ทัศนะวิจารณ์
กาแฟดำ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551 05:00:00
กระทรวงต่างประเทศต้อง ไม่เป็นขี้ข้ารัฐบาลกระหายเลือด :
ผมไม่กล้าฟังนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐมนตรีต่างประเทศ สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ชี้แจงกับเหล่าทูตานุทูต เรื่อง "ตุลาคมทมิฬ"ที่ทำให้เพื่อนร่วมชาติตายและบาดเจ็บกว่า 400 คน เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ :
โฆษกกระทรวงต่างประเทศบอกว่า นายกฯ และ รมต. ต่างประเทศ จะเป็นคนอธิบายเรื่องนี้กับนักการทูตที่อยู่ประจำกรุงเทพฯ เอง เวลา 10 นาฬิกา เมื่อวานนี้
ที่ผมไม่กล้าฟังเพราะผมอายแทนผู้นำประเทศ ที่ยังกล้ายืนชี้แจงกับนักการทูตทั้งๆ ที่ตัวเอง จะต้องแสดงความรับผิดชอบ ต่อการปราบปรามผู้ประท้วงอย่างรุนแรงเช่นนี้... เพราะความชอบธรรมของคุณสมชาย ในฐานะนายกฯ นั้น หมดสิ้นลงไปเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้แล้ว คนเป็นรองนายกฯ ที่ชื่อ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ยังแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ทำไมคนเป็นนายกฯ จึงไม่สำนึก...โดยเฉพาะเมื่ออ้างว่ามาโดยระบอบประชาธิปไตย ที่มีประชาชนเป็นใหญ่ และความชอบธรรมอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ยิ่งโฆษกกระทรวงต่างประเทศบอกว่า ได้ชี้แจงผ่านสถานทูตไทยทั่วโลก ว่า เหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมนั้น เป็นเรื่อง "จำกัดพื้นที่เท่านั้น" และ "ไม่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยเฉพาะคนต่างประเทศ" ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกหน้าชาในฐานะเป็นพลเมืองไทย เพราะคำว่า "จำกัดพื้นที่" นั้น คือ
การมองอย่างนักการเมืองที่มีหัวใจเป็นทรราช
เหมือนจะบอกว่า รัฐบาลสามารถฆ่าประชาชนได้ ถ้าหากต้อนไปที่มุมใดมุมหนึ่งของประเทศ
"จำกัดพื้นที่" ได้อย่างไรครับ ในเมื่อผู้ประท้วงถูกไล่ตี ถูกพิษแก๊สน้ำตา และระเบิดลูกเกลี้ยงขว้างใส่จนบาดเจ็บกว่า 400 คน และตายอีกหลายศพ
"จำกัดพื้นที่" ได้อย่างไร ในเมื่อคนที่มาร่วมประท้วงรัฐบาล ตั้งแต่สมัยทักษิณ ผ่านมายังสมัคร และวันนี้สมชายนั้น มาจากทั่วประเทศและทุกวงการของสังคมไทย
"จำกัดพื้นที่" ภาษาอะไรในเมื่อทีวีทุกช่อง วิทยุทุกคลื่น และหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ รายงานข่าวเรื่องนี้อย่างละเอียดทุกนาที พอกระทรวงต่างประเทศ มีรัฐมนตรีเป็นนักการเมืองของพรรคพลังประชาชน ทำไมจึงกลายเป็น "ขี้ข้าทางปัญญาของนักเลือกตั้ง" ที่พยายามจะปกป้องตัวเองอย่างไร้สติอีกแล้ว
คนกระทรวงต่างประเทศ ต้องกอบกู้สถานภาพ และความน่าเชื่อถือของตัวเอง และไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีให้กับนักการเมืองอีกวาระหนึ่ง ด้วยการอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศอย่างงี่เง่า และไร้ความรับผิดชอบเช่นนี้
ไม่มีนักการทูตที่มีสติปัญญาคนไหนจะเชื่อสิ่งที่นายกฯ สมชาย หรือรัฐมนตรีสมพงษ์ พยายามอ้างว่า เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาฯ เป็นเรื่อง "จำกัดพื้นที่" และเป็นเรื่องของคนกลุ่มเล็กๆ จำนวนหนึ่งเท่านั้น
เพราะไม่ว่าจะเป็นสื่อ นักวิชาการ นักคิดนักวิเคราะห์สังคม องค์กรเอกชนที่เป็นอิสระทางความคิดของตน ต่างก็ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของรัฐบาลครั้งนี้ทั้งสิ้น...และนักการทูตต่างประเทศที่อยู่เมืองไทยเขาได้อ่าน ฟัง และดูข่าวคราวเรื่องนี้อย่างรอบด้าน
นายกฯ พูดเข้าข้างตัวเอง เพราะเป็นนักการเมือง
นักการทูตเขาแยกแยะได้ว่า ใครโกหก ใครตอแหล
แต่กระทรวงต่างประเทศในฐานะเป็นข้าราชการประจำ กินเงินเดือนประชาชน และอยู่ในตำแหน่ง เพราะความเป็นมืออาชีพที่สังคมยอมรับ ย่อมจะทำตัวเป็นข้าทาสของนักการเมือง เป็นกระบอกเสียงเพี้ยนๆ ของรัฐบาล ที่เข่นฆ่าประชาชนไม่ได้
ผมยังชื่นชม คุณเตช บุนนาค ที่เมื่อเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศระยะสั้นๆ นั้น ได้แสดงความเป็นมืออาชีพของตัวเอง ด้วยการออกแถลงการณ์ในนามกระทรวงต่างประเทศ ตอบโต้คำแถลงของทักษิณ ที่กล่าวหาว่าระบบยุติธรรมของไทยถูกการเมืองแทรกแซง
คุณเตช ออกแถลงการณ์ด้วยความเชื่ออย่างนั้นจริงๆ ในฐานะเป็นคนไทยที่มีความรับผิดชอบคนหนึ่ง และแม้จะต้องเสี่ยงที่จะเป็นศัตรูกับทักษิณ หรืออาจจะโดนนายกฯ ขณะนั้น คือ สมัคร สุนทรเวช ปลดออก ก็พร้อมจะรับผลเช่นนั้น
เพราะการเป็นมืออาชีพนั้น ต้องมีจุดยืนหนักแน่นและมั่นคงของตนเองต่อสาธารณชน ไม่ใช่เอาตัวรอดด้วยการยอมหงอต่อนักการเมืองไร้คุณภาพอย่างที่เราเห็นอีกครั้งหนึ่งในกระทรวงต่างประเทศในกรณีนี้
ถ้าหากเหตุการณ์ "ตุลาคมทมิฬ" เมื่อวันที่ 7 ตุลาฯ เป็นเพียงเรื่องเกิด "จำกัดพื้นที่" อย่างที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศบอกกับชาวโลก ลองวาดภาพดูซิครับ ว่า ถ้ามัน "ไม่จำกัดพื้นที่" ขึ้นมาเมื่อไร ประเทศไทยจะเหลืออะไร (ทางออกประเทศไทยหลัง "ตุลาคมทมิฬ" คืออะไร เข้ามาตรวจสอบได้ที่
www.oknation.net/blog/black ตลอด 24 ชั่วโมง)
http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/09/news_301534.phpประเทศไทยไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีโกหก หน้าด้าน ไร้ยางอายต่อหน้าคณะฑุตต่างชาติ พรรค์นี้......!!!
ประเทศไทย คนไทยต้องอับอายขายหน้าชาวต่างชาติอีกนานเท่าใดที่เคราะห์กรรมมีนายกฯพรรค์นี้ และ ข้าราชการกระทรวงต่างประเทศที่โกหกพกลมเหมือนแม่ค้าในตลาด ผู้หญิงหาดื่มในคาแฟ่......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า