ใบไม้ทะเล
|
|
« เมื่อ: 02-09-2006, 14:25 » |
|
"คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่าคะ ?" เคยมีคนถาม แล้วก็อยากถามต่อ....
วันนี้วันหยุด วันของการพักผ่อน พักเรื่องปวดหัว มาคุยเรื่องไร้สาระกันเถอะค่ะ ส่วนตัวแล้วถ้าเป็นตอนวันรุ่น มัธยม มหาลัยเชื่อในเรื่อง พรหมลิขิต เอามากๆๆ จนโตมาเป็นผู้ใหญ่ถึงเชื่อว่า มันที่ทั้ง พรหมลิขิต และเราลิขิต
คำว่า พรหมลิขิต ทุกคนก็ต้องมองไปที่ ความรักเป็นส่วนใหญ่ใช่ไหมค่ะ
สำหรับดิฉันแล้ว คำว่า คนที่ใช่ น่าจะใกล้เคียงกับคำว่า พรหมลิขิต
คนที่ใช่สำหรับคุณ.... เป็นยังไงค่ะ ?
จากที่ผ่านมา ตัวเองเคยคิดว่า เจอคนที่ใช่แล้ว แล้ว แต่ตอนนี้มันยังติดที่สมองเลยว่า มันเป็นเพราะเราลิขิตเหรอเปล่า เลยทำให้เขากลายเป็นคนที่ไม่ใช่ ...แต่ก็ได้แต่นั่งคิด ว่าเขาอาจจะเป็นคนที่ใช่ในตอนนั้น แต่ว่าเขาเป็นคนที่ไม่ใช่ในตอนนี้ ทุกวันยังขอบคุณเขาว่า ทำให้เราได้มีช่วงเวลาที่พิเศษในวันช่วงนั้น
เราเจอเขาในตอนแรก เราก็มานั่งกังวล เขาเป็นคนที่ใช่ไหม.... ฝึกหัดตอนที่เขาจะทิ้งเราไป ฝึกร้องให้ทำมิวสิค ไม่กล้าไปดู หมอดู กลัวเขาทักไม่ใช่เนื้อคู่ .... จนคบไปได้สักระยะ เราเลยคิดว่าเขาเป็นคนที่ใช่ คนที่ฟ้าลิขิตมาให้เรา. ... จนมาวันนี้ เลยนั่งๆๆคิด มันก็ไม่ใช่ พรหมลิขิต ทั้งหมดหรอกนะ หลังจากรักกันแล้วต่างหากที่เป็น เราลิขิตเอง ..... แต่ไม่เคยคิดเลยว่าเราจำเป็นต้องเลือกระหว่าง เขา กับอนาคตของเรา สุดท้ายเราก็จำเป็นต้องเลือกลิขิตอนาคตของเรา......
ทุกวันนี้คำถามยังคาใจดิฉันเลย ทำไมคนที่คบกันมาหลายๆๆปี มาแต่งงานกัน บอกเลิกรากันก็มาก แต่ทำไมคนที่ปิ้งๆๆกันแค่ในลิฟ ในห้าง คนกันแต่ไม่กี่เดือนกับแต่งงานกันจนแก่จนเฒ่า คุณว่าอย่างแรกเรียกว่าอะไ? บางคนอาจจะบอกว่า เขาไม่ใช่คนที่ใช่ มากกว่า แล้วที่คบๆๆกันมากหลายปีนี้ไม่ใช่ความรักเหรอ มีแย้งมาอีก ก็อาจจะไม่ใช่นะ อ้าววเราก็สวนกลับไป หลายปีมานี้ไม่เคยถามตัวเองเหรอว่านี้เรียกว่าความรักไหม โอ........ มันเป็นอย่างงี้หรือ.......
[color]
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #1 เมื่อ: 02-09-2006, 14:30 » |
|
ดิฉันขอพูดยาวหน่อยนะวันนี้ อย่างอนาออกตัวเลยถ้าสลัดคราบนักวิชาการออก ถือว่าเป็นคนเปรี้ยวสุดๆ เพื่อนๆก็มักจะคิดภาพว่า แฟนดิฉันจะต้องเท่ห์ โก้ ประมาณนี้ แต่มันไม่ใช่ค่ะ หนุ่มๆๆที่ควงด้วยจะออกแนวเรียบร้อยหมดเลยค่ะ แต่มั่นคงในหน้าที่การงาน ฮ่าๆๆ ผิดอิมเมจเพื่อนมากๆๆ เพื่อนถามว่า แกพูดเองนะว่าสเปคของแกเป็นแบบนี้ ต้องหล่อต้องเท่ห์
ไอ้เราก็อ้าวว สเปค มันก็สเปค คนที่ใช่ มันต่างกัน พอเจอคนนั้นจริงๆ คนที่เราคิดว่า "ใช่" มันไม่ได้เป็นเหมือนสเปคที่วางเอาไว้หรอก
ถามดูซิ เพื่อนเราที่บอกว่า ชอบผู้ชายเงียบๆๆ ขรึมๆๆ เพราะตัวเองพูดเก่ง ไม่อยากได้คนมาแย่งพูด เอาเข้าจริงแฟนของเธอกับเป็นผู้ชายพูดมาก ตลกโป๊กฮา แต่เพื่อนเรากับเงียบเรียบร้อยขึ้น ...... เห็นไหมค่ะ ความรักมันเปลี่ยนกันได้ ู
สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้ว ภรรยาของคุณ คุณคิดว่าเป็นคนที่ ใช่ ไหมค่ะ คุณแต่งงานแล้ว คุณได้เจอคนที่คุณคิดว่า ใช่อีกไหมค่ะ ...... หนูไม่ไ่ด้บอกให้ครอบครัวแยกนะค่ะ แต่อยากรู้ว่า มันที่คนที่ใช่ ตลอดชีวิตเราหรือไม่ ถ้าไม่มี ในชีวิตเราจะเจอคนที่ใช่ อยู่กี่คน
คุณ ดีเจ นภาภร เคยบอกว่า คำว่า "คนที่ใช่ อธิบายยากจริงๆ ค่ะ มันสัมผัสด้วยความรู้สึกแล้วเราก็พยายามหาเหตุผลมาอธิบายว่า "ใช่เพราะอะไร มันช่างมหัศจรรย์จริงๆ หนอธรรมชาติ เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่ตัดสินใจแทนกันไม่ได้ เพื่อนผู้หวังดีมักจะช่วยแนะนำให้เราเลือกคนที่ดีกว่าเสมอ
แต่ไม่แน่คนดีคนนั้น อาจไม่ได้เป็น "คนที่ใช่ ของเราก็ได้
มันก็เลยตอบยากไงค่ะว่าเวลามีคนมาถามเราว่า "ทำไมเธอไม่เลือกคนนี้ เค้าไม่ดีตรงไหน
อย่างดิฉันเองเคยบอกว่า คุณเลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับชีวิตคุณหรือไม่......... ถ้าเป็นวันนี้คงตอบว่า บางครั้งสิ่งที่ดีที่สุด ก็ไม่ใช่สิ่งคนที่เหมาะสมสำหรับเรา สำหรับคนโสด อย่าวิ่งตามหาความรัก พรหมลิขิต อาจจะเป็นตัวดึงคุณเข้าหาความรัก เข้าหาเขาคนนั้น ในวันนี้คุณอาจจะเจอที่คุณคิดว่าใช่ แต่ในอนาคตมันอาจจะไม่ใช่ มันมีหลายเหตุหลายผลที่เรายังไม่รู้ แต่หากคุณเจอแล้วว่าใช่ ก็จงลิขิตความรักของคุณให้สวยงาม. ... มั่นคงตลอดไป...........
