ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
30-11-2024, 19:33
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ระดมความคิด..ประชาชนภิวัฒน์การเมืองใหม่ อย่างไรหนอ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ระดมความคิด..ประชาชนภิวัฒน์การเมืองใหม่ อย่างไรหนอ  (อ่าน 3569 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 10-09-2008, 20:59 »

(ความเห็นส่วนตัวครับ)  ช่วยกันระดมความคิดไปยังแกนนำ พธม.ที่เมล์     pad2551@gmail.com

การเมืองใหม่ คือ โล๊ะอาชีพนักการเมืองทิ้ง
การเมืองใหม่ คือ การเลือกตั้งตามแต่ละสาขาอาชีพของแต่ละคน โดยเฉพาะผู้เสียภาษีแก่รัฐบาล
เช่น
นายไก่ มีอาชีพเป็นแพทย์ ก็ให้เลือกตั้งอาชีพกลุ่มแพทย์เป็นตัวแทนของตนเอง

นายไข่ มีอาชีพเป็นชาวไร่ชาวนาชาวสวน ก็ให้เลือกตั้งอาชีพกลุ่มเกษตรกรรมขึ้นมาเป็นตัวแทนของตนเอง

ผมขอสนับสนุนการเมืองใหม่ ให้เลือกตั้งกันตามแต่สาขาอาชีพของตนครับ
เช่น
- ส.ส.อาชีพโชว์ห่วย
- ส.ส.อาชีพแพทย์และพยาบาล
- ส.ส.อาชีพชาวนาชาวสวน
- ส.ส.อาชีพครูอาจารย์นักวิชาการ
- ส.ส.อาชีพสื่อสารมวลชล
- ส.ส.อาชีพทหารและตำรวจ
- ส.ส.อาชีพนักการเงินการธนาคาร
- ส.ส.ดารานักแสดงนักร้องศิลปิน
- ส.ส.อาชีพกลุ่ม NGO
- ส.ส.อาชีพรัฐวิสาหกิจ
- ส.ส.อาชีพข้าราชการ
- ส.ส.อาชีพกลุ่มพ่อค้าแม่ค้ารายย่อยค้าปลีก

อะไรประมาณนี้อ่ะครับ...เป็นต้น
เพราะคนเราเกิดมาทุกคนต้องมีอาชีพและเสียภาษีทุกคน อย่างเลวร้ายที่สุด คนที่ไม่รู้จะทำอาชีพอะไร ก็ไปเป็นโสเภณี หรืออาชีพขอทาน เป็นต้น



*************************


แต่ถ้าจะยังคงให้มีอาชีพนักการเมืองด้วย ก็เลือก ส.ส.วัดจากคุณภาพของประชาชนและองค์ความรู้ของประชาชน โดยให้ ส.ส.อาชีพนักการเมืองมาจาก 2 แหล่ง
คือ
1. ส.ส.ในเขตอำเภอเมือง 1 คน (ในเขตเมืองคนโดนหลอกยาก)
2. ส.ส.ในเขตต่างอำเภอต่าง ๆ 1 คน (เขตต่างอำเภอคนโดนหลอกง่ายขายตัวขายเสียงเยอะ)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 21:01 โดย oho » บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #1 เมื่อ: 10-09-2008, 21:09 »

ไม่จำเป้นต้องยึดรูปแบบที่พันธมิตรเสนอมาก็ได้ครับ

ลองเสนอแนวคิดที่จะมาแก้ไขจุดบกพร่องของการเมืองปัจจุบัน

เช่นทำอย่างไรที่จะได้นัการเมืองที่ดี ป้องกันการซื้อเสียง จะมีระบบอะไรจะควบคุมการเลือกตั้งให้มีความบริสุทธิ์มากกว่านี้

ทำอย่างไรที่ไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากมายในการหาเสียงถึงคนละมากกว่า30ล้านบาทถึงจะได้เป็นผู้แทน

จะมีระบบตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ จะต้องมีข้อบังคับทางจริยธรรมอย่างไรให้นักการเมืองมีความรับผิดชอบมากกว่านี้

ทำอย่างไรให้ประชาชนที่อยู่ห่างไกลได้เข้าถึงข้อมูล และรู้จักสิทธิของตัวเอง

ยังมีแง่มุมอีกมากมาย นอกจากข้อเสนอของพันธมิตรเรื่องสัดส่วนการเลือกผุ้แทนครับ

หรือใครนึกไม่ออกว่าจะทำอย่างไร แค่รวบรวบปัญหาต่างๆของระบบการเมืองปัจจุบันก็ได้ครับ

