นึกว่าอดนั่งซะแล้ว เห่อๆ ยังได้อยู่
ปรับแผนรถไฟฟ้า2สาย ตัดบางช่วงเป็น"โมโนเรล" คาดลดวงเงินก่อสร้าง50%
สนข.ปรับปรุงแผนการสร้างสร้างรถไฟฟ้า สายสีเหลือง (
ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรี นครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) และสายสีชมพู (
ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-หลักสี่-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ ) โดยตัดบางช่วเป็นรถไฟฟเขนาดเบา หรือโมโนเรล หวังประยัดวงเงินก่อสร้างงานโยธา การเวนคืน คาดลดงบประมาณได้โครงการละ 50 %
นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่า ภายหลังกระทรวงคมนาคมได้มอบหมายให้ สนข.ไปศึกษาแผนรายละเอียดในแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า 10 สาย โดยเฉพาะการนำระบบรถไฟฟ้าขนาดเบา (Monorail) มาปรับใช้กับโครงการรถไฟฟ้า เพื่อให้สามารถก่อสร้างได้ในพื้นที่มีถนนแคบ และลดการเวนคืนเขตทางรวมทั้งลดวงเงินก่อสร้างในโครงการดังกล่าว ขณะนี้สนข.ได้สรุปผลการศึกษาเบื้องต้นแล้ว
ทั้งนี้จากการศึกษาแผนเบื้องต้น สนข.เห็นว่า อาจสามารถปรับแบบโครงการรถไฟฟ้าได้ใน 2 เส้นทาง คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) โดยจะปรับโครงการบางช่วงเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา (โมโนเรล) โดย ช่วงที่เหมาะสมที่จะเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบา คือ ช่วง สี่แยกรัชดาลาดพร้าว-หัวหมาก โดยรถไฟฟ้าจะวิ่งไปบนนถนนลาดพร้าว ระยะทางประมาณ 12 กม. สามารถไปเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิ้ง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้ที่สถานีหัวหมาก
ส่วนสายที่ 2 ที่จะมีการปรับปรุงได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-หลักสี่-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ ) โดยช่วงที่จะตัดมาก่อาก่อสร้างเป็นระบบ โมโนเรล ได้แก่ ช่วงถนนติวานนท์ - ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ - และบางซื่อ ( ระยะทาง 10 กม.) ซึ่งจะมาบรรจบ กับโครงการรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน สายสีแดง และสายสีเขียวได้ด้วย
"โดยผลจากการปรับระบบก่อสร้างทั้ง 2 เส้นทางนี้ จากการศึกษาเบื้องต้น จะอาจทำ ให้ต้นทุนของ 2 โครงการนี้ลดลงถึงร้อยละ 50 โดยสนข.จะสรุปแผนการปรับโครงการ และแผน การก่อสร้าง และการออกแบบรายละเอียด ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2552 นี้ "
สำหรับระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลมีลักษณะพิเศษ คือ สามารถก่อสร้างสถานีและโครงสร้างพื้นฐานบนถนนในเส้นทางที่มีช่องจราจรแคบ ใช้เวลาการก่อสร้างเพียง 2 ปีก็แล้วเสร็จ และการลงทุนถูกกว่าการก่อสร้างงานโยธาของระบบรถไฟฟ้าทั่วไป และระบบล้อของโมโนเรลก็ก่อให้เกิดมลภาวะทางเสียงน้อยมาก ทั้งนี้จากข้อมูลปัจุบันพบว่ารถไฟฟ้าโมโนเรลจะมีต้นทุนการก่อสร้างถูกกว่า รถไฟฟ้าใต้ดินที่วิ่งอยู่ในปัจจุบันถึง 30%
"ปัจจุบันรถไฟฟ้าใต้ดินมีต้นทุน ค่าก่อสร้าง 3,000 ล้านบาทต่อกิโลเมตร รถไฟฟ้ายกระดับมีค่าก่อสร้าง 1,100-1,200 ล้านบาทต่อกิโลเมตร ส่วนรถไฟฟ้าโมโนเรลจะมีก่อสร้างเพียง 600-800 ล้านบาทต่อกิโลเมตร "
ทั้งนี้ตามแผนการก่อสร้างเดิมโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-รัชดาภิเษก-บางกะปิ-ศรีนครินทร์-เทพารักษ์-สำโรง) แนวเส้นทาง เริ่มจากสำโรง บริเวณจุดตัดระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนเทพารักษ์ (จุดตัดกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่จะต่อขยายเพิ่ม เติม) มาตามแนวถนนเทพารักษ์ เลี้ยวเข้าถนนศรีนครินทร์ มาตามแนวถนนศรีนครินทร์ ตัดผ่านถนนบางนา-ตราด อ่อนนุช-ลาด กระบัง (สุขุมวิท 77) ถนนพัฒนาการ ผ่านบริเวณแยกลำลาสี บางกะปิ มุ่งหน้าเข้าสู่ถนนลาดพร้าว มาตามแนวถนนลาดพร้าว สิ้นสุดที่บริเวณถนนลาดพร้าวตัดกับถนนรัชดาภิเษก (สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงิน) รวมระยะทาง 32 กิโลเมตร จำนวน 18 สถานี เมื่อเปิดให้บริการในแรก (2559) จะมีผู้โดยสาร 214,000คน ต่อวัน
ส่วนโครงการรถไฟฟ้า สายสีชมพู (ปากเกร็ด-แจ้งวัฒนะ-หลักสี่-รามอินทรา-สุวินทวงศ์ )เริ่มจากถนนแจ้งวัฒนะบริเวณห้าแยกปากเกร็ด วิ่งไปตามแนวถนนแจ้งวัฒนะ ผ่านเมืองทองธานี พหลโยธิน-หลักสี่ เข้าสู่ถนนรามอินทรา ไปมีนบุรี จากนั้นวิ่งเข้าสู่ถนนสุวินทวงศ์ ตัดผ่านถนนสามวา ถนนร่มเกล้า และถนนนิมิตรใหม่ สิ้น สุดที่มีนบุรี และในอนาคตจะมีการขยายเส้นทางเพื่อไปเชื่อมต่อกับโครงการระบบขนส่งทางรถไฟ เชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย โดยผ่านทางถนนร่มเกล้า เข้าสนามบินสุวรรณภูมิ รวมระยะทาง 41 กิโลเมตร จำนวน 13 สถานี เมื่อเปิดให้บริการปีแรก (2559) จะมีผู้โดยสาร 189,000 คนต่อวัน
วันที่ 24/9/2008
http://www.rssthai.com/reader.php?t=local&r=12413
