ชมรมอาสาสมัครอุทยาน 25/9 ซ.เสรีไทย 19 ถ.เสรีไทย เขตบึงกุ่ม กทม.10240 โทร.02-3779318
วันที่ 2 ตุลาคม 2551
เรื่อง
ขอคัดค้านการนำอุทยานแห่งชาติเข้าร่วมโครงการความร่วมมือในการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเรียน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตามที่เมื่อวันที่
3 มิถุนายน 2551 คณะรัฐมนตรี(ชุดนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี)ได้มีมติอนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือในการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (PPP : Public Private Partnership Committee) เพื่อขับเคลื่อนการจัดทำความร่วมมือในการร่วมทุนในโครงการลงทุนสำคัญในภาครัฐระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และต่อมาวันที่
4 มิถุยายน 2551 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือในการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เห็นชอบในหลักการโครงการนำร่อง 3 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(บางปะอิน-โคราช) (2) โครงการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ และ (3)
โครงการบริหารจัดการอุทยานเพื่อให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ โดยสามารถมีสัญญาระยะยาวเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ต่อมาเมื่อวันที่
2 กรกฎาคม 2551 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พิจารณาจัดทำโครงการนำร่องด้านการส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมบริการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ หลังจากนั้นกรมอุทยานแห่งชาติฯได้แต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการด้านการส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมบริการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย และท้ายที่สุดเมื่อวันที่
24 กันยายน 2551 กรมอุทยานแห่งชาติฯได้จัดประชุมสัมมนาเวทีสาธารณะเรื่อง
การส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมบริการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติตามระเบียบอุทยานแห่งชาติฯว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการการท่องเที่ยวและพักอาศัยในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2547 เพื่อเสริมสร้างความรู้และการระดมความคิดเห็นให้แก่ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งนับตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้เผยแพร่ไปสู่สาธารณชนก็ได้รับการคัดค้านจากประชาชน ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก และเกิดการโต้เถียงอย่างกว้างขวาง นั้น
ชมรมอาสาสมัครอุทยาน
ขอคัดค้านโครงการนำร่องด้านการส่งเสริมให้เอกชนเข้าร่วมบริการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ ด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง ดังนี้
1.เหตุผลและเจตนารมณ์ในการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติทุกแห่ง คือ เพื่อการคุ้มครองให้สภาพทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ ให้คงอยู่ในสภาพธรรมชาติเดิม มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป เพื่ออำนวยประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่รัฐและประชาชนสืบไป(ที่มา : เหตุผลท้าย พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504) อุทยานแห่งชาติทุกแห่งมิได้มีเหตุผลและเจตนารมณ์ในการจัดตั้งเพื่อการลงทุนสำคัญในภาครัฐ(mega-project)หรือเพื่อการแสวงหาหากำไรแต่อย่างใด หากมีจะมีการลงทุนของประชาชนท้องถิ่นอยู่บ้างก็เพียงเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องอาหารและเครื่องดื่มตามสมควรแก่สภาพความต้องการพื้นฐานของนักท่องเที่ยวผู้รักและต้องการใกล้ชิดธรรมชาติเท่านั้น แต่สำหรับนักท่องเที่ยวผู้ต้องการหาความสะดวกสบายเป็นพิเศษในด้านที่พักและอาหารนั้น สามารถหาได้ตามโรงแรมและรีสอร์ทที่มีอยู่เป็นจำนวนมากโดยรอบอุทยานฯอยู่แล้ว 2.กรมอุทยานแห่งชาติฯ มิได้เป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจ และ พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 ก็มิได้ให้อำนาจหน้าที่ในด้านการลงทุนแก่กรมอุทยานแห่งชาติฯแต่อย่างใด ดังนั้นกรมอุทยานแห่งชาติฯจึงไม่สามารถร่วมมือในการร่วมทุนในโครงการลงทุนสำคัญในภาครัฐระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนกับเอกชนได้
3.แม้ว่าในขณะนี้ได้มีเอกชนรายย่อยจำนวนมากเข้าไปดำเนินกิจการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม และบริการนำเที่ยวในอุทยานแห่งชาติตามระเบียบอุทยานแห่งชาติฯ ว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการการท่องเที่ยวและพักอาศัยในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2547อยู่แล้ว ก็เป็นเพียงการลงทุนของส่วนเอกชนรายย่อย มิได้เป็นการร่วมลงทุนกับอุทยานแห่งชาติแต่อย่างใด 4.
ระเบียบอุทยานแห่งชาติฯว่าด้วยการอนุญาตให้เข้าไปดำเนินกิจการการท่องเที่ยวและพักอาศัยในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2547 โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 มาตรา 16 (13) นั้น มีไว้สำหรับการอนุญาตให้เอกชนรายย่อยทั่วไปเข้าไปดำเนินกิจการในระยะสั้น ทั้งนี้เพื่อเป็นหลักประกันอย่างหนึ่งว่าหากเกิดผลกระทบใดๆขึ้น ธรรรมชาติก็จะจะไม่เสียหายมากนัก มิได้มีเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินกิจการการท่องเที่ยวแบบสัญญาระยะยาวแต่อย่างใด
จากเหตุผลและข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้น ชมรมอาสาสมัครอุทยานเห็นว่า กรณีการคัดค้านและการโต้เถียงที่เกิดขึ้นครั้งนี้ น่าจะเกิดจาก (1) ความเข้าใจเจตนารมณ์และเหตุผลการจัดตั้งอุทยานแห่งชาติที่คลาดเคลื่อนของคณะกรรมการนโยบายความร่วมมือในการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ (2) ความรีบร้อนในการปฏิบัติงานและการละเลยเหตุผลและเจตนารมณ์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติของผู้บริหารระดับสูงในกรมอุทยานแห่งชาติ ดังนั้น ชมรมอาสาสมัครอุทยานจึงขอความกรุณาท่านรัฐมนตรีได้โปรดพิจารณา
ยกเลิก
โครงการความร่วมมือในการลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในอุทยานแห่งชาติ เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อการบริหารจัดการอุทยานแห่งชาติ และเพื่อให้อุทยานแห่งชาติยังคงทำหน้าที่ในอันที่จะดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติชาติให้คงอยู่ มิให้ถูกทำลายหรือเปลี่ยนแปลงไป และอำนวยประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่รัฐและประชาชนตามเหตุผลและเจตนารมณ์การจัดตั้งอุทยานแห่งชาติตลอดไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณา ขอแสดงความนับถือ
(นายธนพล สาระนาค)
ประธานชมรมอาสาสมัครอุทยาน