ผมอ่านดูกระทู้ที่คุณ snowflake ยกมา ก็ไม่เห็นมีการไล่กันตรงไหนนี่ครับ มีการวิวาทกัน? ใช่ มีการประชดเสียดสีกัน? ใช่ .... แต่มีการไล่กันตรงไหน? คุณหูแว่วไปเองหรือเปล่า? และโดยเฉพาะคุณปุถุชน ผมอ่านตั้งนานก็ไม่เห็นแกจะมาไล่คุณหรือกาลามชนออกไปจากบอร์ดนี้ซะ
ไหนล่ะครับ ที่มีการ "ห้ามขัดคอ ไม่งั้นต้องโดนไล่" และ "พูดไม่ถูกใจ "ผู้ยิ่งใหญ่" ก็จะโดนข้อหาก่อการร้าย"
ผมไม่เคยคิดไล่ใครออกไปจากบอร์ดนี้ แม้แต่คุณสาวก killer ที่เขาตั้งกระทู้ฮาราคีรี ผมก็ไม่ได้ไปแสดงความคิดว่าเขาควรไปหรือไม่ควร ผมคิดว่าจะใครใคร่มาก็มา ใครใคร่ไปก็ไป ผมมาบอร์ดนี้ครั้งแรกก็แจมกระทู้เลย ไม่แนะนำตัวครับ ทะเลาะกันมีบ้าง แต่ไม่เคยต้องไล่กัน
คุณปุถุชน เขาทนการ "ใส่หน้ากาก" ไม่ได้ ผมเคยบอกคุณ snowflake ไปแล้วว่า คนที่สุภาพเรียบร้อยภายนอกพูดจาเรียบร้อย ถ้าดีก็ดีไป แต่คำพูดและการกระทำมันสามารถส่อ
"เจตนา" ได้ว่าเป็นยังไง? ของพวกนี้ดูได้ไม่ยากถ้าไม่หลอกตัวเองครับ คุณปุถุชนและหลายๆคนในนี้เขามองทะลุ เขามองไปที่ "แก่น" "เนื้อ" "เจตนา" และเขาทนไม่ได้กับการเสแสร้ง ตบตา ศรีธนญชัย ก็ต้องอัดกันตรงๆ ผมเองก็ไม่ชอบการเสแสร้ง ศรีธนญชัย ตบตา แสร้งทำมาคุยดีแต่ซ่อนมีดไว้ด้านหลัง สังคมในโลกแห่งความเป็นจริงมันเต็มไปด้วยสิ่งเหล่านี้มากพอแล้ว ถ้าสังคมนี้ยังคงมองอะไรแต่ "เปลือก" สวย หล่อ เรียบร้อย สุภาพ ใส่สูท มีสตางค์ สวยหรู ต่อไปโดยไม่มองไปที่ "แก่น" "เจตนา" ภายใน การศรีธนญชัย เฉไฉ เบี่ยงประเด็น ก็จะดำเนินต่อไป
ความจริงก็ไม่อยากเสียเนื้อที่กระทู้นี ผมก็เกรงใจคุณนทร์ แต่ผมก็สงสัยคำพูดคุณมานานแล้ว และชอบคุยกันแบบในบอร์ดเปิดเผยมีคนเห็นมากกว่า ผมก็ต้องถามตรงๆ และผมก็ต้องการคำตอบตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อมแบบ "
ส่วนคุณ ThaiTruth ถ้าไม่รู้ ก็คงไม่มีใครรู้แล้วมังคะ" แต่เมื่อไม่ตอบก็ไม่เป็นไร
คุณ ThaiTruth ข้อความที่เขียนนั้นไม่ได้มีเจตนาจะตอบคุณ
เพราะไม่คิดว่าคุณต้องการคำตอบอย่างแท้จริง
เนื่องจากเข้าใจว่าสิ่งที่คุณถามนั้น คุณทราบคำตอบดีอยู่แล้ว
ดังนั้นตอบไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด เพราะคุณได้ตัดสินใจเชื่อไปแล้ว
และไม่มีวันเปลี่ยนความคิดอันนั้น ด้วยความเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง
ดิฉันได้เคยสรุปไปแล้วว่า เมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องก็ไม่ต้องพูด
ให้เสียเวลาและพลังงาน ค่าที่เหมือนพูดกันคนละภาษา
แต่การที่คุณเขียนยืนยันว่าต้องการคำตอบ
และยังอุตส่าห์อธิบายอีกยืดยาว ทำให้ต้องทบทวนใหม่
If you dont give up on us, then how could I.
