วิกฤตการณ์ปี 2551 หนักหน่วงกว่าที่ผ่านมาหรือไม่ ? รายละเอียดฉบับเต็มhttp://www.bangkokbiznews.com/2006/06/15/w006_112024.php?news_id=112024หากพิจารณามุมเล็งของพลูโตจรกับมฤตยูในปี 2550 - 2551 เปรียบเทียบกับมุมอินคอนจั๊งต์ของเนปจูนจรกับมฤตยูในปี 2540 การทำมุมครั้งหน้าจะแรงกว่า ทั้งในแง่ที่มุมเล็งซึ่งแรงกว่ามุมอินคอนจั๊งต์และพลูโตซึ่งโคจรช้ากว่าเนปจูน
อย่างไรก็ตาม ทั้งมฤตยูจรและเนปจูนจรไม่ได้ส่งผลกระทบมากนักก่อนเกิดวิกฤตการณ์ในปี 2551 ไม่เหมือนกรณีของปี 2540 มีเพียงเสาร์เท่านั้นที่โคจรป้วนเปี้ยนและทำมุมท้าทายหรืออินคอนจั๊งต์กับพุธหลายรอบก่อนเกิดวิกฤตการณ์ ซึ่งก็ไม่แตกต่างจากช่วงระยะเวลาก่อนปี 2540 ที่เสาร์โคจรป้วนเปี้ยนและกุมพุธหลายรอบเช่นกัน
สิ่งซึ่งพวกเราควรเตรียมพร้อม คือ ช่วงระยะเวลาแห่งการตกต่ำของเศรษฐกิจไทยหลังปี 2551 อาจยาวนานไม่แพ้ของปี 2540 เพราะนอกจากพลูโตจรจะกุมพฤหัสและเล็งมฤตยูแนบแน่นในปี 2550 - 2551 แล้ว มันยังทำมุมต่อเนื่องกับดาวดวงอื่นด้วย ประกอบด้วยมุมกุมเสาร์แนบแน่นในปี 2551-2552 และมุมตั้งฉากพุธแนบแน่นในปี 2553 - 2554
นอกจากนี้ มฤตยูจรจะกุมศุกร์แนบแน่นในปี 2552 - 2553 ส่วนเสาร์จรจะมนต์ (stationary) และเล็งศุกร์ในช่วงต้นของปี 2552 ตามด้วยการมนต์และเล็งพุธแนบแน่นตอนปลายปี 2552 - ช่วงต้นของปี 2553
อย่างไรก็ตาม พฤหัสจรจะเข้าช่วยบรรเทาปัญหาลงบ้างเป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปี ด้วยการกุมมิดเฮเว่น (Midheaven หรือ MC) และย้ายเข้าเรือนชะตาที่ 10 ตั้งแต่ประมาณต้นปี 2552 ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาหรือพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ตกต่ำมากจนเกินไป แต่เนื่องจากเสาร์ยังโคจรอยู่ในเรือนชะตาที่ 5 ไปจนถึงเดือนตุลาคม 2553
เราจึงคาดหวังให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวโดยเร็วไม่ได้ถึงอย่างไรเสีย รัฐบาลในสมัยนั้น (ก็ไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้นำ) ไม่ควรประมาท ควรเตรียมการรับมือสถานการณ์ไว้ให้ดี เพราะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจมีโอกาสอยู่กับเรานาน โดยเฉพาะหากผู้นำประเทศไม่ใช้สติปัญญา หรือการเมืองไทยในตอนนั้นขาดเสถียรภาพ จนไม่มีใครสั่งการอะไรได้
คลิกที่นี่ ประวัติของผู้ใช้นามปากกา "ยูเรสโตร"โปรดช่วยกันจดจำสิ่งที่เขาทำนายเอาไว้ แล้วรอถึงปี 2551 แล้วเรามาดูอีกที