"คิงฯ"กำไร7เท่าบริหาร"สุวรณภูมิ"
ปีแรกกวาดค่าเช่าไม่ต่ำกว่าหมื่นล. แต่ส่งผลตอบแทน"ทอท."แค่1.4พันล.
"คิง เพาเวอร์"แจงปีแรกปล่อยเช่าที่"สุวรรณภูมิ" กวาดรายได้ 1 หมื่นล้านบาท ไม่นับยอดขายร้านปลอดภาษีอีก 1 หมื่นล้าน ขณะที่จ่ายผลตอบแทน "ทอท." แค่ 1.4 พันล้าน ต่างกัน 6.7 เท่า
นายสมบัตร เดชาพานิชกุล กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทคิง เพาวเวอร์ กล่าวว่า ในการเข้ายื่นซองประมูลเพื่อบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์จากการท่าอากาศยาน (ทอท.) มีผู้ยื่นซอง 2 ราย ซึ่งรายละเอียดในข้อกำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (ทีโออาร์ )ที่ทำให้บริษัทชนะผู้ประมูลอีกรายนั้น ได้กำหนดผลตอบแทนขั้นต่ำในการบริหารพื้นที่ให้ ทอท. 1,431 ล้านบาทในปีแรก และปรับเพิ่มตามจำนวนผู้โดยสาร เงินเฟ้อ ในปีที่ 2 ถึง 10 และอีก 1,908 ล้านบาท เป็นค่าตอบแทนรายได้ 15% ของยอดขาย ทำให้บริษัทต้องจัดเก็บเงินจากผู้เช่า 2 ส่วน คือ 1.ค่าสิทธิในการประกอบการ 60 เดือน หรือ 5 ปี 2.ค่าตอบแทนรายได้จากการขาย 17.5% แต่ไม่เกิน 20%
นายสมบัตรกล่าวว่า ในทีโออาร์เดิมนั้น บริษัทได้เสนอเงินที่ใช้ตกแต่งรวม 1,200 ล้านบาท สำหรับพื้นที่เช่า 2.5 หมื่นตารางเมตร (ตร.ม.) หรือเท่ากับจัดค่าสิทธิเฉลี่ย 800 บาทต่อ ตร.ม. แต่ภายหลังค่าตกแต่งเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท จึงก็บค่าสิทธิเพิ่มเป็น 1,333 บาทต่อ ตร.ม. แต่ในวันเซ็นสัญญาจริง ค่าสิทธิที่จัดเก็บอยู่ที่ 1,000 -8,000 บาทต่อ ตร.ม. หรือเฉลี่ย 6,000 บาทต่อ ตร.ม. ตามโลเกชั่น ชื่อเสียงของแบรนด์ เพราะต้นทุนค่าตกแต่งบานปลายเป็น 3,000 ล้านบาท
"จริงๆ แล้วเราเก็บค่าสิทธิจากร้านค้าต่ำกว่าต้นทุนจริงด้วยซ้ำ เพราะหากนำผลตอบแทนปีแรกที่เราต้องจ่ายให้ ทอท. 1,431 ล้านบาท เป็นตัวตั้งหารด้วยพื้นที่ 25,000 ตร.ม. หารด้วย 12 เดือน เท่ากับต้องจัดเก็บค่าตอบแทนสูงถึง 4,770 บาทต่อ ตร.ม." นายสมบัตรกล่าวว่า นอกจากนี้ราคาอาหาร เครื่องดื่มในสุวรรณภูมิไม่แพงอย่างที่คิด เพราะทีโออาร์ระบุให้คิดราคาอาหารเครื่องดื่มแพงกว่าราคาที่ขายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในเขตกรุงเทพฯได้ไม่เกิน 25%
นายวิชัย รักศรีอักษร ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ กล่าวว่า ตามทีโออาร์เดิม ทอท.ให้บริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์เพียง 20,000 ตร.ม. แต่บริษัทได้ขอปรับเพิ่มเป็น 25,000 ตร.ม.ในช่วงหลัง เพื่อให้มีร้านจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ครอบคลุมความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งสามารถดำเนินการได้ เพราะทีโออาร์เป็นเหมือนตุ๊กตาที่กำหนดพื้นที่คร่าวๆ เท่านั้น นอกจากนี้พื้นที่ของร้านปลอดภาษีคิง เพาเวอร์ เดิมคาดว่าจะใช้เพียง 5,000 ตร.ม. แต่ต่อมาได้ปรับเพิ่มเป็น 6,000 ตร.ม. เนื่องจากสินค้าแบรนด์เนม อย่าง ชาแนล แอร์เมส ต้องการพื้นที่สูงถึงรายละ 300-400 ตร.ม. ซึ่งพื้นที่ส่วนเกินบริษัทจะต้องจ่ายค่าตอบแทนให้ ทอท. ตามเกณฑ์ต่อไป
นายวิชัยกล่าวว่า ส่วนการนำพื้นที่จำนวน 9,000 ตร.ม. ไปให้บริษัท ควอโทร วิน จำกัด บริหารต่อในส่วนของร้านอาหาร เครื่องดื่มนั้นเพราะเห็นว่าควอโทร วิน ซึ่งกลุ่มสยามฟิวเจอร์ได้จัดตั้งขึ้นมาใหม่และมีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้
นายวิชัยกล่าวว่า คาดว่าปีแรกจะมีรายได้จากสนามสุวรรณภูมิ 20,000 ล้านบาท แยกเป็นรายได้จากการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ 10,000 ล้านบาท และการจำหน่ายสินค้าของคิง เพาเวอร์ อีก 10,000 ล้านบาท เชื่อว่าจะครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ต้องนำส่งให้ ทอท.ได้ทั้งหมด จากปกติที่มีรายได้ปีละ 6,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากปีแรกคิง เพาเวอร์ได้รายได้จากการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ของสนามบินสุวรรณภูมิ 10,000 ล้านบาท ขณะที่ต้องจ่ายผลตอบแทนให้ ทอท. 1,431 ล้านบาท เท่ากับคิง เพาเวอร์ มีรายได้สูงกว่าผลตอบแทนประมาณ 6.7 เท่า
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01eco03120949&day=2006/09/12