เพราะเมื่อรู้ว่าปัญหามีอะไรบ้าง และมีสาเหตุจากอะไร ก็จะได้ช่วยกันคิดหาทางแก้ปัญหากันได้ครับ


เช่น คุณริวเซย์ ตั้งโจทย์ว่า

ระบบไหนก็ได้ที่ตัดพวกนักธุรกิจการเมืองและพวกคอรัปชั่นไปจากระบบการเมืองและราชการได้

คราวนี้ก็ช่วยกันคิดซิครับว่าจะทำอย่างไรถึงจะ ถึงเป้าหมายที่คุณริวเชย์ตั้งไว้
บันทึกการเข้า
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #2 เมื่อ: 10-09-2008, 21:11 »

เห็นด้วย กับการไม่เลือกผู้แทนโดยอาศัยการแบ่งเขตทางภูมิศาสตร์

ผู้แทนในพื้นที่ ควรจะเป็นระดับ อบต. อบจ. ก็พอแล้ว ส่วนผู้แทนที่จะเข้ามาในสภา น่าเลือกตามวิชาชีพ จะได้มีหลากหลายกลุ่มคน ไม่ใช่ได้แต่นักเลงหัวไม้ เจ้าพ่อเจ้าแม่ในท้องถิ่นเข้ามา พวกนี้เลวทั้งนั้นค่ะ  
บันทึกการเข้า
Kabal
สมาชิกสามัญขั้นที่ 1
**
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 27


« ตอบ #3 เมื่อ: 10-09-2008, 21:17 »

อืมม ผมเป็นคนกทม. ที่มาอยู่อีสาน

คำถามคือ การแบ่งกลุ่มอาชีพเนี่ย มันกว้างมากๆๆๆๆ แถมการแบ่งให้ลงตัวก็แทบเป็นไปไม่ได้

เอาของผมเป็นตัวอย่างก็ได้ เช่นถ้าผมเป็นเภสัชกร ในแง่วิชาชีพ ผมน่าจะอยู่สายหมอ แต่ไนแง่อาชีพที่ทำจริงๆ ผมเป็นพ่อค้า แล้วผมจะไปโวตกลุ่มไหนดีละครับ

อีกข้อ ในแต่ละอาชีพ สัดส่วนจำนวนคนในแต่ละอาชีพมันก็ห่างกันมากๆ เช่น ถ้า ตัวแทน 1 คน เป็นชาวนา = 1 คนเป็นหมอ ทั้งที่ชาวนามีมากกว่าหมอกี่ส่วนก็ไม่รู้ แล้วจะทำยังไง

แต่ทางตรงกันข้าม ถ้าตัวแทนชาวนามีจำนวนมากกว่าหมอหรือนักวิชาการมากๆ มันก็กลับไปเป็นประชานิยมเหมือนเดิมอีก

อีกประเด็นคือ อำนาจที่เคยถูกโยนไปให้คนรากหญ้าครั้งนึงแล้ว การเรียกเก็บกลับมามันยากนะครับ ถึงผมจะไม่เถียงว่าคนต่างจังหวัดการศึกษาต่ำกว่าในเมืองก็ตาม แต่ไม่มีใครบนโลกนี้จะสามารถฝืนกระแสโลกที่มอบอำนาจให้คนที่มีจำนวนมากกว่า (และอาจโง่กว่าในมุมมองของใครบางคน) ได้

สรุปคือ ผมไม่คัดค้านการเมืองใหม่ของเหล่าท่านแกนนำ แต่สิ่งที่ผมสงสัยคือ พวกท่านจะปฏิบัติได้จริงหรือครับ เพราะตอนนี้พวกคนที่เราเรียกว่ารากหญ้า ที่ครั้งหนึ่งไม่เคยสนใจโลก ไม่สนใจการเมือง ได้ลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของตนอย่างเต็มที่แล้ว
บันทึกการเข้า
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #4 เมื่อ: 10-09-2008, 21:21 »

ผมมีแนวคิดที่กำลังเรียบเรียงอยู่ ถ้ายังไงก็ลองเข้าไปอ่านดูนะครับ

http://forum.serithai.net/index.php?topic=29267
บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
พรรณชมพู
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,073


« ตอบ #5 เมื่อ: 10-09-2008, 21:25 »

