พอดีไปค้นจอมาครับ
:: บุตรสาว "เยาวภา" ทุ่ม 420 ล้าน. ซื้อหุ้น "ทราฟฟิกฯ" 38%
"ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ฯ" เพิ่มทุน 420 ล้านบาท ขายแบบเฉพาะเจาะจงให้ "ชยาภา-ชลนิภา วงศ์สวัสดิ์" ลูกสาว "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" ราคาหุ้นละ 3 บาท หวังระดมทุนชำระหนี้ระยะสั้น และสำรองไว้ประมูลคลื่นวิทยุแห่งใหม่ รับการเกิดของ กสช.ในปีนี้
นายสุรพงษ์ เตรียมชาญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า บริษัทได้เพิ่มทุนจำนวน 140 ล้านหุ้น ขายให้กับนักลงทุนเฉพาะเจาะจง 2 ราย คือ นางสาวชยาภา วงศ์สวัสดิ์ และนางสาวชลนิภา วงศ์สวัสดิ์ ทั้งจำนวน ในราคาหุ้นละ 3 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 420 ล้านบาท ซึ่งภายหลังขายหุ้นเพิ่มทุนแล้วนักลงทุนทั้ง 2 รายข้างต้น จะเข้ามาถือหุ้นในบริษัทรวม 38%
ปัจจุบันบริษัท ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ มีทุนจดทะเบียน จำนวน 305 ล้านบาท หรือ 305 ล้านหุ้น โดยเรียกชำระแล้วจำนวน 217 ล้านหุ้น ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะทำให้ทุนจดทะเบียนของบริษัทเพิ่มขึ้น 445 ล้านบาท
ทั้งนี้นางสาวชยาภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นบุตรสาวของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือ เจ๊แดง น้องสาวของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในอดีต นางเยาวภา เป็นประธานกรรมการ บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่
รวมทั้งเคยเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เอส ดับบลิว เทเลคอม และประธานกรรมการ บริษัท เทเลแม๊กซ์ เอเซีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด แต่ปัจจุบันเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จ.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย
โดยส่วนตัวแล้ว นางสาวชยาภา ที่มีชื่อเล่นว่า เชอร์รี่ มีพรสวรรค์ทั้งด้านการร้อง การเต้น เล่นดนตรี กีตาร์ เปียโน แต่งเพลง และเคยออกอัลบั้มเพลงชื่อ SECRET C ในสังกัดเมเกอร์เฮด เครือบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนัก
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า บริษัทได้มีการเจรจาขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวให้กับนางสาวชยาภา มาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งนางสาวชยาภา เคยเป็นนักร้องมาก่อน และมีความสนใจทางธุรกิจบันเทิงในด้านของการจัดคอนเสิร์ต จึงได้สนใจที่จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท
"เป็นการลงทุนระยะยาว ซึ่งนางสาวชยาภาและน้องสาว จะเข้ามาลงทุนระยะยาว ไม่ใช่เก็งกำไร ซึ่งตัวเขาเองสนใจจะดูแลงานด้านคอนเสิร์ต ไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านข่าว"นายสุรพงษ์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัท ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ ประกอบธุรกิจทางด้านบันเทิงครบวงจร มีทั้งการจัดคอนเสิร์ต ของศิลปินในและต่างประเทศ รายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ เป็นผู้บริหารโฆษณาในช่วงข่าวต้นชั่วโมง ของสถานีวิทยุกองทัพบก เป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ เช่น บางกอกทูเดย์
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนจำนวน 420 ล้านบาท ส่วนหนึ่งไปชำระหนี้ระยะสั้น และเป็นเงินทุนหมุนเวียน ส่วนที่เหลือจะสำรองไว้สำหรับธุรกิจวิทยุ ที่จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ(กสช.) ที่คาดว่าจะเกิดในปีนี้
"เราเชื่อว่าในปีนี้ กสช.จะเกิดขึ้น เราจึงต้องเตรียมเงินไว้ประมูลคลื่นวิทยุ ซึ่งจะเป็นช่องทางเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทในอนาคต" นายสุรพงษ์ กล่าว
บริษัท ทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ รายงานผลการดำเนินงาน ณ 31 ธ.ค.2546 มีผลขาดทุนสุทธิ 108 ล้านบาท หรือ 0.53 บาทต่อหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่กำไรสุทธิ 30 ล้านบาท หรือ 0.28 บาทต่อหุ้น แม้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 26% เป็นผลมาจากรายการทางโทรทัศน์เพิ่มขึ้นหลายรายการ และมีการออกหนังสือในนามของบริษัทรวมทั้งเป็นตัวแทนจำหน่ายสื่อโฆษณาของหนังสือหลายฉบับ
อย่าง ไรก็ตามต้นทุนการขาย และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของบริษัทในปี 2546 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 66% เป็นผลเนื่องจากบริษัท มีรายการทางโทรทัศน์และวิทยุเพิ่มขึ้นทำให้มีต้นทุนค่าเวลาออกอากาศและค่า ผลิตรายการ และมีการเปิดตัวหนังสือใหม่ 6 ฉบับ ทำให้มีค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต และประชาสัมพันธ์
ราคาหุ้นทราฟฟิก คอร์นเนอร์ โฮลดิ้งส์ ปิดตลาดวานนี้ (11 มี.ค.) ที่ระดับ 4.04 บาท ลดลง 0.08 บาท
http://www.thaiset.com/thaiset/news/120347/new09.jsp