เหตุที่ตัดสินใจเลิกพูด เพราะคุณกล่าวหาดิฉันไม่จงรักภักดี
ฉวยโอกาส อ้างสถาบัน ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
http://forum.serithai.net/index.php?topic=3396.msg45936#msg45936ดิฉันค้านหลายครั้งแล้วว่าอย่าใช้เรื่องหมิ่น/ไม่หมิ่น มาทำร้ายกัน
มิใช่เพิ่งจะมาโหนกระแสดังคำกล่าวหา
http://forum.serithai.net/index.php?topic=1744.msg20754#msg20754เรื่องอื่นๆ พอจะยอมอภัยให้ด่าฟรีด้วยความที่เข้าใจผิดได้
แต่เรื่องนี้ไม่อาจยอม
ไม่มีใครชอบการเสแสร้งใส่หน้ากากหรอกค่ะ
โดนเฉพาะคนที่มองไปทางไหนก็คิดว่าเห็นแต่การกระทำเช่นนั้น
จะด้วยประสบการณ์ในอดีตที่เลวร้ายทำให้หัวใจที่เคยอ่อนโยนแข็งกระด้าง
หรือด้วยความหวาดระแวงไม่อยากให้ตัวเองเปิดจุดอ่อน
จึงไม่อาจไว้วางใจผู้ใด และไม่สามารถจะมองใครในแง่ดีได้
ต้องมองให้ร้ายไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยในโลกแคบๆ ที่ขังตัวเองไว้
คนพวกนี้ออกจะน่าสงสารค่ะ ดิฉันแผ่เมตตาให้แล้วกัน
ไม่ทราบว่า พวกคุณ หลายๆ คนในนี้ ฉลาดเก่งกาจสามารถมาจากไหน
ถึงได้บอกว่ามอง ทะลุ ถึง แก่น ของใครต่อใครได้อย่างแม่นยำ
ขอติงไว้สักหน่อย ฟังไม่ฟังก็สุดแต่ใจ
อย่าได้เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองจนเกินไป
โดยเฉพาะในสิ่งที่ไม่มีหลักฐานใดๆ นอกจากความคิด
เพราะคุณอาจเข้าใจผิด และทำร้ายผู้อื่นได้โดยไม่เจตนา
และอาจต้องมาเสียใจภายหลัง เมื่อพบว่าโทษเขาผิดไป
ที่พูดนี้อยู่บนหลักความเชื่อที่ว่า
ปล่อยคนผิดสิบคน ดีกว่าเอาคนบริสุทธิ์เข้าคุกหนึ่งคน
ซึ่งเป็นหลักของกระบวนการยุติธรรม
ที่ถือว่าผู้ต้องหาบริสุทธิ์จนกว่าจะมีหลักฐาน
ที่แน่นหนามากล่าวโทษพิสูจน์ยืนยันได้ว่ากระทำความผิดจริง
แต่หากคุณเชื่อตรงกันข้าม ก็คงไม่มีการสำนึกเสียใจ
ด้วยข้ออ้างที่มีให้กับตัวเองว่า ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า
เช่นนั้นเราก็คงเข้าใจกันได้ยากยิ่ง ด้วยปรัชญาชีวิตที่แตกต่าง
แต่ถึงอย่างไรดิฉันก็ขอเชื่อว่าเรายังเป็นเพื่อนกันได้ แม้คิดไม่เหมือนกัน
บางทีอาจในสถานการณ์อื่น ที่ไม่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง แบ่งข้าง
เต็มไปด้วยความแตกแยก เกลียดชังซึ่งกันและกัน อย่างในปัจจุบันนี้
The things that unite us are far greater than the things that divide us.