อืมม ผมเป็นคนกทม. ที่มาอยู่อีสาน

คำถามคือ การแบ่งกลุ่มอาชีพเนี่ย มันกว้างมากๆๆๆๆ แถมการแบ่งให้ลงตัวก็แทบเป็นไปไม่ได้

เอาของผมเป็นตัวอย่างก็ได้ เช่นถ้าผมเป็นเภสัชกร ในแง่วิชาชีพ ผมน่าจะอยู่สายหมอ แต่ไนแง่อาชีพที่ทำจริงๆ ผมเป็นพ่อค้า แล้วผมจะไปโวตกลุ่มไหนดีละครับ

อีกข้อ ในแต่ละอาชีพ สัดส่วนจำนวนคนในแต่ละอาชีพมันก็ห่างกันมากๆ เช่น ถ้า ตัวแทน 1 คน เป็นชาวนา = 1 คนเป็นหมอ ทั้งที่ชาวนามีมากกว่าหมอกี่ส่วนก็ไม่รู้ แล้วจะทำยังไง

แต่ทางตรงกันข้าม ถ้าตัวแทนชาวนามีจำนวนมากกว่าหมอหรือนักวิชาการมากๆ มันก็กลับไปเป็นประชานิยมเหมือนเดิมอีก

อีกประเด็นคือ อำนาจที่เคยถูกโยนไปให้คนรากหญ้าครั้งนึงแล้ว การเรียกเก็บกลับมามันยากนะครับ ถึงผมจะไม่เถียงว่าคนต่างจังหวัดการศึกษาต่ำกว่าในเมืองก็ตาม แต่ไม่มีใครบนโลกนี้จะสามารถฝืนกระแสโลกที่มอบอำนาจให้คนที่มีจำนวนมากกว่า (และอาจโง่กว่าในมุมมองของใครบางคน) ได้

สรุปคือ ผมไม่คัดค้านการเมืองใหม่ของเหล่าท่านแกนนำ แต่สิ่งที่ผมสงสัยคือ พวกท่านจะปฏิบัติได้จริงหรือครับ เพราะตอนนี้พวกคนที่เราเรียกว่ารากหญ้า ที่ครั้งหนึ่งไม่เคยสนใจโลก ไม่สนใจการเมือง ได้ลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของตนอย่างเต็มที่แล้ว

ติดใจประโยคสุดท้ายมาก 

เพราะเท่าที่เห็นในตอนนี้ รากหญ้าก็ไม่ได้สนใจโลก ไม่ได้สนใจการเมือง แต่ได้ลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของตนอย่างเต็มที่  คือกลัวไม่ได้ตัง  แค่นั้นเอง 

อย่าไปวิตกกับพวกรากหญ้าเลยค่ะ รับรองได้ว่า ยังคงโง่ไปอีกนาน หากฉลาด ก็น่าจะรู้แล้วว่าคนโกงชาติโกงแผ่นดิน มันหนีไปอยู่เมืองนอกแล้ว 
บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #6 เมื่อ: 10-09-2008, 21:30 »

อาจจะทำอย่างเป็นขั้นตอน

1 รวบรวมปัญหาทั้หมดของการเมืองปัจจุบัน

2. สาเหตุ ที่ทำให้เกิดปัญหานั้นๆ

3. หาหนทางแก้ปัญหา โดยแก้ที่สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา

อาจทำก้างปลา หา Root Cause ของปัญหาก็ได้

การรวบรวมตอนแรกอาจจะสับสน ใครนึกอะไรได้ก็เขียนออกมาก่อน

พอเริ่มรวบรวมเรียบเรียงเขียนความคิดของแต่คนให้เป็นระบบ

ก็จะเริ่มเห็นภาพขึ้นมา การระดมสมองหรือ brain stromทางเน็ตอาจจะยากกว่าในห้องประชุม

แต่ก็สามารถทำได้ครับ ถ้าทุกคนช่วยๆกัน ก้คงจะได้อะไรดีๆขึ้นมาแน่ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 23:11 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
kittie
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 56


Gouf Girl


เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 10-09-2008, 21:36 »

...การเลือกตั้งตามสาขาวิชาชีพอาจเป็นไปได้ทางทฤษฎีนะคะ แต่ในความเป็นจริงมันจะเป็นปัญหามากในส่วนของกระบวนการ "แบ่งแยก" และ "ลงทะเบียน" ค่ะ เพราะบางทีเราไม่สามารถจำแนกกลุ่มอาชีพได้จากการระบุข้อมูลการเสียภาษีแต่เพียงอย่างเดียว และพวกนักกินบ้านกินเมืองมันต้องมีวิธีการโกงอยู่ดีล่ะค่ะ ทั้งการจัดตั้ง"กลุ่มอาชีพปลอม"เพื่อนลงคะแนนโดยเฉพาะ หรือการแก้ไขฐานข้อมูล (ซึ่งไม่ยากเลยที่จะเข้าไปจัดการในกรมสรรพากร ในกรณีที่คุณเป็นรัฐบาลในช่วงเวลานั้นๆ)


...สิ่งสำคัญที่จำทำให้เกิด "การเมืองใหม่" อย่างแท้จริงได้ อาจไม่ใช่วิธีการสรรหาตัวแทนที่เปลี่ยนไปก็ได้ค่ะ แต่ทำยังไงเราถึงจะทำให้เกิดการตื่นตัวทางการเมืองให้แพร่หลายสู่ภาคประชาชน เพราะนั่นคือหน่วยงานตรวจสอบที่เข้มแข็ง และพัฒนาไปสู่การเลือกตัวแทนที่มีวิจารณญาณและเหมาะสมในท้ายที่สุดค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 21:43 โดย kittie » บันทึกการเข้า

Vi Veri Veniversum Vivus Vici

"By the power of truth I, while living, have conquered the world"


--------------------------------------
My Hi5!!
 
http://kittiepong.hi5.com
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #8 เมื่อ: 10-09-2008, 21:40 »

มาทำขั้นตอนแรกซึ่งง่ายที่สุดก่อนไหมครับ ลืมๆที่พันธมิตรเสนอมาก่อนก้ได้ครับ

ขั้นแรก รวบรวมปัญหาต่างๆที่เราพบเจอ ของการเมืองปัจจุบันครับ

ค่อยๆขึ้นบันไดไปที่ละขั้นจะได้ไม่ท้อครับ อย่าเพิ่งไปมองยอดหอคอยที่อยู่ลิบๆเลยครับ

เช่น ปัญหาที่คุณ ริวเซย์ ยกมา

มี นักธุรกิจการเมือง และ พวกคอรัปชั่น ในระบบการเมืองและราชการ

หรือใครจะเสนอ สาเหตุ ของปัญหาที่พวกเรายกมา หรือวิธีแก้ไข ก็ได้ครับ

ใครนึกอะไรได้ก็เขียนออกมาก่อนครับ เพราะนี่คือการทำการระดมความคิดที่แท้จริงครับ

เขียนๆกันออกมาก่อน ถึงแม้ว่าจะดูสับสนก็ไม่เป็นไรครับ พออีกซักพักค่อยมารวบรวมเรียบเรียงกันครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 22:05 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
kittie
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 56


Gouf Girl


เว็บไซต์
« ตอบ #9 เมื่อ: 10-09-2008, 21:52 »

...งั้นขอเสนอหนึ่งปัญหาค่ะ

โครงสร้างการเมืองท้องถิ่น ที่เอื้อให้นักการเมืองเข้าไปทุจริตหาผลประโยชน์ และสร้างเครือข่ายเพื่อคะแนนเสียงค่ะ
บันทึกการเข้า

Vi Veri Veniversum Vivus Vici

"By the power of truth I, while living, have conquered the world"


--------------------------------------
My Hi5!!
 
http://kittiepong.hi5.com
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #10 เมื่อ: 10-09-2008, 22:07 »

ผมกลับอยากให้มีการกระตุ้นให้ "กลุ่มคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง" มีความตื่นตัวทางการเมือง

มีการเสพข่าว อ่านบทวิเคราะห์ทางการเมืองจากสื่อต่างๆ แล้วตัดสินใจเลือกผู้แทน ด้วยตัวเอง

มากกว่้าที่จะเลือกตามครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ญาติมิตร ยิ่งเลือกไปเพราะมีคนนำ "ทรัพย์สิน" มาให้ยิ่งแล้วใหญ่

เอาแค่คนใกล้ตัวผม ถามว่า "สมัครไม่ดีตรงไหน? เห็นออกนโยบายค่าน้ำ ค่าไฟ ขึ้นรถเมล์ฟรีมาเพื่อประชาชนนิ?"

เอาแค่คำถามข้างบน ก็รู้แล้วละครับว่า มีคนไม่ค่อยสนใจการเมืองพอสมควร แถมยังอ้างว่าเป็นกลางอีก เฮ้อออออ

แต่ก็น่าเห็นใจนะครับ สาเหตุที่คนกลุ่มนี้ไม่สนใจเพราะตั้งแง่ว่า เป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่น่าสนใจ  
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #11 เมื่อ: 10-09-2008, 22:27 »

การเลือกตามสาขาอาชีพ 70 หรือเท่าไหร่ก็แล้วแต่ ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เหตุผลเดียวกับคุณ kittie

จัดกลุ่มอาชีพยาก และจำนวนในแต่ละอาชีพแตกต่างกัน จะให้มีตัวแทนเท่ากันก็คงไม่เหมาะ จะคิดสัดส่วน

ตามปริมาณ อาชีพเกษตรกรก็จะมีตัวแทนมากกว่ากลุ่มอาชีพอื่น อาจมีเผด็จการทางสภาได้

ผมเสนอให้เลือกแบบเดิมครับ แต่ต้องหาทางเพิ่มเงือนไขให้ผู้สมัครทุกคนต้องเข้ารับการอบรม

เกี่ยวกับจริยธรรมสักระยะหนึ่งก่อน เราอาจจะได้นักการเมืองที่มีคุณภาพ มีจริยธรรมมากขึ้น
บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #12 เมื่อ: 10-09-2008, 22:34 »

ปัญหาการเมืองเก่าที่คุณ Sweet Chin Music เสนอมา คือ

ปัญหา : ประชาชนไม่สนใจการเมือง เห็นว่าการเมืองเป็นเรื่องไกลตัว

สาเหตุจาก: ไม่สามารถมีส่วนร่วม ทำอะไรไม่ได้ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เลยไม่สนทำมาหากินดีกว่า

ปัญหา:  สื่อไม่มีบทวิเคราะห์ทางการเมือง ไม่มีข้อมูลเชิงลึก และไม่ให้ความรู้แก่ผู้อ่าน

แค่เสนอข่าวโดยไม่ได้เจาะลึกลงไปถึงข้อเท็จจริง และไม่มีการอธิบายข่าวเพื่อให้ความรู้แกประชาชน

สาเหตุจาก: สื่อถูกครอบงำมีการแทรกแซงสื่อ ถูกกลั่นแกล้ง

ใครเห็นแย้งหรืออยากจะเสริมอะไรอีกก็ได้นะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 22:49 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #13 เมื่อ: 10-09-2008, 22:43 »

คุณ ooo เสนอปัญหาว่า

ปัญหา: นักการเมืองไม่มีคุณภาพ ไม่มีจริยธรรม ทำให้เกิด เผด็จการทางสภาได้

วิธีแก้ไข:ของคุณ ooo จัดอบรมทางจริยธรรมแก่ผู้สมัครเลือกตั้งก่อน

สาเหตุจาก: คนดี มีคุณภาพ มีจริยธรรม ไม่มาสมัครรับเลือกตั้ง   

สาเหตุจาก: คนดีเห้นว่าการเมืองเป็นเรื่องสกปรกไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยว

              การเลือกตั้งต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ถ้าไม่คิดเข้ามาหาผลประโยชน์ก็จะไม่เข้ามาสมัคร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 22:56 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
คนไทยคนหนึ่ง
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744


« ตอบ #14 เมื่อ: 10-09-2008, 23:04 »

คุณ kittie

ปัญหา โครงสร้างการเมืองท้องถิ่น ที่เอื้อให้นักการเมืองเข้าไปทุจริตหาผลประโยชน์ และสร้างเครือข่ายเพื่อคะแนนเสียง

ปัญหา การเมืองท้องถิ่น มีการทุจริต

ปัญหา มีการสร้างเครือข่ายท้องถิ่น เพื่อการซื้อเสียง

สาเหตู   ไม่มีระบบตรวจสอบในระดับท้องถิ่นที่มีประสิทธืภาพ

สาเหตุ การเลือกตั้งท้องถิ่นไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-09-2008, 23:08 โดย คนไทยคนหนึ่ง » บันทึกการเข้า
ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #15 เมื่อ: 10-09-2008, 23:52 »

เหตุผลอีกอย่างนึง ที่ไม่สนับสนุน การเลือก สส. จากสาขาอาชีพ

ก็เพราะมีบางอาชีพ ไม่ควรมาเป็น สส. อย่างเช่น องคมนตรี ตุลาการต่างๆ

บันทึกการเข้า
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« ตอบ #16 เมื่อ: 11-09-2008, 14:50 »

ถ้าคนอาชีพไหนไม่เสียภาษีอากรไม่เสียภาษีเงินเดือนหรือไม่เสียภาษีรายได้ ก็ไม่ควรจะมีตัวแทน ส.ส. .......เห็นด้วยครับ

แต่ถ้าคนไหนอาชีพไหนเค้าเสียภาษีรายได้เสียภาษีเงินเดือนเสียภาษีอากรให้กับรัฐบาล ก็ควรให้สิทธิ์เค้าได้มีตัวแทน... เห็นด้วยครับ

อย่างเช่น อาชีพโสเภณี เป็นอาชีพที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้ ไม่ควรให้มี ส.ส.โสเภณี เป็นตัวแทนครับ

คัดเลือกลงทะเบียนจากกรมสรรพากรก็น่าจะพอเห็นทางเป็นไปได้ครับ

สำหรับพวกพ่อค้าแม่ค้าแผงลอย เค้าก็เสียภาษีให้รัฐบาลเหมือนกัน จากการซื้อข้าว+น้ำปลา+น้ำตาลฯลฯ

(ซึ่งเป็นภาษีทางอ้อม VAT 7%)

ก็น่าจะให้สิทธ์มีตัวแทน ส.ส.จาก สมาคมพ่อค้าแม่ค้าปลีกรายย่อยก็โออิ


 




แต่ถ้าผมไม่อยากเสียภาษีให้รัฐ ....
จะขอสละสิทธ์ไม่ใช่สิทธิ์เลือกตัวแทนของผมได้ไหมครับ ???????
น่าจะมีกฏหมายรองรับ..สำหรับผู้ที่ไม่ยินยอมเสียภาษีรายได้ไม่เสียภาษีเงินเดือน
จะได้วางตัวเป็นกลางอย่างเท่ห์(ฉิหาย)  อิอิ+


 













ทีภาษีของเค้าละอยากได้ ไล่บี้ให้เสียภาษี
แต่พอเค้าจะใช้สิทธิ์ก็อ้างว่า "ไม่เหมาะสม"
ก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 14:55 โดย oho » บันทึกการเข้า
BrettAnderson
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 180



« ตอบ #17 เมื่อ: 11-09-2008, 14:59 »

ถ้าคนอาชีพไหนไม่เสียภาษีอากรไม่เสียภาษีเงินเดือนหรือไม่เสียภาษีรายได้ ก็ไม่ควรจะมีตัวแทน ส.ส. .......เห็นด้วยครับ

แต่ถ้าคนไหนอาชีพไหนเค้าเสียภาษีรายได้เสียภาษีเงินเดือนเสียภาษีอากรให้กับรัฐบาล ก็ควรให้สิทธิ์เค้าได้มีตัวแทน... เห็นด้วยครับ

อย่างเช่น อาชีพโสเภณี เป็นอาชีพที่ไม่ต้องเสียภาษีรายได้ ไม่ควรให้มี ส.ส.โสเภณี เป็นตัวแทนครับ

คัดเลือกลงทะเบียนจากกรมสรรพากรก็น่าจะพอเห็นทางเป็นไปได้ครับ

สำหรับพวกพ่อค้าแม่ค้าแผงลอย เค้าก็เสียภาษีให้รัฐบาลเหมือนกัน จากการซื้อข้าว+น้ำปลา+น้ำตาลฯลฯ

(ซึ่งเป็นภาษีทางอ้อม VAT 7%)

ก็น่าจะให้สิทธ์มีตัวแทน ส.ส.จาก สมาคมพ่อค้าแม่ค้าปลีกรายย่อยก็โออิ


 




แต่ถ้าผมไม่อยากเสียภาษีให้รัฐ ....
จะขอสละสิทธ์ไม่ใช่สิทธิ์เลือกตัวแทนของผมได้ไหมครับ ???????
น่าจะมีกฏหมายรองรับ..สำหรับผู้ที่ไม่ยินยอมเสียภาษีรายได้ไม่เสียภาษีเงินเดือน
จะได้วางตัวเป็นกลางอย่างเท่ห์(ฉิหาย)  อิอิ+


 













ทีภาษีของเค้าละอยากได้ ไล่บี้ให้เสียภาษี
แต่พอเค้าจะใช้สิทธิ์ก็อ้างว่า "ไม่เหมาะสม"
ก๊าก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 


ผมยังคิดว่าหลักการคิดอันนี้น่าจะไปใส่ที่ สว.มากกกว่า ส่วน สส. ยังให้คงแบบเดิมไว้ เพราะยังงัยเราต้องให้สิทธิพลเมืองทุกคนมีสิทธิมีตัวแทนของตัวเอง ไม่งั้นเขาจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองครับ

แต่ว่าเราไปเพิ่มบทบาทที่ สว.ให้มากขึ้น และนายกรัฐมนตรีก็มาจาก สว. ในรูปแบบใหม่ได้ด้วย

แต่เห็นด้วยที่จะให้พลเมืองที่เสียภาษีอากรจะต้องมีสิทธิมากกว่าคนที่ไม่ได้เสียภาษี แต่ว่าไม่ใช่ว่าคนที่ไม่เสียภาษีเลยจะไม่มีสิทธิอะไรเลย อย่าลืมว่าเขาก็เสียภาษีทางอ้อม อย่างพวกภาษีสรรพสามิตร หรือภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกันนะครับ

อย่าถึงขนาดตัดคนให้แยกเป็นชนชั้นเลยครับ มันจะยิ่งทำให้บ้านเมืองแตกแยกนะ
บันทึกการเข้า

ooo
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670


« ตอบ #18 เมื่อ: 11-09-2008, 15:00 »

ถ้าบอกว่าคนที่มีหน้าที่เสียภาษี แล้วไม่เสียภาษี ห้ามมิให้เป็นผู้แทน น่ะเห็นด้วย

แต่คนที่ไม่เสียภาษีเพราะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ล่ะ ผมว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด

ของประเทศ ผมเชื่อว่าในประเทศนี้มีคนไม่เสียภาษี มากกว่าคนที่เสียภาษีครับ

แล้วจะปิดกั้นคนเหล่านี้ไม่ให้เป็นผู้แทนหรือ (ใครมีตัวเลขบ้างว่าในปีภาษี ที่ผ่านมา

มีผู้เสียภาษีกี่คน ถ้าใครมีรบกวน ขอข้อมูลหน่อยครับ)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 15:16 โดย ooo » บันทึกการเข้า
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« ตอบ #19 เมื่อ: 11-09-2008, 15:02 »

อ้างถึง
ผมยังคิดว่าหลักการคิดอันนี้น่าจะไปใส่ที่ สว.มากกกว่า ส่วน สส. ยังให้คงแบบเดิมไว้ เพราะยังงัยเราต้องให้สิทธิพลเมืองทุกคนมีสิทธิมีตัวแทนของตัวเอง ไม่งั้นเขาจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองครับ

แต่ว่าเราไปเพิ่มบทบาทที่ สว.ให้มากขึ้น และนายกรัฐมนตรีก็มาจาก สว. ในรูปแบบใหม่ได้ด้วย

แต่เห็นด้วยที่จะให้พลเมืองที่เสียภาษีอากรจะต้องมีสิทธิมากกว่าคนที่ไม่ได้เสียภาษี แต่ว่าไม่ใช่ว่าคนที่ไม่เสียภาษีเลยจะไม่มีสิทธิอะไรเลย อย่าลืมว่าเขาก็เสียภาษีทางอ้อม อย่างพวกภาษีสรรพสามิตร หรือภาษีมูลค่าเพิ่มเหมือนกันนะครับ

อย่าถึงขนาดตัดคนให้แยกเป็นชนชั้นเลยครับ มันจะยิ่งทำให้บ้านเมืองแตกแยกนะ


ขอทำใจก่อนนะครับว่า กำลังหมายถึง ส.ส.มีอาชีพเดียวคือ  "อาชีพนักการเมือง" โออิ+
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 15:04 โดย oho » บันทึกการเข้า
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« ตอบ #20 เมื่อ: 11-09-2008, 15:09 »

อ้างถึง
ถ้าบอกว่าคนที่มีหน้าที่เสียภาษี แล้วไม่เสียภาษี ห้ามมิให้เป็นผู้แทน น่ะเห็นด้วย

แต่คนที่ไม่เสียภาษีเพราะมีรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ล่ะ ผมว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด

ของประเทศ ผมเชื่อว่าในประเทศนี้มีคนไม่เสียภาษี มากกว่าคนที่เสียภาษีครับ

แล้วจะปิดกั้นคนเหล่านี้ไม่ให้เป็นผู้แทนหรือ (ใครมีตัวเลขบ้างว่าในปีภาษี ที่ผ่านมา

มีผู้เสียภาษีกี่คน ถ้าใครมีรบกวน ขอข้อมูลหน่อยครับ)

ถ้าคนไทยรู้จักภาษีทางอ้อม VAT 7%  ก็จะมองทะลุปรุโปร่ง อาจจะเพิ่มจิตใต้สำนึกในความรับผิดชอบต่อการเมืองไม่มากก็น้อยครับ

แต่ไอ้ที่กระผมบอกว่า ไม่ขอเสียภาษีเงินเดือนอ่ะเพื่อจะขอสละสิทธิ์เลือกตัวแทนของตนเอง (ประชด..ล้อเล่ง ๆ ครับ อิอิ+)

แต่ถึงอย่างไร ผมก็ต้องไปเสียภาษีทาง VAT 7% พวกข้าวสาร+น้ำมัน+น้ำปลา+น้ำตาล+กาแฟ+เหล้า+ยารักษาโรค+เสื้อผ้า+บ้าน+รถ+น้ำประปา+ไฟฟ้า ฯลฯ อยู่ดี

ยังไงก็ไม่พ้นต้องเสียภาษีให้รัฐอยู่ดี  ... ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ครับ


 


ข้อมูลประชาชนในประเทศผู้เสียภาษีรายได้ส่วนหนึ่งหาได้จากกรมสรรพพากร "กองทะเบียนกรมสรรพากร" ครับ

 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-09-2008, 15:16 โดย oho » บันทึกการเข้า
วาโย
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 250


ซ้ายหรือขวาก็ว่าเอียงทั้งคู่ขอสู้อยู่ตรงกลางดีกว่า


« ตอบ #21 เมื่อ: 11-09-2008, 15:20 »

  ผมขอเสนอให้เริ่มจากการแก้ทัสนะคติของคนก่อนครับ ไอ้คำพูดที่พวกแถชอบอ้างว่า โกงก็ไม่เห็นเป็นไรขอให้มีผลงาน จากประสบการณ์ผมพวกวินหน้าบ้านเขาไม่ได้เป็นพวกบัตรเติมเงิน ไม่ได้โง่เง่าไร้การศึกษาทั้งหมด(บางคนจบ ม.6ก็มี)และยังเคยคุยกับคนที่เป็นอดีตเถ้าแก่รับเหมาก่อสร้าง หรือแม้แต่น้าเขยที่เป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาทาสี ก็เชื่อเหมือนๆกันหมดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆเขาก็ทำกัน คอรับชั่นเป็นเรื่องธรรมชาติ อย่าทำตัวใสซื่อบริสุทธิ์ไปหน่อยเลย
  ความจริงเรื่องซองใต้โต๊ะผมก็ทำอยู่เหมือนกันยอมรับว่าตัวเองไม่ใช่ผ้าขาวสะอาดๆ แต่ก็ไม่ได้เชื่อว่า แด-กแต่มีผลงานก็ยังดีกว่ากินแล้วไม่มีผลงาน เพราะไม่ว่าจะกินมากกินน้อย กินคนเดียวไม่แบ่งใครหรือแบ่งๆกันกินก็ผิดพอกันไม่ใช่หรือครับ เราไม่อาจห้ามให้ทุกคนหยุดกินเล็กกินน้อยได้ (บางทีก็จำเป็นต้องให้เขากินของเราด้วย)แต่เรากำลังสร้างบรรทัดฐานอะไรให้สังคมของลูกเรากันละครับ สังคมของนักเขมือบหรือยังไง อย่างนั้ไม่เท่ากับว่าเรากำลังผลักหลังให้ลูกๆของเราโตขึ้นมาเป็นนักเขมือบแบบคนพวกนั้นด้วยหรือ ขอบคุณครับที่ทนอ่าน
บันทึกการเข้า

มาเถอะพี่น้องพ้องเพื่อนชีวิต ...ตื่นเถอะมวลมิตรผู้ยังหลับไหลจากเรา...คาราวาน (ขอยกท่อนหนึ่งของเพลงคาราวานมาแสดงระกันครับ ถึงเวลาแล้วที่คนหลับต้องตื่นสู้ คนอยู่ต้องก้าวต่อไป)
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #22 เมื่อ: 11-09-2008, 16:13 »

ว้าว ดีใจๆ เป็นกระทู้ ที่สร้างสรรค์จริงๆ น่าติดตาม 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]
    กระโดดไป: