ความผิดมีแค่ช่วงก่อน 14 ก.พ. 49 (ขายหุ้น 23 ม.ค. 49)
เพราะหลังจากนั้นได้เกิดการแก้ไขให้ถูกต้องแล้ว
คงไม่มีผลอะไรต่อผู้โดยสารที่ได้ทำการบินไปแล้ว
ส่วนบริษัท นอกจากโทษปรับแล้ว ไม่แน่ว่าจะเอาผิดอย่างอื่นได้
http://www.thaipost.net/index.asp?bk=thaipost&post_date=12/Sep/2549&news_id=130042&cat_id=501... แต่เมื่อพิจารณาบทกำหนดโทษสำหรับการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขในการอนุญาตประกอบ
กิจการในการเดินอากาศ ในข้อ 17 [7] แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 แล้ว
พบว่า
มีเพียงโทษปรับและปรับต่อเนื่องตลอดเวลาที่ยังทำการฝ่าฝืนอยู่ แสดงให้เห็นว่ากฎหมาย
มีวัตถุประสงค์ที่จะให้โอกาสแก่ผู้รับใบอนุญาตที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ในการที่จะ
แก้ไขหรือปฏิบัติตามเงื่อนไขเสียให้ถูกต้อง และสามารถกลับเข้ามาดำเนินกิจการต่อไปได้
สำหรับในช่วงเวลาที่ผู้รับใบอนุญาตมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์คุณสมบัติที่รัฐมนตรี
กำหนดนั้น กรมการขนส่งทางอากาศสามารถอาศัยข้อ 17 แห่งประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่
58 ดำเนินการเอาโทษต่อผู้รับใบอนุญาตนั้นได้...
... นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ อธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศ (ขอ.) กล่าวว่า ในประเด็นเครื่องบิน
ของแอร์เอเชีย 9 ลำบินได้หรือไม่นั้น ในเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วนผู้ถือหุ้น เรื่องนี้กฤษฎีกา
แจ้งว่า รมว.คมนาคมมีอำนาจเด็ดขาดในการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติก่อนพักใช้หรือเพิกถอน หรือ
มีผลบังคับใช้ทันที กรณีผู้จดทะเบียนอากาศยานขาดคุณสมบัติ อันส่งผลให้ใบสำคัญการจด
ทะเบียนอากาศยานสิ้นสภาพไปด้วย แต่ ขอ. เชื่อมั่นว่าหลังวันที่ 14 ก.พ. 2549 เป็นต้นมา
ไทยแอร์เอเชียได้มีการเปลี่ยนแปลงระเบียบต่างๆ ให้มีความถูกต้องตามกฎหมายการเดินอากาศ
และการจดทะเบียนในเครื่องบินจำนวน 9 ลำใหม่แล้ว ดังนั้น หลัง 14 ก.พ. 49 จึงมีความถูกต้อง
แต่การนำเครื่องบินมาทำการบินก่อนวันที่ 14 ก.พ. 49 ถือว่าผิด ซึ่งในส่วนนี้ ขอ. ได้แจ้งความ
ดำเนินคดีกับไทยแอร์เอเชียต่อ สน. ดอนเมือง โดย
ไม่มั่นใจว่าไทยแอร์เอเชียผิดหรือไม่