำโดย รศ.สมเกียรติ ตั้งนโม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ รศ.ดร.อรรถจักร สัตยานุรักษ์ ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล จัดแถลงข่าวประกาศจุดยืนขอให้รัฐธรรมนูญมีประชาชนเป็นผู้กำหนด พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) เพราะการยึดอำนาจและการฉีกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 โดยคปค.เป็นการทำลายหลักการสำคัญของการปกครองและการพัฒนาการระบอบประชาธิปไตยในสังคมไทยลงอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าการกระทำนี้จะทำลงไปด้วยข้ออ้างหรือเหตุผลใดก็ตาม เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มิได้เป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย

คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวแถลงว่า ตามที่คปค.เสนอแนวทางในการนำสังคมไทยกลับคืนภาวะปกติภายหลังการยึดอำนาจด้วยการเสนอให้มีการัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะใช้ระยะเวลาในการจัดทำรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 8 เดือน 15 วัน เมื่อได้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จัดให้มีการเลือกตั้ง และภายหลังจากนั้นจึงกลับคืนไปสู่ระบอบรัฐสภา โดยในระหว่างนี้จะมีรัฐบาลที่มาจากการแต่งตั้งทำหน้าที่บริหารบ้านเมือง แสดงให้เห็นว่าคปค.ยังคงมีอำนาจในการควบคุมการร่างรัฐธรรมนูญทั้งโดยตรงและโดยอ้อม แม้จะเปิดให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมแต่คปค.ก็ยังคงมีอำนาจตัดสินใจในขั้นสุดท้าย

นอกจากนี้ กฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทั้งกฏอัยการศึกและคำสั่งจำนวนมาก จึงทำให้เห็นได้ว่ารัฐธรรมนูญจากกระบวนการของคปค. จะไม่สามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับระบอบประชาธิปไตย ต้องเข้าใจว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญมิใช่เพียงแค่การให้ประชาชนมาประชุมกัน แต่ต้องเป็นสังคมที่มีเงื่อนไขเอื้อให้ประชาชนสามารถผลักดันนโยบายหรือความเห็นของคนได้โดยอิสระ อันจะเกิดขึ้นก็แต่ในสังคมที่มีการเคารพสิทธิเสรีภาพเท่านั้น

 

มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนมีความเห็นว่า ในการนำสังคมไทยกลับคืนสู่ครรลองของระบอบประชาธิปไตยต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ 1.การจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่กำลังจะเกิดขึ้น รัฐบาลชุดนี้ต้องมีหน้าที่เพียงแค่การจัดการเลือกตั้งให้เกิดขึ้นในระยะเวลาอันสมควร ที่เพียงพอต่อการเตรียมการให้กระบวนการเลือกตั้งเป็นไปโดยบริสุทธิ์ยุติธรรม เนื่องจากมิได้เป็นรัฐบาลที่มาตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย จึงไม่ควรดำเนินบทบาทอื่นใดที่ไม่มีความจำเป็น

2.ภายหลังจากการเลือกตั้งคปค.ต้องสลายตัวไปจากการเมืองโดยทันที และต้องไม่แฝงตัวอยู่ในระบอบการเมือง ไม่ว่าจะเป็นไปภายใต้ชื่อหรือรูปแบบอื่นใด เช่น คณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ เป็นต้น 3.หน้าที่สำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งก็คือ การทำให้เกิดการปฏิรูปการเมืองที่ดำเนินไปอย่างอิสระและไม่ถูกควบคุมไว้โดยคปค. หากประชาชนเป็นผู้กำหนดรัฐธรรมนูญด้วยตนเอง

คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวแถลงต่อว่า การแก้ปัญหาความแตกแยกและความรุนแรงในสังคมไทยเป็นประเด็นสำคัญของการปฏิรูปการเมือง อันจะทำให้ระบอบประชาธิปไตยเกิดขึ้นมา และดำรงอยู่อย่างมั่นคง มิฉะนั้นก็จะมีความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างคนต่างกลุ่มซึ่งมีอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน มีความได้เปรียบเสียเปรียบอย่างสูงระหว่างผู้กุมอำนาจอยู่ในมือ กับผู้มีอำนาจน้อย หรือปราศจากกระบวนการควบคุมตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ และปราศจากการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริงของภาคประชาชน อันอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง และเกิดรัฐประหารซ้ำซากในอนาคต

การปฏิรูปการเมืองและรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นใหม่ภายใต้ “ระบบ” ที่ประชาชนสามารถมีส่วนร่วม และตัดสินใจ จะเป็นหลักประกันในการเข้าถึง และการใช้อำนาจอย่างเท่าเทียม สามารถตอบสนองต่อปัญหา และความต้องการของประชาชนทุกกลุ่ม อันจะเป็นการสร้างความเข้มแข็งของสังคมในการเผชิญหน้ากับความยุ่งยากต่างๆ มากกว่าการพึ่งพิงอำนาจนอกระบ มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนขอเรียกร้องให้สังคมไทยร่วมกันกดดันเพื่อให้รัฐบาลชั่วคราวที่จะเกิดขึ้น ทำหน้าที่เพียงจัดการเลือกตั้ง และนำไปสู่การปฏิรูปการเมืองที่เป็นอิสระจากการควบคุมของคปค.ต่อไป

รศ.สมเกียรติ ตั้งนะโม อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวว่า แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้ แต่เราสามารถสร้างอนาคตของเราข้างหน้าได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นอุบัติการณ์ทางการเมือง ซึ่งภาคประชาชนเป็นผู้เสียหาย เป็นผู้ที่ถูกริบประชาธิปไตย เสรีภาพ สิทธิ และสิ่งอื่นๆทั้งหมด ที่เคยเป็นสิทธิโดยธรรมชาติของเราด้วยวิธีการรัฐประหาร

“อุบัติการณ์ที่เกิดขึ้นเราไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือการวางอนาคตให้สังคมไทยและลูกหลานไทย สิ่งเหล่านี้อาจเป็นก้าวเล็กๆ ที่เราจะบอกว่าเราไม่ยินยอมที่จะถูกปล้นสิทธิโดยธรรมชาติของเราไป และเราไม่เห็นด้วยกับธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้ ด้วยเหตุผล 3 ประการด้วยกัน 1.ไม่โปร่งใส 2.ไม่มีส่วนร่วม 3.ไม่มีการรับรองหรือไม่มีการให้ความชอบธรรมโดยผ่านประชามติ” รศ.สมเกียรติ กล่าว

นอกจากนี้ รศ.สมเกียรติ กล่าวเสริมว่า หลังการรัฐประหารของคณะรสช. ในปี 2534 จนถึงวันนี้ผ่านมากว่า 15-16 ปี ประชาธิปไตยในหมู่ประชาชนไทยเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม สิ่งที่เราอยากทำคือการมีส่วนร่วมทุกสิ่งทุกอย่างกับธรรมนูญ ดังนั้นรัฐธรรมนูญฉบับใดก็ตามรวมทั้งธรรมนูญฉบับชั่วคราวนี้ด้วย จึงเป็นธรรมนูญฉบับชั่วคราวที่อยู่ในแนวคิดของนักรัฐประหารในโลกใบเก่า โลกที่ล้าหลังที่เราไม่อาจยอมรับความไม่โปร่งใสการไม่มีส่วนร่วม และการไม่ถูกรับรองจากประชาชนได้

 “เราไม่สามารถยินยอมให้คน 4-5 คน ปิดห้องประชุมแล้วเขียนธรรมนูญขึ้นมาปกครองคนกว่า 60 ล้านคนภายใน 1 ปี เราไม่ยินยอมให้คน 4-5 คนทำอะไรในสิ่งที่เราไม่มีส่วนร่วม และเราไม่ยอมให้คน 4-5 คนทำอะไรโดยที่เราไม่รับรองเราไม่มีฉันทานุมัติ ดังนั้นจึงขอทำลายธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้” อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าว

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวถึงแนวทางการเข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญของภาคประชาชน โดยเฉพาะประชาชนรากหญ้าว่า ในความเป็นจริงแล้วการร่างรัฐธรรมนูญเป็นเทคนิคเหมือนการตัดผม ต้องอาศัยคนที่มีความรู้ความสามารถทางด้านเทคนิค อย่างไรก็ตามคนที่จะเข้ามามีส่วนในด้านเทคนิคการร่างรัฐธรรมนูญต้องไม่คิดที่จะสร้างเงื่อนไขอะไร นอกจากนี้ยังต้องกลับมาถามว่าประชาชนระดับรากหญ้าถึงเงื่อนไขที่ทำให้เขาเงยหน้าอ้าปากได้

“ผมเชื่อว่าคนรากหญ้ารู้ แต่ให้เขาไปนั่งเขียนกฎหมายเขาทำไม่เป็นหรอก แต่เขาบอกให้ได้ว่าต้องการทำอะไร ทีนี้ทำยังไงถึงจะทำให้เขาบอกเงื่อนไขที่เขาต้องการได้ ผมคิดว่าต้องเปิดให้มีกระบวนการทางสังคม เช่น การคัดค้านเรื่องเขื่อนของสมัชชาคนจน หรือการเคลื่อนไหวเรื่องการปิดป่า ความต้องการเหล่านี้สะท้อนถึงแนวทางการกำหนดเงื่อนไขทางกฎหมายที่เราจะอยู่ร่วมกันโดยสันติได้ ซึ่งทุกคนได้ส่วนแบ่งทรัพยากรที่เป็นธรรมจากรัฐอย่างเท่าเทียมกัน” ศ.ดร.นิธิ กล่าว

นอกจากนี้ ศ.ดร.นิธิ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระบวนการเข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่เป็นการเอาประชาชนมาประชุมกันเฉยๆ แต่ต้องเป็นกระบวนการทางสังคมและการเมืองที่ปล่อยให้กลุ่มต่างๆ ได้เคลื่อนไหวเพื่อจะเรียกร้องสิ่งที่เขาต้องการ แล้วคนที่ทำหน้าที่ในด้านเทคนิคจึงจะมองเห็นเงื่อนไขได้ชัดขึ้นว่าต้องเขียนยังไงถึงจะตอบสนองสิ่งที่ประชาชนต้องการ

“ผมขอเสนอว่าให้เรายืนยันในสิทธิหัวใจของอารยะขัดขืนก็คือ การที่เราไม่ยอมรับคำสั่งที่เราไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นสิทธิที่มนุษย์ทุกคนทำได้ กรณีที่กลุ่มสมัชชาคนจนที่ได้กำหนดข้อเรียกร้องของกลุ่มในเรื่องต่างๆ เพื่อเสนอต่อสาธารณะตั้งแต่ก่อนที่ยังไม่เกิดการรัฐประหาร ผมว่าควรทำต่อไป อย่าหยุด นอกจากนี้เรื่องการคงอำนาจหลังการทำรัฐประหาร เป็นสิ่งที่ประชาชนไทยทุกคนควรวิตก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราปล่อยให้อำนาจอยู่ในมือใคร โดยไม่มีการตรวจสอบ และทัดทาน ก็ไม่ควรไว้ใจอะไรได้ทั้งนั้น” ศ.ดร.นิธิ กล่าว

ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และนักวิชาการมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวว่า หากใครได้อ่านรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ถูกสรุปออกมานั้นจะเห็นว่าคปค.ยังคงแฝงร่างอยู่ในสังคมไทยต่อไป อาทิ การร่างรัฐธรรมนูญที่ให้มีสมัชชาแห่งชาติ 200 คนสุดท้าย หลังจากนั้นจะดำเนินการต่อโดยคปค.ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นคณะมนตรีแห่งชาติที่พิจารณาคัดเลือก 100 คน ซึ่งในขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญ จะทำการเลือกกันเองอีก 25 คน โดยมีคณะมนตรีแห่งชาติเลือกอีก 10 คน ดังนั้นจากร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวดังกล่าวฉายภาพให้เห็นว่าคปค.จะเข้ามามีส่วนควบคุมโดยปราศจากการตรวจสอบในสังคมไทยต่อไปอีกนาน

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวครั้งนี้ คณาจารย์มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนที่ร่วมแถลงซึ่งทุกคนแต่งชุดดำยังทำพิธีฉีกสัญลักษณ์ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งเป็นการแสดงสัญลักษณ์ว่าไม่เอารัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้ด้วย.
 
 
 
 
บันทึกการเข้า
555555555555
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 309



« ตอบ #1 เมื่อ: 29-09-2006, 09:22 »

ตลกที่ว่า ตอนทักสินครองประเทศ อาจานเหล่านี้ก็ทำไรไม่ได้ ถึงจะรวมพลังกันแค่ไหนก็จะโดนพวกแม้วหาว่าขาประจำบ้าง พวกโง่บ้าง  พอมาตอนนี้ เก่งกันขึ้นมาเชียว เรียนมาขนาดนี้ อายุขนาดนี้ ก็น่าจะรู้จักคำว่ารอคอยกันบ้างนะ ทฤษฎีน่ะเต็มหัว ก็เข้าใจอยู่ แต่ต้องดูเหตุการณ์รอบข้างเป็นด้วย
บันทึกการเข้า
Şiłąncē Mőbiuş
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,215



เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 29-09-2006, 09:28 »

อาจารย์หลายท่านเป็นประเภท ทฤษฎีปึ๊ก แต่ปฏิบัติแป๊ก

ผมคิดว่างั้นนะ
บันทึกการเข้า



“People should not be afraid of their governments. Governments should be afraid of their people.”

. “ประชาชนไม่ควรกลัวรัฐบาลของตนเอง รัฐบาลต่างหากที่ควรกลัวประชาชน” .

. แวะไปเยี่ยมกันได้ที่ http://silance-mobius.blogspot.com/ นะครับ .
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 29-09-2006, 09:36 »

ขำพวกอาจารย์ หลังเลือกตั้ง การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มันก็อยู่ในมือพวกนักเลือกตั้งสิอาจารย์

มันจะไปอยู่ในมือประชาชนได้ยังไง...ฟังดูตลก ๆ นะครับ...

ถ้าจะมองว่า สภาร่างรัฐธรรมนูญ อยู่ใต้อิทธิพลใคร ก็มองได้ พูดได้

แต่ที่สำคัญทำไมไม่มองดูที่เนื้อหาล่ะ...ถึงที่สุดมันก็หนี รัฐบาลหรือ คปค. หรือ รัฐบาลจากนักการเมืองไปได้

มันหนีออกซะที่ใหน ในเมื่อการแก้รัฐธรรมนูญมันมาจากสภาผู้แทนเท่านั้นจะเป็นผู้กำหนด...( หากใช้ รัฐธรรมนูญ 2540 )

ผมไม่เห็นว่าการแก้ไขมันจะมาอยู่ในมือประชาชนได้ยังไง...มองยังไงก็มองไม่เห็น

ที่สำคัญ ร่างจากสภาร่างของ คปค. กับร่างจากสภาผู้แทน มันต่างกันตรงใหน ใครจะได้ใช้เร็วกว่า

การประสานประโยชน์ใครจะสามารถประสานได้ง่ายกว่า...ในเมื่อก็รู้กันอยู่แล้ว หลังเลือกตั้ง พวกนักการเมืองมันฟังใครที่ใหน

พูดเหมือนเด็ก ๆ ที่ไม่เคยเห็นพฤติกรรมของนักการเมือง...ในเมื่อมันได้อำนาจจากประชาชนไปแล้ว มันก็ยิ่งอ้างอย่างชอบธรรม

แต่สำหรับ คปค. เค้ารู้ว่ามาโดยมิชอบ เค้ายิ่งระวังตัว ขออะไรไปก็ให้ไปตกลงกันเอง...แบบนี้ไม่ดีกว่าหรือไง
บันทึกการเข้า

เบื่อไอ้เหลี่ยม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 389


« ตอบ #4 เมื่อ: 29-09-2006, 11:39 »

สงสัย อยากให้บักเหลี่ยม และพรรคพวกเดิมๆ เข้ามากอบดกยอีกรอบมั้ง
ไอ้พวกหมาลัยเที่ยงคืนนี่ อยู่แต่ในที่มืดหรือไงนะ  ตาไม่สว่างสักที  ต้องเอาสปอตไลท์ส่องตามั่งถ้าจะดี
บันทึกการเข้า
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #5 เมื่อ: 29-09-2006, 12:12 »

“เราไม่สามารถยินยอมให้คน 4-5 คน ปิดห้องประชุมแล้วเขียนธรรมนูญขึ้นมาปกครองคนกว่า 60 ล้านคนภายใน 1 ปี เราไม่ยินยอมให้คน 4-5 คนทำอะไรในสิ่งที่เราไม่มีส่วนร่วม และเราไม่ยอมให้คน 4-5 คนทำอะไรโดยที่เราไม่รับรองเราไม่มีฉันทานุมัติ ดังนั้นจึงขอทำลายธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้” อธิการบดีมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าว
หลังจากได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการตลอดจนทฤษฎีต่างๆมามากต่อมากแล้ว
ผมไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้เคยรับรู้และเข้าใจเรื่องของคนอื่นบ้างหรือไม่
ผมไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้เคยรับรู้และเข้าใจแนวทางในการปฏิบัติจริง (actual practice) หรือไม่
เพราะในการปฏิบัติจริงมันต้องไปเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายอย่าง เช่น
วัฒนธรรมขององค์กร
บุคลากรขององค์กร
จุดแข็งขององค์กร
จุดออ่นขององค์กร
โอกาสขององค์กร
อุปสรรคขององค์กร
      ฯลฯ
บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 29-09-2006, 12:17 »

ฉีกได้ แต่กฎอัยการศึกเค้าก็ยังอยู่ จะทำยังไงดีครับ...

หรือไม่ก็ ให้นายก( คนใหม่ ) ประกาศภาวะฉุกเฉิน ตาม พรก.ฉุกเฉิน 2548 รองรับ.( ฉบับที่หน้าเหลี่ยมทำไว้นั่นแหละ )

..จะทำยังไงดีครับ


ดีนะที่รีบฉีกร่างถ่ายรูปไว้ก่อน ถ้าฉีกฉบับที่ทรงลงพระปรมาภิไท ยุ่งนะอาจารย์ ได้ข่าวว่าตอนนี้ นำขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว..

