ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
02-12-2024, 23:57
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สโมสรริมน้ำ  |  จดหมายน้อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องคนเดือนตุลา - มุมมองที่น่าสนใจ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
จดหมายน้อยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องคนเดือนตุลา - มุมมองที่น่าสนใจ  (อ่าน 2445 ครั้ง)
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« เมื่อ: 24-08-2006, 09:55 »

ตัวเอียง คือที่ผมโพสไว้ในกระทู้คุณบอนนี่
ตัวสีน้ำเงิน คือ PM จากคุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น
ตัวสีดำ คือคำตอบ PM ของผม

ชื่อคุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เป็นชื่อสมมุติขึ้นเพื่อปกปิดชื่อเดิมตามเจตนารมย์อันดีงามที่ไม่ต้องการให้มีการทะเลาะกันในหมู่สมาชิก ของเพื่อนสมาชิกที่ PM ถึงผมครับ



ผมเคยเขียนกระทู้เกี่ยวกับคนเดือนตุลาเอาไว้ แต่ไม่กล้าโพส ด้วยเหตุเกรงว่าจะกระทบต่อคนหลายคน เกรงว่าจะทำให้เกิดการถกเถียงวุ่นวายในเสรีไทยเสียเปล่า ๆ ไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ จึงลบทิ้งไป วันนี้ขอพูดถึงนิด ๆ เพราะได้เห็นคนเดือนตุลาอย่างคุณบอนนี่ออกมาถุยเสียงดังฟังชัด

สำหรับผม วีรชนเดือนตุลามีจริง แต่ตายไปแล้วทั้งหมด ที่เหลืออยู่เป็นเพียง คนที่เคยอยู่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น บางคนอยู่อย่างภาคภูมิใจ บางคนอยู่อย่างอดสูใจ บางคนไม่เคยสำนึกด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ตัวเองทำในครั้งนั้นถูกหรือผิด หลายคนพูดว่าตัวเองเป็น “คนเดือนตุลา”


ใช่ครับคนที่ตายไปแล้วคือวีรชนที่แท้จริง  แต่คุณรู้หรือไม่ว่าพวกเขาตายอย่างไร  คนที่อยู่คือคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นั้น  คนที่ตายในเหตุการณ์นั้นบางคนตายอย่างทรมาณ  แต่บางคนที่ถูกจับถูกทารุณกรรม  ผู้หญิงบางคนถูกลวนลาม  บางคนถูกข่มขืน บางคนถูกซ้อม  บางคนขวัญผวาไปหลายปี  คงไม่มีใครอยากจำ  คงไม่มีใครอยากไปนอนก้มหน้ามุดอยู่ในห้องน้ำเป็นวัน ๆ เพื่อหลบกระสุนที่สาดเข้ามาตลอดเวลา  คนเหล่านี้อาจไม่มีคุณค่าในสายตาคนทั่วไป  เป็นบุคคลที่ถูกลืม  เขาอาจไม่ใช่วีรชนแต่เขาก็ไม่ควรถูกก่นด่า  ไม่ว่าเขาจะไปในฐานะอะไรก็ตาม  สิ่งที่เขาหวังคือสิ่งที่เขาคิดว่าทำเพื่อชาติ  เขาผิดไหม 

สวัสดีครับคุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น

ต้องขออภัยที่ตอบช้า และผมอยากขออธิบายเพิ่มเติมสักเล็กน้อยครับ ตัวผมเองให้ความเคารพในวีรกรรมของผู้ที่เข้าร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่เคยคิดที่จะก่นด่าหรือประณามแต่อย่างใด ถ้าคุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ได้พิจารณากระทู้ตอบของผมอย่างละเอียด จะพบว่าผมประณามคนที่ใช้ชื่อว่า “คนเดือนตุลา” บางกลุ่มบางคนต่างหากครับ

คนที่เข้าร่วมเหตุการณ์ครั้งนั้น หลังจากวันที่ล้อมปราบที่ธรรมศาสตร์ หลายคนกลับบ้าน หลายคนกลับไปเรียนหนังสือต่อจนจบ หลายคนเข้าป่าเข้าร่วมกับ พคท. ภายหลังจึงกลับออกจากป่า กลับมาเรียนหนังสือต่อจนจบ คนที่เข้าป่าบางคนก็ไม่ได้กลับมา

หลายคนที่โชคดีได้กลับบ้่าน แต่หลายคนเช่นกันที่เป็นแกนนำต้องหนีหัวซุกหัวซุนหลบหนีการตามล่า  บางคนก็หวาดกลัวไปเองจนต้องหลบหนีเข้าป่า  การเป็นอยู่ในป่าก็ไม่ได้สุขสบาย  คุณจีรนันท์เองก็อยู่ในข่ายนี้  สามีคือคุณเสกสรรค์ก็อยู่ในข่ายนี้  เธอเป็นดาวจุฬาฯครับ  ถ้าเธอจะเป็นคนไร้อุดมการณ์ก็คงได้  แต่เธอก็ต้องลำบากเข้าป่าเพราะอะไร  บางคนที่ไม่ได้กลับเพราะตายในป่า  บ้างถูกยิงตาย  บ้างเป็นไข้ป่าตาย

ตรงนี้ผมเห็นด้วยครับ

คนกลุ่มหนึ่งทีเข้าป่า ที่จริงแล้วก็เพียงแค่หนีการจับกุมการปราบปรามของเจ้าหน้าที่รัฐ เท่านั้น ไม่ได้มีความอยากเข้าร่วมกับ พคท. แต่ไม่มีทางเลือก ไม่มีอุดมการณ์ทางการเมืองในแบบคอมมิวนิสต์ซะด้วยซ้ำไป

ส่วนใหญ่นักศึกษาที่ทำงานเพื่อประชาชนในยุคนั้นไม่ใช่ซ้ายตกขอบ  ไม่ได้อยากเป็นคอมมิวนิสต์  ทุกคนยังติดอยู่กับความสุขสบาย  แต่อยากทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง ผิดไหมครับ  

ไม่ผิดครับ ผมไม่ได้บอกว่าคนที่เข้าป่าต้องเห็นด้วยกับอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ เพียงแต่ผมอยากนำเสนอความเป็นจริงที่ว่าคนบางคนที่อ้างตัวว่าเป็น “คนเดือนตุลา” ก็ไม่ได้สูงสง่าอย่างภาพที่เขาแสดงครับ

หลังจากออกจากป่า คนกลุ่มหนึ่งไม่ได้กลับมาศึกษาต่อ คนกลุ่มหนึ่งต้องกลายมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยร่วมกับสมาชิก พคท. ที่มาจากชาวบ้านจน ๆ คนที่ได้ร่ำเรียนหนังสือต่อ ตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารด้วยวัยด้วยอายุที่ถึงกาลแก่เวลา หลายคนเป็นอาจารย์มีลูกศิษย์ลูกหาเต็มบ้านเต็มเมือง หลายคนเป็นแกนนำองค์กรเอกชน

อันนี้เป็นไปตามอายุและประสบการณ์ไม่จำเป็นต้องเป็นคนเดือนตุลา  ไม่เกี่ยวเนื่องกับคนเดือนตุลาเลยสักนิดเดียว  คุณเองเมื่ออายุมากขึ้นประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้นก็ย่อมเป็นได้

ตรงนี้เราก็เห็นตรงกันนี่ครับ ไม่ได้ขัดแย้งอะไร

คนกลุ่มนี้ประกาศตัวเองว่าเป็น “คนเดือนตุลา” ผมสงสัยมานาน เพื่ออะไร? ถ้าไม่มีคีย์เวิร์ด คำว่า “คนเดือนตุลา” นี้ คนเหล่านี้จะเป็นอย่างไร?  คำนำหน้าว่า “สหาย” ที่พวกเขาใช้กันในวง เวลามีการพบปะสังสรร มีความหมายกับพวกเขาอย่างไร? ผมเคยคิดในแง่ร้ายตามประสาของผมว่า คนเหล่านี้กำลังหากินบนซากศพของเพื่อนที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น หลายคนเดินบนพรมแดงที่ย้อมด้วยเลือดของวีรชน หลายคนกำลังเก็บเกี่ยวสิ่งที่พวกเขาลงทุนในป่าไป 4 ปี

