Can ไทเมือง
|
|
« เมื่อ: 24-09-2006, 23:21 » |
|
คปค. กำลังประกาศระเบียบ คำสั่ง คปค. อายัด-ยึดทรัพย์ พวกร่ำรวยผิดปกติแล้ว...
เอ้า..เฮ....เอ้า...เฮ...เอ้า...เฮ....
ให้ตรวจสอบให้เสร็จภายใน 1 ปี...เสร็จแน่...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
แพนด้าตาดำๆ
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 24-09-2006, 23:36 » |
|
คปค.เขาค่อยๆทำงานเป็นขั้นตอนครับ คราวนี้คงไม่มีใครมาว่าเรื่องทำไมไม่ยึดทรัพย์ไม่อายัดทรัพย์ซะทีนะครับ สาธุ ขอให้คณะทำงาน ทำงานอย่างจริงจังอย่างตั้งใจ เพื่อให้คนผิดโดนลงโทษเร็วๆเถ๊อะ พวกลิ่วล้อจะได้เลิกดิ้นพล่านกันซะที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Killer
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 24-09-2006, 23:40 » |
|
ยิ่งออกนอกลู่นอกทางมากเท่าไหร่...โอกาสที่จะลงอย่าง Hero ก็ยิ่งห่างไกลออกไปทุกที....
ก่อนหน้านี้ก็ตัดสินใจถูกต้องแล้ว ที่จะให้เป็นหน้าที่ของ ปปช. ที่ตนเองเพิ่งตั้งขึ้นมา...หึหึหึ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 24-09-2006, 23:43 » |
|
พชรสั่งเตรียมพร้อมอสส.รับมือคดีนักการเมือง
21:43 น. นายพชร ยุติธรรมดำรง อัยการสูงสุด กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของอัยการในการยื่นฟ้องคดีนักการเมืองที่ขณะนี้ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบความผิดคดีอาญาการทุจริต โครงการต่างๆ และการยึดทรัพย์สินในคดีแพ่ง ว่า อัยการมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่เนื่องจากการตรวจสอบความผิดทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งกับนักการเมืองครั้งนี้ มีกรณีซึ่งถูกตรวจสอบในหลายเรื่อง ซึ่งคาดหมายว่า สตง. และ ป.ป.ช. อาจจะสรุปสำนวนและพยานหลักฐานให้อัยการพิจารณาหลายเรื่องในช่วงเวลาเดียวกัน เพื่อความสะดวกและความรวดเร็วในการทำงานของอัยการ ที่จะต้องพิจารณาสำนวนเพื่อยื่นฟ้อง
อัยการสูงสุด กล่าวว่า เตรียมสั่งการให้ระดมกำลังพนักงานอัยการอื่น ทั้งส่วนของคดีอาญาและคดีแพ่ง เพื่อร่วมเป็นคณะทำงานกับอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ตรวจสำนวนและนำคดียื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป ซึ่งศาลฎีกา ฯ จะต้องเป็นผู้พิพากษาตัดสินคดีแต่เพียงศาลเดียว เหมือนดังเช่นการพิพากษาคดีของนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายจิรายุ จรัสเสถียร อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในคดีทุจริตจัดซื้อยาและ เวชภัณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข
เนชั่นทันข่าว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ริวเซย์
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 24-09-2006, 23:44 » |
|
เยี่ยมมากเลยครับ ได้เวลาล้างไพ่ นักการเมืองน้ำเลวให้หายไปส่วนหนึ่งจากสังคมไทยซะที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^
|
|
|
Cambridge
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 24-09-2006, 23:45 » |
|
ดีครับ จะได้รู้ดำรู้แดงไปเลย
สนับสนุนเต็มที่
เพราะอย่าลืมว่านี่ก็เป็นอีกเหตุผลของการเข้ามาของ คปค.
ขอให้รักษาสัญญาด้วย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Tomorrow never die!!!
