"สนธิ" ชี้เหตุทำปฏิวัติ รัฐบาลทักษิณบริหารประเทศส่อไปในทางทุจริต เอื้อประโยชน์พวกพ้อง แทรกแซงองค์กรอิสระ ส่อหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้คำมั่นภายใน 2 สัปดาห์จัดตั้งรัฐบาลใหม่ จับตาเรียก "กล้านรงค์" เข้าพบ 2 รอบ อาจถึงขึ้นสอบยึดทรัพย์อดีตผู้นำ "หม่อมอุ๋ย" เผยยังไม่มีใครทาบนั่งนายกฯ รวบ "ทวี-ฉลาด" ประท้วง "สมศักดิ์" ออกลายวังน้ำยมเป็นไทแล้ว "วราเทพ" ส่งคนขนเอกสารลับ
คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำโดย พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกแถลงเมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 20 กันยายน 2549 ถึงเหตุผลในการเข้ายึดอำนาจการปกครองจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนี้
เรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพ ตามที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ทำการยึดอำนาจการปกครองได้เรียบร้อยแล้ว และมีผลให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร คณะรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญ มีอันสิ้นสุดลง ทั้งนี้ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งประกอบด้วย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มีความเห็นร่วมกันว่า การบริหารราชการแผ่นดินโดยรัฐบาลรักษาการที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดความแตกแยกในสังคมไทยอย่างรุนแรง อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในสังคมไทย
การบริหารราชการแผ่นดินส่อไปในทางทุจริต ประพฤติมิชอบ และเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องอย่างกว้างขวาง อีกทั้งมีพฤติกรรมแทรกแซงอำนาจขององค์กรอิสระ จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ หรือแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติให้ลุล่วงไปได้ หากปล่อยให้สถานการณ์เป็นไปเช่นนี้ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม รวมทั้งการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองบางโอกาส ยังหมิ่นเหม่ต่อการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชนชาวไทย
ดังนั้น คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีความจำเป็นต้องเข้ายึดอำนาจจากการปกครองแผ่นดิน เพื่อควบคุมและแก้ไขสถานการณ์ของประเทศให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ และสร้างความรู้รักสามัคคีในหมู่ประชาชนให้ฟื้นคืนมาโดยเร็ว
ทั้งนี้ คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาจะเข้ามาเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดินเสียเอง และจะคืนอำนาจการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข กลับคืนสู่ปวงชนชาวไทยโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบสุข และความมั่นคงของชาติ เทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
จึงใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้ตั้งมั่นอยู่ในความสงบ และสนับสนุนให้การดำเนินการบรรลุเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์ต่อไป
คณะปฏิรูปการปกครองชุดนี้ นอกจาก ผบ.ทบ.แล้ว ก็ประกอบด้วย พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะชี้แจงสถานการณ์บ้านเมืองแก่คณะทูตานุทูต จากนั้นในเวลา 14.00 น. จะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ ที่กองบัญชาการกองทัพบก
เบื้องหลังการทำปฏิวัติไล่ทักษิณ
สำหรับความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในห้วงคืนวันอังคารที่ผ่านมาภายหลังข่าวการปฏิวัติรัฐประหารแพร่สะพัดทั้งวัน และเริ่มชัดเจนขึ้นเป็นลำดับในช่วงเย็น กำลังทหารของคณะปฏิรูปการปกครองที่ติดริบบิ้นสีเหลืองเป็นสัญลักษณ์ ก็เคลื่อนเข้ากองบัญชาการกองทัพบก ขณะที่ทหารจากกองพันทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ไปยังสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) กระจายกำลังบริเวณโดยรอบ
เวลา 23.00 น. บริเวณแยกวังแดง ซึ่งเป็นเส้นทางไปยังบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ รถถังจำนวน 2 คัน และรถติดอาวุธ 1 คันเข้ารักษาการณ์ มีการกั้นถนนบริเวณแยกถนนศรีอยุธยาไปจนถึงแยกเทเวศร์ ไม่อนุญาตให้รถยนต์ผ่านเข้า-ออก ส่วนที่กองบัญชาการทหารสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. มีรายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายทหารอีกหลายคนร่วมกันหารือ เบื้องต้นมีข่าวว่าจะออกแถลงการณ์ โดยถามหารถถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์จากกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ระบุมีกลุ่มบุคคลจะก่อการปฏิวัติรัฐประหารโค่นล้มอำนาจรัฐบาล แต่ พ.ต.ท.ทักษิณยังประกาศไม่ทันจบ ภาพหน้าจอทีวีก็ดับวูบไป จากนั้นคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ออกประกาศทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่องว่า เข้าควบคุมสถานการณ์ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้แล้ว
เวลาประมาณ 23.35 น. ขบวนรถของ พล.อ.เรืองโรจน์ เดินทางออกจากกองบัญชาการทหารสูงสุด ไปยังพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต โดยที่ก่อนหน้านั้น พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินทางเข้าไปก่อนแล้ว เพื่อเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
เวลา 24.00 น. ผู้บัญชาการเหล่าทัพและผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เดินทางออกจากสวนจิตรลดารโหฐานพระราชวังดุสิต ไปยังกองบัญชาการกองทัพบก
"กล้านรงค์" เข้าพบส่อยึดทรัพย์
เวลา 02.20 น. นายกล้านรงค์ จันทิก อดีตเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เดินทางเข้าไปในกองบัญชาการกองทัพบกและกลับออกไปเมื่อเวลา 02.39 น. ก่อนที่จะย้อนกลับมาอีกครั้งในเวลา 02.52 น.
เวลา 03.00 น. นายดุษฎี สินเจิมศิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เดินทางเข้าไปยังกองบัญชาการกองทัพบก หลังจากนั้นเวลา 04.35 น. นายกล้านรงค์ได้ออกจากกองบัญชากองทัพบก
เวลา 03.00 น. บริเวณด้านหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ได้มีกลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่ง นำโดยนายสมาน ศรีงาม เลขาธิการขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ FM.92.25 และเอเอสทีวี ขอมอบช่อดอกไม้ให้คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เวลา 04.25 น. พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผบ.สส. พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ. เดินทางออกจากกองบัญชาการกองทัพบก
เวลา 04.40 น. น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นั่งรถยนต์ออกจากกองบัญชาการกองทัพบก ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในการมาครั้งนี้ได้ แต่ทุกอย่างเรียบร้อย ส่วนกรณีที่นายกล้านรงค์เดินทางมา คณะปฏิรูปฯ น่าจะให้มาช่วยดูเรื่องกรอบกฎหมายกว้างๆ ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
เวลา 06.00 น. บรรยากาศบริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก โดยรอบบริเวณถนนเชื่อมต่อไปยังหน่วยงานสำคัญ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา หน้าบ้านพักของประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ยังคงมีกำลังทหารตรึงกำลังไว้ตั้งแต่คืนที่ผ่านมา รวมถึงบริเวณสะพานหลักที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทุกสะพาน และปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 69 ทางเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้มีกำลังทหารตั้งจุดตรวจสอบรถยนต์ที่เข้า-ออกบริเวณดังกล่าวด้วย
สั่งหน.ส่วนราชการรายงานตัว
ช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายน น.ส.ทวินันท์ คงคราญ หัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์สถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 อ่านคำสั่งคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉบับที่ 1/2549 เรื่อง ให้ข้าราชการมารายงานตัว
มีอีก ไปอ่านเอง
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=21/Sep/2549&news_id=130414&cat_id=501