ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
24-11-2024, 01:52
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  ร้อยรักษ์กวีวรรณ  |  ~ นิทานสายหมอก ~ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
~ นิทานสายหมอก ~  (อ่าน 3105 ครั้ง)
เลิศภพจบพสุธา
Moderator
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 171



« เมื่อ: 14-07-2006, 19:26 »




เมืองยามทรามยิ่งทรามไปทุกสิ่ง
หัวใจไม่ไหวติงนิ่งและหยุด
เมื่อมนุษย์ไร้ค่าความเป็นมนุษย์
อัตตาต่ำโผล่ผุดเหนือศรัทธา


ฤๅหวังแสงใดใดในทึบแสง
ร้าวรอนสิ้นแรงแล้งอ่อนล้า
มีชีวิตเสมือนไร้ซึ่งชีวา
กักขังความเวทนาตั้งตาคอย


เมืองตกใต้สายหมอกอันเหน็บหนาว
หม่นปกคลุมเรื่องราวอันเศร้าสร้อย
ทั้งมืดดำงำเงื่อนลางเลื่อนลอย
โคมไฟดวงน้อยน้อยด้อยแสงแรง


เท่าที่ความสำนึกยังตรึกถ้วน
ทาสแห่งแสงสัดส่วนล้วนยื้อแย่ง
หลงในเส้นทางไพร่ใช้พลิกแพลง
จนม่านหมอกบังแสงอับแรงไฟ


เมืองทั้งเมืองซึมเซาหมอกเทาหม่น
คนทั้งเมืองสับสนกับการให้
เมื่อเงาหมอกเป็นม่านผลาญเผาภัย
จุดสักร้อยโคมใจก็ไม่ทาน

 

+  +  +  +  +  +  +  +  +  +



มีความพยายามครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะฝ่าหมอกฝันออกไปหาแสงสว่างด้วยกัน
กลุ่มคนจำนวนมากกับโคมไฟจำนวนน้อยนิด 
ที่สุดแห่งความหวาดระแวง  ไม่มีใครเดินจับมือตามกัน

ที่สุดกว่านั้นก็ยื้อแย่งเป็นเจ้าของโคมไฟ เพื่อนำทางตัวเองไปพบแสงสว่าง
ทุกวิถีทางแห่งมิตรภาพเป็นเพียงอดีตอันเลื่อยลอย
น่าเศร้ายิ่งนักสำหรับความหวัง

ที่นึกว่ายังหลงเหลืออยู่   ..... บ้าง
บันทึกการเข้า
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-07-2006, 22:07 »

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-09-2006, 14:32 โดย ThailandReport » บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #2 เมื่อ: 14-07-2006, 22:24 »

จงเติมไฟ ศรัทธา อย่าล้าถอย
จุดโคมลอย ส่องหนทางอย่าร้างฝัน
เพียงสายหมอก ใช่มืดมน อนธการ
สืบสัญญาณ สั่งใจสู้ กู้ชาติไทย


บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-07-2006, 22:31 »

สุดวังเวง ระฆังเหง่ง ยามย่ำค่ำ
ยิ่งตอกย้ำ แสนวังเวง เพลงขลุ่ยผิว
เมฆครึ้มมืด พายุคลั่ง ดังปลิดปลิว
ท้องยังกิ่ว ประชาฯหิว ต้องซมซาน


หันหลังมา มองชายคา หน้าบ้านพัก
เสาใกล้หัก หลังคารั่ว คนชั่วผลาญ
สุดแสนแสบ เจ็บแปลบ แทบร้าวราน
ต้องทรมาน เช่นนี้ กี่ปี..เดือน ฯ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ประกายดาว
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,266


" ดาว " ดวงน้อยประกาย นั่นยังพร่างพราย.....


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-07-2006, 22:40 »

ณ ที่ใดดวงใจมิไหวหวั่น

เป็นร้อยกรอง ที่ถอดความจาก คำและความ ของ
Rabindranath Tagore
รพินฑรนาถ ฐากูร


นักเขียนและนักคิด ที่ เป็นคนสำคัญในการเติบโต
ทางความคิด ของ ประกายดาว เสมอมา...
แม่ เป็น คน แนะนำ ให้ อ่านหนังสือของท่าน
เหมือนที่ แม่ สอนให้รู้จัก เจ้าฟ้ากุ้ง พระราชนิพนธ์ และ
วรรณคดีต่างๆ ...ทั้งพ่อและ พ่อ ต่างก็รักในการอ่าน
และ มีหนังสือในดวงใจ ต่างๆ กัน จนกระทั่ง
สร้างความหลากหลาย ของหนังสือในดวงใจ ให้ลูกสาว

และ เมื่อ ได้อ่าน การถอดคำ เป็นภาษาไทย
ของ คุณ เรืองอุไร กุศลาสัย ...
ก็ ได้รู้สึกซาบซึ้ง มากยิ่งขึ้นไปอีก กับประโยคนี้

" ณ ที่ใดดวงใจมิไหวหวั่น "
หลายๆ ครั้ง ยามที่อ่อนแอ หรือ เหนื่อยล้า
ถ้อยคำ ตรง นี้ ก็จะ ผุด ขึ้นมากลางใจ
ยิ่งได้อ่าน ฉบับ ภาษาอังกฤษ

บรรทัดสุดท้าย

My Father, let my country awake.




