ประชัย” ยัน ข่าวหลุดจาก ทรท.ตำรวจเตรียมยัดข้อหา “ลอบสังหาร” !!

ประชัย” ยัน ข่าวหลุดจาก ทรท.ตำรวจเตรียมยัดข้อหา “ลอบสังหาร” !!

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 กันยายน 2549 18:37 น.

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

ประชัย เลี่ยวไพรัตน์

“ประชัย” เผย ได้เบาะแสจากเพื่อนในพรรคไทยรักไทย กำลังโดนตำรวจยัดข้อหาลอบสังหาร หวังทำลายชื่อเสียง ระบุ เมืองไทยเข้ายุคอนาธิปไตย “ทักษิณ” คุมตำรวจ ยัดข้อหาใครก็ได้ หลังโดนมาแล้วกรณีทีพีไอ แต่ยืนยันไม่เคยคิดฆ่ารักษาการนายกฯ เพราะเป็นวิศวกร เรียนมาทางสร้าง ไม่ได้เรียนด้านทำลาย และไม่รู้จัก จปร.7 เชื่อกรรมตามสนองทักษิณเอง พบจุดจบแบบ “มาร์กอส” แน่

นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เลขาธิการพรรคประชาราช ให้สัมภาษณ์ ASTV เมื่อช่วงบ่าย (7 ก.ย.) ที่ผ่านมา กรณีกระแสข่าวตำรวจเตรียมยัดข้อหาให้เขามีส่วนพัวพันคดีลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ยินข่าวดังกล่าวมาจากเพื่อนๆ ในพรรคไทยรักไทย ซึ่งได้มีการประชุมกันไปเมื่อเร็วๆ นี้ และมีมติว่า จะยัดข้อหาบงการลอบสังหารให้กับเขา

นายประชัย กล่าวต่อว่า การยัดข้อหาทำได้ง่ายมาก เพราะว่า ทั้งตำรวจ ทั้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็อยู่ภายใต้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งที่ผ่านมา กรณีความขัดแย้งเรื่องทีพีไอ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ใช้ตำรวจเล่นงานเขา ทำให้ต้องเสียเวลาไปประกันตัวสู้คดีหลายครั้ง

“เขาใช้อำนาจรัฐเพื่อประโยชน์ของตัวเอง ฟรีๆ อย่างป่าเถื่อน อย่างนี้ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เขาเป็นนายกฯรักษาการ ต้องใช้อำนาจในทางที่ดี อย่าใช้อำนาจข่มขู่ นี่ขนาดในเมืองหลวงยังเป็นอย่างนี้ แล้วในต่างจังหวัดถ้าใครไม่เห็นด้วย เขาไม่ยิงทิ้งเลยหรือ” นายประชัย กล่าว

เลขาธิการพรรคประชาราช กล่าวต่อว่า เมื่อตำรวจอยู่ในมือของรักษาการนายกฯ แล้ว การสร้างหลักฐานให้เขาพัวพันกับคดีลอบสังหารก็ไม่ใช่เรื่องยาก

“เขาอาจจะให้ผู้ต้องหาเป็นใครก็ได้ที่จับได้แล้วสัก 2-3 คน ซัดทอด ว่า ใครเป็นคนสั่ง ก็แค่นี้ ผมก็ตกเป็นผู้ต้องหา ต้องไปแก้คดีกันหัวโต นี่เท่ากับว่า ความปลอดภัยของประชาชนมันหมดแล้ว จะยัดข้อหาให้ใครก็ได้ มันไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นอนาธิปไตยไปแล้ว และตอนนี้ วิธีการยัดข้อหา เป็นวิธีที่เขาจะทำลายผมได้สะดวกที่สุดแล้ว”

นายประชัย กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการทำลายเขา เพราะกลัวพรรคประชาราช จากการที่เขามาเป็นเลขาธิการพรรค ซึ่งมีนโยบายที่ดีกว่าพรรคไทยรักไทย จนพรรคไทยรักไทยกำลังจะมาลอกเอาไป และความสามารถในการทำธุรกิจเขาก็ดีกว่า แม้แต่ตอนเรียนหนังสือ อัสสัมชัญ ก็ดีกว่ามงฟอร์ตวิทยาลัย อยู่แล้ว

