http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9490000090161จดหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีไปยังผู้นำหลายประเทศซึ่งพยายามปกปิดกันไว้ได้ถูกเปิดเผยอย่างต่อเนื่อง และนักจิตวิทยาจำนวนมากก็เห็นว่าเป็นเรื่องของความผิดปกติทางจิตที่ต้องการฟื้นการยอมรับจากต่างประเทศเท่านั้น
ท่าทีต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้สรุปผลได้ชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียหายย่อยยับและยับเยิน หมดสิ้นความชอบธรรม หมดสิ้นฐานะความเป็นผู้นำและทำให้คนจำนวนมากขึ้นเชื่อว่ามีความไม่ปกติทางจิตใจ
แต่กระแสความรู้สึกของประชาชนซึ่งมีต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่วนหนึ่งนั้นน่าจับตาอย่างยิ่ง เพราะเริ่มเปลี่ยนแปลงท่าทีจากแค่ต้องการขับไล่ให้ออกจากอำนาจ กลายเป็นเรียกร้องต้องการที่จะเอาชีวิตกันแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงนี้น่าวิตกอย่างยิ่ง เพราะกำลังชักพาให้สังคมไทยก้าวไปสู่ความรุนแรง แต่ถ้าจะพิจารณาในแง่กฎทางวิทยาศาสตร์หรือกฎทางฟิสิกส์ก็จะเห็นความเป็นธรรมชาติว่าปฏิกิริยาเท่ากับกริยา หรือที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Re-action maybe equal to action.
ถ้าเป็นชาวพุทธก็คือทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นเสมอ
แค่คนจำนวนหนึ่งคิดเท่านั้นก็เกิดความรู้สึกหวาดผวาขึ้นจนถึงกับมีการปล่อยข่าวลือว่ามีการจ้องลอบสังหารเป็นตุเป็นตะ ซึ่งทำให้เกิดสภาพน่าหวาดกลัวขึ้นในประเทศไทยและกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุนทั้งปวง
ผู้บัญชาการทหารบกจึงต้องออกมาลดน้ำหนักของข่าวนี้ว่าเป็นเพียงข่าวลือ ในขณะที่วงการข่าวกลับเห็นว่าเป็นการปล่อยข่าวของคนเป็นโรคจิตที่มีความหวาดวิตกอย่างรุนแรงเท่านั้น
นายทักษิณได้สร้างกรรมทำเข็ญอะไรไว้มากมายขนาดนั้นหรือจึงต้องเผชิญหน้ากับวิบากกรรมอันทุกข์ทรมาน ไม่ต่างอะไรกับถูกไฟนรกเผาผลาญทั้งเป็นอยู่ในขณะนี้
ท่านเจ้าคุณเปลวสีเงินของเราได้เปิดประเด็นที่แหลมคมจากจดหมายรักของนายทักษิณถึงประธานาธิบดีบุชเกี่ยวกับเจตนาลึก ๆ ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงราชอาณาจักรไทยให้เป็นอย่างอื่น และก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง
เราเองก็เห็นเช่นนั้น และต้องบอกกล่าวให้คนไทยทั้งประเทศได้รู้ว่าจดหมายถึงประธานาธิบดีบุชดังกล่าวนั้นนอกจากเป็นการกล่าวหาว่าร้ายคนไทยและคนที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบทักษิณอย่างหน้าด้านที่สุดแล้ว ยังอาจเป็นการหยั่งเชิงเพื่อรู้ท่าทีของมหาอำนาจในเรื่องสำคัญด้วย
นั่นคือเป็นการหยั่งเชิงต่อผู้นำสหรัฐอเมริกาว่าถ้าประเทศไทยไม่ใช่ราชอาณาจักรแล้ว สหรัฐอเมริกาจะมีความเห็นว่าอย่างไร?
ในจดหมายรักนี้นายทักษิณได้ระบุตำแหน่งของตนว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยเท่านั้น โดยจงใจตัดคำว่าราชอาณาจักรออกไป
เป็นการกระทำโดยรู้สำนึก โดยไม่ใช่ความพลั้งพลาดหรือผิดหลงในแง่การใช้ภาษา แต่เป็นการตั้งใจที่จะหยั่งเชิงผู้นำสหรัฐอเมริกาว่าการที่นายทักษิณระบุฐานะตนเองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยมิใช่ราชอาณาจักรไทยแล้ว ประธานาธิบดีบุชจะมีท่าทีตอบอย่างไร
เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปมั่วตามผู้คนในพรรคไทยรักไทยเกี่ยวกับฐานะของจดหมายนี้ว่าเป็นจดหมายส่วนตัวหรือจดหมายราชการ
แต่การเตรียมการยกร่างจดหมายนี้ การตรวจร่างนี้ และการพิจารณาชั้นสุดท้ายของจดหมายนี้ย่อมผ่านการไตร่ตรองเป็นอย่างดีในเรื่องภาษาแล้ว ไม่มีทางที่จะอ้างความผิดพลาดทางภาษาเป็นข้อแก้ตัวได้
ข้อความในจดหมายจึงเป็นเจตนาโดยตรงที่ไม่อาจโต้เถียงเป็นอย่างอื่นได้
หากประธานาธิบดีบุชตอบในลักษณะที่ยอมรับนายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย มิใช่นายกรัฐมนตรีของราชอาณาจักรไทยแล้ว ก็จะรู้เชิงกันว่าถ้ามีการเปลี่ยนแปลง ราชอาณาจักรไทย เป็นประเทศไทย หรือจากภาษาอังกฤษที่ว่า The Royal Kingdom of Thailand เป็น Thailand สหรัฐอเมริกาก็จะให้การรับรอง
การจะเปลี่ยนเช่นนั้นได้ก็ต้องล้มสถาบันกษัตริย์หรือทำให้กษัตริย์เป็นแค่ตรายางตามที่ถูกระบุไว้ในปฏิญญาฟินแลนด์
การหยั่งเชิงเช่นนี้จึงไม่ธรรมดา และคนไทยทั้งประเทศจะต้องรู้เช่นเห็นชาติในเรื่องนี้
เหล่าทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และคนไทยทั้งประเทศจะต้องรู้เรื่องนี้และต้องเข้าใจด้วยว่านี่คือเรื่องการเมืองที่พรรคการเมืองต่อสู้แข่งขันกัน หรือเป็นความคิดที่ต้องการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์และเปลี่ยนราชอาณาจักรไทยให้เป็นอย่างอื่นกันแน่
ผลการหยั่งท่าทีนี้ปรากฏว่าประธานาธิบดีบุชไม่เล่นด้วย! คือไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงราชอาณาจักรไทยหรือการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่มีการหยั่งเชิงไป
จดหมายตอบของประธานาธิบดีบุชจึงระบุถึงนายทักษิณว่า นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย นั่นคือไม่ยอมรับการหยั่งเชิงในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
หน้าแตก หน้าแหกเย็บไม่ติด!
นายทักษิณคิดแต่เพียงว่ามีเงินมีทองแล้วจะโน้มน้าวใจใครต่อใครให้ยอมทำตามความต้องการของตนได้
นายทักษิณไม่รู้หรอกว่าความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐอเมริกานั้น อดีตพระบูรพมหากษัตริย์ทรงสถาปนาร่วมกับอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
นายทักษิณลืมไปแล้วว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประสูติที่สหรัฐอเมริกา เมื่อครั้งที่เสด็จเยือนสหรัฐอเมริกาทรงตรัสว่า ทรงดีใจที่ได้กลับมาบ้าน นี่คือความลึกซึ้งระหว่างความสัมพันธ์ของประมุขทั้งสองประเทศ
และนายทักษิณก็คงไม่รู้ว่าจดหมายที่แอบส่งไปนั้นเป็นข่าวขึ้นในประเทศไทยเพราะการบัญชาของใคร?
เอาเป็นว่าในเรื่องนี้ประธานาธิบดีจอร์จ บุช แห่งสหรัฐอเมริกามีจุดยืนร่วมและอย่างเดียวกันกับสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย
หมดเวลาของคนบ้าแล้ว ประเทศไทยและคนไทยพินาศฉิบหายวายวอดจนไม่อาจจะปล่อยเวลาให้เนิ่นนานไปได้อีกแล้ว! ใครมีภาระหน้าที่อะไรเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ต้องเร่งมือเร่งทำ
เพื่อนำความสงบสุขกลับคืนประเทศไทยโดยเร็วที่สุด.