ถ้ายุบพรรค สส ปาร์ตี้ลิสต์ต้องหมดสภาพตามหรือไม่?...

[morning star]

ขออนุญาติตั้งเป็น กระทู้ถามนะครับ..ผมก็ไม่เคยรู้ว่ามีกฏหมายข้อไหนบอกไว้กรณีนี้..ถ้าไม่มีระุบุ ผมว่าน่าจะหมดสภาพตามกับพรรคไป เพราะ สส ปาร์ตี้ลิสต์ตามเจตนารมณ์เป็นคะแนนของพรรค

[THE THIRD WAY]

ถูกต้องครับ


 

[RiDKuN]

ผมคิดว่าไม่หมดสภาพครับถ้าสามารถหาพรรคอื่นสังกัดได้ภายใน 60 วัน ตามมาตรา 118 (9)

มาตรา  118 สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลง เมื่อ
...
(9) ขาดจากการเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองในกรณีที่ศาล รัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคการเมืองที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นั้น เป็นสมาชิก และไม่อาจเข้าเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองอื่นได้ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ในกรณีเช่นนี้ให้ ถือว่าสิ้นสุดสมาชิกภาพนับแต่วันถัดจากวันที่ครบกำหนดหกสิบวันนั้น

เท่าที่หาดูก็หามาตราอื่นที่เกี่ยวข้องไม่เจอ ผมจึงคิดว่าไม่น่าจะหมดสภาพ
ซึ่งก็ทำให้ดูเหมือนว่าถ้ายุบพรรคระหว่างที่มีสภาผู้แทน ก็เป็นโทษที่เบามาก
เพราะสามารถหาซื้อพรรคอะไหล่ถูกๆ แล้วก็ย้ายเหมาโหลไปอยู่พรรคใหม่ได้ทันที 

[คนในวงการ]

ผมคิดว่าหมดสภาพไปโดยอัตโนมัติครับ เพราะสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่มาจาก Party list นั้น คำนวนสัดส่วนเอาจากจำนวน สส. ที่มาจากการเลือกตั้งของแต่ละพรรค เมื่อพรรคโดนยุบ สส. กลุ่มนี้จะหมดสภาพไปโดยปริยายครับ เนื่องจากเป็นสส.ที่มาจากสัดส่วนของพรรคที่โดนยุบ

ทีนี้การยุบพรรค มันจะมีสส.ที่มาจากการเลือกตั้ง ที่ต้องหาพรรคสังกัดให้ได้ภายใน 60 วัน ซึ่งการย้ายพรรคของสส. กลุ่มนี้จะทำให้สัดส่วนสส. ที่มาจากการเลือกตั้งในแต่ละพรรคที่ไม่โดนยุบเพิ่มขึ้น ตรงนี้จะต้องมาคำนวนสัดส่วนจำนวน สส. Party list กันใหม่ โดย สส. Party list ที่จะได้มาใหม่ จะเป็น สส. ใน Party list ของพรรคนั้นที่ได้ยื่นเอาไว้เมื่อตอนสมัครรับเลือกตั้ง ต่อให้อดีตสส. Party list ที่พ้นสภาพไปแล้วเพราะถูกยุบพรรค มาสมัครในพรรคที่ไม่โดนยุบ ก็ไม่มีสิทธิได้รับเลือกให้เป็น สส. เพราะไม่มีอยู่ในรายชื่อ Party list เดิมของพรรคนั้น ครับ

และ สส. ที่มาจากการเลือกตั้ง บางคนหาที่ลงไม่ได้ภายใน 60 วัน ก็จะหมดสภาพไป และจะมีการจัดให้มีการเลือกตั้งซ่อม และพรรคที่ชนะก็จะเอามาคำนวนสัดส่วนเพิ่มเหมือนข้างต้นอีกที

โดยสรุป สส.เขต ยังได้เป็น สส. ต่อถ้าหาที่ลงทัน สส.บัญชีรายชื่อ ตกงาน ครับ

[ชอบแถ]

รอศาลตีความ

[คนในวงการ]

รอศาลตีความ

ถูกต้องครับ งานนี้ต้องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความครับ เพราะไม่ได้บัญญัติเอาไว้ตั้งแต่ต้น

[snowflake]

คิดว่าน่าจะเป็นอย่างที่คุณ คนในวงการ ตอบใน # 3
คือ ส.ส. party list สิ้นสุดสภาพไปตามพรรค (party)
มีแต่ ส.ส. เขต ที่ยังคงสภาพอยู่ได้ หากย้ายเข้าพรรคใหม่ทัน
อย่างไรก็ตามน่าจะต้องยื่นเรื่องให้ศาลรธน. ตีความ
เพราะเป็นเรื่องใหม่ ที่ไม่มีบทบัญญัติไว้โดยตรง
แต่คงทำก็ต่อเมื่อมี “เหตุการณ์” เกิดขึ้นเท่านั้น
เวลานี้อาจมีคนในบัญชี อยากลง ส.ส.เขต มากขึ้น
เพื่อความปลอดภัย ก็เป็นได้ 

[ชอบแถ]

มาฝึกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกันหรือครับ

[morning star]

มาฝึกเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกันหรือครับ

ก็แค่มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นน่ะครับ

..

่รู้ไว้ใ่ช่ว่านะครับ ถ้าคิดตามไปเราจะเห็นว่าทุกย่างก้าวของ ทรท จะต้องระวังในเรื่องเหล่านี้ด้วย..ไม่ว่า แกนนำพรรคเมื่อพรรคโดนยุบ จะลาออกให้ปาร์ตี้ลิสต์ลำดับถัดไปเลื่อนขึ้นมาได้หรือไม่..แล้วถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าให้หมดสมาชิกภาพ จะจัดเลือกตั้งใหม่ยังไง แบ่งเขต หรือ รวมเขตประเทศไทย(ปาร์ตี้ลิสต์)...หรือถ้าเป็นไปตาม 118 วรรค 9 อย่างที่คุณริดคุงว่า..สส เหล่านั้นจะได้ชื่อปาร์ตี้ลิสต์ติดไปหรือเปล่า..

[แอ่นแอ๊น]

ไม่ทราบว่าเข้าใจคลาดเคลื่อนอะไรกันหรือเปล่านะคะ ขอให้ความเห็นดังนี้

ส.ส. ในบัญชีรายชื่อ และส.ส.เขต เป็น ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งคู่ค่ะ ไม่ใช่ว่า เป็นบัญชีรายชื่อแล้วเป็น ส.ส. แต่งตั้ง

แต่การเลือกของประชาชน เป็นการเลือกผ่านบัญชีรายชื่อที่พรรคจัดขึ้นมา เพราะฉะนั้น 19 ล้านหรือ 16 ล้านหน่ะ เค้าเลือกทั้ง 100  คนไม่ใช่คนเดียว

ดังนั้น เรื่องการสิ้นสภาพการเป็น ส.ส. ในกรณีที่มีสภาแล้ว สภาพการเป็น ส.ส. ของพรรคนั้นๆ จะหมดสิ้นลงทันทีที่โดนยุบพรรค
แต่สภาพการเป็น ส.ส. ยังไม่ได้หมดสิ้นไป เพราะกฎหมายเปิดโอกาสให้หาสังกัดพรรคใหม่ได้

ดังนั้น กรณีนี้ ไม่น่าจะต้องตีความค่ะ

อย่างที่คุณริดกุนยกข้อกฎหมายมา พูดถึง ส.ส. ไม่ได้แบ่งแยกว่า เป็น ส.ส. เขต หรือ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพราะเมื่อเข้ามาเป็น ส.ส. แล้ว สมาชิกภาพเท่าเทียมกันหมดค่ะ ไม่ว่า ส.ส. แบบไหน ก็เป็นนายกฯ ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมาจากบัญชีรายชื่อเท่านั้น

[คนในวงการ]

อือ ... อา ...

ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิดจริง ๆ ด้วย ขอบคุณ คุณแอ่นแอ๊นมากนะครับ ที่ช่วยแก้ไขในเรื่องข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง แต่ผมก็ยังคิดว่าหลักการนี้ไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะว่าสมมุติว่าผมเลือกบัญชีรายชื่อพรรค ทรท. เพราะชอบนโยบาย แต่พรรค ทรท. ถูกยุบ สส. บัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่งของ ทรท. ดันย้ายไปอยู่ พรรค ชท. ที่ผมไม่ชอบนโยบาย ทำให้พรรค ชท. ได้เป็น รัฐบาล เนื่องจากมีจำนวน สส. เกินครึ่ง แบบนี้ก็เท่ากับว่า พรรค ชท. ขโมยคะแนนที่ผมกาให้ ทรท. สิครับ น่าคิดนะ ประเด็นนี้ 

[morning star]

อือ ... อา ...

ดูเหมือนผมจะเข้าใจผิดจริง ๆ ด้วย ขอบคุณ คุณแอ่นแอ๊นมากนะครับ ที่ช่วยแก้ไขในเรื่องข้อเท็จจริงให้ถูกต้อง แต่ผมก็ยังคิดว่าหลักการนี้ไม่ค่อยถูกต้องนัก เพราะว่าสมมุติว่าผมเลือกบัญชีรายชื่อพรรค ทรท. เพราะชอบนโยบาย แต่พรรค ทรท. ถูกยุบ สส. บัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่งของ ทรท. ดันย้ายไปอยู่ พรรค ชท. ที่ผมไม่ชอบนโยบาย ทำให้พรรค ชท. ได้เป็น รัฐบาล เนื่องจากมีจำนวน สส. เกินครึ่ง แบบนี้ก็เท่ากับว่า พรรค ชท. ขโมยคะแนนที่ผมกาให้ ทรท. สิครับ น่าคิดนะ ประเด็นนี้ 

นั่นสิครับ มันจะขัดเจตนารมณ์ที่ให้คนเลือกพรรคนะผมว่า..

[Şiłąncē Mőbiuş]

ไม่ทราบว่าเข้าใจคลาดเคลื่อนอะไรกันหรือเปล่านะคะ ขอให้ความเห็นดังนี้

ส.ส. ในบัญชีรายชื่อ และส.ส.เขต เป็น ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งทั้งคู่ค่ะ ไม่ใช่ว่า เป็นบัญชีรายชื่อแล้วเป็น ส.ส. แต่งตั้ง

แต่การเลือกของประชาชน เป็นการเลือกผ่านบัญชีรายชื่อที่พรรคจัดขึ้นมา เพราะฉะนั้น 19 ล้านหรือ 16 ล้านหน่ะ เค้าเลือกทั้ง 100  คนไม่ใช่คนเดียว

ดังนั้น เรื่องการสิ้นสภาพการเป็น ส.ส. ในกรณีที่มีสภาแล้ว สภาพการเป็น ส.ส. ของพรรคนั้นๆ จะหมดสิ้นลงทันทีที่โดนยุบพรรค
แต่สภาพการเป็น ส.ส. ยังไม่ได้หมดสิ้นไป เพราะกฎหมายเปิดโอกาสให้หาสังกัดพรรคใหม่ได้

ดังนั้น กรณีนี้ ไม่น่าจะต้องตีความค่ะ

อย่างที่คุณริดกุนยกข้อกฎหมายมา พูดถึง ส.ส. ไม่ได้แบ่งแยกว่า เป็น ส.ส. เขต หรือ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพราะเมื่อเข้ามาเป็น ส.ส. แล้ว สมาชิกภาพเท่าเทียมกันหมดค่ะ ไม่ว่า ส.ส. แบบไหน ก็เป็นนายกฯ ได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องมาจากบัญชีรายชื่อเท่านั้น

เคยได้ยินมาว่าเป็นเช่นนี้เหมือนกันครับ

เพราะฉะนั้นในความคิดผม ขอยืนยันด้วยคนครับ ว่าไม่หมดสมาชิกภาพ