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ธ.ส.
|
|
« ตอบ #2 เมื่อ: 02-09-2006, 14:41 » |
|
ซักวันผมจะเอาเรื่องนี้มาทำ Research จริงๆนะ น่าสนใจมาก
คืออยากรู้ว่า ระยะเวลาในการมีปฏิสัมพันธ์กันนั้น จะมีผลต่อระยะเวลาในการครองคู่หรือไม่ อย่างไร เป็นปัจจัยทางตรงหรือปัจจัยแทรกกลางของอะไรหรือไม่ น่าสนใจนะเนี่ย
เอ...... ไปขอแก้หัวข้อ Thesis ดีไหมหว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ปีนี้เราจะได้ Triple Champ
คุณพนันกับผมไม๊ แต่ผมไม่พนันกับคุณนะ
|
|
|
คนเจียงใหม่
|
|
« ตอบ #3 เมื่อ: 02-09-2006, 15:30 » |
|
ถามว่าเชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือเปล่า ขอตอบโดยไม่ต้องคิดว่า เชื่อครับ เพราะ ตอนหนุ่มๆจีบสาวมาเยอะมาก มีทุกประเภท ตั้งแต่ สาวห้าง สาวออฟฟิส แม่ค้า ฯลฯ แต่สุดท้ายลงเอยที่ ผู้ช่วยพยาบาล คบกันแค่ 6 เดือนเท่านั้น ทั้งๆที่ผ่านมาบางคนคบกัน 2-3ปี แต่ไม่ได้แต่งงานด้วย ตอนนี้อยู่ กินกันมามา 20 ปีแล้ว มีโซ่คล้องคอ 2 หน่อแล้ว (พอแล้ว) และ อีกอย่างเพื่อนๆพี่ๆน้องๆเคยสังเกตุมั้ยเวลาเราขับรถไปไหนไกลๆ มักจะมี รถขับสวน มาเสมอๆ ถ้าเราประมาท อะไรจะเกิดขึ้น พรหมนั่นแหละลิขิต เชื่อพรหมลิขิตทำให้มีชีวิตอยู่มาได้ถึงวันนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
THE THIRD WAY
|
|
« ตอบ #4 เมื่อ: 02-09-2006, 15:33 » |
|
เอาผมไปตัดหัวคั่วกลิ้งที่ไหน ขอยืนยันว่าไม่เชื่อพรหมลิขิต และจะไม่เชื่อตลอดจนสิ้นลมหายใจ
ในความคิด เราทำดีพอหรือยัง ?ที่จะให้เธอรัก เราทำให้เธอเข้าใจเราหรือไม่? เราพร้อมที่จะเข้าใจเธอหรือไม่? เรามีความจริงใจ แค่ไหน ว่าคนที่ใช่ เราจะร่วมกันสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน แก้ไขในจุดที่แตกต่าง แปลกแยก ร่วมกันสร้างความมั่นคงในจิตใจในส่วนที่ตรงกัน
เป็นเรื่องของหัวใจคนสองคน ที่ปรับคลื่นแห่งความรัก คลื่นแห่งหัวใจให้ตรงกัน ความไว้วางใจที่มีต่อกัน ความห่วงหาอาทร และความสมดุลย์ในสิ่งแตกต่าง ความรัก ความเข้าใจ คือสายใยของความรักครับ
การเดินทางของหัวใจ เพื่อไปหาความรักนั้น เป็นการเดินทางที่ยาวนาน และทุกข์ทรมานที่สุด และเมื่อพบความรักแล้ว ต้องผิดหวัง ทรมานยิ่งกว่านั้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ความรักนั้นหวาน ไม่ว่าจะรับหรือให้ ************************ การขับไล่ทรราช เป็นภารกิจของเจ้าของประเทศ
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #5 เมื่อ: 03-09-2006, 13:12 » |
|
ซักวันผมจะเอาเรื่องนี้มาทำ Research จริงๆนะ น่าสนใจมาก
คืออยากรู้ว่า ระยะเวลาในการมีปฏิสัมพันธ์กันนั้น จะมีผลต่อระยะเวลาในการครองคู่หรือไม่ อย่างไร เป็นปัจจัยทางตรงหรือปัจจัยแทรกกลางของอะไรหรือไม่ น่าสนใจนะเนี่ย
เอ...... ไปขอแก้หัวข้อ Thesis ดีไหมหว่า
ระยะเวลามีผลค่ะ พี่ธ.ส. อนาคิดว่า คนเราทุกคนคบกันต้องใช้เวลา เพื่อมี ปฏิสัมพันธ์ อยู่ๆๆเจอหน้ากัน บอกรักกันเลย คงหายากค่ะ ถึงเราจะเจอคนที่ใช่ แต่เราคงต้องใช้เวลาคอนเฟร์ม ว่าใช่แน่เหรอ อนาสนับสนุนค่ะ แก้หัวข้อเลย และเป็นที่ปรึกษาให้ด้วย อิอิ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #6 เมื่อ: 03-09-2006, 13:54 » |
|
เข้ามาอ่านครับ
พระเจ้าให้โอกาสเราตัดสินใจเสมอ..เหตุการณ์ต่างๆเข้ามาหาเราแบบควบคุมได้บางส่วน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #8 เมื่อ: 03-09-2006, 14:16 » |
|
แล้วจะรู้ไหมอ่ะค่ะ ว่าใคร จะได้บอกถูก แต่ถ้าเจ้าตัวรู้ตัวก็โอเชค่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #9 เมื่อ: 03-09-2006, 14:20 » |
|
แล้วจะรู้ไหมอ่ะค่ะ ว่าใคร จะได้บอกถูก แต่ถ้าเจ้าตัวรู้ตัวก็โอเชค่า คุณว่าเขารู้เปล่าหล่ะ ? ผมรู้ว่าเขาอยู่แถวนี้แหละฮะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #10 เมื่อ: 03-09-2006, 14:24 » |
|
แล้วจะรู้ไหมอ่ะค่ะ ว่าใคร จะได้บอกถูก แต่ถ้าเจ้าตัวรู้ตัวก็โอเชค่า คุณว่าเขารู้เปล่าหล่ะ ? ผมรู้ว่าเขาอยู่แถวนี้แหละฮะ ไม่ทราบค่ะ วันนี้คนน้อย เด๋วไปดูก่อน ใครออนไลน์ ใช้งานขณะนี้ 25 บุคคลทั่วไป, 15 สมาชิก (5 ซ่อนตัว) ผู้ใช้เมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา: somebody, Neoconservative, soco, ฮุยเล, just, Kna, สมชายสายชม, ภูพาน, solidus, โกวเฮง ง่า ทายไม่ถูก รุ้จักแต่พี่ ภูพาน กับคุณ soco สองคนนี้เหรอค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #11 เมื่อ: 03-09-2006, 14:28 » |
|
แล้วจะรู้ไหมอ่ะค่ะ ว่าใคร จะได้บอกถูก แต่ถ้าเจ้าตัวรู้ตัวก็โอเชค่า คุณว่าเขารู้เปล่าหล่ะ ? ผมรู้ว่าเขาอยู่แถวนี้แหละฮะ ไม่ทราบค่ะ วันนี้คนน้อย เด๋วไปดูก่อน ใครออนไลน์ ใช้งานขณะนี้ 25 บุคคลทั่วไป, 15 สมาชิก (5 ซ่อนตัว) ผู้ใช้เมื่อ 15 นาทีที่ผ่านมา: somebody, Neoconservative, soco, ฮุยเล, just, Kna, สมชายสายชม, ภูพาน, solidus, โกวเฮง ง่า ทายไม่ถูก รุ้จักแต่พี่ ภูพาน กับคุณ soco สองคนนี้เหรอค่ะ ไม่ใช่ฮะ ไม่ตอบดีกว่า เพราะเรารู้กันแค่สองคนจริงๆ รวมผมด้วยก็สามฮะ..แต้ถ้ามีใครแอบรู้ก็มากกว่า3ฮะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #12 เมื่อ: 03-09-2006, 14:32 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #13 เมื่อ: 03-09-2006, 14:38 » |
|
อย่าสงสัยเลยฮะ เรามาคุยกันดีกว่า ทำไมชื่ออนาฮะ แปลว่าอะไรฮะ เอ้อแล้ว ทำไม่คิดมากจัง เรื่องใช่ไม่ใช่นี่? ถ้าใช่ก็ไม่เห็นต้องกัวลอะไรนี่ฮะ ทำทุกอย่างดีที่สุดเดี๋ญวก็ดีเอง จิงเปล่าฮะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 14:54 โดย somebody »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #14 เมื่อ: 03-09-2006, 14:48 » |
|
ตอบไม่ถูกละซี บอกแล้วว่า รักก็คือรักไม่เชื่อ ถ้าคนที่คุณรักเป็นคนดี ก็อย่าคิดมาก ความรักอยู่เหนือเหตุผลทุกชนิดฮะ เพียงแต่เราจะรู้ได้ไงว่าใครดีหรือเลว อะไรถูกอะไรผิดอย่าคิดเองถามอาจารย์ทีเรารักจะเชื่อดีกว่านะฮะ แล้วค่อยคิดต่อ ขืนฟังเสียงนกเสียงกาสมองสับสน แล้วจะว่าไม่เตือนนะฮะ เอ้อมีคนฝากมาบอก "ให้ตั้งใจเรียนมากๆครับ" ถ้าเกเร เขาจะไม่รักอีกต่อไปฮะ..
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 14:50 โดย somebody »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #15 เมื่อ: 03-09-2006, 14:55 » |
|
อนาครับ ผมมีกรณี หมอดู กะ พรหมลิขิต มาฝากให้คิดนะครับ..
สมมุติว่า มีหมอดูที่เก่งมากคนหนึ่ง ซึ่งเขารู้ลิขิตฟ้า.... ยึดอาชีพ หมอดู เนื้อคู่
คู่ที่ ดูแล้ว ดวงแต่งกันไม่ได้ จะบอกไปว่า ไม่ใช่เนื้อคู่.... คู่ที่ดูแล้ว ดวง สมพงษ์เป็น เนื้อคู่หนังคู่กระดูกคู่กันมาแต่ชาติปางก่อน....ก็จะรีบบอกว่า แต่งให้ไว เลย..
แต่ บางคู่ ต่อไปนี้ คุณคิดว่าหมอดูจะพูดว่าไงครับ อนาลองนึกดูนะ...
คู่ที่ดวงลิขิตมาให้ ได้ร่วมชีวิต แต่...ต้องหย่าร้าง ไปมีใหม่(มีคนอื่น) หรือ ต้องแยกทางกันในที่สุด ....จะบอกไงดี ? คู่ที่ ดวงบอกว่า ต้องมีเมีย 2 -3 - 4 แล้วนี่ กำลังจะแต่งเมียคนแรก...จะบอกไงดี ? คู่ที่ แต่งได้แต่ หย่าไมได้ ต้องทนทุกข์ทรมาน...ไปตลอดชีวิตทั้งคู่...จะบอกไงดี ?
ในเมื่อดวงบอกไว้แบบนั้น พรหมลิขิตว่าไว้แบบนั้น....จะทำไงดี ? เมื่อคุณมีอาชีพเป็น หมอผูกดวงชะตาเนื้อคู่ จะฝืนลิขิตฟ้า เพื่อปกป้อง โศกนาฎกรรมในชีวิตมนุษย์ หรือจะทำตามลิขิต เอ่ยปากว่าไงดีละ...?
อนาลองคิดดูนะคับ..
มันอาจเป็นคำตอบที่อนา คิด ค้นหา มานานก็ได้ครับ
คนที่พรหมลิขิต บอกว่า....ใช่...ในตอนนั้น.......ทำไมเปลี่ยนไป ?
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 14:57 โดย ThailandReport »
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #16 เมื่อ: 03-09-2006, 15:03 » |
|
ตานักข่าว ชงเรื่องปวดหัวมาอีกคน 55 ถามแล้วต้องตอบด้วยเดี๋ยว อนาคิดมากอีก.. ไม่เฉพาะอนา ที่ซุ่มเงียบก็มี..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #17 เมื่อ: 03-09-2006, 15:05 » |
|
ตานักข่าว ชงเรื่องปวดหัวมาอีกคน 55 ถามแล้วต้องตอบด้วยเดี๋ยว อนาคิดมากอีก.. ไม่เฉพาะอนา ที่ซุ่มเงียบก็มี.. ผมเป็นคนในวงการ เรื่อง ดูหมอ + ล่อเป้าครับ ดังนั้นหากคุณ Somebody อ่านดีๆ....จะทราบว่า ในคำถามของผม มีคำตอบไว้อยู่แล้วครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 17:06 โดย ThailandReport »
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #18 เมื่อ: 03-09-2006, 15:08 » |
|
คุณอนาไปไหนฮะ คุณนักข่าวด้วย หรือใครจะตอบแทนอนาฮะ เวลาวารีไม่เคยรอใครนะฮะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #19 เมื่อ: 03-09-2006, 15:13 » |
|
คุณนักข่าวตอบมาบ้างแล้ว แต่อนาเขาอยากรู้มากกว่านั้นนี่ฮะ.. มันไม่ตรงใจเธอ..
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 15:22 โดย somebody »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #20 เมื่อ: 03-09-2006, 15:21 » |
|
อย่าเหมาอะไรแทนคนอื่นครับ ถ้าอนาอยากรู้อะไร ผมว่าอนาคงถามเองได้คับ ถ้าคุณอยากรู้ก็ถามมาเองดีกว่าคับ ฮ่าๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
z e a z
|
|
« ตอบ #21 เมื่อ: 03-09-2006, 15:22 » |
|
ความหมายของพรหมลิขิต..พวกจะเราเข้าใจตรงกันรึเปล่าน้า? และจะเชื่อในสถานการณ์ไหนดีล่ะ? บวก หรือ ลบ เวลา คุณพบคนที่คุณคิดว่าใช่ คุณก็ว่าพรหมลิขิต มันทำงานเข้าให้แล้ว(เข้าข้างตัวเอง) เวลา คุณเลิกกัน คุณก็อาจจะบอกว่าพรหมลิขิต มันเล่นงานซะอ่วม (เพื่อความสบายใจ) รึเปล่า? แล้วไงดีล่ะ... ง่ายๆ... เอาเป็นว่าตราบใดที่ความสัมพันธ์รักของคุณยังคงราบรื่นอยู่นั่นก็แสดงว่า พรหมลิขิต ยังมีฤทธ์เป็นบวก แต่เมื่อใดความสัมพันธ์รักคุณไม่ Happy และเลิกร้างกันต่อมา นั่นก็หมายความว่า พรหมลิขิต หมดอายุแล้วไงครับ ดังนั้นพรหมลิขิตก็มี expriry date เหมือนกันนะครับ เพียงแต่ไม่ได้ติดฉลากไว้ และคุณจะ renew แบบปีต่อปีหรือแบบตลอดชีพ ก็ขึ้นอยู่กับ หน้าที่ ศีลธรรม จริยธรรมที่มีอยู่ทั้ง 2 ฝ่ายน่ะครับ ถ้าแบบตลอดชีพ คงต้องมีมากรักษามากกว่า เป็นธรรมดา..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #22 เมื่อ: 03-09-2006, 15:24 » |
|
อย่าเหมาอะไรแทนคนอื่นครับ ถ้าอนาอยากรู้อะไร ผมว่าอนาคงถามเองได้คับ ถ้าคุณอยากรู้ก็ถามมาเองดีกว่าคับ ฮ่าๆ
คุณนักข่าวนี่หน้าแตกได้เป็นอาชีพเลย ลองฟังอนาพูดดูสิฮะแล้วจะเชื่อ 55
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 15:26 โดย somebody »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #23 เมื่อ: 03-09-2006, 15:28 » |
|
ความหมายของพรหมลิขิต..พวกจะเราเข้าใจตรงกันรึเปล่าน้า? และจะเชื่อในสถานการณ์ไหนดีล่ะ? บวก หรือ ลบ เวลา คุณพบคนที่คุณคิดว่าใช่ คุณก็ว่าพรหมลิขิต มันทำงานเข้าให้แล้ว(เข้าข้างตัวเอง) เวลา คุณเลิกกัน คุณก็อาจจะบอกว่าพรหมลิขิต มันเล่นงานซะอ่วม (เพื่อความสบายใจ) รึเปล่า? แล้วไงดีล่ะ... ง่ายๆ... เอาเป็นว่าตราบใดที่ความสัมพันธ์รักของคุณยังคงราบรื่นอยู่นั่นก็แสดงว่า พรหมลิขิต ยังมีฤทธ์เป็นบวก แต่เมื่อใดความสัมพันธ์รักคุณไม่ Happy และเลิกร้างกันต่อมา นั่นก็หมายความว่า พรหมลิขิต หมดอายุแล้วไงครับ ดังนั้นพรหมลิขิตก็มี expriry date เหมือนกันนะครับ เพียงแต่ไม่ได้ติดฉลากไว้ และคุณจะ renew แบบปีต่อปีหรือแบบตลอดชีพ ก็ขึ้นอยู่กับ หน้าที่ ศีลธรรม จริยธรรมที่มีอยู่ทั้ง 2 ฝ่ายน่ะครับ ถ้าแบบตลอดชีพ คงต้องมีมากรักษามากกว่า เป็นธรรมดา.. ลักษณะของการต่ออายุคือลักษณะที่ไม่เสถียรของจิตใจมนุษย์ฮะ พระท่านก็ปวดหัวเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #24 เมื่อ: 03-09-2006, 15:31 » |
|
ประเด็นที่คุณ z e a z พูด คือสิ่งที่ผมกำลังพยายามบอกใบ้ ไงครับ สำหรับคนที่เชื่อ เรื่องพรหมลิขิต ก็ควรคิดให้กว้างออกไปว่า ลิขิต มิได้จำกัดแค่ ว่า ใช่หรือไม่ใช่... มันมีทั้ง ใช่ ตอนนั้น ไม่ใช่ ตอนต่อไป ไม่ใช่ตอนนั้น และอาจใช่ ตอนต่อไป แถมยังมี....บางครั้ง พรหมลิขิตเล่นตลก....ใช่ + ไม่ใช่ กลับไปกลับมาตั้งหลายครั้ง..ก็ยังมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ ร่ำไป คับ ข้อความโดย: somebody ใส่การอ้างถึงคำพูด คุณนักข่าวนี่หน้าแตกได้เป็นอาชีพเลย ลองฟังอนาพูดดูสิฮะแล้วจะเชื่อผม ประเด็นไม่ใช่ผมจะหน้าแตกหรือไม่ ... แต่ประเด็นคือ คุณสามารถ เป็นตัวแทน อนาหรือไม่ ต่างหากละครับ? ถึงต้องให้ผมเชื่อหรือไม่เชื่อ คำพูดของคุณนะคับคุณ Somebody เพราะถ้าคุณ somebody มาลักษณะ แอบอ้าง และเร่งรัด คำตอบแบบนี้ผมคงไม่ตอบคุณแล้วละนะคับ เพราะผมรู้สึกไม่ดี ที่จะตอบคุณ Somebody ครับ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 17:07 โดย ThailandReport »
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #25 เมื่อ: 03-09-2006, 15:37 » |
|
ประเด็นที่คุณ z e a z พูด คือสิ่งที่ผมกำลังพยายามบอกใบ้ ไงครับ สำหรับคนที่เชื่อ เรื่องพรหมลิขิต ก็ควรคิดให้กว้างออกไปว่า ลิขิต มิได้จำกัดแค่ ว่า ใช่หรือไม่ใช่... มันมีทั้ง ใช่ ตอนนั้น ไม่ใช่ ตอนต่อไป ไม่ใช่ตอนนั้น และอาจใช่ ตอนต่อไป แถมยังมี....บางครั้ง พรหมลิขิตเล่นตลก....ใช่ + ไม่ใช่ กลับไปกลับมาตั้งหลายครั้ง..ก็ยังมีตัวอย่างให้เห็นอยู่ ร่ำไป คับ ข้อความโดย: somebody ใส่การอ้างถึงคำพูด คุณนักข่าวนี่หน้าแตกได้เป็นอาชีพเลย ลองฟังอนาพูดดูสิฮะแล้วจะเชื่อผม ประเด็นไม่ใช่ผมจะหน้าแตกหรือไม่ ... แต่ประเด็นคือ คุณสามารถ เป็นตัวแทน อนาหรือไม่ ต่างหากละครับ? ถึงต้องให้ผมเชื่อหรือไม่เชื่อ คำพูดของคุณนะคับคุณ Somebody เพราะถ้าคุณ somebody มาลักษณะ แอบอ้าง และเร่งรัด คำตอบแบบนี้ผมว่า มีคนบางคน ที่มีบุคคลิกแบบนี้ครับ ชื่อ พัดๆ อะไรนี่แหละคับ ฮ่าๆๆๆ ผมคงไม่ตอบคุณแล้วละนะคับ เพราะผมรู้สึกไม่ดี ที่จะตอบคุณภัทร เอ้ย!! คุณ Somebody ครับเหรอฮะ ไม่ต้องตอบก็ได้ฮะ ยังอยู่แค่ผิวนะฮะ ไปหัดทำอารมณ์มาใหม่ดีกว่าฮะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ภูพาน
|
|
« ตอบ #26 เมื่อ: 03-09-2006, 15:43 » |
|
เรื่อง" ความรัก" เป็นเพราะพรหมลิขิตหรือ cupid กันแน่?...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
ขอกันข้าให้ไกลห่างจากคนที่กล่าวว่า "ข้าเป็นดวงเทียนที่นำความสว่างให้หนทางของประชาชน" หากแต่ผู้ที่แสวงหาหนทางของตนจากแสงแห่งประชาชนนั้น ขอจงนำข้าเข้าไปใกล้ชิดด้วยเถิด ~ คาลิล ยิบราน
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #27 เมื่อ: 03-09-2006, 15:46 » |
|
ฝากช่วยกันดูแลเพื่อนโง่แกมหยิ่งของผมด้วยนะฮะ ยังไม่ปรับนิสัย ตั้งชื่อฉายาตานี่ว่า เสลอปี้ ดีกว่าฮะ เอ้าอนายังอยู่ในสายหรือเปล่า? llllllllllllllllllllllllll เรื่อง" ความรัก" เป็นเพราะพรหมลิขิตหรือ cupid กันแน่?... คิวปิดถูกใบสัjงมาอีกทีมังฮะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 15:50 โดย somebody »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
RiDKuN
|
|
« ตอบ #28 เมื่อ: 03-09-2006, 15:51 » |
|
มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อสองสามปีมาแล้ว ผมตื่นเช้าแบบผิดปกติ ตื่นมาไม่มีอะไรทำก็มานั่งดูทีวี ดูรายการรถยนต์ของโตโยต้า ทั้งที่ผมไม่ได้สนใจเรื่องเกี่ยวกับรถ ตอนนั้น เป็นการแนะนำรถกระบะอะไรสักอย่าง ผมก็ไปสะดุดตากับพริตตี้ที่มานำเสนอ อย่าเข้าใจผิดสำหรับการแต่งตัวของเธอ ใครที่ไปงานรถบ่อยๆ น่าจะรู้ว่าพริตตี้ของโตโยต้าแต่งตัวเรียบร้อยพอสมควร แต่ว่าหน้าตาท่าทางที่สดใสของเธอ ก็ทำให้ผมรู้สึกดีแบบแปลกๆ จนต้องจำชื่อเธอไว้ ถัดจากนั้นมาอีกซักสองสามอาทิตย์ ผมก็ได้พูดเรื่องนี้กับเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ผมจำไม่ได้แล้วว่าบทสนทนาเป็นอย่างไรจึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ แต่เธอกลับบอกว่า พริตตี้คนนั้นเป็นเพื่อนเธอ เพื่อนหญิงของผมจึงชวนผมไปงานวันเกิดของเธอคนนั้นในอีกเดือนถัดมา ผมกับเธอจึงได้รู้จักกัน... ซึ่งถ้าเรื่องที่ผมเล่ามา จบแบบ happy ending ผมก็คงจะเชื่อในพรหมลิขิตละครับ อ่อ จำได้แล้ว รู้สึกเพื่อนผมจะถามว่า ผมชอบผู้หญิงแบบไหนนะครับ ถึงได้พูดขึ้นมา
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 16:03 โดย RiDKuN »
|
บันทึกการเข้า
|
คนไม่มี "อุดมคติ" ไม่ใช่ "นักการเมือง"
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #29 เมื่อ: 03-09-2006, 15:57 » |
|
มีอยู่วันหนึ่ง เมื่อสองสามปีมาแล้ว ผมตื่นเช้าแบบผิดปกติ ตื่นมาไม่มีอะไรทำก็มานั่งดูทีวี ดูรายการรถยนต์ของโตโยต้า ทั้งที่ผมไม่ได้สนใจเรื่องเกี่ยวกับรถ ตอนนั้น เป็นการแนะนำรถกระบะอะไรสักอย่าง ผมก็ไปสะดุดตากับพริตตี้ที่มานำเสนอ อย่าเข้าใจผิดสำหรับการแต่งตัวของเธอ ใครที่ไปงานรถบ่อยๆ น่าจะรู้ว่าพริตตี้ของโตโยต้าแต่งตัวเรียบร้อยพอสมควร แต่ว่าหน้าตาท่าทางที่สดใสของเธอ ก็ทำให้ผมรู้สึกดีแบบแปลกๆ จนต้องจำชื่อเธอไว้ ถัดจากนั้นมาอีกซักสองสามอาทิตย์ ผมก็ได้พูดเรื่องนี้กับเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ผมจำไม่ได้แล้วว่าบทสนทนาเป็นอย่างไรจึงพูดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ แต่เธอกลับบอกว่า พริตตี้คนนั้นเป็นเพื่อนเธอ เพื่อนหญิงของผมจึงชวนผมไปงานวันเกิดของเธอคนนั้นในอีกเดือนถัดมา ผมกับเธอจึงได้รู้จักกัน... ซึ่งถ้าเรื่องที่ผมเล่ามา จบแบบ happy ending ผมก็คงจะเชื่อในพรหมลิขิตละครับ อย่างน้อยก็ได้เจอตัว แสดงว่าลิขิตไม่ได้หมายความว่าจะต้องเป็นอย่างที่หวังเสมอไป
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
somebody
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: 03-09-2006, 16:04 » |
|
ฮิฮิ ลาทุกท่าน ไปแระ หวังว่าหากอยากรู้อะไร ต้องหัดเชื่อด้วยนะฮะ ไมง้านปวดหัวหลายตลบ รู้เองไม่ได้ทุกเรื่อง ต้องเลือกเชื่อฮะ ออกมาได้แล้วฮะ ไปแระ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: 03-09-2006, 16:36 » |
|
อนาครับ ผมมีกรณี หมอดู กะ พรหมลิขิต มาฝากให้คิดนะครับ..
สมมุติว่า มีหมอดูที่เก่งมากคนหนึ่ง ซึ่งเขารู้ลิขิตฟ้า.... ยึดอาชีพ หมอดู เนื้อคู่
คู่ที่ ดูแล้ว ดวงแต่งกันไม่ได้ จะบอกไปว่า ไม่ใช่เนื้อคู่.... คู่ที่ดูแล้ว ดวง สมพงษ์เป็น เนื้อคู่หนังคู่กระดูกคู่กันมาแต่ชาติปางก่อน....ก็จะรีบบอกว่า แต่งให้ไว เลย..
แต่ บางคู่ ต่อไปนี้ คุณคิดว่าหมอดูจะพูดว่าไงครับ อนาลองนึกดูนะ...
คู่ที่ดวงลิขิตมาให้ ได้ร่วมชีวิต แต่...ต้องหย่าร้าง ไปมีใหม่(มีคนอื่น) หรือ ต้องแยกทางกันในที่สุด ....จะบอกไงดี ? คู่ที่ ดวงบอกว่า ต้องมีเมีย 2 -3 - 4 แล้วนี่ กำลังจะแต่งเมียคนแรก...จะบอกไงดี ? คู่ที่ แต่งได้แต่ หย่าไมได้ ต้องทนทุกข์ทรมาน...ไปตลอดชีวิตทั้งคู่...จะบอกไงดี ?
ในเมื่อดวงบอกไว้แบบนั้น พรหมลิขิตว่าไว้แบบนั้น....จะทำไงดี ? เมื่อคุณมีอาชีพเป็น หมอผูกดวงชะตาเนื้อคู่ จะฝืนลิขิตฟ้า เพื่อปกป้อง โศกนาฎกรรมในชีวิตมนุษย์ หรือจะทำตามลิขิต เอ่ยปากว่าไงดีละ...?
อนาลองคิดดูนะคับ..
มันอาจเป็นคำตอบที่อนา คิด ค้นหา มานานก็ได้ครับ
คนที่พรหมลิขิต บอกว่า....ใช่...ในตอนนั้น.......ทำไมเปลี่ยนไป ?
อนาขอโทษทีค่ะ พอดี ไปออกกำลังกายมา เชื่อไหมค่ะ หนูจะบอกให้เขาเชื่อปัจจุบัน มากกว่าหมอดู ปัจจุบันเป็นยังไง ก็ให้เขาลิขิตเอาเอง ยังไงลองฟังเพลงนี้ค่ะ "พรหมลิขิต" สุนทราภรณ์ - สมยศ ทัศนพันธ์"พรหมลิขิต" บันดาลชักพา ดลให้มาพบกัน ทัน ใด ก่อนนี้อยู่กันแสนไกล "พรหมลิขิต" ดลจิตใจ ฉันจึงได้มาใกล้กับเธอ เออชะรอยจะเป็น "เนื้อคู่" ควรอุ้มชูเลี้ยงดูบำเรอ แต่ครั้งแรกเมื่อพบเธอ ใจนึกเชื่อว่าแรกเจอ ฉันและเธอคือ คู่สร้างมา "เนื้อคู่"....ถึงอยู่แสนไกลคงไม่คลาดครา มุ่งหวังสมดังอุราไม่ว่าใครใคร หากมิใช่คู่ครองแท้จริง จะแอบอิงรักยิ่งปานใด ยากนักที่จะสมใจ คงพบเหตุอาเพทภัย พลัดกันไปจนให้คลาดครา เราสองคนต้องเป็น..."เนื้อคู่" จึงชื่นชูรักใคร่บูชา นี่เพราะว่าบุญหนุนพา "พรหมลิขิต" ขีดเส้นมา ชี้ชะตาให้มาร่วมกัน คนบางคนต้องเป็น..."เนื้อคู่" เพียงแต่ดูรู้ชื่อโดยพลัน ก็รู้สึกนึกรักกัน จนฝันใฝ่ใจผูกพัน แม้ไม่ทันจะเห็นรูปกาย "เนื้อคู่"...ถึงอยู่แสนไกล คงไม่คลาดครา มุ่งหวังสมดังอุรา ไม่ว่าใครใคร "พรหมลิขิต" บันดาลทุกอย่าง เป็นผู้วางหนทางปวงชน ได้ลิขิตชีวิตคน นำ "เนื้อคู่"มาเปรอปรน ทั้งยังดลเธอให้กับฉัน บอกแล้วไงค่ะ ว่าเชื่อในพรหมลิขิต ที่เราได้เจอกัน และก็เชื่อในเราลิขิตชีวิตเรากับเขาว่าจะไปทางไหน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: 03-09-2006, 18:47 » |
|
ไปดูหนังเกาหลีมาตะกี้ เรื่อง ส่งเจ้าพ่อไปสอนหนังสือ
ลิขิตให้นางเอก ต้องเป็นแบบนั้นตอนจบด้วยหรือเปล่า คับ อนา?
ผมมีอีกส่วนนึงที่อยากฝากไว้คือ... แม้คนคำนวนจะไม่สู้ฟ้าลิขิต.....แต่...
หากไร้ความพยายาม มัวแต่รอให้ฟ้าเห็นใจหรือฟ้าลิขิต... บางที ชีวิตก็ไม่เป็นไปอย่างที่หวังหรอกนะครับ..
ทางชีวิต บางคนมีหลายแพร่ง การหยุดยืนรอ ไม่ยอมเลือก ปล่อยให้กระแสโชคชะตาพาไป..ไหลไป นั่นคือ สิ่งหนึ่ง ที่เราเชื่อว่าเป็น ลิขิต
โดยอาจหารู้ไม่ว่า...แท้จริงแล้ว เราสามารถ เลือก หนทาง ของเราเองได้ในทางแยกของชะตาที่เจอครับ...
ใครไม่เชื่อ ดูเดอะ แม้วทริกซ์ดิ้ ฮิๆ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 12:23 โดย ThailandReport »
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: 03-09-2006, 19:15 » |
|
อย่างที่พี ทีอาร์พูดก็ถูกค่ะ เราสามารถลิขิตเราเองได้ แต่ก็เชื่อเรื่องดวงด้วยนะค่ะ เช่น ลิเวอร์พูล ทำไม่ได้แชมป์ยูฟ่า ทั้งๆๆที่น่าจะเป็น เอชี มิลาน ฮี่ๆๆๆ เก่ง แต่ไม่เฮง เราก็เห็นกันอยู่ทั่วไปนี้ค่ะ เก่งมาพร้อมกับดวง จังหวะโอกาศ ก็มีเยอะ แต่ที่แน่ๆๆ จะดวงไม่ดวง หากหมั่นทำความดีไว้ ไม่ละลานไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน อนาว่า สักวันหนึ่งผลความดีที่เราทำไว้มันก็ย้อนมาส่งเสริมเราค่ะ ทำดีย่อมได้ดี ไงค่ะ
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2006, 19:18 โดย ใบไม้ทะเล »
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
คนเจียงใหม่
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: 03-09-2006, 20:46 » |
|
เชื่อเถอะครับ ถ้าพรหมลิขิตให้รักก็ต้องรัก แต่ ถ้าพรหมลิขิตให้ชังก็ต้องชัง และถ้าพรหมลิขิตให้หย่าก็ต้องหย่า อยู่มาจนปูนนี้แล้ว เชื่ออยู่อย่างว่า "รักย่อมเข้าใจในรัก"
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: 03-09-2006, 20:58 » |
|
เอ่อ ผมไม่รู้ว่าใครจะพาใครออกทะเล แต่ผมคิดว่า ผลแพ้ชนะ ของ การแข่งบอลไม่น่าใช่พรหมลิขิต มันเป็นเรื่องของความพร้อม สถิติ และ บวกปาฏิหาริย์ หน่อยๆ งับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
ประกายดาว
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: 04-09-2006, 12:21 » |
|
ประกายดาว เชื่อ คำว่า ธรรมะจัดสรร ค่ะ
ซึ่งมาจาก ความเชื่อว่า กรรมลิขิต เสียมากกว่า ....แม้ว่าคำว่าพรหมลิขิต โชคชะตา คำสั่งฟ้า คำเหล่านี้ล้วนฟังดู แสนโรแมนติก ชวนยิ้มหวาน ชวนฝันไปไกลลองไปดุว่า ทำไม ประกายดาวไม่เชื่อพรหมลิขิตประกายดาว คิดถึงความเชื่อ แบบ ฮินดู กับ พุทธ แยกออกจากกัน พระพรหมมหาเทพแห่งความเมตตา และลิขิตชะตามนุษย์ในอินเดียสมัยโบราณ พระพรหมเป็นเทพผู้สร้างโลก ได้รับการยกย่องโดยพวกพราหมณ์ ให้มีฐานะเท่าเทียมกับพระวิษณุ (ผู้คุ้มครองโลก) และพระศิวะ (ผู้ทำลายโลก) วิวัฒนาการทางความเชื่อทางศาสนา และศิลปกรรมของอินเดีย
มีการ เปลี่ยนแปลง ตามแคว้นต่าง ๆ เสมอรวมถึง การเปลี่ยนแปลงตามประเพณีความเชื่อในช่วงสมัยนั้น ๆ โดยมีการนับถือตามนิกายต่าง ๆ ของความ เชื่อที่มีอยู่นั้น เช่น นิกายไศวะ หรือไศวะนิกาย และไวษณพนิกาย หรือไวษณวนิกาย
ทั้ง ๒ นิกายให้ความเคารพนับถือเทพ คือพระศิวะ และ พระวิษณุเป็นพิเศษ จึงลดความศรัทธาความเชื่อถือพระพรหมลง
และเมื่อเวลาผ่านถึง ค.ศ. ที่ ๑๐ ชาวฮินดูจึงหันมาให้ความเคารพ นับถือพระพรหมจากที่นิกายไศวะ และไวษณพนิกาย ซึ่งมีการแข่งขันกันทางด้านความเชื่ออยู่ พระพรหมจึงกลายเป็นเทพองค์สำคัญขึ้นมาใหม่
พระพรหมจึงกลายเป็นเทพองค์สำคัญ โดยมีการสร้างเทวาลัย และรูปปั้นไว้เป็นจำนวนมาก พระพรหมได้รับการนับถือบูชาในฐานะที่พระองค์เป็นผู้สร้างของทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นบนโลก พระองค์ทรงเป็นผู้ให้ที่สำคัญ และเป็นผู้กำหนดโชคชะตาของมนุษย์ พระนาม ที่เรียกขานกันมีมากมายนอกเหนือจากพระพรหม
ประกายดาวอ่านงานเขียนของอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ ๒ ท่านคือดร.ศักดิ์ศรี แย้มนัดดาและ รศ.วิสุทธ์ บุษยกุล ท่านทั้งสองจบวิชาสันสกฤต ปริญญาเอก และปริญญาโท มาจาก U of Pennsylvania สหรัฐอเมริกา
เรื่อง "พรหมลิขิต"ใน วิสุทธ์นิพนธ์ เป็นเรื่องล้อเลียนเสียดสี(satire) จากหนังสือชื่อ "ธรรมกัลปทรุมะ" ขอเล่าให้ฟังสั้นๆ
ในสมัยโน้น เมื่อเด็กทารกคลอดออกมาครบ ๖ วัน พระพรหมจะเสด็จลงมาจารึกชะตาชีวิตลงบนหน้าผากเด็ก หลังจากนั้นชีวิตเด็กก็จะเป็นไปตามที่พระพรหมท่านลิขิตเอาไว้ หลีกเลี่ยงกระดิกกระเดี้ยไปจากนั้นไม่ได้ ไม่ว่าจะยากเย็นหรือแปลกพิสดารไม่น่าเชื่อยังไงก็ต้องเป็นไปตามนั้น ก็ เนี่ย แหละ ค่ะ ความเชื่อ และเรื่องราวของ ที่มาคำว่า " พรหมลิขิต "
ประกายดาว เชื่อว่า คนที่มาพบมารักกัน มาอยู่ร่วม มาเคียงหมอน มารู้จักกัน มาผ่านเลยจากกันไป เป็นเรื่องของธรรมะจัดสรรมากกว่า ... จัดสรร ตาม บุญ ตาม กรรม ตามวาสนา ตามชะตาฟ้า และ ที่สำคัญที่สุด ตาม กรรมใหม่ ...ที่ เกิดจาก หัวใจตัวเองลิขิตค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ใบไม้ทะเล
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: 04-09-2006, 12:23 » |
|
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-09-2006, 12:26 โดย ใบไม้ทะเล »
|
บันทึกการเข้า
|
立てばしゃくやく、座ればぼたん、歩く姿はゆりの花
|
|
|
ประกายดาว
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: 04-09-2006, 12:32 » |
|
อาจารย์ ที่เคารพ ท่านนึง ท่านเป็นปราชญ์ ในความรู้สึกของ ประกายดาว อาจารย์ สอนธรรมะให้ ผ่านการสอนดนตรี และ การมองโลก
ท่านบอกว่า ....คนเรา มีเนื้อคุ่ ได้หลายคน ตามกรรมอันเป็นเครื่องอิงอาศัย แต่การจะเลือก มาเป็นคู่ ...เป็นเรื่องของ ตัวเองลิขิต.... การจะรักษา คู่นั้น ไว้ได้หรือไม่ .....ตัวเองก็ลิขิต อีกนั่นแหละ จากการกระทำในปัจจุบันประกออบไปด้วย
แม้ว่า ใครจะสักคน จะคือ คนที่ มีสัญญาณ บ่งมาว่า " ใช่ " มี สัญญา เก่าก่อน บอกว่าว่า " ใช่ " ( สัญญา ในทางธรรม สัญญา คือการบันทึกสิ่งต่างๆอันเกิดจากผัสสะไว้ในจิต ค่ะ)แต่เราไม่เลือก ....ลิขิตฟ้า ...ก็ ต้องพ่าย ...ค่ะ ความคิด ส่วนบุคคล นะคะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ThailandReport
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: 04-09-2006, 12:40 » |
|
เมื่อ อนาบอกว่าจะไม่อ่าน งั้นเราต้องรีบเขียนๆๆๆ ฮ่าๆๆ (ทุกข์ของท่านคืองานของเรา) ประกายดาวบอกไว้เรื่อง สัญญา ซึ่งเป็น 1ในองค์ประกอบของ ขันธ์ 5รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณขอมั่ว อธิบายเสริมตามประสา คนห่างไกลวัด ว่า... กรรมเก่า ที่พูดถึงน่าจะคือ...สัญญา เก่า ที่บอกว่า "ใช่".... แต่หัวใจ ปัจจุบัน ตัดขาด....กรรมใหม่ เลยไม่เกิดครับ อนา...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !! สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
|
|
|
ประกายดาว
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: 04-09-2006, 12:46 » |
|
เมื่อ อนาบอกว่าจะไม่อ่าน งั้นเราต้องรีบเขียนๆๆๆ ฮ่าๆๆ (ทุกข์ของท่านคืองานของเรา) ประกายดาวบอกไว้เรื่อง สัญญา ซึ่งเป็น 1ในองค์ประกอบของ ขันธ์ 5รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณขอมั่ว อธิบายเสริมตามประสา คนห่างไกลวัด ว่า... กรรมเก่า ที่พูดถึงน่าจะคือ...สัญญา เก่า ที่บอกว่า "ใช่".... แต่หัวใจ ปัจจุบัน ตัดขาด....กรรมใหม่ เลยไม่เกิดครับ อนา... ชื่นใจ ค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|