|
|
|
Megalo
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 24-09-2006, 23:46 » |
|
ข่าวดี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Truth is appearance , but appearance isn't always truth
|
|
|
Scorpio6
|
|
« ตอบ #7 เมื่อ: 24-09-2006, 23:51 » |
|
คณะปฏิรูป...ควรมีบทบาทการนำ..........ทำหน้าที่หลัก......ถูกต้องแล้ว หากให้คณะ หรือกลุ่มองค์กรอิสระ...เดี๋ยวก็มีเหตุวุ่นวาย..ขาดเอกภาพครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 24-09-2006, 23:54 » |
|
ไม่ยืดเยื้อ...ม้วนเดียวจบ
อัยการสูงสุด กล่าวว่า เตรียมสั่งการให้ระดมกำลังพนักงานอัยการอื่น ทั้งส่วนของคดีอาญาและคดีแพ่ง เพื่อร่วมเป็นคณะทำงานกับอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ตรวจสำนวนและนำคดียื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
อ. แก้วสรรก็ยื่นหอกให้แล้ว...อีกหลาย ๆ คดี...ละเว้นหรืออะไรที่ส่อไปในทางทุจริต ใครอนุมัติ อะไรยังไง
เล่นไม่ยาก - ถ้าอยากจะเล่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 24-09-2006, 23:56 » |
|
โทษพวกนี้ เท่ากับประหารชีวิตทางการเมือง เพราะจะโดนตัดสิทธิ์ ห้ามยุ่งการเมือง 5 ปี 10 ปี
ตีงูต้องตีให้ตาย...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
นายเบียร์
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 25-09-2006, 00:07 » |
|
มีลิ่วล้อซากทรราชหลายเวบมาหอนว่าการก่อการครั้งนี้มีมีคุณค่าแค่จัดฉาก ก็รอดูกันต่อครับว่าจินตนาการครั้งสุดท้ายของปลักน้ำพวกนั้นจะใกล้เคียงสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงๆซักกี่% เหอๆๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 25-09-2006, 00:14 » |
|
ไม่เป็นไร จัดฉากให้ศาลตัดสิน...ไม่มีปัญหา...ผลของศาลออกมาก็ได้รู้ดำรู้แดง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
hidden dragon
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 25-09-2006, 00:21 » |
|
ก่อนหน้านี้ก็ตัดสินใจถูกต้องแล้ว ที่จะให้เป็นหน้าที่ของ ปปช. ที่ตนเองเพิ่งตั้งขึ้นมา...หึหึหึ
งานนี้เค้าจัดไว้ให้เฉพาะบุคคลหรือคณะรัฐมนตรีนะ ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 23 เรื่อง การตรวจสอบทรัพย์สิน ตรวจสอบการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร วันนี้ (24 ก.ย.) คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ออกประกาศฉบับที่ 22 ว่า เนื่องด้วยปรากฏว่าการบริหารราชการแผ่นดินของคระรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งโด ยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองและผู้อื่น ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศอย่างร้ายแรง จึงสมควรดำเนินการตรวจสอบการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีดังกล่าวว ่าเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีประกาศดังต่อไปนี้ ข้อ 1 ให้มีคณะกรรมการตรวจสอบคณะหนึ่ง ประกอบด้วย 1. นายสวัสดิ์ โชติพานิช เป็นประธานกรรมการ 2. ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เป็นกรรมการ 3. อัยการสูงสุดหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 4. เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือผู้แทน เป็นกรรมการ 5. เลขาธิการคระกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 6. เจ้ากรมพระธรรมนูญหรือผู้แทน เป็นกรรมการ 7. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือผู้แทน เป็นกรรมการ 8. เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือผู้แทน เป็นกรรมการ ให้คณะกรรมการตรวจสอบแต่งตั้งเลขานุการคนหนึ่งและผู้ช่วยเลขานุการตา มความจำเป็นให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินรับผิดชอบงานด้านธุรการของคณะกรรม การตรวจสอบและปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการตรวจสอบมอบหมาย ข้อ 2 ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบการดำเนินงานหรือโครงการซึ่ งได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำ แหน่ง โดยผลของการปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นปร ะมุข ว่าเป็นไปโดยสุจริตหรือไม่ ในกรณีที่เห็นว่าการดำเนินงานหรือโครงการใดมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีการ ทุจริตหรือประพฤติมอชอบและมีพฤติการณ์ว่าบุคคลใดเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือ ประพฤติมิชอบหรือร่ำรวยผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งยึดหรืออายัดทรัพย์ที่เกี่ยวข้องของผู้นั้น คู่สมรสและบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นไว้ก่อนได้ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามประกาศนี้ นอกจากอำนาจตามวรรคหนึ่งให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตามกฎหมายดังต่อไปนี้ด้วย (1) พระราชบัญญัติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และคณะกรรมการธุรกรรม (2) พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแ ห่งชาติ (3) ประมวลรัษฎากรโดยให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้อำนาจของอธิบดีกรมสรรพากรเฉพาะที่เกี่ยวกับการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สิน ในการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง คณะกรรมการตรวจสอบจะเรียกสำนวนการสอบสวนหรือการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเง ินแผ่นดินมาใช้ประกอบการพิจารณาและใช้เป็นสำนวนการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจ สอบทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ ในกรณีที่มีเรื่องเดียวกันอยู่ในการดำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปร ามการทุจริตแห่งชาติ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือคณะกรรมการธุรกรรม ให้ประสานงานเพื่อดำเนินการตามควรแก่กรณี ข้อ 3 ให้คณะกรรมการตรวจสอบแจ้งรายชื่อบุคคลตามข้อ 2 แก่สถาบันการเงิน สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กรมที่ดิน กรมสรรพากร หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง และผู้ครอบครองทรัพย์สินหรือเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้นั้น เพื่อให้หน่วยงานหรือบุคคลนั้นแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินและการ เสียภาษีอากร ตลอดจนการทำธุรกรรมเกี่ยวกับทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับบุคคลตามข้อ 2 คู่สมรสและบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะของผู้นั้นให้คณะกรรมการตรวจสอบทราบภ ายในเวลาและตามวิธีการที่คณะกรรมการตรวจสอบกำหนด ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์มีอำนาจสั่งให้บริษั ทหลักทรัพย์ส่งข้อมูลและเอกสารให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และต ลาดหลักทรัพย์เพื่อแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจสอบได้ มิให้นำบทบัญญัติของกฎหมายที่ห้ามมิให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวข ้องกับการดำเนินการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง มาใช้บังคับกับการแจ้งข้อมูลตามวรรคหนึ่ง ข้อ 4 ในกรณีที่บุคคลซึ่งถูกยึดหรืออายัดทรัพย์สินตามข้อ 2 ไม่แจ้งข้อมูลตามข้อ 3 หรือไม่ส่งมอบทรัพย์สินที่ถูกยึด หรือยักย้าย จำหน่าย จ่ายโอนทรัพย์สินที่ถูกอายัด ให้ถือว่าทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องดังกล่าวเป็นทรัพย์สินที่ได้มาโดยไม่ชอบและ เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติหรือเพิ่มขึ้นผิดปกติ ในกรณีที่หน่วยงานหรือบุคคลตามข้อ 3 ไม่ดำเนินการตามที่คณะกรรมการตรวจสอบกำหนดตามข้อ 3 หากมีกรณีเกิดความเสียหายขึ้นจากการที่ไม่ดำเนินการนั้น ให้หน่วยงานหรือบุคคลดังกล่าวรับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้น ข้อ 5 บรรดาทรัพย์สินที่ถูกยึดหรืออายัดตามข้อ 2 ถ้าเจ้าของทรัพย์สินพิสูจน์ต่อคณะกรรมการตรวจสอบภายในเวลาที่คณะกรรมการตรวจ สอบกำหนดได้ว่า ตนเป็นเจ้าของที่แท้จริงและทรัพย์สินนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำ ความผิด หรือมิได้เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ ่มขึ้นผิดปกติ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจสั่งเพิกถอนการยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น ข้อ 6 ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือบุคคลใดกร ะทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงาน เอกสารหลักฐาน พร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไปตามพ ระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน ่งทางการเมือง พ.ศ.2542 โดยให้ถือว่ามติของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรา มการทุจริตแห่งชาติ ข้อ 7 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศนี้ ให้คณะกรรมการตรวจสอบมีอำนาจตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติการตามที่มอบหมายได้ ข้อ 8 ให้คณะกรรมการตรวจสอบดำเนินการตามประกาศนี้ให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่ประกาศนี้ใช้บังคับ เมื่อครบกำหนดเวลาตามวรรคหนึ่งและการตรวจสอบหรือสอบสวนเรื่องใดยังไม ่แล้วเสร็จ ให้คณะกรรมการตรวจสอบส่งมอบสำนวนคืนให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรา มการทุจริตแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของตน แล้วแต่กรณี ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พุทธศักราช 2549 พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
Once a cheater, always a cheater
|
|
|
Scorpio6
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 25-09-2006, 00:23 » |
|
โทษพวกนี้ เท่ากับประหารชีวิตทางการเมือง เพราะจะโดนตัดสิทธิ์ ห้ามยุ่งการเมือง 5 ปี 10 ปี
ตีงูต้องตีให้ตาย...
ตีงูให้ตาย แล้วอย่าลืมตัดคอให้ขาด ...ให้มั่นใจว่าว่ามันตายจริงๆ ไม่งั้น พวกมัน..........อาจกลับมาอีก ตามสัญชาติญาณ(สวมบทโหดเลือดกระฉูด)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
คิดจะล้มระบอบทักษิณ ต้องอ่านใจเนวินและเพื่อนบล็อกเสี่ยวไทบ้าน*แวะเยี่ยมRepublican Collage ของคุณสุธา ชันแสง* http://www.oknation.net/blog/thaibaan/2008/03/26/entry-1"ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนและในฐานะอย่างไร จงตรองหาว่า จะมีทางใช้ชีวิต ให้เป็นประโยชน์ในทางใดบ้าง เมื่อตั้งใจคิดถึงมันแล้วก็จะพบเสมอ ไม่ว่าอยู่ที่ใด เมื่อพบทางแล้วจงลงมือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์"
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 25-09-2006, 00:33 » |
|
ถ้าโดนคดี และ ถูกตัดสินว่าผิด โทษหนึ่งคือ...ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี - 10 ปี .............................................................................................. ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 23 เรื่อง การตรวจสอบทรัพย์สิน ตรวจสอบการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เนื้อ ๆ เน้น ๆ..
เพื่อให้สอดรับกับเหตุผลที่ทำการปฏิรูป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Solidus
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 25-09-2006, 00:52 » |
|
ถ้าโดนคดี และ ถูกตัดสินว่าผิด โทษหนึ่งคือ...ตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี - 10 ปี .............................................................................................. ประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 23 เรื่อง การตรวจสอบทรัพย์สิน ตรวจสอบการดำเนินงานและโครงการต่างๆ ที่ได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบโดยบุคคลในคณะรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีในยุค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เนื้อ ๆ เน้น ๆ..
เพื่อให้สอดรับกับเหตุผลที่ทำการปฏิรูป
เน้น ๆ อีกที ลิ้วล้อเหลี่ยมทรราชไม่ต้องแถให้ตรวจสอบในยุคอื่น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เพนกวินน้อยนักอ่าน
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 25-09-2006, 05:44 » |
|
ไม่ต้องมีใบเสร็จ... แค่เงินงอกโดยหาที่มาไม่ได้ ก็ซวยแล้ว ถ้างอกหลักหมื่นหลักแสนคงตอบกันได้ แต่พวกนี้มันมูมมาม งอกกันเป็นหลักสิบล้าน คงโดนกันเละ คราวนี้ใครกินลำไย กล้ายาง คงได้รู้กันเสียที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 25-09-2006, 11:17 » |
|
ข้อ 6 ในกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบมีมติว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือบุคคลใดกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือร่ำรวยผิดปกติ ให้ส่งรายงาน เอกสารหลักฐาน พร้อมทั้งความเห็นไปยังอัยการสูงสุดเพื่อให้อัยการสูงสุดดำเนินการต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2542
โดยให้ถือว่ามติของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
.........................................................................................
ย้ำ มติของคณะกรรมการตรวจสอบเป็นมติของ ปปช.....รวดเร็วดีครับลงมติแล้วส่งอัยการสูงสุดส่งศาลเดียวจบเลย
ใครจะได้รับเกียรติเป็นรายแรก...ข่าวว่ามี 17 นักการเมือง ใครมีรายชื่อบ้างครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Limmy
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 25-09-2006, 11:51 » |
|
ขอยืมโฆษณามาหน่อย "ยุคนี้ต้องเร็วครับ"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Puggi
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 25-09-2006, 12:00 » |
|
ปปง ต้องเปลี่ยน เลขา ก่อนครับ ลุงแคนถึงจะลุยได้เต็มที่ เลขา คนนี้ยังเป็นพวกเชื้อชั่วอยุ่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Can ไทเมือง
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 25-09-2006, 15:45 » |
|
ใช้อำนาจของคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นใหม่ นั่นแหละครับ...ให้อำนาจ ตามข้อ 5-6. ของประกาศฉบับที่ 23 จัดการ ในนามคณะกรรมการตรวจสอบ
ทั้งอายัดทั้งยึด ตามอำนาจหน้าที่ เทียบเท่า ปปช. ครับ...
คงแบ่งงานกันทำไม่ให้ซ้ำซ้อน....5 ปี ที่ผ่านมา เครือข่ายทักษิณก็แทรกอยู่ทุกองค์กรนั่นแหละ
อยู่ที่ว่า จะทำตามเจ้านายเก่า่ หรือเจ้านายใหม่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|