เลขาธิการพรรคประชาราช กล่าวต่อว่า ถึงแม้เขาจะไม่ชอบ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ก็ไม่เคยคิดลอบสังหาร เพราะเขาไม่ได้เรียนมาให้ฆ่า แต่เรียนมาให้สร้าง เป็นวิศวกร คิดแต่ในเรื่องของการสร้าง ไม่คิดเรื่องการทำลาย แต่อีกฝ่ายหนึ่ง เรียนมาในทางทำลาย ก็อาจจะคิดทำลายคนอื่นไปตลอด การยัดเยียดข้อหาให้ฝ่ายตรงข้ามจึงเป็นเรื่องที่ทำได้

“ในระหว่างเลือกตั้ง เขาต้องยัดข้อหาเพื่อสร้างปัญหาให้เรา กว่าเราจะแก้ได้ เขาก็ได้เป็นนายกฯไปแล้ว” นายประชัย กล่าว

นายประชัย ปฏิเสธว่า เขาไม่มีสายสัมพันธ์กับ จปร.รุ่น 7 ตามที่มีการเชื่อมโยงเพื่อให้เขาเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีลอบสังหาร โดยยืนยันว่า ไม่รู้จักใครใน จปร.รุ่น 7 แม้แต่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีต รอง ผอ.รมน.และนายทหาร 4-5 คน ที่ถูกจับในคดีลอบสังหารก็ไม่รู้จัก แต่เชื่อว่า อีกไม่นาน ก็คงมีการอุปโลกน์ผู้ต้องหาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็โยงมาถึงเขาได้สักคน

“เขากำลังหาเรื่องผม เหมือนเกมธุรกิจ ทีพีไอโดนปล้นไป ถึงแม้ตอนนี้คดียังไม่สิ้นสุด แต่เขาทำเหมือนโจรมายึดบ้านเราเลย เหมือนโดนปล้นโดยกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมันไม่ถูกต้อง”

นายประชัย กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพบจุดจบแบบเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส อดีตผู้นำฟิลิปปินส์ ที่ต้องหนีออกนอกประเทศ อาจจะไปลี้ภัยอยู่อังกฤษ ฝรั่งเศส อเมริกา เพราะพฤติกรรมของเขาเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่เห็นต้องไปทำอะไร ไม่ต้องจ้างคนไปฆ่า แต่เป็นเรื่องของกรรมที่เขาทำไว้จะสนองเขาเอง ถึงอย่างไรเขาต้องออกนอกประเทศอยู่แล้ว จึงไม่ใช่หน้าที่เราที่จะไปลอบสังหาร เพราะเราไม่ชำนาญเรื่องนี้

“เรื่องทำลายผมไม่ถนัด แม้แต่ตบยุง ผมยังตบไม่ถูกเลย แต่ถ้าเป็นเรื่องสร้าง เรื่องขุดคอคอดกระ สร้างงานให้คนทั้งประเทศ ผมทำได้ ส่วนระเบิด เราก็เคยใช้แค่ระเบิดเหมือง ระเบิดหิน เราสอนให้สร้างให้แข็งแรง เราไม่ได้เรียนเรื่องทำลายกันเลย”

นายประชัย ย้ำอีกว่า ข่าวการยัดเยียดข้อหาลอบสังหาร ที่ถูกปล่อยออกมานั้น ค่อนข้างจริงจัง แต่ไม่แน่ใจว่าท้ายที่สุดแล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ จะทำอะไรขนาดไหน แต่เพื่อนๆ ในพรรคไทยรักไทย ที่ยังมีอยู่หลายคน เอาข่าวนี้มาเล่าให้ฟัง

อนึ่ง นายประชัย มีประวัติการต่อสู้อย่างดุเดือดและโชกโชนเพื่อรักษาบริษัท ทีพีไอ ซึ่งเคยเป็นบริษัทของตัวเองเอาไว้ ก่อนที่จะถูกกระทรวงการคลังภายใต้รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ยึดเอาไปในช่วงของการฟื้นฟูกิจการ ด้วยวิธีการไม่โปร่งใส หลังจากนั้น ก็มีการแต่งตั้งบุคคลใกล้ชิดรัฐบาลเข้าไปเป็นกรรมการบริษัท

ต่อมา นายประชัย ได้ตัดสินใจเข้าสู่การเมือง ด้วยการรับเป็นเลขาธิการพรรคประชาราช ที่มีนายเสนาะ เทียนทอง เป็นหัวหน้าพรรค โดยส่วนหนึ่งของนโยบาย ระบุว่า จะเอาบริษัทเอกชนที่ถูกภาครัฐยึดไปอย่างไม่เป็นธรรม กลับคืนให้เอกชนด้วย