สกู๊ป : อยากจะฝัน
โหรก็คือโหร
โหร โสภณ พงษ์เจริญ ทำนายเอาไว้แบบไม่กลัวผิดว่า ทักษิณ ชินวัตรฐ จะสูญเสียเก้าอี้ในวันที่ 26 ก.ค. ซึ่งตรงกับวันเกิด หากพลาดจากวันนี้ก็จะเป็นวันที่ 28 ก.ค. และถ้าพลาดอีกก็ไม่เกินเดือนตุลาคมปีนี้
ก็แปลกดี ยิ่งใกล้วันเกิด ความเป็นไปทางการเมืองก็ยิ่งยุ่งยากซับซ้อน มีเหตุที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิด ได้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันที่ 18 ก.ค. มีเรื่องเกิดถาโถมเข้าเขย่า เสถียรภาพ ของตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลายกรณี
แต่เช้า มีข่าว 7 รัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์, สมศักดิ์ เทพสุทิน, สุรนันท์ เวชชาชีวะ, สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, พินิจ จารุสมบัติ, ปรีชา เลาหพงศ์ชนะ, จาตุรนต์ ฉายแสง นัดกันไปกินข้าวที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยนหรู paesano ปากซอยต้นสน สุมขุมวิท เล่นเอาคอการเมืองเช็คข่าวกันวุ่นคืออะไร และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อทักษิณ ออกจากห้องประชุมครม.แล้วได้เรียกประชุมด่วนแกนนำพรรคในตอนบ่าย
สุรเกียรติ์ ปฏิเสธไม่ได้ไป ขณะที่พวกอริกิ๊วก๊าวกันใหญ่ ไทยรักไทยจะล่มแล้ว
ส่วนความเคลื่อนไหวภายนอกก็แรงอย่างน่าตกใจ โดยเฉพาะคำเทศน์ของ หลวงตามหาบัว ที่วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี ในตอนเช้าวันเดียวกัน ซัดทักษิณเต็มๆ ในเรื่องที่เกี่ยวกับจะแฉสถาบันเบื้องสูงหากไม่เซ็นหนังสือที่ส่งขึ้นไป
การพูดครั้งนี้ทักษิณไม่น่าจะเฉยอยู่ได้ เพราะร้ายแรงมาก ก็น่าจะได้เห็นฆราวาสกับสงฆ์ได้เป็นความกันแน่
ขณะเดียวกัน สมัคร สุนทรเวช ก็ได้พูดออกวิทยุเอฟเอ็ม 105 เมื่อตอนบ่าย เรื่องทฤษฎีจ๊อกกี้ยาวเหยียด
สายๆ พล.ท.สะพรั่ง กัลยาณมิตร แม่ทัพภาค3 ได้ไปพูดกับนักศึกษาม.นเรศวร พิษณูโลกแรงมากเช่นกัน
ทุกวันนี้การเมืองประเทศไทยยังไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีผู้นำประเทศ ไม่มีฝ่ายความมั่นคงที่เข้มแข็ง
ประเทศไทยปัจจุบันเป็นประชาธิปไตยแบบหลอกๆ การเมืองทำเพื่อให้ได้มาเพียงคำว่าประชาธิปไตย
ส่วน เว็บไซต์ รีพอร์ตเตอร์ ก็ได้เปิดฉากปะทะกับเว็บไซต์ผู้จัดการ อย่างเปิดเผยแล้ว ว่าด้วยเรื่องที่เว็บผู้จัดการนำเรื่องหนังสือพ็อกเก็ตบุคต้องห้าม จากต่างประเทศ มาเสนอต่อเนื่อง 2 วัน
รีพอร์ตเตอร์ซัดว่า เคยมีพระราชกฤษฎีกาห้ามนำเข้าและเผยแพร่หนังสือที่ละเมิดเบื้องสูงนี้แล้ว แต่เว็บผู้จัดการฝ่าฝืน พร้อมลงสำเนาคำสั่งห้ามของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติประกอบให้ดูด้วย
และเหลือเชื่อ ในวันเดียวกันนี้ ในขณะที่ ชาญชัย ลิจิตจิตถะ ประธานศาลฎีกา กับ อักขราทร จุฬารัตน ประธานศาลปกครองสูงสุด กำลังรับประทานอาหารเที่ยง เพื่อหารือสถานการณ์การเมือง และเสร็จการหารือแล้ว จรัญ ภักดีธนากุล เลขาธิการประธานศาลฎีกาได้ให้ข่าวว่า
ศาลยังคงย้ำจุดยืนเดิม คือ ให้กกต.ลาออกจากตำแหน่ง ตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย เพื่อให้ประชาธิปไตยเข้าสู่ครรลองปกติ โดยยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งศาลจะไม่เข้าไปก้าวก่ายการพิจารณาคดีต่างๆ เกี่ยวกับ กกต.
ช่วงเวลาเดียวกันนี้ได้มีประชาชนประมาณ 100 คน เรียกตัวเองว่า กลุ่มพลังประชาชน 16 ล้านเสียง ได้ไปชุมนุมที่หน้าศาลฎีกา เรียกร้องให้ จรัญ ภักดีธนากุล ลาออกจากตำแหน่ง กล่าวหาว่าดูถูกประชาชน ถูกพรรคไทยรักไทยซื้อเสียงหัวละ 1,000 บาท
พร้อมประกาศ เช้า 19 ก.ค. จะไปแจ้งความที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีเลขาธิการประธานศาลฎีกา ในความผิดดังกล่าวด้วย
ดูแล้วสถานการณ์ประเทศชาติ เขม็งเกลียวเหลือเกินแล้ว
ต่างดาหน้าเข้าหากันอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังดีที่ บรรหาร ศิลปะอาชา นักการเมืองอาวุโสที่มีเรตติ้งสูงสุดในเวลานี้ ได้รับแล้วที่จะเป็น ตัวกลางไปพูดคุยกับ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อหาทาง สมานฉันท์ กับทุกฝ่าย ทุกพรรค ให้บ้านเมืองคืนสู่ความสงบสุขเสียที
ก็ต้องมาคุยกันก่อนว่าต้องการให้สมานฉันท์ออกมาในรูปแบบไหน
ขณะที่ ทักษิณก็หวานกลับเข้าใส่เต็มที่
กำลังหาเวลาว่างคุยกันอยู่ เข้าใจว่าท่านบรรหารกำลังจะเดินทางไปต่างประเทศ
ก็หวังและอยากจะฝัน อยากให้เป็นจริง อยากให้บ้านเมืองสงบ
นายกฯ ทักษิณ พูดประโยคนี้ด้วยแววตาจริงใจ กระตือรือล้น
วิจิตรา
http://www.banmuang.co.th/politic.asp?id=85158ถ้าตัดเอา ข้อความสมานฉันแบบเพ้อฝันออกไป
น่าจะเห็นสภาวะความเป็นจริง ที่เขม็งเกลียวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
(วันนี้พันธมิตรแถลงไล่แม้ว นัดเคลื่อนไหว..)