ผมเป็นคนเดือนตุลาที่คลุกคลีอยู่เบื้องหลังขบวนการนักศึกษาในสมัยนั้นมาพอสมควร  ผมไม่เคยคิดว่าคนเดือนตุลาจะคิดอย่างที่คุณคนในวงการบอก  เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน  เจอเวลาพบปะกันไม่มีใครอยากคุยถึงเรื่องอดีต  โดยเฉพาะคนที่เคยหลงทางเข้าป่าไป  และไม่มีใครหรืออาจจะมีก็เพียงส่วนน้อย  ผมย้ำนะครับว่าส่วนน้อยที่อยากหากินกับซากศพหรอกครับ  ทุกคนกลับเข้าสังคมพยามทำตัวให้กลมกลืน  ทำหน้าที่พ่อและแม่ที่ดีให้กับลูก ๆ และไม่มีใครอยากให้ลูกมาเดินทางสายเดียวกับตัวเองเป็นส่วนใหญ่

อันที่จริงแล้วคนที่ประกาศตัวว่าเป็น “คนเดือนตุลา” เป็นเพียงส่วนน้อยในกลุ่มผู้ที่ร่วมเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตรงนี้ผมเห็นด้วยครับ ที่ผมพูดผมหมายถึงพวกที่ประกาศตัวว่าเป็น “คนเดือนตุลา” ต่างหากครับ ไม่ได้หมายถึงคนที่ร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้นทุกคนครับ

ถ้า สมศักดิ์ เจียม ไม่ได้เป็นคนเดือนตุลา เขาจะเป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหรือไม่? ถ้า ภูมิธรรม กับพรหมินท์ ไม่ได้เป็นคนเดือนตุลา ตอนนี้พวกเขาจะได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ ถ้า ธีรยุทร ไม่ได้เป็นคนเดือนตุลา จะมีหนังสือพิมพ์ไปสัมภาษณ์เขาหรือไม่? บางทีแล้วมันอดคิดอย่างนี้ไม่ได้จริง ๆ

คุณธีรยุทธ  ได้ที่ 1  ประเทศไทยเป็นลูกจ่าจน ๆ คนหนึ่ง  สอบเข้าจุฬาฯ  เรียนที่คณะวิศวะกรรมศาสตร์  ซึ่งในสมัยนั้นเงินเดือนดีมาก  แต่คิดว่าด้วยอุดมการณ์จึงผันตัวเองมาเรียนสายศิลป์  คุณคิดว่าคนที่ได้ที่  1  ประเทศไทยจะเป็นคนเก่งได้ไหม    คุณประสาร  ไตรรัตน์วรกุลนั่นก็ที่  1  ประเทศไทยแต่ผันตัวเองจากวิศวกรมาเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน

ผมให้ความนับถืออยู่หลายท่านที่ผมเอ่ยนามครับ เพียงแต่ผมยกตัวอย่างเพื่อประกอบการตอบกระทู้ของผมให้กลมกลืนว่าผมไม่ได้เลือกฝ่าย

นักศึกษาที่ทำกิจกรรม รุ่นใหม่ ๆ เทิดทูนคนเหล่านี้ราวกับว่าเป็นศาสดา สิ่งที่พวกเขาพูดพวกเขาทำล้วนน่ายกย่อง หลงไหลได้ปลื้มไปกับคราบ “คนเดือนตุลา” การเป็น “คนเดือนตุลา” ดูคล้ายกับการเป็นทหารผ่านศึกที่ได้รับเหรียญกล้าหาญเสียจริง ทั้งที่ความจริงมันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หรือ? ผมอยากถามอย่างนั้นจริง ๆ

สิ่งที่คนเดือนตุลาทำไม่ได้เป็นสิ่งถูกทั้งหมด  ก่อนวันที่  6  ตุลา  19  มีการประชุมกันเพื่อตกลงว่าจะไม่ให้มีม๊อบ  เพราะจะมีการปราบอย่างรุนแรง  สมัยนั้นลูกทหารก็ต้องทะเลาะกับพ่อแม่เพื่อไปเดินขบวนร่วมอุดมการณ์กับเพื่อน ๆ และคนเหล่านี้แหละครับที่พ่อแม่เขาคอยเตือนและส่งสัญญาณอันตรายให้  บางคนก็ตายในเหตุการณ์  คุณไม่ต้องให้เหรียญกล้าหาญกับพวกเขาหรอกครับ  แต่คิดว่าที่ตอบมาคงให้มุมมองอะไรที่พอจะมองคนเดือนตุลาในทางที่ดีบ้าง  พวกเขาบางคนเจ็บช้ำมาจนเกินพอ  คุณคิดว่าน่าซ้ำเติมพวกเขาไหมครับ 

