โฆษกตำรวจสยบข่าวลือโยกย้ายตำรวจยศนายพลหลายตำแหน่งสำคัญ ทั้ง ผบช.น. และ เสรีพิศุทธ์ ย้ำชัดรักษาการนายกรัฐมนตรีปลด ผบ.ตร.ไม่ได้ ผิดมารยาททางการเมือง พร้อมปัดข่าวตัวเองเตรียมถูกดันขึ้นเป็น รอง ผบ.ตร.เพื่อเกษียณยศพลตำรวจเอก
วันนี้ (17 ก.ค.) พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกระแสข่าวการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจระดับ พล.ต.อ.-พล.ต.ท.ประจำปี 2549 ซึ่งจะมีการแต่งตั้งและโยกย้ายสลับตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น โดยเฉพาะข่าวที่ว่า พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายที่ประเทศจีน เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะเริ่มจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายหลังเดินทางกลับจากประเทศจีนในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ในวันที่ 27 กรกฎาคม โดยจะมีการแต่งตั้งโยกย้ายทุกตำแหน่งให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 1 ตุลาคม
ข่าวการปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกจากตำแหน่งนั้น ตามระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2540 กำกับไว้ว่า รักษาการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถทำได้ และการปลดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรือโยกย้ายไปรับตำแหน่งอื่น มักไม่นิยมทำกันในช่วงรัฐบาลรักษาการ เพราะถือว่าผิดมารยาททางการเมือง พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าว โฆษก สตช.ยังกล่าวถึงข่าวที่ว่าจะมีการโยกย้ายสลับตำแหน่งระหว่าง พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. กับ พล.ต.ท.มนตรี จำรูญ ผบช.ก. เพื่อลดกระแสกดดันจากการจับบ่อนในพื้นที่นครบาลว่า เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น รวมถึงข่าวการย้าย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จเรตำรวจแห่งชาติ ไปเป็นที่ปรึกษา (สบ.10) เพื่อลดบทบาทการทำงานที่เป็นเพียงข่าวลือเช่นกัน ในขณะที่ข่าวว่าตนจะได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งจะทำให้ได้รับยศพลตำรวจเอกก็เป็นเพียงการคาดการณ์
โดยส่วนตัวผมไม่ปรารถนาที่จะขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเคยยื่นเจตจำนงต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้วว่าจะขอเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด ซึ่งจะทำให้ได้รับยศพลตำรวจเอกเช่นกัน แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้ยับยั้งไว้เพื่อขอให้ทำงานต่อไปก่อน พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ย้ำ
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9490000091612"อชิรวิทย์"
กล้าเตือนแม้วตรงๆ