โหรทักดวงเมือง 8 ก.ย.มีได้เสีย

[ฟ้าประทานII]

เหตุการณ์ความวุ่นวายในบ้านเมืองที่พัฒนามาถึงขั้นรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉิน ผู้คนต่างตั้งคำถามไปในทางเดียวกัน... มันจะจบจะยุติเมื่อไร?

ยิ่งประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. ผู้ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าในการแก้ปัญหาสถานการณ์ฉุกเฉิน ออกมาแถลงจะไม่ใช้กำลัง ไม่ใช้ความรุนแรงในการสลายม็อบ

ความหวังที่ต้องการจะให้สถานการณ์ยุติลงโดยเร็ววัน...คงต้องยืดเยื้ออีกต่อไป

ไม่รู้วันไหน...จะเป็นสัปดาห์นี้ สัปดาห์หน้า หลายสัปดาห์ หรือนับ 100 วัน อีกหรือเปล่า

แต่ในความกังวลว่าความยืดเยื้อที่เกิดขึ้นจะส่งผลร้ายให้กับเศรษฐกิจของประเทศชาติ ยังมีมุมให้สบายใจคลายเครียดว่า...สถานการณ์อาจไม่ยืดเยื้อมากนัก

“ไม่ปลายสัปดาห์นี้ ก็ต้นสัปดาห์หน้า...ความวุ่นวายอาจจะยุติได้”

โหราจารย์คนดัง พ.อ.สุชาติ ศุภประเสริฐ นายกสมาคมโหราศาสตร์ นานาชาติกิตติมศักดิ์ ได้ทำนายทายทัก จะเป็นเช่นนั้น

โหรผู้นี้มีดีกรีเคยทำนายไว้ว่า จะเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ในเดือนกันยายน 2549...มาปีนี้ ท่านได้เขียนคำพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า และตีพิมพ์ในหนังสือ “ส.ค.ส. 2551 ปฏิทินโหราศาสตร์ไทย” อภินันทนาการจาก ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เพื่อแจกจ่ายให้กับเพื่อนพ้องน้องพี่ในเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา

เหตุการณ์หลากหลายส่วน เกิดขึ้นจริงตามคำพยากรณ์...แม้แต่คำแถลงของผู้บัญชาการทหาร เมื่อวันก่อนที่บอกว่า จะไม่ใช้ไม้แข็ง ก็ยังมีปรากฏในหนังสือเล่มนี้

พ.อ.สุชาติ เขียนทำนายเหตุการณ์รายวัน วันที่ 2 กันยายน 2551 ว่า... วันนี้ห้ามยวดยานใหม่ออกจากอู่ และห้ามนำเรือลงจากคาน เพราะอัคนิโรธตกที่ในน้ำ ดาวอังคาร (3) เด่นทั้งนอกทั้งใน อาทิตย์ยังได้วรโคตม์นวางค์ ดาวคู่อิสีติธาตุจับคู่และทำมุมถึงกันครบ 4 คู่ เสียที่กาลโยคและเป็นกทิงวัน นวางค์จักรคู่ศัตรู 2 คู่

อิทธิพลดวงดาวเป็นละครที่แสดงหนักไปทางบทบู๊ แต่บทบู๊ของดวงดาวไม่น่าดู เนื่องจากมีการสูญเสียด้วยการหักหาญน้ำใจ...

คำทำนายที่เขียนไว้ล่วงหน้ามากว่าปี เปรียบเทียบกับสถานการณ์ในปัจจุบัน คำพยากรณ์มีนัย...ทหารมีภาพเป็นนักบู๊ แต่แสดงไม่สมบทบาท จากแข็งกร้าวกลายเป็นนุ่มนวล

ส่วนที่ไม่แสดงบทให้สมกับนักบู๊ ด้วยมีการหักหาญน้ำใจนั้น...จะเป็นเพราะม็อบ นปช. ปะทะหักหาญกับพันธมิตรฯ

หรือทหารถูกผู้นำประเทศหักหาญน้ำใจหรือเปล่า...คำพยากรณ์ ไม่ได้ระบุชัดขนาดนั้น

ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ตรงกับคำพยากรณ์ แต่จะขอคัดมาให้อ่าน เฉพาะเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบ้านการเมืองในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาเท่านั้น

เพื่อคนไทยจะได้มีสุขภาพจิตที่ดี จะได้ไม่เครียดกับความวุ่นวายที่หาวันจบไม่ได้มากจนเกินไป และจะได้มีความหวัง บ้านเมืองจะสงบลงโดยเร็วพลัน

31 กรกฎาคม 2551...จำได้ไหม เกิดอะไรขึ้นในบ้านเมืองนี้

ศาลอาญาพิพากษาจำคุก คุณหญิงพจมาน ชินวัตร นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ คนละ 3 ปี และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน 2 ปี ในความผิดฐานหลีกเลี่ยงการชำระภาษีอากรหุ้น บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด

คำพยากรณ์ของวันนั้นบันทึกไว้ว่า...วันนี้ห้ามนำยวดยานใหม่ออกจากอู่ ห้ามอุปสมบท ได้เกณฑ์ดิถีเรียงหมอนก็ไม่ควรแต่ง ใกล้วันอุปราคามีแต่ความอาเพศอาถรรพณ์ หาสาเหตุไม่ได้ ค้นหาเหตุผลไม่พบ

เป็นทั้งวันอาญาเถื่อนและอาญาสิทธิ์แผ่นดิน ดั่งโคลงกวีของท่านอังคาร กัลยาณพงศ์

ถึงปูนดาวคู่ฟ้า เดือนปีก็ดี

วารหนึ่งจะเป็นผี พุ่งใต้

อย่าดูหมิ่นปัฐวี เหยียบย่ำ

ลางแห่งซ่อนเพชรไว้ ค่าล้ำภายหลัง

11 สิงหาคม 2551...พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมมาฟังคำสั่งศาล ส่งเอกสารชี้แจงข้ามประเทศ...หนีคดีขอลี้ภัยยกครอบครัว

พ.อ.สุชาติ ได้เขียนคำพยากรณ์ล่วงหน้าไว้ว่า...ผู้มีอำนาจยศศักดิ์อย่าได้หลงผิดคิดโลภกับทรัพย์สิน ของต้องห้ามต้องอาถรรพณ์ อย่าไปแตะต้องเข้า ของสูงประเภทเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ ท่านจะถูกถอดยศด้วยผิดกฎมณเฑียรบาล

มีสิทธิถูกเนรเทศไปพ้นราชอาณาจักร ถูกศาลลงทัณฑ์อย่างหนัก

แม้คำทำนายจะเป็นตรงแบบเป๊ะ...แต่ก็เฉียดชิดใกล้ยิ่งนัก

27 สิงหาคม 2551...ม็อบพันธมิตรฯบุกยึดทำเนียบรัฐบาล 1 วันเต็มๆ และ 9 แกนนำถูกออกหมายจับ

คำพยากรณ์บันทึกมาก่อนว่า...งานฝ่ายพิทักษ์กฎบัตรกฎหมาย ยกเลิกเพิกถอนคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง ตั้งแต่ฝ่ายอัยการและศาลสถิตยุติธรรมทั้งหลาย ตลอดการอภิปรายในรัฐสภาจะดุเด็ดเผ็ดร้อน แต่ก็ติเพื่อก่อ มิได้เสียหายอะไร

นอกจากนั้น ยังเป็นวันดีในการตัดสินคดีความอุกฉกรรจ์ ทั้งคดีของประชาชนและคดีการเมือง

คนประพฤติชั่วหรือมีพฤติกรรมไปทางนักเลงหัวไม้ วันนี้คนชั่วจะสำนึกได้หรือไม่ได้ ก็ไร้ความหมาย ไม่ติดคุกตลอดชีวิตก็ถูกประหาร


1 กันยายน 2551...เหตุการณ์จริง มีการวางระเบิดและลามปามมาถึง มีการกะเกณฑ์สร้างสถานการณ์ให้ 2 ม็อบปะทะกัน

คำทำนายเขียนไว้...ดาวเสาร์ (7) โคจรในอาณัติดับ เป็นการดับไกลโลก มีอิทธิพลทำให้การตัดไม้ทำลายป่าเป็นขบวนการโดยมีคนชักใยอยู่เบื้องหลัง

ประเทศล่มจมเพราะมีประเภท “พยาธิการเมือง” คอยดูดกินทรัพยากรของชาติทุกหัวระแหง เปรียบชาติเป็นคนพูดได้ว่า ผอมแห้งแรงน้อย โลหิตจาง

ขอเอาน้ำหมึกกราบทูลพระสยามเทวาทิราชเจ้า เอาตัว (พยาธิกินเมือง) ออกมาจากมุมมืดลากมาประจานให้สังคม คนในชาติได้เห็นมารแผ่นดินจะจะเถอะ

2 กันยายน 2551 บอกไปแล้ว...ทหารไม่ยอมเล่นบทบู๊...จริงดั่งคำทำนาย

จากคำทำนายมีอดีตพิสูจน์ให้เห็น มาดูคำพยากรณ์ในอนาคตกันว่ามาดูอนาคตกันบันทึกไว้อย่างไร...

4 กันยายน 2551...ปลูกเรือนเดือนสิบจะฉิบหายต้องขื่อคา รูปลักษณ์ ดวงดาวเหมือนคนทำหน้าปากเบี้ยว (เบะปากยี้) แสดงอาการรังเกียจเห็นคนฉ้อราษฎร์ บังหลวงแล้วสะอิดสะเอียน ส่งสัญญาณมาจากเทห์ฟากฟ้า

...กร่างเหลือเกินเหมือนคางคกขึ้นวอ

5 กันยายน 2551...เป็นวันดีของสถาบันศาลสถิตยุติธรรมที่จะมีชื่อเสียงในด้าน “หลักนิติรัฐ” ธำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์อวดสายตาชาวโลก... ใครว่ากฎหมายของประเทศไทยไม่ได้มาตรฐานเมื่อเทียบกับชาติตะวันตก

6 กันยายน 2551...รูปลักษณ์ดาวจรทำท่าทาง “ยี้” มาหลายวัน ดังนั้นท่านนักการเมืองทั้งหลายช่วยกันสะสางปมเขื่อง (ที่ห่อหุ้มเนื้อร้าย) ให้กลับกลายปมเด่น เอาน้ำดีไล่น้ำเสีย ดาวเสาร์ดับสนิท เสาร์คือนักการเมือง นักปกครอง รัฐมนตรี รัฐบาล...ด้วยประการต่างๆนี้ ควรรักษาภาพพจน์ที่ดีให้แก่ชาติ

7 กันยายน 2551...เป็นวันหยุดที่วิวาทรุนแรง เพราะการฟื้นฝอยหาตะเข็บสาวไส้ให้กากิน พระเกตุเล็งราหูเป็นเส้นตรง เข้าตำราหัวมังกุ (มิใช่หัวมงกุฎ) ท้ายมังกร หางมังกรสถิตจรราศีแม่ธาตุน้ำ เป็นมหาจักรสถิตจรราศีแม่ธาตุดินเกาะนวางค์ธาตุน้ำ

ระวังจะมี “คางคกขึ้นวอ” แต่สัญชาติคางคกยางหัวไม่ตกไม่รู้สึก

หากวันนี้ปัญหายังไม่ยุติ ยางหัวคางคกไม่ออก 8 กันยายน 2551 มีคำทำนาย...เป็นวันกาลพิเศษเหมาะกับการเจรจาเรื่องสำคัญๆ ชนิดแตกหัก จะได้

จะเสียต้องชัดเจน วันอย่างนี้ฝ่ายรัฐจะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบนำพาไปสู่ชั้นศาล โดยเฉพาะหากเป็น รัฎฐาธิปัตย์ (รัฐบาลเผด็จการ) กลายเป็นฝ่ายเสียค่าโง่

และ 9 ก.ย. 2551 คำทำนายบันทึกไว้ว่า...สถานการณ์ถูกบีบ (IN THE CAN) งูสู้หนูตายคารู

กระนั้นก็ตาม นี่เป็นแค่เพียงคำทำนายทางโหรศาสตร์เท่านั้น...เหตุการณ์จริงจะจบ จะลงเอยแบบไหน ม็อบสลาย ยุบสภา ลาออก รัฐประหาร...คงต้องรอเวลาอีกซักระยะ

แต่ไม่ว่าจะจบแบบไหน คนไทยส่วนใหญ่เฝ้าภาวนาขอให้จบในเร็ววันเป็นพอ.

:::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::


http://www.thairath.co.th/news.php?section=hotnews02&content=103012

[vorapoap]

อืมมม มีได้มีเสียแฮะ วัน D-DAY

สภาหนุน ปธ.วุฒิฯเจรจายุติแบ่งขั้ว ดีเดย์ 8 ก.ย.นี้
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 กันยายน 2551 15:41 น.


ที่ประชุม 3 ฝ่าย วิปรัฐบาล ผู้นำฝ่ายค้าน และ วุฒิสภา เห็นชอบเสนอให้ประธานวุฒิฯ เป็นตัวกลางเดินหน้าเจรจารัฐบาล และพันธมิตรฯ ยุติปัญหา อย่างเป็นกลาง ไม่แบ่งขั้ว เดินหน้า 8 ก.ย.นี้ เชื่อประชามติไม่ทันต่อสถานการณ์ในขณะนี้
       
       วันนี้ (5 ก.ย.) ในการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ตัวแทนประธานสภาผู้แทนราษฎร คือนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาคนที่ 1 และ พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาคนที่ 2 นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏร เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเผชิญหน้าระหว่างพันธมิตรฯกับรัฐบาล
       
       ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ นายอภิสิทธิ์ แถลงว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหา และสถานการณ์บ้านเมืองที่เกิดขึ้น แม้ฝ่ายบริหารพยายามจะคลี่คลาย แต่ปัญหาทั้งหมดเป็นปัญหาการเมือง จึงต้องพยายามที่จะคลี่คลายด้วยการเมือง ฝ่ายนิติบัญญัติก็มีบทบาทสำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องหารือกันเพื่อหาทางออกให้กับบ้านเมือง ดังนั้นหน้าที่ของเรา คือ การช่วยกันประคับประคองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราต้องช่วยกันให้สังคมหาทางออกได้ โดยไม่ใช้วิธีการที่นอกเหนือรัฐธรรมนูญ
       
       “ที่ประชุมจึงเห็นตรงกัน ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันยังมีความเสี่ยงและล่อแหลมต่อการเกิดความรุนแรง ดังนั้น ทั้ง 3 ฝ่าย เห็นว่า การแก้ไขปัญหาจะต้องไม่มีการใช้ความรุนแรงใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน การหาทางออกก็เป็นเรื่องเร่งด่วนเช่นเดียวกัน แม้ว่ารัฐบาลมีแนวคิดในการทำประชามติเพื่อหาทางออกต่อปัญหาที่เกิดขึ้น แต่กระบวนการทำประชามติต้องรอกฎหมาย ซึ่งเพิ่งผ่านวาระ 1 ของวุฒิสภาในช่วงเช้าที่ผ่านมา ดังนั้น จึงต้องใช้เวลานานเป็นเดือนกว่าจะทำประชามติได้ จึงไม่น่าจะทันกับสถาการณ์ในการคลี่คลายปัญหา สิ่งที่ตกลงกัน คือ การแสวงหาทางออกด้วยการเจรจาน่าจะทำให้เกิดความเข้มข้นมากขึ้น ตามแนวทางของ ผบ.ทบ.ได้มีการพูดถึงเรื่องนี้”
       
       นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อทุกฝ่ายเห็นตรงกัน และในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ จึงได้มอบหมายให้ประธานวุฒิสภา ดำเนินการในส่วนของการเจรจา เพื่อให้การดำเนินการหาทางออก ทั้งให้ทั้งสองฝ่ายมาหารือกันเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและเป็นเอกภาพ กับทุกฝ่ายอย่างแท้จริง โดยประธานวุฒิสภายินดีรับหน้าที่นี้ และจะเริ่มต้นทันที นอกจากนี้ ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรจะใช้เวลาในช่วงนี้พยายามทำความเข้าใจกับ ส.ส.ของแต่ละพรรคเพื่อลดความร้อนแรงของสถานการณ์ เพื่อร่วมคิดหาทางออกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจะเริ่มทำทันที โดยในที่ 8 ก.ย.นี้ประธานวุฒิสภาจะเชิญทุกฝ่ายประชุมอีกครั้ง และอาจจะมีการขยายวงออกไป เพื่อให้มีส่วนต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และทุกฝ่ายจะได้นำผลสรุปทั้งหมดมา รายงานในที่ประชุมในวันที่ 8 ก.ย.นี้
       
       ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ได้มอบหมายให้ประธานวุฒิสภาเป็นตัวกลางในการเจรจา เนื่องจากไม่ได้สังกัดพรรคไม่มีฝักไม่มีฝ่าย และเชื่อว่า เป็นที่ยอมรับนับถือของสังคมโดยทั่วไป ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของประธานวุฒิสภาที่จะไปประสานงานกับ ผบ.ทบ.ส่วนวิธีการรายละเอียดขึ้น อยู่กับการตัดสินใจของประธานวุฒิสภา โดยทั้งหมดจะต้องมีการตั้งเงื่อนไขให้น้อยที่สุด เพื่อนำไปสู่ผลสรุปของการเจรจา ถ้าตั้งเงื่อนไขมากจะทำไม่ได้ ที่สำคัญ การทำงานต้องใช้ความละเอียดอ่อน และความสามารถในการโน้มน้าวและการบริหารจัดการภายใน ซึ่งทั้งหมดต้องโปร่งใสเปิดเผย และอยากให้ประธานวุฒิสภาได้ทำงานด้วยความอิสระ อย่าไปกดดัน หรือคาดคั้น ขอให้ท่านได้มีเวลาทำงาน ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีการประชุมร่วม 2 สภาอีก เพราะการหารือยังไม่ออกมาเป็นผลอะไร การประชุมซ้ำจึงไม่จำเป็นอีก ดังนั้น ควรจะใช้แนวทางเจรจามากกว่า

[แอ่นแอ๊น]

ถ้าจำไม่ผิด วันที่ 8 หมักต้องขึ้นให้การคดี ชิมไปกินปลาแดกไปนี่นา 

[Tuba ✿ﾟ✎..✿.｡.:｡ღ]

นึกว่าพ่อหมอแกมาให้ฤกษ์แต่งงาน..

 

[Augustine]

น่าเบื่อ

[jerasak]

หลังจากติดตามการทำนายทายทักเกี่ยวกับการเมืองมา 2-3 ปี
รู้สึกว่ายิ่งทำนายมากๆ ยิ่งไม่แม่น จนขี้เกียจอ่านแล้วน่ะครับ