ผมคิดว่าเราเข้าใจผิดกันในส่วนของคำว่า “คนเดือนตุลา” คำว่า “คนเดือนตุลา” ของผมหมายถึงพวกที่ประกาศตัวว่าตัวเองคือ “คนเดือนตุลา” ส่วนผู้ที่เข้าร่วมในเหตุการณ์ครั้งนั้น ส่วนใหญ่ ไม่ได้ประกาศตัว พวกเขาหลายคนภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำอย่างเงียบ ๆ คงจะเหมือนกับคุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น ที่ใช้ชีวิตได้โดยมีเกียรติและมีความสุขโดยไม่ต้องประกาศตัวว่าเป็น “คนเดือนตุลา” ผมไม่เคยคิดที่จะซ้ำเติมผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้นมา ผมเข้าใจดีในเรื่องที่คุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น พูดและสื่อสารกับผมครับ ที่ผมต้องการสื่อสารในการตอบกระทู้คุณบอนนี่ คือ บางทีแล้วคนรุ่นใหม่ ๆ หลงไหลไปกับคราบ “คนเดือนตุลา” ที่หลาย ๆ คนสวมใส่อยู่โดยไม่ได้แยกแยะ ครับ

แล้วคุณบอนนี่หละ คิดว่า “คนเดือนตุลา” เป็นอย่างไร?

คนเดือนตุลาที่ผ่านฝันร้ายมา  ทุกคนไม่มีใครอยากพูดถึงมันแม้แต่คุณบอนนี่เองก็ไม่อยากกล่าวถึง  ถ้าจะเล่าเรื่องมันก็ยาวมากและเหตุการณ์  14  ตุลา 16  กับ  6  ตุลา 19  ที่หลายคนมองว่ามันไม่เกี่ยวเนื่องกันแต่มันเกี่ยวเนื่องกันอย่างแรง  และมีเหตุบางอย่างที่ทำให้พูดความจริงทั้งหมดไม่ได้  เอาเป็นว่าปี 16  คนเดือนตุลาสามารถไล่เผด็จการทหารได้สำเร็จ  แต่ผลที่ตามมาเป็นเรื่องที่น่าเศร้ายิ่งกว่าเพราะ  ปี  19  เป็นปีที่ขบวนการนักศึกษาถูกทำลาย  สภาพการณ์ก็คล้าย ๆ ตอนนี้  คือ
             1.  มีการแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย
             2.  มีการสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดเงื่อนไข
             3.  มีการจัดตั้งองค์กรย่อย ๆ ขึ้นมาเพื่อเสริมเงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อเร่งให้สถานะการณ์สุกงอมเร็วขึ้นและมีความชอบทำในการปฏิบัติการณ์รุนแรง
และขั้นสุดท้ายคือ  การล้อมปราบ  โดยอ้างความชอบธรรม

สิ่งที่ทักษิณทำที่ผ่านมาคือ  การทำให้คนแตกแยกออกเป็นสองฝ่ายโดยตั้งใจ  แต่อีกด้านหนึ่งพร่ำพูดว่าสมานฉันท์  มีการจัดตั้งองค์กรต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนตัวเองในทุก ๆ ด้าน  ทั้งในโลกจริงและโลกไซเบอร์  เริ่มก่อความรุนแรงในระดับที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ อย่างที่เห็น  คุณบอนนี่ที่เป็นคนเดือนตุลา  มีประสบการณ์ที่เจ็บปวดมาแล้ว  ไม่มีใครอยากพาคนไปตายหรอกครับ 


นั่นคือสิ่งที่ผมมองเห็นเช่นกันครับ สถานการณ์ตอนนี้คับขันมากครับ

ปกติผมไม่เคยตอบอะไรยาว ๆ อย่างนี้แต่บางครั้งก็ไม่อยากให้คนมองคนเดือนตุลาว่าเป็นปีศาจ  ปกติผมก็ไม่ค่อยชอบบอกใครว่าผมเป็นคนเดือนตุลา

ผมไม่เคยมองเหล่าวีรชน และผู้ที่เข้าร่วมเหตุการณ์ในครั้งนั้นว่าเป็นปิศาจ นอกจากนั้นผมยังให้ความนับถือหลายท่าน ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบปะพูดคุยกับคนที่ผ่านเหตุการณ์ในครั้งนั้น ด้วยหวังจะเรียนรู้และเข้าใจ เพื่อที่จะได้นำไปเผยแพร่ให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าใจถึงประวัติศาสตร์ของชาติ ที่ถูกบิดเบือน เด็กสมัยนี้ไม่ได้เข้าใจในสิ่งที่คนรุ่นก่อนทำครับ

