**อักขราทร จุฬารัตน์มาแรงที่สุดกับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี?**

บุคคลผู้นี้เป็นผู้ที่เหมาะสมมากที่สุดในสายตาของผม ซึ่ง(อาจ)ตรงกับใจของคณะปฏิรูปการปกครองฯ ซึ่งขณะนี้ รอเพียงคำยืนยันจากท่านว่า "พร้อม" เท่านั้น (ท่านยังแบ่งรับแบ่งสู้)

ในโอกาสนี้ ผมจึงขอให้เพื่อนสมาชิกได้ทำความรู้จักกับท่านผู้นี้ก่อน เพื่อที่จะวิเคราะห์ความเป็นไปได้ และความเหมาะสมที่จะได้เป็น

ประวัติ
ศาสตราจารย์อักขราทร จุฬารัตน เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2483 สมรสกับคุณสมจิต จุฬารัตน เมื่อ พ.ศ. 2511 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด

การศึกษา
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา
นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
ปริญญาเอก กฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยโรม ประเทศอิตาลี
วุฒิบัตรการศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง วิทยาลัยการปกครองระดับสูง กระทรวงมหาดไทย
วุฒิบัตรจากสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูง กองทัพบก
วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร

การทำงาน

ดร. อักขราทร สอนวิชากฏหมายมหาชนที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 เคยได้รับโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภา เคยดำรงตำแหน่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตั้งแต่ พ.ศ. 2543

คณะกรรมการ "มูลนิธิศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์" ได้มีมติมอบรางวัล "นักกฏหมายที่สมควรได้รับการยกย่อง ประจำปี 2548" ให้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.อักขราทร จุฬารัตน์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2549

************************

บทวิเคราะห์โดยคร่าว

--หากท่านผู้นี้ได้รับการคัดเลือกเป็นนายกฯ จะเป็นนายกคนแรกที่จบการศึกษาชั้นสูงสุดจากประเทศอิตาลี ซึ่งค่อนข้างแปลกสำหรับคอการเมืองและการศึกษาด้านกฎหมาย

--การประสานงานกับผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับขบวนการยุติธรรมในการตรวจสอบการใช้อำนาจในทางมิชอบของคุณทักษิณและคณะ ทั้งตุลาการ นักการเมืองและนักวิชาการจะดีมาก เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในสายวิชาการด้านนิติศาสตร์แต่ไม่ใช่ผู้พิพากษาอาชีพ มีความหลากหลายกว่า

--เป็นที่ยอมรับของแวดวงนักวิชาการ นักการเมือง และประชาชนทั่วไป ไม่เคยมีประวัติด่างพล้อย และมีผลงานโดดเด่นครั้งที่ ศาลปกครองตัดสินว่า การแปรรูปการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

--จุดอ่อนที่สุด คือ การต่างประเทศ ทั้งการค้าและการเมือง แต่เนื่องจากจะเป็นนายกชั่วคราวในระหว่างรอการเลือกตั้งและชำระสะสางคดีความต่างๆ ของระบอบทักษิณ ซึ่งในช่วงนี้ การเจรจาการค้าและการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศคงต้องชลอออกไปอยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้นายกรัฐมนตรีจากสายอาชีพไหนก็ตามแต่

ผมจึงคิดว่า ประเทศเราต้องเน้นจุดแข็งในเรื่องของการตรวจสอบ การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และการเลือกตั้งที่จะต้องบริสุทธิ์ยุติธรรมเอาไว้ก่อน

ท่านอักขราทร จึงเหมาะสมที่สุดครับในสายตาของผม