Temasek ทำตัวไม่เห็นหัวแบงก์ชาติมาเลเซีย (ใช้วิธีการคล้ายกรณี Shin มาก)

[AsianNeocon]

ปัจจุบัน Temasek เข้าไปกว้านซื้อทุกอย่างในมาเลเซียตั้งแต่ เรือกสวนกสิกรรม ช้อปปิ้งมอลล์ ธนาคาร ฯลฯ  ทำให้เกิดกระแสต่อต้านจากนักการเมืองมาเลชาตินิยม ปัจจุบัน Temasek เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน Plantations Berhad (Berhad ก็คือ บริษัท เพราะเราและมาเลย์ต่างก็เอามาจากภาษาอินเดีย) ซึ่ง Plantations Berhad เป็นเจ้าของ Alliance Bank ธ.ใหญ่อันดับ 9

ปีที่แล้ว Temasek ขายหุ้นในธนาคารขนาดเล็กอีกแห่งหนึ่งของมาเลเซียอย่างรีบร้อน เพราะไปถึงหุ้นไว้ 7% กว่า ซึ่งเกินกว่าที่ Bank Negara หรือแบงก์ชาติมาเลย์ กำหนดไว้ว่า ถ้าต่างชาติถือหุ้นเกิน 5% ต้องได้รับอนุมัติก่อน

(เฮ้ย อย่างนี้ก็มีด้วย ก่อนมึงไปลงทุนไม่รู้หรือไง หรือแกล้งโง่ เหมือนที่มันมาซื้อ Shin Corp แล้วได้เป็นเจ้าของดาวเทียมไทยคม 4 ดวงเลยว่ะ)

ยังไม่หมด ยังมีอีก

Temasek ยังเข้าไปถือหุ้นมากกว่า 5% ในสถาบันการเงินของมาเลเซียอีก 2 แห่ง โดยปราศจากการอนุมัติจากแบงก์ชาติมาเลย์  "สื่อมวลชนมาเลย์" ได้มีการติดตามใกล้ชิด ก็ตรวจพบว่ามีการละเมิดกฎชัดเจนในทันที Temasek ก็รีบร้อนขายหุ้นก่อนที่แบงก์ชาติมาเลย์จะตามมาลงโทษ

ต่อมา Temasek เข้าไปซื้อหุ้นธนาคาร Standard Chartered ของอังกฤษ (อ้าว ท่านผู้ชม สรุปว่า ในเมืองไทยธนาคารใหญ่ๆเป็นของสิงกะโปโตกไปหมดแล้ว) ซึ่งมีเปิดสาขาอยู่ในมาเลเซียอยู่แล้ว

ทีนี้จึงเกิดกรณีแปลกประหลาดขึ้นมา  เพราะว่า กฎเกณฑ์ของแบงก์ชาติมาเลย์บอกว่า ห้ามมีการถือหุ้นเกิน 5% ในสถาบันการเงิน 2 แห่งพร้อมๆกัน

ตอนต้นเราพูดถึงการถือหุ้นของ Temasek ใน Plantations Bhd ซึ่งเป็นเจ้าของธนาคารอีกแห่งไปแล้ว

ก็เกิดคำถามว่า แบบนี้กฎเกณฑ์แบงก์ชาติมาเลเซียจะมีผลต่อ Temasek หรือไม่ StanChart ถึอว่าเป็นแบงก์ท้องถิ่นหรือไม่

ยังไม่มีคำตอบจากแบงก์ชาติมาเลย์ และ Temasek ก็ยังไม่มีสัญญาณใดออกมาว่าจะขายหุ้นในแห่งไหนทิ้งไป

ล่าสุด แบงก์ชาติมาเลย์ ออกมาขู่ว่า จะดำเนินการอย่างแข็งกร้าวต่อใครก็ตามที่แหกกฎเกณฑ์การถือหุ้นของต่างชาติในสถาบันการเงินต่างๆ

Temasek's undue diligence
http://www.atimes.com/atimes/Southeast_Asia/HF17Ae03.html

[เพนกวินน้อยนักอ่าน]

บ้านเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นครับ
กระแสต่อต้านการเข้าครอบงำกิจการ

หรือความรู้สึกไว ต่อต่างชาติ มันเลยไม่ปลูกฝัง

ดีในด้านการท่องเที่ยวและบริการเพราะมีใจเป็นมิตร
แต่ไม่ดีในการแข่งขันทางธุรกิจ
เพราะใครเข้ามาครอบงำก็เฉยเมย

แถมเรายังคลั่งชาติแบบไร้ทิศทาง
แทนที่จะต่อต้านด้วยความสงบ
ถ้าไปจุดประเด็น คงจะไปเผาสถานทูต ซะงั้น

เทมาเสค ทำอย่างนี้ บนเวทีของ อาเซียน ภายภาคหน้า
สิงคโปร์ต้องวางตัวลำบากมาก
แทนที่จะทำตัว ตีสองหน้าได้เหมือนเดิม
คราวนี้ต้องเหลือหน้าเดียว คือหน้าด้าน
แกล้งไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป

สิงคโปร์ก็พยายามดัน เศรษฐกิจตัวเอง ในแบบของตนเองน่ะแหล่ะ
เพราะเป็นประเทศเล็กไม่มีทรัพยากรมากมาย ต้องไปจัดการทรัพยากร
ของประเทศอื่น
ใครไม่รู้ทันก็โดนฟันเละ