แต่ผมสะอิดสะเอียน รังเกียจ คนกลุ่มหนึ่งที่ประกาศตัวว่าเป็น “คนเดือนตุลา” เหยี่ยบย่ำซากศพ เดินบนพรมแดงที่ย้อมด้วยเลือด เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากคำว่า “คนเดือนตุลา” ต่างหาก และคนเหล่านี้แหละที่ได้ออกทีวี ออกวิทยุ ปรากฏตัวในฐานะ “คนเดือนตุลา” ยืดคอราวกับว่าเป็นวีรบุรุษ ทั้งที่ในวันนั้น ในเหตุการณ์ครั้งนั้นบทบาทของพวกเขาไม่ได้สูงสง่าอย่างที่พวกเขาคุย

สำหรับผมแล้ว คนที่บิดเบือนประวัติศาสตร์การต่อสู้ ไม่ได้มีเพียงคนของฝ่ายรัฐบาลหรอกครับ คนที่ประกาศตัวว่าเป็น “คนเดือนตุลา” บางคนก็บิดเบือนไม่แพ้กัน!!!



ขอบพระคุณมากครับ ที่กรุณาเขียน PM มาแลกเปลี่ยนกับผม และผมขออนุญาตนำไปโพสในสโมสรริมน้ำนะครับ เนื่องจากผมเห็นว่าข้อความที่คุณ คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เขียนมามีประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ครับ


ขอแสดงความนับถือ

คนในวงการ



และนี่เป็นคำตอบของเพื่อนสมาชิกท่านนั้นครับ

อ้างจาก: คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น link=action=profile;u=xxxx
date=1156384303
ถ้าคุณเห็นว่าบางข้อความอาจเป็นประโยชน์เชิญเถอะครับ  แต่ที่ผมไม่ตอบข้างหน้าเพราะไม่อยากแสดงตัวว่าเป็นคนเดือนตุลา
และไม่ค่อยอยากพูดถึงเรื่องอดีตมากนัก  แต่คนที่เคยผ่านประสบการณ์นั้นมาแล้วมองเหตุการณ์ตอนนี้ก็ต้องระวังตัวเป็นพิเศษ  โดยเฉพาะคนที่ยืนแถวหน้า  ทั้งที่จำใจเป็นและเจตนา  คนตายเพียง  1  คนก็เป็นบาปทางใจไปตลอดชีวิต
 

อ้างจาก: คนที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น link=action=profile;u=xxxx
date=1156387536

ดีครับ  ผมเป็นคนเคราะห์ร้ายที่บังเอิญอยู่ในเหตุการณ์ทั้ง  ตุลา 16  และ ตุลา  19  และที่พวกคุณทะเลาะกัน  ผมว่ามันจะทำให้บอร์ดล่มลงโดยไม่จำเป็น  ขัดแย้งกันได้แต่ไม่ควรเอาเป็นอารมณ์  สมัยผมมีวิธีการหนึ่งที่เขาเรียกว่าวิจารณ์ตนเอง  คือคนที่ทำงานด้วยกันชี้ข้อบกพร่องของคนร่วมงาน  แต่ห้ามโกรธกันนะและต้องพูดโดยไม่เกรงใจ  เป็นสภาพที่บีบคั้นจิตใจค่อนข้างมาก  ถูกด่าแต่ห้ามโกรธห้ามโต้เถียง  แล้วเราก็กลับไปคิดว่าเออเราก็เป็นจริงอย่างเขาว่า แล้วก็พยายามปรับปรุงตัวเอง  การทำงานใดไม่มีความขัดแย้งก็คงไม่ได้งาน
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2006, 10:06 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
คนในวงการ
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,393


FLY WITH NO FEAR !!


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 24-08-2006, 09:59 »

 Cool
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-08-2006, 06:53 โดย คนในวงการ » บันทึกการเข้า

"Be without fear in the face of your enemies. Be brave and upright that God may love thee.
Speak the truth, always, even if it leads to your death. Safeguard the helpless, and do no wrong. That is your oath."
- Balian of Ibelin -
หน้า: [1]
    กระโดดไป: