เว้นวรรคการเมือง
คำคำนี้กำลังเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดจากัน กระหึ่มไปทั่วทุกวงสนทนาทางการเมือง ทุกสภากาแฟ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีรักษาการ หัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะเว้นวรรคการเมืองหรือไม่
หรือจะเดินหน้าลุย กลับเข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย หลังการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น
เว้นวรรค หรือ ไม่เว้นวรรค
บรรดาคอการเมืองถกเถียงกันหน้าดำคร่ำเครียด หลายคนหาจุดลงตัวกันไม่ได้ถึงขนาดออกปากท้าพนัน วางเดิมพันกันเลยก็มี
ทั้งนี้ เมื่อเปิดพจนานุกรมดูความหมายคำว่า เว้นวรรค
พบว่า เป็นการรวมคำ 2 คำเข้าด้วยกัน คือ
คำว่า เว้น กับคำว่า วรรค
เว้น หมายความว่า แยกเอาออก ไม่ให้พัวพันกันอยู่กับสิ่งซึ่งพึงกระทำหรือไม่พึงกระทำ
วรรค หมายความว่า ตอน หมวด ช่วงหนึ่งของคำหรือข้อความที่สุดลงแล้ว เว้นเป็นช่องว่างไว้ระยะหนึ่ง
ดังนั้น การเว้นวรรคทางการเมืองโดยความหมาย ก็คือ การหยุดพักทางการเมืองชั่วคราว ซึ่งอาจจะหมายถึง
การไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง หรือการไม่ขอรับตำแหน่งทางการเมืองชั่วคราว
สำหรับประเด็นเรื่องการเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ เริ่มมาจากการที่โดนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกมาชุมนุมต่อต้านเรื่องปัญหาการทุจริตคอรัปชันและการขายหุ้นในเครือชินคอร์ป
จนนายกฯทักษิณต้องประกาศยุบสภาจัดเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 เมษายน
แต่ปรากฏว่า อดีตพรรคร่วมฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย และพรรคมหาชน จับมือบอยคอต
ไม่ส่งคนลงสมัครรับเลือกตั้ง
ทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องออกมาลดกระแสต่อต้านโดยประกาศต่อสาธารณชนว่า
จะเว้นวรรคการเมือง ไม่ขอรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งแต่ปรากฏว่าได้เกิดปัญหาในการจัดการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน และการจัดการเลือกตั้งใหม่ในเขตที่มีผู้สมัครคนเดียวและได้คะแนนเสียงไม่ถึงเกณฑ์ 20 เปอร์เซ็นต์
โดยคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่แล้ว ที่มี พล.ต.อ. วาสนา เพิ่มลาภ เป็นประธาน ได้จัดคูหาลงคะแนนเลือกตั้งโดยหันหลังไปทางหน้าหน่วยเลือกตั้ง
รวมทั้งสั่งให้มีการเปิดรับสมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งซ้ำทางภาคใต้ แบบเวียนเทียน อนุญาตให้ผู้สมัครย้ายเขตไปลงสมัครในเขตอื่นได้
เป็นเหตุให้มีการร้องเรียนว่า การเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
และในที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาดสั่งให้การเลือกตั้ง 2 เมษายน เป็นโมฆะจากจุดนี้ ทำให้เกิดความพลิกผันในเรื่องการประกาศเว้นวรรคทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ
โดยบรรดาแกนนำในพรรคไทยรักไทยต่างออกมาอ้างว่า เมื่อการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ต้องมีการเลือกกรรมการการเลือกตั้งชุดใหม่ มีการเลือกตั้งรอบใหม่ การประกาศเว้นวรรคของนายกฯทักษิณ ก็ถือเป็นโมฆะเช่นกัน
ทำให้เกิดความอึมครึมว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะเว้นวรรคการเมือง ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งรอบใหม่หรือไม่แม้ในช่วงหลังจะมีกระแสข่าวออกมาจากแกนนำพรรคไทยรักไทยถี่กระชั้นมากขึ้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจจะตัดสินใจเว้นวรรค
ไม่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
แต่คำตอบที่ออกจากปากของ ทักษิณ ก็ยังยึกยัก เหมือนคนบ้าจี้
ไม่มีอะไรที่ชัดเจน
ล่าสุด พ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์บนเครื่องบิน ระหว่างเดินทางจากกรุงลอนดอนไปประเทศคิวบา เพื่อร่วมประชุมกลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ก็บอกเพียงว่า
อาจจะเว้นวรรคทางการเมืองเพราะสังคมไทยและสื่อมวลชนไทยขี้เบื่อ
และเมื่อถูกซักว่า การตัดสินใจเว้นวรรคการเมืองจะทำก่อนการเลือกตั้งหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ตอบแค่ว่า
อย่างน้อยที่สุดในวันยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง ก็ต้องมีความชัดเจน
ใครอยากรู้คำตอบ ก็ต้องติดตามกันต่อไป
สำหรับ ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ ได้เกาะติดสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด
เราจะไม่ขอชี้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะเว้นวรรค หรือไม่ เว้นวรรค
เพราะถือว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายกฯทักษิณที่จะตัดสินใจในเรื่องอนาคตของตัวเอง
