วันพฤหัสบดีที่ 03 สิงหาคม พ.ศ.2549
ความจริงทางเศรษฐกิจ กับถ้อยแถลงและคำชี้แจงของหน่วยงานภาครัฐ ดูจะเดินสวนทางกันถึงขั้นอาจกล่าวได้ว่าหน่วยงานภาครัฐชอบกล่าวเท็จหลอกลวงชาวบ้าน
รูปธรรมที่สะท้อนความเป็นจริงทางเศรษฐกิจให้เป็นที่ประจักษ์ สามารถสัมผัสรับรู้ได้ชัดเจนจากฐานะประกอบการของภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของประเทศ ที่ย่อบแย่บย่ำแย่ลงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา
รายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับให้เป็นกิจการที่ครอบครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในระบบเศรษฐกิจ ล้วนชี้ชัดถึงความซูบซีดลงจนน่าเป็นห่วง
กิจการธนาคารพาณิชย์ โดยส่วนใหญ่ ต่างก็ยอมจำนนต่อชะตากรรมของเศรษฐกิจ ถึงขั้นต้องปรับเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อ เพื่อความปลอดภัยของกิจการกันโดยทั่วหน้า
ตัวเลขเป้าหมายสินเชื่อในระบบธนาคารพาณิชย์ ที่ถูกปรับลดลงและเป็นที่เปิดเผยออกมาอย่างแจ้งชัดแล้วคือสินเชื่อภาคอสังหาริมทรัพย์
แนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในรอบปี 2549 นี้ จะถูกกดดันจากปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวในอัตราที่ชลอตัวลงอย่างรุนแรง เมื่อเทียบกับปี 2548 โดยลดระดับอัตราการขยายตัวลงจากร้อยละ 15 ในปี 2548 มาเหลือไม่เกินร้อยละ 8 ในปีนี้ หรือเท่ากับการเติบโตของสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์หายไปเกือบร้อยละ 50
หันไปดูที่ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ก็ชัดเจนว่าตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ในขวบปีนี้จะไม่สวยสดงดงามอย่างที่เคยวาดฝันเอาไว้
ในทางตรงกันข้าม กระทรวงการคลังกลับยืนยันความสดใสของเศรษฐกิจในระยะ 2 ไตรมาสแรกของปีนี้ โดยระบุว่ามีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 5-6 พร้อมกับแสดงความมั่นใจในอนาคตการเติบโตของเศรษฐกิจปี 2550 ด้วยว่าน่าจะเติบโตได้ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6 คำยืนยัน หรือความคาดหมายของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับสุขภาพเศรษฐกิจ ดูจะย้อนศรสวนทางความจริงอย่างน่าเป็นห่วง
หากใครหลงเชื่อเป็นตุเป็นตะตามกระทรวงการคลัง และรู้ไม่เท่าทันความจริงที่กำลังเป็นไปทางเศรษฐกิจ แล้วหลวมตัวนำข้อมูลของกระทรวงการคลังไปประกอบการวางแผนทำมาหากิน จะมีโอกาสได้รับความเสียหายอย่างมาก
เบื้องลึกที่ซ่อนอยู่ภายใต้ "การยอวาทีเศรษฐกิจ" ของกระทรวงการคลัง มิได้มีคำเฉลยให้เป็นที่ชัดเจนเลยว่าอะไรคือปัจจัยที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้อ้วนท้วนบริบูรณ์ มีอัตราการเติบโตมโหฬารระดับร้อย 5-6 ในเมื่อตัวเลขกำลังซื้อภาคประชาชน และตัวเลขการลงทุน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในสมการชี้วัดความมั่นคงแข็งแรงของเศรษฐกิจ ล้วนแล้วแต่อ่อนเปลี้ยพอกัน
หยุดทำบาปกับชาวบ้าน หยุดแหกตาชาวบ้านซะทีเถอะนะ คิดซะว่าเห็นแก่ชาวบ้านตาดำๆก็แล้วกัน ! http://www.siamturakij.com/book/index.php?option=com_content&task=view&id=6567