จะเลือกตั้งทำไม? โดย โสภณ องค์การณ์
http://www.nationweekend.com/2006/06/30/NW14_447.phpเรื่องยุบพรรคการเมือง นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ เมื่อเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาร้ายแรงเช่นเป็นภัยต่อความมั่นคง การพัฒนาระบอบประชาธิปไตย หรืออะไรก็แล้วแต่ ถ้อยคำสวยหรูซึ่งนักกฎหมายคิดค้น หรือลอกเอามาจากประเทศอื่น เพื่อใส่ไว้ในกฎหมายรัฐธรรมนูญในบ้านเรา
เรามีนักกฎหมายหลากหลายพื้นเพ ดังนั้น กฎหมายรัฐธรรมนูญของเราจึงมีบทบัญญัติเยอะแยะ ครอบคลุมไปทุกเรื่อง อันที่จริงเราน่าจะมีรัฐธรรมนูญแบบง่ายๆ เป็นที่น่าสนใจของประชาชน เพื่อให้ศึกษาและยึดมั่นว่าเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ
เรามีประสบการณ์เยอะ หลังจากรัฐธรรมนูญถูกล้มล้างหลายครั้งในประวัติศาสตร์การรัฐประหาร มีทั้งสำเร็จและล้มเหลว รวมกันแล้วไม่น่าจะน้อยกว่า 16 ครั้ง ถือว่าเกินตัวสำหรับประเทศด้อยพัฒนาประชาธิปไตย ถูกครอบงำโดยนักการเมืองน้ำเน่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพียงแต่ว่ายุคนี้มีความแตกต่าง เพราะการทุจริต โกงบ้านกินเมือง มากจนถึงขั้นวิปริตเสี่ยงต่อการสิ้นชาติ แม้พฤติกรรมด้านน้ำเน่าจะไม่ลดก็ตามยุบหรือไม่ยุบ? ยังเป็นข้อถกเถียงกันมากมาย พวกมองโลกในแง่คุ้มดีคุ้มร้ายบอกว่า "ยุบให้หมดนั่นแหละดี จะได้ล้างไพ่ใหม่"
เชื่อเถอะ! ต่อให้ล้างไพ่จนมือเปื่อย เราก็ได้พวกหน้าเดิม หรือทายาทอสูรเข้ามาแทนพญามารรุ่นเก่าเก๋ากึ้ก เขี้ยวลากดิน เกล็ดแตกลายงา หน้าหนากว่าหนังแรด โกงกินไม่รู้จักพอถ้ายุบพรรคแล้ว เอาตัวคนทำผิด หรือคนรับผิดชอบพรรคไปเข้าคุกรับโทษ จึงจะคุ้มกับการเสียเวลา อารมณ์ในการรับรู้พฤติกรรมเลวร้ายปนไร้สาระไม่อยากฟังการวินิจฉัยแล้วลดโทษ ตามแบบกระบวนการยุติธรรม เช่น "เนื่องจากผู้ต้องหาได้เคยกระทำคุณงามความดี รับราชการเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง สมควรให้ลดโทษกึ่งหนึ่ง...." หรืออะไรทำนองนี้
ถ้าทำงานยาวนานขนาดนั้น รู้ข้อกฎหมายหรืออะไรมากกว่าชาวบ้าน แล้วยังกระทำความผิด สมควรต้องเพิ่มโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ห้ามมีสิทธิได้ลดโทษ หรือการอภัยทุกกรณี จะได้เป็นเยี่ยงอย่าง
เราจะเห็นนักการเมืองได้รับการรอลงอาญาซ้ำซาก ไม่เคยต้องเข้าคุกอย่างจริงจัง และทำให้จิตสำนึกไม่ได้รับการปรับปรุงเหมือนเดิม
ขนาดถูกศาลตัดสินให้ถูกจำคุกแท้ๆ แต่รอการลงอาญา ก็ยังหน้าด้านตะแบงเถียงฉอดๆ ว่า "เมื่อไม่ติดคุก ก็เหมือนไม่ได้กระทำความผิด ไม่ต้องลาออกจากตำแหน่ง"
ด
ังนั้น เราจึงมีอาชญากรตัวกลั่นดำรงตำแหน่งเสนาบดี มีคนกราบไหว้ เกรงอก เกรงใจ ถ้ามีเงินติดอันดับอภิมหาเศรษฐีด้วยแล้ว คนยิ่งยำเกรงในอำนาจวาสนา นักการเมืองประเภทยอดยี้จึงได้ดิบได้ดี เป็นขวัญใจของผู้ทรงอิทธิพล