๏ ณ ที่ใดดวงใจไม่ไหวหวั่น
ไม่พรึงพรั่นหวั่นระแวงแหนงฉงาย
ณ ที่ใดอยู่ได้ด้วยเกียรติพราย
มิต้องค้อมเศียรถวายผู้ใดเลย


๏ ณ ที่ใดไร้ซึ่งอวิชชา
ล้วนวาจาส่อสัตย์จัดเฉลย
ณ ที่ใดโลกหล้าพาเสบย
ไม่เฉยเมยเกี่ยงวิรุธประทุษกัน


๏ ณ ที่ใดมีความพยายามยิ่ง
อุตสาหะเพื่อสิ่งสมบูรณ์มั่น
ณ ที่ใดธารใสแห่งเหตุนั้น
ไม่เหือดแห้งไปพลันด้วยชาชิน


๏ณ ที่ใดดวงใจจรดล
สู่สถลแห่งกรรมกระทำสิ้น
อีกพลังจิตตาเป็นอาจิณ
ขอสวรรค์โปรดยินดลบันดาล


๏มาตุภูมิข้าไซร้ได้สัญจร
สู่นครอันบำราศเรื่องร้าวฉาน
ณ ที่นั้นขอพระโปรดประทาน
ให้สมฤทธิ์กิจการสมใจ เทอญฯ



เรืองอุไร กุศลาสัย
ถอดความ จาก
Where the mind is without fear


Where the mind is without fear
and the head is held high,

Where knowledge is free;
Where the world has not been broken up
into fragments by narrow domestc walls;

Where words come out
from the depth of truth;

Where tireless striving stretches
its arms towards perfection;

Where the clear stream of reason
has not lost its way into
the dreary desert sand of dead habit;

Where the mind is led forward
by thee i
nto even-widening thought and action -
into that heaven of freedom,

My Father, let my country awake.



Rabindranath Tagore
รพินฑรนาถ ฐากูร


อ้างถึง
บันทึกการเข้า



วันที่ดาว ทวงฟ้า นภากระจ่าง
ดาวล้านดวง ทวงทาง ระหว่างฝัน
ผุดขึ้นมา  คราเดียว พร้อมพร้อมกัน
ประกาศมั่น.... วันนี้... เสรีไทย



http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&group=1
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-07-2006, 22:46 »


เป็นการง่าย ...ยิ้มได้ ....ไม่ต้องฝืน
เมื่อชีพชื่น ...เหมือนบรรเลง ...เพลงสวรรค์
แต่คนที่ .....ควรชม....... นิยมกัน
ต้องใจมั่น... ยิ้มได้ ...เมื่อภัยมา




รพินทร์ ไพรวัลย์
เพชรพระอุมา
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #6 เมื่อ: 14-07-2006, 22:50 »

ณ ที่ใด ดวงใจ ไม่ไหวหวั่น
จะฝ่าฟัน อุปสรรค และขวากหนาม
แม้นสิ้นชาติ วาสนา ชะตาทราม
จะฝากนาม ให้โลกรู้ กูก็ชาย


ณ ที่นั้น ไร้ญาติ และขาดมิตร
เหลือเพียง แต่บ่าวสนิท พิสมัย
เป็นเหมือนเพื่อน เหมือนญาติ ไม่คลาดไคล
เป็นเพื่อนตาย เคียงกู คู่ชีวัน
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #7 เมื่อ: 14-07-2006, 23:08 »

คิดว่าใช่ มั่นใจ 80%
พนมเทียน เขาลอกไปลงในหนังสือ

และเคยใส่เชิงอรรถไว้ ล่างๆ ตัวจี้ดๆ
ช่วงแรกๆที่อ่านเจอกลอนบทนี้ในเพชรพระอุมานะ
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
ดอกฟ้ากับหมาวัด
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,042



« ตอบ #8 เมื่อ: 14-07-2006, 23:11 »

ณ ที่ใด ดวงใจ ไม่ไหวหวั่น
จะฝ่าฟัน อุปสรรค และขวากหนาม
แม้นสิ้นชาติ วาสนา ชะตาทราม
จะฝากนาม ให้โลกรู้ กูก็ชาย


ณ ที่นั้น ไร้ญาติ และขาดมิตร
เหลือเพียง แต่บ่าวสนิท พิสมัย
เป็นเหมือนเพื่อน เหมือนญาติ ไม่คลาดไคล
เป็นเพื่อนตาย เคียงกู คู่ชีวัน


ถ้า ทำข้อสอบ วิชา กลอน นี่ พนมเทียน สอบตก เลยนะครับ

เพราะ แต่ง สัมผัส เลือน (ที่คนแต่งกลอนใหม่ ๆ มัก "หลง" เป็นประจำ)

เสียงไอ กับ เสียงอาย เอามาสัมผัสกันไม่ได้ กลอนวิบัติ

ส่วนอันแรก ที่คุณไทยแลนด์ ยกมา
คลับคล้ายคลับคลา(อีกแระ)ว่าเป็นกลอนเก่าจากสมัยสร้างชาติ-หลวงวิจิตร จอมพล ป. ใช่ไหมครับ


คุณคาเมรอนฯ  ถูกต้องนะก๊าบบ...

สระเสียงยาวกับเสียงสั้นค่ะ
บันทึกการเข้า

***ผู้ยิ่งใหญ่ในแผ่นดินเปรียบเสมือนเรือ ประชาชนเปรียบเสมือนน้ำ

      น้ำพยุงเรือให้แล่นไปได้ และน้ำก็จมเรือได้เช่นกัน***
ThailandReport
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,415


« ตอบ #9 เมื่อ: 14-07-2006, 23:17 »

เราอาจจำผิดนะ

ไม่ชัวร์ว่า ไคล หรือ ไกล
บันทึกการเข้า

The only thing necessary for the triump of evil is for good men to do nothing !!
สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ นั่นคือการที่ คนดีๆนิ่งดูดาย !
หน้า: [1]
    กระโดดไป: