ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
20-05-2025, 10:10
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  คำอธิบาย 30 70 แบบง่ายๆ ไม่ต้องสับสน 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
คำอธิบาย 30 70 แบบง่ายๆ ไม่ต้องสับสน  (อ่าน 6762 ครั้ง)
vorapoap
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 512



เว็บไซต์
« เมื่อ: 08-09-2008, 01:36 »

ประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ คุณสุริยไสย์ ขึ้นมาพูดเกี่ยวกับการเมืองใหม่ครับ
พี่เขาอยากให้เราท่องง่ายๆแค่นี้

30 การเมืองของนักการเมือง
70 การเมืองของภาคประชาชน


เพื่อลดความสับสนในการอธิบาย
และตัว 30 70 เป็นเพียงเลกตุ๊กตาที่ตั้งไว้ จาก 70 อาจจะเป็น 80 ก็ได้

สิ่งที่จะเกิดขึ้นจากการเืมืองใหม่
  • 1. การตรวจสอบจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น (นักการเมืองกลัวการตรวจสอบ)
  • 2. ประชาชนจะตื่นตัวและแสดงตนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยในฐานะพลเมืองอย่าง 100%
  • 3. ขยายเนื้อที่ทางการเมืองให้กับประชาชนทุกหมู่้เหล่า ไม่ใช่แค่เป็นเนื้อที่ของนักการเมืองเท่านั้น

ประชาธิปไตยต้องฟังเสียงคนส่วนน้อย แต่ทำเพื่อคนส่วนใหญ่
[/size]

ไม่ใช่อ้างเสียงส่วนใหญ่ แล้วทำเพื่อคนส่วนใหญ่ (ทักษิณอ้างเสียงส่วนใหญ่ แต่ทำเพื่อตระกูลตัวเอง)

บันทึกการเข้า

Augustine
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 219



« ตอบ #1 เมื่อ: 08-09-2008, 01:40 »

มันติดที่คนมันแกล้งโง่ กับไม่เปิดใจอะครับ
บันทึกการเข้า


ประชาธิปไตย...   ...ที่ไหนเค้าทำกันแบบนี้

พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #2 เมื่อ: 08-09-2008, 02:03 »

ผมคิดว่าเราควรทำตามคำแนะนำของหลวงปู่พุทธอิสระจะดีกว่าครับ... เรื่องการเมืองใหม่ให้วางไว้ก่อน

การรณรงค์เพื่อประชามติหรือเลือกตั้งใดใด "เนื้อสาร" ที่ซับซ้อนไม่มีทางที่จะสื่อเป็นวงกว้างได้อย่างรวดเร็วเท่ากับการปลุกระดมด้วยถ้อยคำสั้นๆ ง่ายๆ เร้าใจ

อะไรที่ใหม่ๆ มักจะมาพร้อมกับความระแวงคลางแคลงใจได้ง่ายมาก.. ผมเกรงว่าสถานการณ์มันจะลุกลามไปคล้ายๆ กับภาพผู้ร้าย "ลัทธิการเมืองใหม่" ที่ถูกป้ายสีจนเจ๊งมาแล้ว... สามสิบปีก่อนคือคอมมิวนิสต์ ตอนนี้ก็คือ "70:30" นี่แหละ... ป้ายขี้แบบนี้เขาทำมาแล้วนะครับ

เป้าหมายตรงปลายคางที่สุด... เอาคนฉ้อฉลไม่จริงใจต่อการบริหารประเทศออกไปโดยเร็วครับ
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
Mz
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



« ตอบ #3 เมื่อ: 08-09-2008, 02:47 »

ผมเห็นด้วยให้มี การเมืองภาคประชาชน
แต่ผมเองก็ยังไม่ได้เทไปว่า การเมืองภาคประชาชน คือเอาตัวแทนประชาชน ไปบริหาร ร่วมกับ สส. ครับ

เพราะ สส. ก็คือตัวแทนของประชาชนอยู่แล้ว
ถ้า สส. ไม่มีคุณภาพ ก็ไปแก้(กินความรวมถึง..รื้อ)ตรงนั้นจะเหมาะสมกว่า

การเมืองภาคประชาชน ควรจะเน้นเรื่องความตื่นตัวทางการเมือง
การเอื้อให้ภาคประชาชนรับรู้ข่าวสาร และสร้างช่องทางให้แสดงออก มากกว่า

---------

หลายคนที่ออกมาร่วมกับ พธม. ต้องการเอาคนฉ้อฉล, คนโกง ออกจากระบอบการเมืองครับ
ถ้าตัวแกนนำ พธม. ยังไม่วาง 70/30 ก็ระวังจะตกม้าตาย แพ้ภัยตัวเองเอานะ
บันทึกการเข้า

พระพาย
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 679



« ตอบ #4 เมื่อ: 08-09-2008, 02:50 »

ที่น่าเสียใจยิ่งกว่านั้นนะครับ... คนที่ออกมาป้ายสีว่า 70:30 ร้ายกว่ารัฐประหารนั้น ก็คือคนที่เคยถูกป้ายสีเดิมว่าเป็นคอมมิวนิสต์นั่นเอง (คาดว่าหมักเองก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยในวิทยุยานเกราะ)

กลับมาตั้งหลักที่ประเด็นการเรียกร้องให้สมัครลาออก ที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของม๊อบกันดีกว่าครับ... ที่เราเรียกร้องให้สมัครลาออกนั้น ก็เพราะมันเป็นนอมินี เห็นแก่พรรคพวก ไม่เห็นแก่ประเทศชาติ เป็นผู้นำที่สับปรับ ปลิ้นปล้อน หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศแล้ว...

การเรียกร้องให้สมัครลาออกนั้น จะเห็นได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับ 70:30 หรือการเมืองใหม่เท่าใดนัก... เรียกร้องตรงนี้มีแต่ทำให้สับสนและคลางแคลงในเป้าหมายที่ไม่ค่อยสอดคล้องกันครับ... อะไรที่แยกกันเป็นขั้นตอนดำเนินการที่ชัดเจนต่อไปได้ก็ควรแยกออกจากกันครับ
บันทึกการเข้า

คลิป นปก บุกทำเนียบชนพันธมิตร
http://pirun.ku.ac.th/~g4685035/01mob.asf
กระทู้ขบวนการเสรีไทยในเวบบอร์ดร่วมคัดคัดกรณีปราสาทพระวิหาร นำโดยคุณ *bonny http://forum.serithai.net/index.php?topic=28065.0
และเอกสารยื่นคัดค้านกระทรวงต่างประเทศไทยและกัมพูชา  http://www.savefile.com/files/1629973
กระทู้สรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://forum.serithai.net/index.php?topic=28392.0
ใบปลิวขนาด 2 หน้าสรุปประเด็นปราสาทพระวิหาร โดยคุณ Jerasak http://www.savefile.com/files/1626944

แม่น้ำร้อยสายล้วนต้นกำเนิดเดียวกัน... จากสายฝน จากภูเขา ที่ซึ่งคล้ายเจตนารมณ์แห่งฟ้า
เสรีไทยเวบบอร์ด http://forum.serithai.net/
We Open Mind http://www.weopenmind.com/board/index.php
อรุณสวัสดิ์ http://www.arunsawat.com/board/index.php
ที่ทำการเสี่ยวอีสาน[
vorapoap
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 512



เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 08-09-2008, 05:51 »

ทางแกนนำ ยืนยันมาครับ ว่าจะเดินหน้าต่อ โดยจะจัดอภิปรายให้ความรู้ โดยเชิงนักวิชาการมาจากที่ต่างๆ ในวันสองวันข้างหน้านี้ครับ
มาที่ทำเนียบ แล้วถ่ายทอดสดออกทั่วประเทศ

บันทึกการเข้า

เทวา
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 54


« ตอบ #6 เมื่อ: 08-09-2008, 06:42 »

70-30 หรือ 50-50 หรือ 80-20  จะทำยังไง ?
จะแก้รัฐธรรมนูญหรือ จะแก้ยังไง ?
แก้แล้วมันต่างจากหลักการปกครองพื้นฐานในระบบรัฐสภาตรงไหน
มันหนีพ้น นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ไปอย่างไร
มันต่างจากการสรรหาโดย ปชช ผ่านการเลือกตั้ง มีการตรวจสอบและถ่วงดุล ผ่านวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการตรงไหน

จะเปลี่ยนแปลงระบบ ต้องแก้ รธน.
จะแก้ รธน.ต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติต้องมีการคัดสรรสมาชิกสภา
จะคัดสรร สรรหา เลือกมา อะไรก็ตามเถิด ต้องใช้เงิน ต้องมีงบ ต้องทำประชาพิจารณ์
เห็นพูดๆกัน ว่าจะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เห็นใครพูดว่าจะทำอย่างไร

คุณ  mz  ตอบได้ตรงที่สุด
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #7 เมื่อ: 08-09-2008, 10:00 »

ที่น่าเสียใจยิ่งกว่านั้นนะครับ... คนที่ออกมาป้ายสีว่า 70:30 ร้ายกว่ารัฐประหารนั้น ก็คือคนที่เคยถูกป้ายสีเดิมว่าเป็นคอมมิวนิสต์นั่นเอง (คาดว่าหมักเองก็น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยในวิทยุยานเกราะ)

กลับมาตั้งหลักที่ประเด็นการเรียกร้องให้สมัครลาออก ที่เป็นหัวใจสำคัญที่สุดของม๊อบกันดีกว่าครับ... ที่เราเรียกร้องให้สมัครลาออกนั้น ก็เพราะมันเป็นนอมินี เห็นแก่พรรคพวก ไม่เห็นแก่ประเทศชาติ เป็นผู้นำที่สับปรับ ปลิ้นปล้อน หมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศแล้ว...

การเรียกร้องให้สมัครลาออกนั้น จะเห็นได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับ 70:30 หรือการเมืองใหม่เท่าใดนัก... เรียกร้องตรงนี้มีแต่ทำให้สับสนและคลางแคลงในเป้าหมายที่ไม่ค่อยสอดคล้องกันครับ... อะไรที่แยกกันเป็นขั้นตอนดำเนินการที่ชัดเจนต่อไปได้ก็ควรแยกออกจากกันครับ


การใช้สัดส่วนใด ๆ เช่น 70:30 ก็ตาม คือแผนการของนายเส-นียดและพรรคพลังประชาชน ต้องการแยกพวก แยกกลุ่มประชาชนที่คิดว่า สส.ต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ไม่มี สส.บัญชีรายชื่อ สส.สัดส่วน สส.แต่งตั้ง ฯลฯ นอกจากนี้รับไม่ได้...

แม้ว่าจะได้จากการเลือก การคัดสรรค์ในกลุ่มอาชีพ กลุ่มความคิดทางการเมือง ทางสังคม ก็ไม่ได้...!!!

ผมไม่เชื่อว่า'คนเดือนตุลาฝ่ายทักษิณ' จะไม่เข้าใจแนวคิดของห้าแกนนำพันธมิตรฯ แต่ต้องการฉวยโอกาสนี้ บิดเบือน หลอกลวง เบี่ยงเบนข้อเท็จจริง ทำให้เข้าใจผิดได้ง่าย ๆ.....!!!

ข้อเท็จจริงห้าแกนนำพันธมิตรฯ ก็รู้ว่าพลาดไปที่เปิดประเด็นนี้บนเวทีที่ไม่มีสมาธิ ความตั้งใจจะรับรู้แนวคิดทางการเมืองใหม่ ด้วยเวลาสั้นๆ ยากจะทำให้คนเข้าใจได้ ยิ่งคนที่อยู่ที่บ้านฟังบ้าง ไม่ได้ฟังบ้าง คอการเมืองสมัครเล่นยิ่งไม่เข้าใจเลย...

แม้ว่าจะได้อธิบายชี้แจงซ้ำทุกครั้งที่มีกระแสข่าวจากฝ่ายนายเส-นียด และ คนเดือนตุลาของทักษิณ และนักทฤษฎีระบอบประชาธิปไตยก็ตาม เมื่อเห็นประโยชน์ของการเป็น'อเวไนยสัตว์' สามารถทำลายฝ่ายพันธมิตรฯได้ ก็ต้องกระพืออย่างนั้น.....!!!


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2008, 10:04 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #8 เมื่อ: 08-09-2008, 10:07 »

70-30 หรือ 50-50 หรือ 80-20  จะทำยังไง ?
จะแก้รัฐธรรมนูญหรือ จะแก้ยังไง ?
แก้แล้วมันต่างจากหลักการปกครองพื้นฐานในระบบรัฐสภาตรงไหน
มันหนีพ้น นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ไปอย่างไร
มันต่างจากการสรรหาโดย ปชช ผ่านการเลือกตั้ง มีการตรวจสอบและถ่วงดุล ผ่านวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการตรงไหน

จะเปลี่ยนแปลงระบบ ต้องแก้ รธน.
จะแก้ รธน.ต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
จะมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติต้องมีการคัดสรรสมาชิกสภา
จะคัดสรร สรรหา เลือกมา อะไรก็ตามเถิด ต้องใช้เงิน ต้องมีงบ ต้องทำประชาพิจารณ์
เห็นพูดๆกัน ว่าจะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ไม่เห็นใครพูดว่าจะทำอย่างไร

คุณ  mz  ตอบได้ตรงที่สุด


ส่วนนี้น่าจะเป็นขั้นตอนปฏิบัติหลังจากยอมรับแนวคิดการเมืองใหม่ จึงจะกำหนดวิธีการให้ได้มาซึ่ง'การเมืองใหม่' จากการพิจารณาของ'การเมืองภาคประชาชน' นักวิชาการ ผู้นำทางความคิด และนักการเมืองรุ่นใหม่.....!!!

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
FireSatongNorth
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #9 เมื่อ: 08-09-2008, 10:27 »

อันดับแรก ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ต้องคงอยู่
โดยคงไว้ซึ่งอำนาจ บริหาร นิติบัญญัติ และ ตุลาการ

ในความเห็นของผมคือ ควรแยกอำนาจทั้งสามส่วน ออกจากกันโดยเด็ดขาด โดยกำหนดที่มาของ ฝ่ายบริหาร และ นิติบัญญัติ เสียใหม่ ส่วน ตุลาการ ให้คงเดิม

ที่มาของฝ่ายบริหาร มาจากการเลือกตั้ง ในรูปแบบของทีมบริหาร พร้อมนำเสนอตัวนายก นโยบาย จัดการดีเบส แบบเดียวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีในอเมริการ ผ่านสื่อทุกสื่อ ในช่วงการหาเสียง

ที่มาของฝ่ายนิติบัญญัติ มาจากตัวแทนในการเลือกตั้งภายในกลุ่มอาชีพสมาคมย่อยโดยแตกให้ย่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้ใกล้เคียงกับการเป็นประชาธิปไตยทางตรงมากทีสุด (แน่นอนทางตรงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว) เพื่อให้ประชาชนสามารถควบคุมกันเองได้ในกลุ่มอาชีพนั้นๆ ตัวแทนเข้าใจในปัญหาในกลุ่มตัวเอง เพื่อสามารถนำเสนอ หรือคัดค้าน ในกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชีพนั้นๆ เพื่อเป็นการเปลี่ยนกลุ่มการเลือกตั้งเดิมซึ่งใช้พื้นที่อยู่อาศัยเป็นการแบ่งกลุ่มเลือกตั้งเช่นในปัจจุบัน ไปเป็นกลุ่มสังคมอาชีพแทน (กำจัดการซื้อเสียงไปในตัว เพราะสมาชิกในกลุ่มไม่ได้รวมตัวกันเป็นกระจุกที่ง่ายต่อการเข้าถึงของหัวคะแนน)

อาจดูเหมือนว่าในสภาผู้แทนไม่มีการถ่วงดุล ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล แต่จริงๆมีการถ่วงดุล โดยฝ่ายประชาชนภายในกลุ่มตัวเอง

ฝ่ายบริหาร ก็ถูกถ่วงดุล ด้วย สภาผู้แทน ,สภาสูง (คงรูปแบบเดิม) และองค์กรอิสระ

นี่แหละครับ สิ่งที่เป็นความเห็นผมในเรื่อง 95 มาจากประชาชน 5 มาจากนักการเมือง  
บันทึกการเข้า
อิรวันชาห์ IrWanSyah
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 870



« ตอบ #10 เมื่อ: 08-09-2008, 10:34 »

70 ก็คือการเมืองสำหรับพวกกลัวการเลือกตั้ง กลัวสอบตก พวกรอส้มหล่น ขาดอำนาจบารมีทางการเมือง  ไม่รู้แม้แต่หลัก ทศพิธราชธรรม ว่าคืออะไร
บันทึกการเข้า

วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #11 เมื่อ: 08-09-2008, 10:44 »

ขอเสนอให้พิจารณาอีกแนวทางหนึ่งครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=29267.0

แต่เห็นว่าการเมืองใหม่ ไม่ใช่ประเด็นหลักที่พันธมิตรควรจะนำมาเป็นเงื่อนไขเพื่อเรียกร้องเอาให้ได้ในวันนี้พรุ่งนี้ แต่ต้องช่วยกันสร้างในระยะยาวจากภาคประชาชนเอง


บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
นายดอกเข็ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



« ตอบ #12 เมื่อ: 08-09-2008, 10:46 »

70 ก็คือการเมืองสำหรับพวกกลัวการเลือกตั้ง กลัวสอบตก พวกรอส้มหล่น ขาดอำนาจบารมีทางการเมือง  ไม่รู้แม้แต่หลัก ทศพิธราชธรรม ว่าคืออะไร

แล้ว หอกหัก คนที่ อิรวันชาห์ IrWanSyah สนับสนุนและชื่นชม มี ธรรม แบบไหนในการดำเนินชีวิต
หอกหัก คนที่ปลุกระดมประชาชนให้ฆ่านักศึกษาในเหตุการณ์เดือนตุลา และบอกว่าเดือนตุลาตายคนเดียว
อิรวันชาห์ IrWanSyah นิยมชมชอบคนแบบนี้ ใช้หลักในการดำเนินชีวิตแบบนี้นี่เอง
บันทึกการเข้า

...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #13 เมื่อ: 08-09-2008, 16:08 »

ทศพิธราชธรรม ใฃ้คำนี้อีกแล้ว

ไอนายกของท่านอะ เค้าสมควรใช้ราชธรรม ให้มันรู้วัฒนธรรมมั้ง

แล้วก็ไม่เห็นมันจะมีราชธรรมอะไรเลยด้วย ยกมาให้ชื่นใจซักข้อซิ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
Arch_FreeMan
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 210



« ตอบ #14 เมื่อ: 08-09-2008, 16:18 »

ส่วนตัวผมรับได้นะครับ แนวคิดนี้

แต่ก็ต้องขอ ดูวิธีการ คัดเลือก ไอ้ 70% ก่อน ว่ามันเป็นอย่างไร

ถ้าวิธีการมันไม่ได้เรื่อง ก็ไม่เอาเหมือนกัน

แต่ที่ผมห่วงคือ การเปิดประเด็นเรื่องนี้ จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเอาไปโจมตี ขนาดฝรั่ง เขายังเข้าใจผิดและกลัวเลยว่า พวก พธม มี วาระซ่อนเร้นอะไร ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองการปกครองอย่างไร

เกรงว่าถ้าเขาขยายผลมากๆ พธม จะเป็นหมาหัวเน่า และ เสียเสียงสนับสนุน ขนาดทำให้คนเข้าใจว่า พธม ประท้วงเพราะอะไรยังยาก แล้วนี่ยังจะมาทำให้ คนเข้าใจ การเมืองใหม่ของคุณภายในไม่กี่วัน ไม่กี่เดือนมันเป็นไปไม่ได้

ทฤษฏี ศก พอเพียง ของในหลวงท่าน ท่านใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่าจะทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจ

แล้วการเมืองใหม่ มันต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของประชาชนอีกตั้งมากมาย อยู่ๆ จะเอามาใส่ในเงื่อนไขเลิกชุนนุมของ พธม ผมคิดว่าไม่เหมาะสม แถมเป็นข้อสามด้วย


บันทึกการเข้า

ธรรมเท่านั้นคือทางรอดของสังคมไทย
คนไกลเมือง
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 167


เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์


« ตอบ #15 เมื่อ: 08-09-2008, 16:47 »

เท่าที่รู้และฟังจากผู้อภิปราย แกนนำ และคุณสุริยะใส 70% นี่มาจากองค์กรภาคประชาชนและสังคมทุกๆ องค์กรครับ เช่นพวก องค์กรข้าราชการครู แพทย์ พยาบาล NGO ฯลฯ ซึ่งองค์กรที่กล่าวมาแล้วนั้น ล้วนผ่านการเลือกตั้งจากภายในองค์กรแล้วทั้งสิ้น(ก็ไม่เห็น ว่าไม่เป็นประชาธิปไตยตรงไหน???) คัดตัวแทนขึ้นมาอาจจะ 1-2 คนเพื่อมาเป็นสภาระดับสูง เพื่อทำงานร่วมกับ สส. ที่มาจากการเลือกตั้ง 30% ครับ

ปล. จริงๆ แล้วผมเห็นด้วยนะครับที่แต่ละจังหวัดควรมีจำนวน สส. เท่ากันทุกๆ จังหวัด และไม่ต้องมีจำนวนเยอะเกินไปครับ เพราะประหยัดงบชาติได้เยอะ
บันทึกการเข้า

เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นราชพลี
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #16 เมื่อ: 08-09-2008, 19:50 »

อันนี้ 70 30 อย่างยาว ครับ

แนวคิดนี้เคยโพสไว้ในเวบเสรีไทยมานานแล้ว

ลองอ่านดุนะครับ น่าจะเป้นแนวคิดและที่มาของ 70 30

http://forum.serithai.net/index.php?topic=17506.0

แต่ตัวเลขนั้นสำคัญไฉน ยังไงเรื่องการเมืองใหม่ยังต้องการการถกเถียงกันอีกมากครับ

ไม่ต้องรีบร้อนให้เป้นหัวข้อโจมตีของฝ่ายรัฐบาลเลยครับ ขนาด ดร นิธิ ยังบอกว่า 70 มาจากการแต่งตั้ง

จากข้าราชการ และทหารเลย ยิ่งพูดยิ่งถูกบิดเบือนครับ

การเมืองใหม่คือการเมืองที่ดีกว่าปัจจุบันครับ กำลังรอให้เราออกแบบกันอยู่ครับ

70 30 เป็นเพียงแง่มุมเดียวของการเมืองใหม่ครับ จุดไหนที่ไม่ดีก็ต้องแก้ให้ดีขึ้นครับ

70 30 เป็นเพียงการแก้ไขการเมืองปัจจุบันให้ผุ้แทนเป็นตัวแทนของประชาชนมากขึ้น

แทนที่จะเป็นแค่ตัวแทนของนายทุนกลุ่มเล็กๆที่มีเงินมาใช้จ่ายในการเลือกตั้งได้ไม่ต่ำกว่าคนละ30ล้านบาท

ยังมีจุดที่จะต้องแก้อีกมากครับ

ตอนนี้พันธมิตร กำลังจะจัดสัมมนาทางวิชาการ ให้มาถกเถียงและออกแบบการเมืองใหม่กันอยู่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2008, 21:20 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
bangkaa
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 407



« ตอบ #17 เมื่อ: 08-09-2008, 20:05 »

แถลงการณ์ ฉบับที่ 20/2551
       พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
       เรื่อง
       “การเมืองใหม่”

       

       
       ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เคลื่อนไหวชุมนุมอย่างต่อเนื่องเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญมิให้นำมาแก้ไขเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการฟอกความผิดของตัวเองและพวกพ้อง โค่นล้มระบอบทักษิณ ขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด ตลอดจนสร้างการเมืองใหม่ให้เกิดขึ้นในราชอาณาจักรไทยนั้น
       
       เพื่อความเป็นเอกภาพและความชัดเจนในการเคลื่อนไหวของการชุมนุม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงขอประกาศให้ทราบถึงทิศทางการเมืองใหม่ในราชอาณาจักรไทยดังนี้
       
       1.การเมืองในปัจจุบันเป็นระบบการเมืองอุบาทว์ ถูกผูกขาดโดยนักเลือกตั้งในพื้นที่เขตเลือกตั้งและนายทุน ที่ยังคงเต็มไปด้วยปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ทุจริตการเลือกตั้ง ใช้อิทธิพลและระบบอุปถัมภ์ในท้องถิ่นเพื่อข่มขู่ประชาชน อีกทั้งยังใช้อำนาจรัฐและอำนาจเงิน เพื่อให้ได้ชัยชนะในการเลือกตั้งทุกวิถีทาง บนความอ่อนแอและฉ้อฉลของคณะกรรมการการเลือกตั้งบางคนที่ไม่สามารถทำให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม และไม่สามารถยับยั้งนักการเมืองเข้าสู่อำนาจในการปกครองบ้านเมืองได้ทันท่วงที
       
       เมื่อการเลือกตั้งเต็มไปด้วยการทุจริตฉ้อฉลและใช้เงินเป็นตัวตั้ง ทำให้การเมืองไทยกลายเป็น “ธนาธิปไตย” เกิดการตอบแทนบุญคุณต่อนายทุนของพรรคการเมือง รัฐบาลซึ่งประกอบไปด้วยพรรคการเมืองที่ฉ้อฉล จึงมุ่งแต่จะทุจริตคอร์รัปชั่น กระทำผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง ทรยศต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าพระพักตร์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำได้แม้กระทั่งขายชาติขายแผ่นดิน ดังตัวอย่างที่รัฐบาลชุดนี้ได้กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญตามคำวินิจฉัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการลงนามร่วมเพื่อยกปราสาทพระวิหารให้ประเทศกัมพูชานำไปขึ้นทะเบียนมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว มุ่งแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง อีกทั้งยังอาศัยกลไกทางรัฐสภาในการยกมือสนับสนุนนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่เป็นพวกพ้องที่ทุจริตอย่างไร้จริยธรรม และกลายเป็นระบอบเผด็จการรัฐสภาแห่งทุนนิยมสามานย์ในที่สุด
       
       เมื่อนักการเมืองส่วนใหญ่ในระบบปัจจุบันมุ่งแต่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง จึงทำให้กลไกการตรวจสอบทั้งจากกระบวนการยุติธรรม สื่อสารมวลชน และประชาชน ต้องถูกทำร้าย ทำลาย และคุกคามทุกรูปแบบจากระบบการเมืองอุบาทว์ในปัจจุบัน
       
       กระบวนการยุติธรรมถูกทำร้ายและทำลายด้วยการโยกย้ายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมให้เป็นคนของตัวเองและพวกพ้อง ฝ่ายบริหารสมคบกับฝ่ายนิติบัญญัติร่วมมือกันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดอำนาจฝ่ายตรวจสอบและฝ่ายตุลาการ ในขณะที่นักการเมืองที่ฉ้อฉลเข้าทำการเสนออามิสสินจ้างให้กับศาลสถิตยุติธรรม สื่อสารมวลชนถูกแทรกแซง และปิดกั้น ประชาชนที่ใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญในการชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลกลับถูกทำร้ายร่างกายและถูกทำลายทรัพย์สินโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและอันธพาลของรัฐบาล ทั้งหมดนี้คือการทำลายกระบวนการตรวจสอบในประเทศชาติเพื่อกลบเกลื่อนความชั่วร้ายของนักการเมือง และถึงขั้นที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลดพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์เพื่อรวบอำนาจให้กับการเมืองอุบาทว์อย่างเบ็ดเสร็จ
       
       แม้จะมีการลาออกของนักการเมืองหรือการยุบสภา หากไม่ได้มีการปฏิรูปการเมืองอย่างแท้จริง การเมืองไทยก็จะวนเวียนอยู่ในวงจรอุบาทว์เช่นนี้ไม่รู้จบสิ้น
       
       เพื่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จึงเห็นว่าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเมืองใหม่ในราชอาณาจักรไทย
       
       2.การเมืองใหม่ในราชอาณาจักรไทย คือ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง โดยมีเป้าหมายดังนี้
       
       2.1 สนับสนุนให้คนดีมาปกครองบ้านเมือง ป้องกันไม่ให้คนไม่ดีมีอำนาจ เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคมทุกภาคส่วน ทั้งในด้าน เศรษฐกิจ การเมือง และสังคม
       
       2.2 ประชาชนมีส่วนร่วมในทางการเมือง การเมืองใหม่จะไม่จำกัดอยู่เพียงนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งในพื้นที่เท่านั้น แต่จะยังเปิดกว้างให้ภาคประชาชนที่หลากหลาย ได้มีส่วนร่วมทางการเมืองทุกระดับ เช่น ผู้แทนจากกลุ่มวิชาชีพต่างๆ ผู้แทนจากภาคประชาชนที่หลากหลาย ผู้แทนจากภาคสังคมที่แตกต่าง ฯลฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับการออกแบบรัฐธรรมนูญร่วมกันของประชาชนทุกภาคส่วนในสังคมเพื่อให้เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างแท้จริง
       
       3.เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำให้เกิดการเมืองใหม่ในราชอาณาจักรไทย พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอประกาศจุดยืนดังต่อไปนี้
       
       3.1 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เห็นว่าต้องขับไล่รัฐบาลอันธพาลหุ่นเชิดขายชาติชุดนี้ให้พ้นจากตำแหน่งโดยเร็วที่สุด และไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะเจรจากับกลุ่มใดก็ตามที่ไม่ยืนอยู่บนหลักการดังกล่าว
       
       3.2 เราพร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงอำนาจทางการเมืองในปัจจุบัน บนเงื่อนไขที่จะต้องปฏิรูปการเมืองโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง และพร้อมที่จะสะสางปัญหาความเลวร้ายของระบอบทักษิณด้วยกระบวนการยุติธรรมและความจริงใจ
       
       อนึ่ง การนำเสนอบนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ผ่านมา เช่น เรื่องจำนวน ผู้แทนประชาชนต่อผู้แทนตามพื้นที่ในสัดส่วน 70 : 30 นั้น ขอทำความเข้าใจอีกครั้งหนึ่งว่า เป็นเพียงการยกตัวอย่างรูปแบบการลดสัดส่วนการเมืองเก่าที่อุบาทว์และล้มเหลว เพื่อจุดประกายสำหรับระดมความคิดเห็นในสังคม ไม่ได้เป็นสูตรตายตัวแต่ประการใด เราพร้อมรับการแสดงความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนในการร่วมกันออกแบบการเมืองใหม่ และยึดถือเสียงส่วนใหญ่ในสังคมมาเป็นแนวทางในการออกแบบการเมืองใหม่ให้มีศีลธรรม จริยธรรม และมีสัดส่วนที่หลากหลายกว่าในปัจจุบัน เพื่อให้สอดคล้องกับวิถีชีวิต จารีตประเพณี วัฒนธรรมของสังคมไทย โดยยังคงความเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสืบไป
       
                                                             ด้วยจิตคารวะ
       
                                              พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
                                                วันจันทร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ.2551
                                                           ณ ทำเนียบรัฐบาล
       

       
       ------------------
       แถลงการณ์ฉบับภาษาอังกฤษ
       
       
       
Announcement Number 20/2008
       People’s Alliance for Democracy
       On
       “New Politics”

       
       The People’s Alliance for Democracy (PAD) has been gathering continuously to protect the Constitution to prevent it from being used as a tool in laundering the wrongdoings of Thaksin Shinawatra and his associates, to eradicate the Thaksin regime, to chase out the proxy government, and to pave the way for new politics in the Kingdom of Thailand.
       
       For unity and clarity of the rally, the PAD wants to announce the direction of new politics for the Kingdom of Thailand as follows:
       
       1. The current political system should be condemned as electioneers monopolize electoral constituencies and businesspeople. Vote-buying and electoral fraud exist through using local influence to threaten the public. State authority is abused and money is used to win elections at all costs on the weakness and corrupt activities of some Election Commission officials, who cannot ensure a fair and just election.
       
       With elections riddled with fraud and vote-buying, Thai politics has turned into “money politics.” Politicians have to pay back to their sponsors through corruption, violation of the law, and violation of the oath they gave to His Majesty the King when they took office. They sell their country as was seen from how this administration violated the Constitution, as ruled by the Constitution Court, in signing the joint communiqué which allowed Cambodia to register Preah Vihear Temple as a World Heritage Site by itself. They seek benefits for themselves and their cronies and abuse the Parliamentary system by utilizing their majority vote to support the ruling coalition in unethical endeavors, turning Parliament into a dictatorship of capitalism.
       
       As most politicians in the system strive to seek benefits for themselves and their cronies, the checks and balance system from the judiciary, the media, and the public are damaged, destroyed, and threatened.
       
       The judiciary system has been damaged and destroyed through the transfer of state officials to put politicians’ associates into power. The Administrative and Legislative branches have jointly tried to amend the Constitution to lower the authority of the judiciary and the checks and balance system. Corrupt politicians try to bribe the judiciary system. The media sees interference. People who are exercising their rights to gather against the government have been injured by the police and thugs backed by the government. All of this contribute to the efforts to destroy the country’s checks and balance system to cover up the evil of politicians. Attempts also exist to lessen the power of the monarchy for absolute control by politicians.
       
       Even if politicians resign or a House dissolution occurs, Thai politics will continue in this vicious cycle if no efforts are made to reform it.
       
       For a sustainable future of the country, the PAD sees that it is necessary for new politics in the Kingdom of Thailand.
       
       2. New politics for the Kingdom of Thailand is true democracy under a Constitutional Monarchy with the following goals:
       
       2.1 Support for good people to manage the country and blocking of evil people from coming to power so all sectors of society are ensured justice.
       
       2.2 The public must be allowed participation in politics. New politics will not only see politicians elected from constituencies but will see representation from all sectors, such as representatives from different vocations and groups. This will be designed by a Constitution that sees public participation to ensure a true democracy under a Constitutional Monarchy.
       
       3. To ensure that new politics is introduced in the Kingdom of Thailand, the PAD announces the following stance:
       
       3.1 The PAD sees its first goal as chasing out this proxy government that has sold the country. It is not necessary for negotiations with any group that sees otherwise.
       
       We support changes to the current political situation on the condition that political reform must happen and the public must be allowed participation in politics. There must also be sincere efforts to solve the evil in the Thaksin regime through the judiciary system.
       
       The proposal on the PAD stage of a 70 : 30 ratio of public representatives to elected representatives is merely an example of how the old-style politics should be replaced and is open to discussions. It is not a fixed formula advocated by the PAD. We are ready for a discussion from all sides on designing new politics and will respect the majority decision for new politics that is ethical, moral, and more representative of the varied social sectors to go in line with the lifestyles and culture of Thailand but still upholding democracy under a Constitutional Monarchy.
       
       With deep respect,
       People’s Alliance for Democracy
       Monday, September 08, 2008
       At Government House




*********************************


ชอบมั่กๆๆๆๆๆๆ

ตรงที่....ลงท้ายว่า...

ณ ทำเนียบรัฐบาล

กับ...

At Government House



สะใจจิงๆๆๆๆๆๆๆ




 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-09-2008, 20:10 โดย bangkaa » บันทึกการเข้า

มาทำหน้าที่... ใช้หนี้แผ่นดิน...และมาทำบุญ...
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #18 เมื่อ: 08-09-2008, 20:06 »

เห็นภาพชัดเจนครับ เพื่อนสมาชิกอธิบายได้ดีเยี่ยม

โดยส่วนตัวผมรับได้กับ70:30ครับ การเมืองแบบนี้อาจเหมาะกับประเทศไทยก็ได้

ในเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศ(กลุ่มคนชั้นล่างหรือรากหญ้า)ยังไม่เข้าใจคำว่าประชาธิปไตยดีพอ

ยังไม่เข้าใจสิทธิและหน้าที่ของตนเอง ปล่อยให้พวกนักการเมืองสนตะพายซื้อเสียงจนการเมืองกลายเป็นเรื่องธุรกิจ

การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบ70:30น่าจะเหมาะสมกว่าก็ได้ รอไว้คนไทยมีความรู้ เข้าใจสิทธิทางการเมืองของตนเองดีกว่านี้

ค่อยมีประชาธิปไตยเต็มใบก็ยังไม่สาย



บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


Mz
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



« ตอบ #19 เมื่อ: 08-09-2008, 21:45 »

ผมเข้าใจนะครับว่า 70/30 (หรือสัดส่วนใดๆ) คือการเปลี่ยนแปลงวิธีที่จะได้มาซึ่งตัวแทนภาคประชาชน (สส.นั่นแหละ)
สิ่งที่แกนนำ พธม. นำเสนอ .. โฟกัสไปที่การแก้ไขกระบวนการที่จะได้มา
เพื่อทำให้ สส. เป็นตัวแทนภาคประชาชนมากยิ่งขึ้น 

ซึ่งประเด็นการได้มาซึ่งตัวแทนภาคประชาชนนี้ สามารถคิดโมเดลใหม่มาได้มากมาย
แต่ประเด็นที่ผมพูดถึง ไม่ใช่เรื่องนี้
เพราะถึงแม้จะแก้วิธีการได้มาซึ่งตัวแทนภาคประชาชนได้ดั่งใจนึก .. มันก็ไม่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง

นั่นคือ เมื่อสิ้นสุดกระบวนการได้มาแล้ว หากบรรดา สส. เกิดลายออกเอาตอนหลัง .. มันก็วนไปที่ปัญหาเก่า (ปัจจุบัน)

การเมืองภาคประชาชนในความเห็นผม ไม่ได้โฟกัสให้ประชาชนเข้าๆไปบริหารเอง
แต่ให้มีกลไกที่ประชาชนสามารถตรวจสอบ และถอดถอนตัวแทนที่เขาเลือกให้เข้าไปบริหารบ้านเมืองแทนได้

ผมอยากให้เราร่วมกันสร้างการเมืองใหม่
โดยสิ่งที่ผมอยากเห็นในการเมืองใหม่ คือเครื่องมือที่จะให้เกิดการตรวจสอบจากภาคประชาชนครับ





บันทึกการเข้า

FireSatongNorth
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #20 เมื่อ: 08-09-2008, 22:49 »

อธิบายความเพิ่มเติม
ขอเป็นจุดๆหนึ่งในการเมืองใหม่ละกันครับ....

ต้องถามชาวบ้านก่อนว่า คุณเลือก สส ไปทำอะไร??

สิ่งที่หลายคนคาดหวังคือ เอาเงินงบประมาณมาสร้างโน้น สร้างนี่ สร้างถนน ฝาย อ่างเก็บน้ำ ฯลฯ <<== นี่เป็นหน้าที่ฝ่ายบริหารกระทรวงต่างๆ
ไม่แปลกใจที่หลายคนจะดีใจเมื่อ สส พรรคที่ตนเลือก ได้เป็นรัฐบาล <<== อ้าว แล้วทำไมไม่เลือกคณะรัฐมนตรีและนายก ไปซะเลยล่ะ
การสร้างสาธารณูปโภค ถนนหนทาง เราก็มีการกระจายอำนาจจากกระทรวงมหาดไทยลงไปแล้วนี่ เป็น อบจ อบต กันวุ่นวายไปหมด ไม่ใช่เหรอ??
พวกเขามีหน้าที่ไปจัดการปัญหาในท้องถิ่นอยู่แล้วนี่...

แล้วเลือก สส ไปทำไมเนี้ย....<<== เพื่อไปทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ออกกฎหมาย รับรู้ปัญหาของคนในพื้นที่ (เพราะว่าแบ่งกลุ่มเลือกตั้งเป็นพื้นที่)
กลั่นกรอง การผ่านร่างงบประมาณ ฯลฯ

โดยแท้จริงในพื้นที่เลือกตั้งท้องถิ่นนั้นน่ะ มันมี อบจ อบต ดูแล อยู่แล้ว ... สส น่าจะแบ่งกลุ่มแบบอื่นออกไปเลยดีกว่า เช่น เป็นกลุ่มวิชาชีพ ฯลฯ เป็นต้น
(ตัดความสัมพันธ์ในการสร้างอิทธิพลของนักการเมืองเก่าออกจากเครือข่ายเลือกตั้งท้องถิ่นเดิม)

แล้วพรรคการเมืองยังมีอยู่หรือไม่ <<== ยังมีอยู่ครับ แต่ต้องลดขนาดลง เพื่อเข้ามารับเลือกตั้งเป็นทีมบริหารประเทศ
(ตัดขาดความสัมพันธ์ของพรรคการเมือง กับ สภาผู้แทนราษฎร)

ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ขออย่างเดียว ให้แยกอำนาจนิติบัญญัติ ออกจากอำนาจบริหารโดยเด็ดขาด แบบไม่รู้จักหน้ากันเลยน่ะ
บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #21 เมื่อ: 08-09-2008, 23:07 »

ช่วยๆกันคิดช่วยๆกันออกแบบให้ได้ตามเป้าหมายครับ

ยังมีอีกหลายแง่มุมที่ต้องออกแบบให้ได้ตามวัตถุประสงค์ของการเมืองใหม่ครับ

นอกจากให้มีสัดส่วนภาคประชาชนเข้ามาเป้นตัวแทนเพิ่มแล้ว

ยังต้องมีกลไกที่ประชาชนสามารถตรวจสอบ และถอดถอนตัวแทนที่เขาเลือกให้เข้าไปบริหารบ้านเมืองได้

ตามที่คุณMz แนะนำ ลองออกแบบกลไกการตรวจสอบและถอดถอนกันว่าจะมีรูปแบบอย่างไร

ถึงจะมีประสิทธิภาพ เช่นเมื่อนักการเมืองถูกกล่าวหา และเมื่อมีการสอบสวนแล้วเห้นว่ามีมูลก้ควรต้องออกจากตำแหน่ง

ไม่ต้องรอให้คดีสิ้นสุดศาลมีคำพิพากษาลงโทษ เมื่อถูกถอดถอนแล้วไม่มีสิทธ์กลับมาได้อีก เหมือนรมต ไชยา

หรือยุบพรรคแล้ว สมาชิกก็ไม่มีสิทธ์กลับมารับเลือกตั้ง ไม่งั้นจะยุบไปทำไมยุบแล้วก็ตั้งใหม่เหมือนคำตัดสินไม่ศักดิ์สิทธิ์

ลองนึกๆกันครับว่ามีแง่มุมไหนอีก ที่จะทำให้การเมืองมันดีกว่าปัจจุบัน
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #22 เมื่อ: 08-09-2008, 23:30 »

วันนี้ห้าแกนนำ'พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' ได้แถลงการณ์อธิบาย'การเมืองใหม่' และ '70:30' ให้ชัดเจนกว่าเดิม...
นายเส-นียด สส.พปช. แนวร่วมนรกป่วนกรุง และ บัตรเติมเงินในเวบเสรีไทย เช่น 'มะแอไม่ถึงยี่สิบ' หนอนฯ อยากฯ mebeam ฯลฯ ฟังคำแถลงการณ์ไม่ทัน คิดไม่ทัน เข้าใจไม่ถ่องแท้.....!!!

แต่จะอ่านคำแถลงการณ์ในภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แล้วจะมีสติปัญญา วุฒิภาวะ และ สัมมาทิฐิ เข้าใจหรือ ?......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

ปล. พวกบัตรเติมเงิน ทั้งหน้าใหม่ หน้าเก่า ปลาร้าเก่าในไหใหม่ อย่าอยากได้'บัตรเติมเงิน'จนตัวสั่น สิ้นความอาย ตั้งคำถามซ้ำซากในวันข้างหน้าอีกน่ะ จะบอกให้......ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า


บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
บัวริมบึง
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 384


« ตอบ #23 เมื่อ: 09-09-2008, 02:41 »

ทำไมไม่เอา 50/50 ไปอ่ะ แปลกจัง หรือไม่ก็เปล่ยนเป็น 30/70 แทน  คิดอะไรกันอยู่น้า ไม่เข้าใจจริงๆ 
บันทึกการเข้า
seosaro
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


« ตอบ #24 เมื่อ: 09-09-2008, 02:50 »

 100/0 
ไปเลยสิ แต่งตั้งให้หมด ให้ ชนชั้นสูง ราชนุกูล ครองเมืองไปเลย
บันทึกการเข้า
เทวา
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 54


« ตอบ #25 เมื่อ: 09-09-2008, 05:10 »

จริงๆให้อธิบายและยกตัวอย่างให้เข้าใจได้ง่ายๆ ก็สามารถทำได้
แต่มันจะยาวน้องๆพอกเกตบุค

เอาเป็นว่า แนวคิดแบบนี้ไม่ใช้เรื่องแปลกใหม่แต่อย่างใด ประหลาดกว่านี้ก็เคยคิดกันมาแล้ว
ถ้าเอาหลักการและเหตุผล หลายร้อยปีที่แล้วก็แบบนี้นั่นแหละ
ทุกข้อดี ทุกข้อมีเหตุมีผล ... เพื่อความชอบธรรม เพื่อแก้วงจรอุบาทว์ เพื่อแก้การซื้อเสียง เพื่อการมีส่วนร่วม 9ล9
ผมให้ระดมสมองห้าปีเลยเอ้า ระดมกันอย่างงานประจำ 8.00 -16.30 ห้าวันต่ออาทิตย์ เป็นเวลา 5 ปี

ถึงที่สุด ก็จะได้ตำรา การเมืองการปกครองพื้นฐาน หนึ่งเล่ม ซึ่งก็ไม่ครบถ้วนด้วยซ้ำ

การคิดเพื่อชาติบ้านเมืองเป็นสิ่งที่ดี แต่ควรเข้าใจพื้นฐานบางประการสำหรับการเมืองการปกครองในทุกๆรัฐ เช่น

1- ต่อให้คนในรัฐมีคุณภาพไม่เท่ากัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าทุกๆคนในรัฐมีส่วนในการขับเคลื่อนรัฐ จ่ายภาษีทั้งทางตรงและทางอ้อม
   ดังนั้นไม่ว่าเขาจะประกอบอาชีพใด การศึกษาเท่าใด ถ้าถือว่าเขาเป็นพลเมืองในรัฐ เขาย่อมมีสิทธิเท่าๆกับคนอื่นๆ
   การหาตัวแทนผ่านกลุ่มบุคคลแยกย่อย คิดกันมาตั้งแต่เริ่มคิดทฤษฏีบททางการเมืองนั่นแหละ
   มันฟังดูดี เอาคนมีความรู้มาคัดสรรบุคลากรทางการเมือง แต่มันทำไม่ได้เนื่องจากเหตุผลข้างต้น

2-เงื่อนไขเวลา  การระดมสมองเอานามธรรมมาแปรรูปเป็นรูปธรรมเพื่อเป็น เครื่องมือปฏิบัติทางการเมือง มันมีเวลาจำกัด มันรอไปสามปี สี่ปี ไม่ได้
   ถ้าจะบอกว่าก็คิดไป ค่อยๆแก้ไข พัฒนาต่อยอด  มันทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว ในคณะรัฐศาสตร์ของทุกมหาวิทยาลัย ยังไม่รวมสถาบันทางสังคมศาสตร์อีกมากมาย

3- พึงเข้าใจว่า ทุกทฤษฏีบท สมควรได้รับการพิสูจน์ ในทางวิทยาศาสตร์เราทำได้ ในระบบปิดที่จัดสรรกันมา ในทางสังคมศาสตร์ก็อาจทำได้
   แต่มันใช้เวลานานเท่าไรก็ไม่ทราบ ยังไม่รวมว่าจะวัดผลอย่างไร จะบังคับใช้บังคับทดลองออกมาโดยมี กม.มารองรับได้อย่างไร
  และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาการทดลองใดๆมาผูกกับชีวิตจริง มาทดลองเล่นกับชีวิตมนุษย์

4-ถ้าศึกษาการเมืองมาบ้าง หรือมีอายุพอสมควร จะทราบว่าเราเคยมีวุฒิสมาชิกจากการแต่งตั้งมาตลอด เพิ่งมาเลือกตั้งกันไม่กี่ปี
   หลักการและเหตุผลก้แบบที่อ้างกันอยู่ในเวลานี้ นั่นคือล้วนแล้วแต่ดี และ น่าฟัง
   ผลก็คือเราได้ คนขับรถ ช่างตัดผม แม่ค้าขายอาหาร หมอ ทหาร วิศวกร มาเป็นวุฒิสมาชิก ก็ดูดี มีหลากหลายอาชีพ ยุติธรรมมาก
   มันเสียแค่ทุกคน ทุกอาชีพ คือลิ่วล้อนักการเมืองล้วนๆ

5- พึงสำนึกว่า ระบบการปกครองและการคัดสรรบุคลากรทางการเมืองมันไม่ได้เพื่อความถุกต้องสมบูรณ์ เพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้
   แต่เพื่อให้มันเข้าใกล้ที่สุด มีข้อผิดพลาดและช่องโหว่น้อยที่สุด
   เราผ่าน absolute monachy .... totalrianism....liberalist...มาจนถึง democracy แบบรัฐสภา ในรัฐยุคใหม่
   (ไม่เหมือน dialactic ของ มาร์ก และ เองเกล นะครับ )
   มันมีข้อดีข้อเสีย มีอะไรๆให้เรียนรู้ได้โดยไม่ต้องมานั่งใช้งบซ้ำซาก แค่เดินเข้าห้องสมุด เปิดหุ เปิดตา ก็พอ 
   จะเอาการปกครองที่ดีมาใช้ทางโลก แต่จะเอาเงื่อนไขดีทางธรรม  ให้ไปดูวัด การปกครองของสงฆ์ คือตัวอย่างของเผด็จการเบ็ดเสร็จที่มีในรัฐยุคใหม่
   
เริ่มยาว  เอาเป็นสรุปว่า คิดได้ ทำได้ แต่อย่ามาชูธงเป็นวาระเป็นเงื่อนไข
ที่คิดที่ทำ เขาทำกันมาไม่รู้กี่รัฐ กี่องค์กรทางการเมือง กี่สมัยแล้ว
และก็ไม่สามารถจะเป็นรูปธรรมแบบมีนัยสำคัญทางการเมืองได้หรอก เพราะรูปธรรมที่เป็นไปได้หลังจากผ่านการคิดกันมาเป็นร้อยๆปี
ก็อย่างที่เห็นในปัจจุบันนี่แหละ ตราบใดที่จะหากฏอะไรซักกฏ มาครอบ homosapian มันทำได้เท่านี้
นั่นเพราะโดยเนื้อแท้ของเผ่าพันธ์มนุษย์แล้ว เรามิได้เกิดกันขึ้นมาเพื่อความดีพร้อม สมบูรณ์ 
มนุษย์เกิดมาเพื่อเอาตัวรอด เพื่อความต้องการความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
รัฐไหนตอบสนองความต้องการพื้นฐานนั้นให้กับประชาชนในรัฐได้ ก็รัฐนั้นนั่นแหละดี ภาษาปรัชญาการเมือง เขาเรียกว่า บรรลุ arete ของรัฐ


*นี่ยังไม่ถึง 5 เปอร์เซนต์ของสิ่งที่ควรรู้ ก่อนจะเริ่มเข้าการพิจารณาทางการเมืองการปกครองเลยนะครับ  ขัดใจใครก็ขออภัย

บันทึกการเข้า
seosaro
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 22


« ตอบ #26 เมื่อ: 09-09-2008, 05:45 »

 จะเขียน ให้มัน ไพเราะ ให้มันดูดีแค่ไหน ก็ได้ครับ ว่าเพื่อ ประชาชน แต่หลักการ มันไม่ใช่นะสิ เพราะ มนุษย์ ทุกคนมี กิเลส ตัณหา ทุกคน

โจทย์ ข้อ 1

ถ้าบอกว่า

 เลือกตั้ง  30 
 อีก  70  ให้ แต่งตั้ง โดย ทักษิน เนวิน สมัคร และ พรรคพวก เป็๋นคน คัดคน และ แต่งตั้ง

โจทย์ ข้อ 2

 เลือกตั้ง  30 
 อีก  70  ให้ แต่งตั้ง โดย จำลอง สนธิ สุริยใส และพรรคพวก เป็๋นคน คัดคน และ แต่งตั้ง

โจทย์ ข้อ 3
 เลือกตั้ง  30 
 อีก  70  ให้ แต่งตั้ง โดย คนชั้นสูงในประเทศ และ แต่งตั้ง

คือ การเมืองมันเรื่องของ ผลประโยชน์ ใครเข้าไปทำหน้า ที่เขาก็ต้องแต่งตั้ง คนของพวกตัวเองทั้งนั้น

 คนที่ คัดคน สรรหาและ แต่งตั้ง จะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ในระบอบ นี้ ( เรียกว่าคนที่ทำหน้าที่ ตรงนี้ เป็นคน ชี้เป็น ชี้ตายประเทศว่าจะเดินไปทางไหน
ต่างกับ 1man 1vote ที่ประชาชน เลือกนโยบายพรรคที่ตัวเองเห็นด้วย ว่าอยากให้ประเทศไปในทิศทางไหน)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2008, 05:57 โดย seosaro » บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #27 เมื่อ: 09-09-2008, 05:58 »

ที่ก่อนนี้เมืองไทยยังทำไม่ได้เพราะ ยังไม่มี active citezen คือประชาชนที่ตื่นแล้ว

และหวงสิทธิของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ได้เวลาอันเหมาะสมแล้ว ที่จะพัฒนาประชาธิปไตยขื้นไปอีกขั้น

แต่ก็ยังมีคนไม่เข้าใจหรือพยายามที่จะไม่เข้าใจ เรื่อง70/30

เช่นคุณ seosaro ที่บอกว่าชนชั้นสูง ราชนุกูล จะครองเมือง

เพราะอีก70ไม่ใช่มาจากการแต่งตั้ง แต่จะเป็นการ

เลือกตั้ง ตัวแทนของกลุ่มต่างๆในสังคม ถ้ายังนึกภาพไม่ออก ลองไปอ่านกระทู้ของเสรีไทยข้างล่าง

ซึ่งแนวคิดใกล้เคียงกัน

http://forum.serithai.net/index.php?topic=17506.0

ส่วนอัตราส่วนตัวแทนของพื้นที่กับตัวแทนของกลุ่มต่างๆนั้นจะเป็นเท่าไร

คงจะมีการถกเถียงกันอีกที

จริงๆการเมืองใหม่คือการที่ประชาชนมีส่วนร่วมกับประชาธิปไตยมากขึ้น

ไม่ใช่เพียงแค่ออกไปเลือกตั้ง พอเสร็จแล้วก้ปล่อยให้นักการเมืองจะทำอะไรกับบ้านเมืองก็ได้

แต่การเมืองใหม่ประชาชนจะคอยยืนกำกับนักการเมืองอยู่ตลอดเวลา

การตรวจสอบจากภาคประชาชนจะเข้มข้นขื้น และนักการเมืองจะต้องทำเพื่อประชาชน

ไม่ใช่ทำเพื่อพวกพ้องอย่างทุกวันนี้ ซึ่งก็จะเหมือนกับ ประเทศที่นักการเมืองมีความรับผิดชอบ

มีจริยธรรมเพิ่มขึ้น เมื่อทำผิดแม้เพียงเล็กน้อยก็จะรับผิดชอบด้วยการลาออก ไม่ต้องรอให้ศาลตัดสิน

ซึ่งผู้แทนถ้าไม่ทำเพื่อผู้ที่เลือกเข้ามา ก้จะไม่ได้รับเลือก

 ถ้าประชาชนที่เลือกรู้สึกไม่ไว้ใจก้สามารถเอาออกได้ง่ายกว่าปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้อยู่จนครบเทอม

ไม่เหมือนตอนนี้ขอให้มีเงินยังไงก็ได้เลือกอีก เพราะสามารถซื้อเสียงได้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-09-2008, 06:14 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
istyle
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 853



« ตอบ #28 เมื่อ: 09-09-2008, 06:41 »

จะเขียน ให้มัน ไพเราะ ให้มันดูดีแค่ไหน ก็ได้ครับ ว่าเพื่อ ประชาชน แต่หลักการ มันไม่ใช่นะสิ เพราะ มนุษย์ ทุกคนมี กิเลส ตัณหา ทุกคน

โจทย์ ข้อ 1

ถ้าบอกว่า

 เลือกตั้ง  30 
 อีก  70  ให้ แต่งตั้ง โดย ทักษิน เนวิน สมัคร และ พรรคพวก เป็๋นคน คัดคน และ แต่งตั้ง

โจทย์ ข้อ 2

 เลือกตั้ง  30 
 อีก  70  ให้ แต่งตั้ง โดย จำลอง สนธิ สุริยใส และพรรคพวก เป็๋นคน คัดคน และ แต่งตั้ง

โจทย์ ข้อ 3
 เลือกตั้ง  30 
 อีก  70  ให้ แต่งตั้ง โดย คนชั้นสูงในประเทศ และ แต่งตั้ง

คือ การเมืองมันเรื่องของ ผลประโยชน์ ใครเข้าไปทำหน้า ที่เขาก็ต้องแต่งตั้ง คนของพวกตัวเองทั้งนั้น

 คนที่ คัดคน สรรหาและ แต่งตั้ง จะเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด ในระบอบ นี้ ( เรียกว่าคนที่ทำหน้าที่ ตรงนี้ เป็นคน ชี้เป็น ชี้ตายประเทศว่าจะเดินไปทางไหน
ต่างกับ 1man 1vote ที่ประชาชน เลือกนโยบายพรรคที่ตัวเองเห็นด้วย ว่าอยากให้ประเทศไปในทิศทางไหน)



โถ กลับไปทำการบ้านมาดีๆ่ก่อนมาโพสซี้ซั้วนะครับ

ใครพูดซักคำรึยังว่า 70 มาจากการแต่งตั้ง

http://forum.serithai.net/index.php?topic=17506.0 ลองอ่านกระทู้นี้ก่อน
บันทึกการเข้า
yuwadee
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 137


« ตอบ #29 เมื่อ: 09-09-2008, 06:58 »

ถ้าจะเอาอย่างนี้ อย่าลืมไปแก้รัฐธรรมนูญล่ะ

19 ก.ย. 49 ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนทั้งฉบับ กลับมุดหัว

ปี 51 รัฐบาลประชาธิปไตยขอแก้ไขรัฐธรรมนูญตามสัญญาที่ได้หาเสียงไว้
กลับออกมาดิ้นพลาดๆ

แต่ 70:30 กลับยอมให้แก้ได้

งง กับตรรกกะนี้จิงๆเลย...
บันทึกการเข้า
FireSatongNorth
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 107



« ตอบ #30 เมื่อ: 09-09-2008, 09:16 »

ถ้าจะเอาอย่างนี้ อย่าลืมไปแก้รัฐธรรมนูญล่ะ <<== ครับ ผมว่าต้องแก้อยู่แล้วเพราะมันมีผลกระทบกับส่วนรวมทั้งประเทศจริงๆ

19 ก.ย. 49 ฉีกรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนทั้งฉบับ กลับมุดหัว <<== อันนี้ผมก็ไม่เห็นด้วยครับ แต่ไม่แน่ใจว่ารัฐธรรมว่าปี 50 ได้ยกเลิกอะไรในปี 40 บ้าง??

ปี 51 รัฐบาลประชาธิปไตยขอแก้ไขรัฐธรรมนูญตามสัญญาที่ได้หาเสียงไว้
กลับออกมาดิ้นพลาดๆ <<== ถ้าแก้ไขเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมของชาติ คงไม่มีใครห้าม แต่ถ้าแก้เพื่อพรรคพวกตัวเอง นี่ไม่ได้ครับ ผมไม่ยอมด้วยคน

แต่ 70:30 กลับยอมให้แก้ได้ <<== อันนี้ต้องระดมสมอง ผลเป็นอย่างไรคงต้องลงประชามติ แต่มันก็ทำให้เกิดการตื่นตัวทางการเมืองของประชาชน ดีจังครับ งง กับตรรกกะนี้จิงๆเลย... <<== ผมตอบในตรรกะง่ายๆ ลองอ่านดูอีกทีนะครับ เผื่อมีอะไรต้องแก้ไขปรับปรุง
บันทึกการเข้า
big j
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 40


« ตอบ #31 เมื่อ: 09-09-2008, 10:38 »

การเมืองใหม่ยังต้องใช้เวลาถกกันให้ตกผลึก
แต่ในระยะสั้นของวันนี้ ต้องยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่
ให้กกต.ตรวจสอบสส.อย่างเข้มงวดที่สุด
กกต.จังหวัดต้องคัดกรองใหม่ให้ดีด้วย
เครือข่ายภาคประชาชนอย่างพีเน็ตต้องได้รับการอุดหนุนมาให้ตรวจสอบ
ถ้าจะมีอาสาสมัครของพันธมิตรฯมาเสริมก็ยิ่งเจ๋ง
เพราะมีดีกรีผ่านการอบรมมาแล้วจากมหาวิทยาลัยราชดำเนิน
และที่สำคัญต้องมีเวลาในการประกาศมากกว่า 30 วัน
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #32 เมื่อ: 09-09-2008, 11:18 »

ไม่ใช่การเมืองใหม่ใดๆอย่างที่โม้หรอก...มันเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่ต้องการรวบอำนาจและผลประโยชน์โดยการใช้ประชาชนโง่ๆมาบังหน้าแค่นั้นเอง เพราะถ้าการเมืองรูปแบบที่พวกมันดีจริง...ทำไมคนทั่วโลกเค้าไม่นำมาใช้หล่ะ!?!
บันทึกการเข้า
นายดอกเข็ม
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 423



« ตอบ #33 เมื่อ: 09-09-2008, 11:19 »

ไม่ใช่การเมืองใหม่ใดๆอย่างที่โม้หรอก...มันเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่ต้องการรวบอำนาจและผลประโยชน์โดยการใช้ประชาชนโง่ๆมาบังหน้าแค่นั้นเอง เพราะถ้าการเมืองรูปแบบที่พวกมันดีจริง...ทำไมคนทั่วโลกเค้าไม่นำมาใช้หล่ะ!?!

เหรอ
บันทึกการเข้า

...ความชอบธรรมต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรม...
วาโย
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 250


ซ้ายหรือขวาก็ว่าเอียงทั้งคู่ขอสู้อยู่ตรงกลางดีกว่า


« ตอบ #34 เมื่อ: 09-09-2008, 13:02 »

ไม่ใช่การเมืองใหม่ใดๆอย่างที่โม้หรอก...มันเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่ต้องการรวบอำนาจและผลประโยชน์โดยการใช้ประชาชนโง่ๆมาบังหน้าแค่นั้นเอง เพราะถ้าการเมืองรูปแบบที่พวกมันดีจริง...ทำไมคนทั่วโลกเค้าไม่นำมาใช้หล่ะ!?!
ใช่ครับอุสส่าห์จ้างคนให้เขียนข่าวโฆษณาว่าระบบตนเองดีเลิศแต่ไม่มีประเทศไหนเล่นด้วย คุณจ๊ะนี่อยู่ๆออกมาด่าทักษิโนมิคทำไมครับนี่แปรพักแล้วหรือไงกัน
 เสนอให้เปลี่ยนไปใช้คำอื่นแทนคำว่าการเมืองใหม่ครับ เพราะคำนี้มันล่อแหลมต่อการเข้าใจผิดของปวงชน ขอแทงกั๊กฟังไปเรื่อยๆก่อนเพราะเชื่อว่ายังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกยาว โครงสร้างที่สมบูณณ์แบบไม่มีอยู่จริงแต่การเมืองภาคประชาชนแบบองค์รวม(ฟังทุกๆเสียงรวมทั้งเสียงฝั่งนูนด้วย)จะให้กำเนิดโครงสร้างซึ้งเป็นที่ยอมรับของทุกคนในอนาคตได้ครับ
บันทึกการเข้า

มาเถอะพี่น้องพ้องเพื่อนชีวิต ...ตื่นเถอะมวลมิตรผู้ยังหลับไหลจากเรา...คาราวาน (ขอยกท่อนหนึ่งของเพลงคาราวานมาแสดงระกันครับ ถึงเวลาแล้วที่คนหลับต้องตื่นสู้ คนอยู่ต้องก้าวต่อไป)
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #35 เมื่อ: 09-09-2008, 14:03 »

ใช่ครับอุสส่าห์จ้างคนให้เขียนข่าวโฆษณาว่าระบบตนเองดีเลิศแต่ไม่มีประเทศไหนเล่นด้วย คุณจ๊ะนี่อยู่ๆออกมาด่าทักษิโนมิคทำไมครับนี่แปรพักแล้วหรือไงกัน
 เสนอให้เปลี่ยนไปใช้คำอื่นแทนคำว่าการเมืองใหม่ครับ เพราะคำนี้มันล่อแหลมต่อการเข้าใจผิดของปวงชน ขอแทงกั๊กฟังไปเรื่อยๆก่อนเพราะเชื่อว่ายังมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกยาว โครงสร้างที่สมบูณณ์แบบไม่มีอยู่จริงแต่การเมืองภาคประชาชนแบบองค์รวม(ฟังทุกๆเสียงรวมทั้งเสียงฝั่งนูนด้วย)จะให้กำเนิดโครงสร้างซึ้งเป็นที่ยอมรับของทุกคนในอนาคตได้ครับ



ยังอุตส่าห์เพอหาท่านอดีตนายกฯทักษิณเป็นวรรคเป็นเวรแบบนี้...ท่านไปใช้ชีวิตสบายแล้วครับ คนเก่งแบบท่าน...ไปที่ไหนก็ได้รับการยอมรับ เสียดายแต่ว่าประเทศไทยเรามีคนขี้อิจฉาคอยเป็นมือที่มองไม่เห็นชักใยเบื้องหลัง ความเลวร้ายมันจึงเกิดขึ้นอย่างที่เห็น

สังเกตุง่ายๆกรณีม๊อบยึดทำเนียบน๊ะ ถ้าไม่มีsomeoneหนุนหลัง...จะกล้าขัดศาล ทหาร กฎหมายหรือไม่!?!
บันทึกการเข้า
Thaksinocide
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



« ตอบ #36 เมื่อ: 10-09-2008, 01:27 »

ผมเข้าใจความรู้สึกของคนที่เห็นด้วยกับ"การเมืองใหม่"ที่เหล่าแกนนําพยายามสร้างกระแส แต่ผมคิดว่ามันคือการใช้ความรู้สึกและอารมณ์ในการตัดสินมากกว่าเหตุผล

1.ในสถานการณ์เช่นนี้คุณจะเอาช่องว่างตรงไหนในการนํา"การเมืองใหม่"เป็นรูปแบบการเมืองหลักของประเทศ ถ้าไม่ใช่รัฐประหาร?

2.การเมืองใหม่ที่พวกแกนนําพ่นออกมาทุกวันนี้ไม่เคยอธิบายถึงโครงสร้าง,รูปแบบและวิธีการได้มาเลยแม้แต่นิดเดียว พูดถึงแต่ผลลัพธ์เช่น จะไม่มีนักการเมืองโกง, จะมีธรรมาภิบาล, รายได้ของประชาชนจะดีขึ้น, ประชาชนจะมีส่วนร่วมมากขึ้น สรุปทุกอย่างเป็นไปตามอุดมคติ แต่การพูดถึงผลลัพธ์โดยปราศจากวิธีการได้มาจะมีประโยชน์อะไร?หรือวิธีการได้มาก็คือ"การเมืองใหม่"อีก???? งง งง (อะไรที่ใครสงสัยหรือค้านให้ตอบว่า"การเมืองใหม่"ไว้ก่อน)

3.เดิมทีผมคิดว่าถ้าจะมีประชามติจริงๆควรจะให้ประชาชนลงความเห็นระหว่างการเมืองใหม่กับการเมืองเก่าแต่คงเป็นไปไม่ใด้แล้ว ต่อให่ประชามติต้องเตรียมการ 7 เดือน แต่ผมเชื่อว่ากว่า"การเมืองใหม่"จะตกผลึกคงอีกเป็นปี(ขนาดร่าง รธน. ยังใช้เวลาเป็นปี)

4.จําลองบอกว่าการเมืองใหม่นักการเมืองจะต้องไม่รับผลประโยชน์กระทั่งเงินเดือน ผมสงสัยว่าทําไมไม่ทํากับการเมือง ณ ทุกวันนี้ไปเลย เพราะถ้าการเมืองใหม่ 70% มาจากกลุ่มอาชีพสมมติเกิดมี ชาวนา หรือ หญิงบริการ เข้ามาในสภา เค้าจะเอาเงินที่ไหนดํารงชีวิตหละ?

5.ถ้า 70 % มาจากกลุ่มอาชีพ(ชาวนา ชาวสวนเงาะ ชาวสวนยาง คนขับแท็กซี่ มอไซด์วิน ฯลฯ) ที่บุคคลในอาชีพนั้นๆได้ทําการเลือกมาเป็นตัวแทน และ 30 % มาจาก 1 man 1 vote ถ้าทุกคนมีสิทธิใน 30% เท่าเทียมกัน แต่ดันมีบางคนอยู่ในกลุ่มอาชีพ 70% มากกว่า 1 กลุ่ม ในขณะที่อีกคนอาชีพของเขาอาจจะไม่มีในกลุ่ม 70% แล้วความเท่าเทียมของแต่ละบุคคลอยู่ตรงไหน?

6.การเมืองใหม่ที่ไม่มีความชัดเจนแม้แต่นิดเดียว ย่อมจะไม่แปลกที่จะมีคนออกมาไม่เห็นด้วยเพราะมันหมายถึงเสถียรภาพของบ้านเมือง ผมไม่เห็นความจําเป็นที่พวกแกนนําจะต้องออกมาด่าคนที่ค้าน ทําไมถึงไม่รอให้ตกผลึกก่อนค่อยนํามาเสนอ ไม่เช่นนั้นใครๆเค้าก็ต้องคิดว่าเป็นแค่ปาหี่การเมือง

7.ที่บอกว่า 70% เป็นการเมืองภาคประชาชนนี่ดูเหมือนจะเป็นประชาชนพันธมิตรนะครับ เพราะทุกวันนี้แกนนํายังเที่ยวด่าฝั่งที่ไม่เห็นด้วยอยู่ทุกวัน เพราะฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่พวกพันธมิตรได้อํานาจรัฐไป ASTV ก็คงไม่ต่างจาก NBT และกลุ่มผู้ต่อต้านก็จะกลับมาด้วยความชอบธรรม

ในความเห็นของส่วนตัวของผม"การเมืองใหม่"เป็นแค่ปาหี่ดึงคนของเหล่าแกนนําเท่านั้นแหละ สิ่งที่แกนนําพูดมีอยู่แค่วรรคเดียวที่ผมเชื่อคือ คนที่พูดโกหกไม่คิดทําชั่วไม่มี
บันทึกการเข้า
۞§♠เกิดจากดิืน♠§۞
น้องใหม่
*
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3



« ตอบ #37 เมื่อ: 10-09-2008, 06:56 »

สำนักพิมพ์ไหนก็ได้ ช่วยนำไปพิมพ์เผยแพร่หน่อยก็ดีนะครับ
ถ้าวางขายก็จะซื้อ
อยากศึกษาแบบเข้าใจจริง ๆ
อ่านยา่ว  ๆ ผ่าน จอคอม ปวดตา

 
บันทึกการเข้า

เกิดมาใช่อื่นเพื่อผืนแผ่นดินไทย
Thaksinocide
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



« ตอบ #38 เมื่อ: 10-09-2008, 07:20 »

สำนักพิมพ์ไหนก็ได้ ช่วยนำไปพิมพ์เผยแพร่หน่อยก็ดีนะครับ
ถ้าวางขายก็จะซื้อ
อยากศึกษาแบบเข้าใจจริง ๆ
อ่านยา่ว  ๆ ผ่าน จอคอม ปวดตา

 


เสียใจด้วยครับ ต่อให้สํานักพิมพ์ ผจก. ก็ยังพิมพ์ไม่ได้ เพราะกลุ่มคนที่คิดเองก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นยังไง
บันทึกการเข้า
control_J
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 69


« ตอบ #39 เมื่อ: 10-09-2008, 09:58 »

เราเอาด้วยนะ การเมืองใหม่หน่ะ

ไม่เอาแล้วการเมืองแบบเก่าๆ

ตลอดเวลาที่ผ่านมา สส.แทนที่จะเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน
ก็กลับกลายเป็นกระบอกเสียงให้นายทุนและก็พวกพ่อค้าคนกลางไปเสียนี่
ไม่เห็นจะมีกระบอกเสียงให้ชาวไร่ ชาวนาจริงๆเลย
ทุกวันนี้ ชาวนาก็แทบจะไม่มีที่ดินทำกินแล้ว เป็นของนายทุนต่างชาติหมด
ชาวไร่เองก็เจอกับราคาพืชผลตกต่ำเพราะผลประโยชน์ของพวกนักการเมืองที่ไปแลกกับ FTA
แล้วไงหล่ะ ถ้าไม่ไปประท้วง ก้ไม่มีใครรู้ถึงปัญหา
กระบอกเสียงของพวกเขาก็คงจะเป็นแค่ทีวี และหนังสือพิมพ์ที่ถ่ายทอดชีวิตของพวกเขาเท่านั้น แล้วจะเลือกพวกสส.เฮงซวยมาทำไม

นี่แหละการเมืองแบบเก่าๆ ควรจะตายไปกับนักการเมืองเก่าๆได้แล้ว

ให้ตัวแทนของพวกชาวไร่ ชาวนา หรือสาขาอาชีพต่างๆได้มีตัวแทนของเขาจริงๆซักที

70/30 หรือเท่าไหร่ก็ได้มาช่วยคิดกัน

บ้านเมืองเราจะได้เจริญในทุกภาคส่วนถ้วนทั่วถึงกัน ซะที

  

บันทึกการเข้า

ไม่ชนะ ไม่เลิก
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #40 เมื่อ: 10-09-2008, 10:10 »

ตอนนี้มันยังเป็นวุ้นอยู่เลย ต้องให้ประชาชนอย่างเราๆ นี่ละครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันเสนอ ให้เกิดการเคลื่อนไหวเป็นวงกว้างๆ

บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #41 เมื่อ: 10-09-2008, 22:26 »

ถ้าพวกแกนนำพันธมิตรเสียสละเพื่อประชาชนจริง

แล้วทำไมพวกเขาจึงได้นอนในทำเนียบฯแต่พันธมิตรระดับล่างต้องนอนกลางสนามครับ
บันทึกการเข้า
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #42 เมื่อ: 10-09-2008, 22:34 »

ถ้าพวกแกนนำพันธมิตรเป็นพวกเดียวกับประชาชนจริง

ประชาชนกินอะไรพวกแกนนำพันธมิตรก็กินได้แบบเดียวกับประชาชน

ประชาชนนอนที่ไหนพวกแกนนำพันธมิตรก็นอนได้แบบเดียวกับประชาชน

ประชาชนเหนื่อยพวกแกนนำพันธมิตรก็เหนื่อยได้แบบเดียวกับประชาชน

บันทึกการเข้า
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #43 เมื่อ: 10-09-2008, 22:38 »

ถ้าพวกแกนนำพันธมิตรทำเพื่อประชาชนแล้วทำไมจึงต้องให้ประชาชนมาตายแทนพวกเขาด้วยครับ
บันทึกการเข้า
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #44 เมื่อ: 10-09-2008, 22:49 »

ทำไมจึงคิดว่า 70 จะดีครับ

ต่อให้ดีในตอนแรกแล้วอีก 100 ปีข้างหน้าล่ะ


ถ้า  70 ไม่ดีจริง รวมถึง 30 ด้วย พร้อมให้ประชาชนขับไล่หรือไม่

ถ้าคิดว่า 70 นั้นดีแล้วทำไมจึงไม่สามารถครองใจประชาชนได้

บันทึกการเข้า
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #45 เมื่อ: 10-09-2008, 22:57 »

ทำไมจึงคิดว่า พธม. มีความปราถนาดีต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง

มีสิ่งใดเป็นตัววัดครับ
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #46 เมื่อ: 11-09-2008, 01:04 »

ไม่ใช่การเมืองใหม่ใดๆอย่างที่โม้หรอก...มันเป็นเรื่องของกลุ่มคนที่ต้องการรวบอำนาจและผลประโยชน์โดยการใช้ประชาชนโง่ๆมาบังหน้าแค่นั้นเอง เพราะถ้าการเมืองรูปแบบที่พวกมันดีจริง...ทำไมคนทั่วโลกเค้าไม่นำมาใช้หล่ะ!?!


เวลานี้ถือว่า
'การเมืองใหม่' ใหม่กว่า
'ปฏิญญาฟินแลนด์'....ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #47 เมื่อ: 11-09-2008, 17:23 »

70:30 ดีจริงแล้วทำไมต่างประเทศจึงไม่นำระบบการเมืองใหม่ที่ดีอย่างนี้ไปใช้ในประเทสของพวกเขาล่ะ

พวกต่างประเทศไม่มี 70:30 ทำไมประเทสพวกเขาจึงเจริญกว่าเราได้

70:30 ดีถึงขนาดนี้ทำไมจึงนำไปขายในต่างประเทศไม่ได้ครับ

บันทึกการเข้า
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #48 เมื่อ: 11-09-2008, 17:33 »



คนที่เลือก 70:30 เพราะว่าคิดว่านักการเมืองไทยใจไม่สูงพอ

 แต่ต่างประเทศไม่เลือก ระบบ 70:30แต่ประเทสพวกเขานั้นเจริญรุ่งเรืองกว่าไทยได้ 


ดังนั้นก็แสดงว่านักการเมืองต่างประเทศนั้นจิตใจสูงกว่าคนไทยงั้นหรือครับ

มันเปนไปได้หรือที่จะเปนเช่นนั้น

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คนที่ไม่ได้มีสภาวะจิตใจที่ผิดปกติแม้ว่าจะไม่ชอบในตัวบุคคลแต่ยังไงก็คงไม่คิทำลายระบอบประชาธิปไตย
บันทึกการเข้า
shrine
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 84


« ตอบ #49 เมื่อ: 11-09-2008, 17:37 »


คนที่เลือก 70:30 เพราะว่าคิดว่านักการเมืองไทยใจไม่สูงพอ

 แต่ต่างประเทศไม่เลือก ระบบ 70:30แต่ประเทสพวกเขานั้นเจริญรุ่งเรืองกว่าไทยได้  


ดังนั้นก็แสดงว่านักการเมืองต่างประเทศนั้นจิตใจสูงกว่าคนไทยงั้นหรือครับ

มันเปนไปได้หรือที่จะเปนเช่นนั้น

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คนที่ไม่ได้มีสภาวะจิตใจที่ผิดปกติแม้ว่าจะไม่ชอบในตัวบุคคล
แต่ยังไงก็คงไม่คิดจะทำลายระบอบประชาธิปไตย
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: