รัฐธรรมนูญใหม่ ต้องดีกว่าฉบับเก่า

รัฐธรรมนูญใหม่ ต้องดีกว่าฉบับเก่า

วันนี้ ภาพการปฏิวัติรัฐประหารของคณะปฏิรูปฯกําลังกลายเป็น “จุดขายการท่องเที่ยว” จุดใหม่ไปแล้ว เมื่อสํานักข่าวต่างประเทศส่งภาพและข่าวออกไปเผยแพร่ทั่วโลก

ภาพของลูกเล็กเด็กแดงและประชาชนที่มาเดินชมและถ่ายรูปกับรถถัง ภาพของประชาชนที่นําดอกไม้ไปให้กําลังใจทหารที่รักษาความสงบ เป็นภาพที่ไม่เคยเห็นจากการปฏิวัติที่ไหนในโลก นอกจากประเทศไทย แม้แต่นักเทนนิสมืออันดับ 3 ของโลก อย่าง อีวาน ลูบิซิช ก็ยังต้องมาขอยืนแอ็กท่าถ่ายรูปกับรถถังเก็บไว้เป็นที่ระลึก

แต่ท่ามกลางดอกไม้จากประชาชนที่ยื่นมาประดับปลายปืน เพื่อแสดงความชื่นชมยินดีนั้น ผมเชื่อว่าข้างในคณะปฏิรูปฯ โดยเฉพาะ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ คงกําลังทุกข์ใจเป็นอย่างยิ่ง

เพราะภารกิจข้างหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ดีกว่าฉบับเก่า การสร้างสมานฉันท์ในชาติ และการสอบสวนลงโทษนักการเมือง และข้าราชการที่ร่วมกันทุจริตคอรัปชันในรัฐบาลเก่า

ปัญหาใหญ่ที่ผมเป็นห่วงก็คือ หัวหน้าคณะปฏิรูปฯจะไว้วางใจบุคคลต่างๆ ที่ดึงมาร่วมงานได้มากน้อยแค่ไหน

ต้องยอมรับว่า 5 ปีของรัฐบาลทักษิณ ได้หยั่งรากลึกลงไปในระบบราชการไทยอย่างลึกลํ้า โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ รวมทั้งบุคคลสําคัญอีกหลายคนที่คณะปฏิรูปฯเรียกมาทํางานด้านกฎหมาย

ล้วนมีสายสัมพันธ์กับรัฐบาลเก่าทั้งสิ้น

แค่การกลั่นกรองคนเข้ามาร่วมงาน เพื่อทํางานให้บรรลุเป้าหมายของคณะปฏิรูปฯ ผมคิดว่าหัวหน้าคณะปฏิรูปฯก็คงจะหัวหมุนไม่น้อย

ดังนั้น ผมจึงไม่เห็นด้วยที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ จะเร่งรัดสร้างกรอบเวลาให้กับตัวเอง เช่น จะทํางานแค่สองสัปดาห์แล้วถอนตัวออก แล้วตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เข้ามาทํางานแทน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร การหาคนมาเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานี้ สําคัญอย่างยิ่ง ต้องได้คนที่มีการตัดสินใจเฉียบขาดและรวดเร็วให้สมกับเป็นยุคปฏิรูปฯ ไม่ใช่แค่รักษาการ หรือปฏิบัติภารกิจด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น

การเร่งรัดด้วยกรอบเวลาจะทําให้ผิดพลาดได้ง่าย

เรื่องใหญ่อย่างนี้ ความเป็นความตายของบ้านเมืองอย่างนี้ ผมคิดว่าคณะปฏิรูปฯน่าจะทํางานด้วยความรอบคอบจะดีกว่าครับ

เรื่อง “ใหญ่ที่สุด” และ “สําคัญที่สุด” อีกเรื่อง ก็คือเรื่อง “รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ที่จะร่างขึ้นมาแทนที่ “รัฐธรรมนูญฉบับเก่า พ.ศ.2540” ซึ่งเราเคยคุยและเชื่อว่าเป็น “รัฐธรรมนูญฉบับที่ดีที่สุดในโลก” แต่วันนี้กลับต้องใช้กําลังทหารปฏิวัติฉีกทิ้ง

ปัญหาที่ผมเป็นห่วงก็คือ แล้วเราจะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ให้ดีกว่ารัฐธรรมนูญฉบับเก่า ที่ทุกคนเชื่อว่าดีที่สุดในโลกและเพิ่งฉีกทิ้งไปได้อย่างไร

เพราะ “คณะร่างรัฐธรรมนูญ” ที่จะมา “ร่างรัฐธรรมนูญฉบับ ใหม่” ที่คณะปฏิรูปฯเริ่มแพลมออกมา ล้วนเป็น “คณะเก่า” ที่ร่าง รัฐธรรมนูญฉบับเก่าที่คณะปฏิรูปฯเพิ่งจะปฏิวัติฉีกทิ้งไปนั่นเอง

เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมก็อยากจะเรียนเสนอ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ไว้ตรงนี้ว่า

หากเป็นไปได้ การขอพระราชทานแนวทางรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จาก “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” น่าจะดีที่สุด เพราะในประเทศไทยนี้ไม่มีใครอีกแล้วที่จะเข้าใจประเทศไทย เข้าใจคนไทย เข้าใจวัฒนธรรมไทย เข้าถึงหัวใจของประชาชน และให้ความเป็นธรรมแก่ราษฎรทุกคนเท่ากับ “พระเจ้าอยู่หัว” ของเราอีกแล้ว.

“ลม เปลี่ยนทิศ”