ไม่เกี่ยวกับเรา
แต่ที่แน่ๆ เมื่อสถานการณ์การเมืองและสภาพแวดล้อมทางสังคมเดินมาถึงจุดนี้ เราขอฟันธงว่า
พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาเป็นนายกฯไม่ได้อีกแล้ว
ถึงแม้พรรคไทยรักไทยจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งรอบใหม่ ได้เสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร
ซึ่งตามกติกามีสิทธิเลือกนายกรัฐมนตรี
มีสิทธิตั้งรัฐบาล
แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและดำเนินมาจนถึงขณะนี้ หากพรรคไทยรักไทยผลักดัน พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้นำรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง
ก็คงไม่สามารถที่จะบริหารปกครองประเทศได้
การที่ทีมของเราฟันธงอย่างนี้ ไม่ใช่เพราะมอง พ.ต.ท.ทักษิณ ในแง่เลวร้าย
ทั้งนี้ จากสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ต้อง ยอมรับว่าในช่วง 5-6 ปี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี และพรรคไทยรักไทยเข้ามาเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ
ได้สร้างผลงานต่างๆที่เป็นรูปธรรม ทำสิ่งดีๆเอาไว้ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การปราบปรามยาเสพติด โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค
ชาวบ้านส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ชื่นชอบนโยบาย
แต่สิ่งที่ทำให้ ทักษิณ และรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ต้องเผชิญกับสภาวะขาลงและเกิดวิกฤติศรัทธาอย่างรุนแรง
ก็เพราะมีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชันเกิดขึ้นอย่างมากมาย รวมทั้งพฤติกรรมใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ ธุรกิจครอบครัว วงศาคณาญาติ เครือข่ายคนในรัฐบาล
สะสมมาจนถึงกรณีการขายหุ้นในเครือชินคอร์ป 73,000 ล้านบาท ทำให้ถูกมองว่าขาดความชอบธรรมและจริยธรรมในการเป็นผู้นำ
สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้คนในสังคมรับไม่ได้
กระแสต่อต้านระบอบทักษิณขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ
แต่ในขณะเดียวกัน ชาวบ้านรากหญ้าที่ชื่นชอบนโยบายประชานิยม ก็ยังหนุนอยากให้ ทักษิณ เป็นนายกฯต่อไป
เกิดการเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายสนับสนุนกับฝ่ายต่อต้าน บานไปทั่วประเทศ
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้
ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาเป็นนายกฯอีก ก็เท่ากับเป็นการเร่งปฏิกิริยาให้เกิดความแตกแยกอย่างรุนแรงในสังคม
ประชาชนแบ่งฝักแบ่งฝ่าย เหมือนประเทศโดนแบ่งเป็น 2 ซีก
ล่อแหลมเกิดจลาจล
ขณะเดียวกัน แม้ตามกติกา ถ้าพรรคไทยรักไทยได้เสียงข้างมากในสภาฯ และจะผลักดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณขึ้นเป็นผู้นำรัฐบาล
พ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะต้องตอบคำถามให้ได้ว่า จะสามารถบริหาร 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้เกิดความสงบสุขได้หรือไม่
และถ้าลงไปตรวจราชการในพื้นที่ชายแดนภาคใต้จะมีปัญหารึเปล่า
เพราะทุกวันนี้ ต้องยอมรับว่า ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ กลายเป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ของผู้นำที่ชื่อ ทักษิณ ไปแล้ว
นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาที่เป็นผลพวงจากแผน คาร์บอมบ์
ลอบสังหารผู้นำรัฐบาล
ที่ส่งผลให้ต้องมีการเพิ่มกำลังอารักขา พ.ต.ท. ทักษิณ อย่างเข้มงวด มีกำลังทหารตำรวจ หน่วย รปภ.
คอยล้อมหน้าล้อมหลัง
ป้องกันภัยกันยิ่งกว่าไข่ในหิน
ไปไหนมาไหนแบบปกติธรรมดาไม่ได้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย
ถ้าตกอยู่สภาพอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ก็เดาไม่ออกเหมือนกันว่านายกฯทักษิณจะทำงานได้อย่างไร
ที่สำคัญ ต้องยอมรับว่า ปัญหาต่างๆเหล่านี้ เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยผลการเลือกตั้ง
ถึงแม้มีความพยายามลึกๆที่จะใช้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องฟอกตัว เพื่อกลับเข้าสู่วงจรอำนาจ
แต่ถ้าไปถึงจุดนั้นจริงๆ ก็จะต้องถูกสังคมเพ่งเล็งว่ามีการใช้อำนาจเงิน อำนาจรัฐ เพื่อความได้เปรียบในการเลือกตั้ง
ถ้าไม่ถูก กกต.เล่นงาน ก็ต้องโดนต่อต้านอย่างหนัก
จากสภาพการณ์ทั้งหมดที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้
ทีมของเราขอชี้ว่า เป็นเพราะทัศนวิสัยในการขึ้นนำทางการเมืองมันปิด
เหนืออื่นใด สถานการณ์มาถึงวันนี้ มันเลยขั้นตอนของการเว้นวรรคการเมืองไปแล้ว
เพราะการเว้นวรรคไม่ได้แก้ปัญหาชาติ
แต่เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะตัว ทักษิณ และ ไทยรักไทย เท่านั้น.
"ทีมการเมือง"