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-09-2006, 12:24 โดย CanCan » บันทึกการเข้า

Can ไทเมือง
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 13,486



เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 29-09-2006, 12:31 »

อ้อ...ลืมบอกไป ภาคีคนฮักเชียงใหม่ กำลังยื่นตรวจสอบ  22 โครงการจากการอนุมัติของรัฐบาลหน้าเหลี่ยม

กลุ่มอาจารย์ ม. เที่ยงคืน มีท่าทียังไงบ้างครับ อย่ามัวแต่มาฉีก โน่นฉีกนี่ เค้าโกงกันที่เชียงใหม่โจ๋งครึ่ม ไม่เคยได้ยินบ้างเหรอครับอาจารย์

ออกไปช่วยชาวบ้านหน่อยซีครับ...อย่ามัวแต่แถลงข่าว..
บันทึกการเข้า

คนจร(หมอนหมิ่น)
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 72


ปัญหาทุกอย่างย่อมมีหนทางแก้ไขอยู่ภายในตัวของมันเอง


« ตอบ #8 เมื่อ: 29-09-2006, 12:42 »

ปล่อยไปเถอะครับ กรรม คือเครื่องบ่งบอกเจตนา..

และคิดว่าภายหลังการเลือกตั้งไปแล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ

ก็คงต้องสลายตังเองไปแน่นอน....


อย่างที่บอกล่ะครับ กรรมคือเครื่องบกบอกเจตนา


ใจเย็นๆ..รอให้บ้านเมืองสงบลงกว่านี้แล้วออกมาเครื่องไหวก็ยังไม่สาย

บันทึกการเข้า

ใจเราเป็นใหญ่ กายเราเป็นบริวาร อย่าให้สิ่งไม่ดีครอบครองจิตใจของเรา#330
AsianNeocon
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,277


中華萬歲﹗ LONG LIVE CHINA!


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 29-09-2006, 12:43 »

พวกหน้าโง่นี่ รู้แต่ว่าจะเลือกตั้ง ๆ ๆ ๆ ๆ ตอนนี้มันเป็นเวลาวิกฤต เปรียบได้กับประเทศกำลังทำศึกสงคราม ไม่ใช่มาเลือกตั้ง

ไม่ต้องไปเรียกพวกมันว่าอาจารย์แล้วครับ คนเป็นครูบาอาจารย์ต้องให้สติปัญญา ไม่ใช่มาทำตัวโง่เขลาซะเอง

ถ้าคืนวันที่ 19 ทักษิณประกาศภาวะฉุกเฉินสำเร็จ พวกหน้าโง่เหล่านี้จะมีโอกาสมาแต่งดำแบบนี้ไหม ปอดแหกมุดรูหนีหมดละสิ
บันทึกการเข้า

buntoshi
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,348



« ตอบ #10 เมื่อ: 29-09-2006, 13:08 »

มันเหมือน ดอกเตอร์ด้านการเกษตร ที่ปลูกข้าวไม่เป็น แต่มาสอนคนอื่นปลูกข้าวยังไงไม่รู้

ออกมาสู่โลกความเป็นจริงบ้างเถอะครับ อาจารย์ ก่อนที่แนวคิดของอาจารย์ จะมีนักการเมืองชั่วๆ หรือ ลิ่วล้อชั่วๆ เอาไปใช้ประโยชน์ ซึ่งจะไม่เกิดผลดีต่อประเทศชาติ เพราะ คนชั่วจะมาปกครองบ้านเมือง

ก่อนหน้านี้ อาจารย์เคยทำอะไรได้บ้างหรือเปล่า คนเค้าเดินหน้าต่อต้านระบอบทักษิณ มาตลอด อาจารย์ก็ออกมาต้านทักษิณแบบเอาเท้าราน้ำ

ตอนนี้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่ อาจารย์กลับออกมาประกาศเจตนารมณ์อุดมคติ อะไรอีก

แนวทางทฤษฎีของอาจารย์ ไปได้ ครับ ถ้าประเทศไทยไม่มีคนชั่ว
บันทึกการเข้า


เราต้องสร้างคนดีมากกว่าคนเก่ง เพราะคนเก่งจะเห็นคนอื่นเก่งกว่าไม่ได้ จะพยายามเก่งกว่าคนอื่น แต่คนดีจะมีความสุขที่ได้ทำให้คนอื่นเก่ง รวมทั้งคนดีทุกคน ล้วนเก่งทั้งนั้น....  ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
---------------------------
หน้า: [1]
    กระโดดไป: