พ่อแม่อุ้มศพลูกชายวัย 1 ขวบ 8 เดือน บุกประท้วงคลินิกกลางกรุง ก่อนรุดแจ้งความดำเนินคดี แฉแพทย์คลินิกไม่เอาใจใส่คนไข้ อุตส่าห์พา มารักษาอาการหอบ หายใจไม่ออก ถึง 2 รอบ กลับบอกไม่เป็นอะไรมาก จัดยาแก้ไข้-ยาแก้อักเสบ แล้วให้กลับไปรักษาต่อที่บ้าน ตกดึกเด็กอาการทรุดหนัก ไปสิ้นใจที่ร.พ.ภูมิพล แพทย์ชี้สาเหตุจากปอดบวม-ปอดติดเชื้อ ครวญทั้งน้ำตาอุตส่าห์ลงทุนทำกิฟต์ได้ลูกมา แต่อยู่กันได้แค่ 1 ปี 8 เดือนก็ต้องมาสูญเสีย เผยที่มาใช้บริการ เพราะเป็นคลินิกประกันสุขภาพบัตรทอง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ส.ค. นายกิตตินันท์ อินาวัง อายุ 52 ปี นางสุรีย์ แก้วทิพย์ชัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221/45 ม.1 แขวงตลาดบางเขน เขตบางเขน กทม. พร้อมบรรดาญาติกว่า 10 คน อุ้มศพ ลูกชาย ชื่อด.ช.ทวินันท์ อินาวัง อายุ 1 ปี 8 เดือน เดินทางมาร้องขอความเป็นธรรมอยู่บริเวณด้านหน้าคลินิกเปรมประชาการแพทย์ เลขที่ 145/15 ซ.วิภาวดี รังสิต 33 แยก 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง หลังจากทั้งคู่ได้พาด.ช.ทวินันท์มารักษาอาการป่วย แต่ทาง คลินิกไม่ยอมตรวจอาการอย่างละเอียด ทั้งที่เดินทางมาที่คลินิกแห่งนี้ถึง 2 ครั้ง ในเวลา 1 ชั่วโมง ทั้งยังไม่ยอมออกใบส่งตัวให้ไปรักษาอาการป่วยของลูกชายที่มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจไม่ออก บอกเพียงไม่เป็นไรให้กลับไปกินยาและนอนพักเดียวก็หาย อาจเป็นเหตุที่ทำให้ลูกชายเสียชีวิตได้
นางสุรีย์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. เวลา 09.00 น. ตนได้พาด.ช.ทวินันท์เข้ามารักษาตัวที่คลินิกแห่งนี้ เนื่องจากเป็นสถานพยาบาลที่ระบุในบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง และเป็นสถานพยาบาลปฐมภูมิ ก่อนที่จะส่งตัวไปยังร.พ.ภูมิพล โดยลูกชายมาหาหมอด้วยมีอาการเป็นไข้ เจ็บคอ น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก หลังแพทย์ตรวจอาการแล้ว ระบุว่าไม่เป็นอะไรมาก จึงได้จัดยาแก้ไข้ ลดน้ำมูก และยาแก้อักเสบมาให้ แต่หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าอาการไม่ดีขึ้น จึงได้กลับมาที่คลินิกนี้อีกครั้งเพื่อให้แพทย์ช่วยตรวจดูอาการอย่างละเอียด หากอาการหนักก็จะขอให้ทางคลินิกทำใบส่งตัวเพื่อไปรักษาที่ร.พ.ภูมิพล แต่ทางแพทย์กลับไม่ยอมออกใบส่งตัวให้ พร้อมกับให้กลับบ้าน บอกว่าได้ตรวจละเอียดแล้ว ไม่เป็นไรมาก อย่าวิตกกังวลไปเลย ไปกินยาแล้วให้นอนพักผ่อนเดี๋ยวก็หาย
นางสุรีย์กล่าวว่า หลังจากกลับบ้านไป ได้รักษาตามอาการให้กินยาตามที่แพทย์สั่งทุกอย่าง แต่อาการไม่ดีขึ้น กลับกันอาการทรุดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเวลาประมาณเที่ยงคืน ปรากฏว่าลูกชายอาการหนักมาก จึงได้พามารักษาตัวที่ร.พ.ภูมิพล แพทย์ทำการช่วยเหลือให้ออกซิเจน ให้ยาพ่นแก้หอบ และเอกซเรย์ปอด พบว่ามีอาการปอดบวม ทางแพทย์และพยาบาลช่วยกันยื้อชีวิตอยู่ประมาณ 3 ชั่วโมง ลูกชายจึงเสียชีวิตลง ทางแพทย์ได้วินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิตว่า เกิดมาจากอาการปอดบวม ติดเชื้อในปอด หลอดลมอักเสบ และหัวใจล้มเหลว
นางสุรีย์กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เมื่อ 5 เดือนก่อน ตนเคยพาลูกชายมารักษาอาการแขนขวาหัก เนื่องจากตกเตียง โดยใช้สิทธิบัตรทอง ก็มารักษาอยู่ที่คลินิกแห่งนี้ ขณะนั้นทางแพทย์ไม่ได้มีการซักถามอาการเจ็บป่วยของลูกชายเลย บอกเพียงให้ไปหาสูติบัตรมาก่อน ถึงจะทำการรักษาให้ และทำใบส่งตัวให้ หลังถูกปฏิเสธ ตนจึงได้พาลูกชายไปรักษาที่ร.พ.ภูมิพลทันที จนกระทั่งหายดี ก่อนจะมาเกิดเหตุลักษณะดังกล่าวขึ้น ส่วนกรณีที่มาในวันนี้ เพื่อที่จะร้องเรียนขอความเป็นธรรมให้สังคมได้รับรู้ถึงความไม่เอาใจใส่ของผู้ที่เป็นแพทย์ ต้องตรวจให้ละเอียดมากกว่านี้
"ฉันกว่าจะได้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้มา ต้องรอเวลานานถึง 2 ปี เพราะทำกิฟต์ แต่ชื่นชมลูกได้เพียง 1 ปี 8 เดือนเท่านั้นเอง ลูกชายก็จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ" นางสุรีย์กล่าวทั้งน้ำตา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทางญาติผู้เสียหายเดินทางมาถึงหน้าคลินิก ทางเจ้าหน้าที่ได้ล็อกประตูด้านใน และได้สั่งให้นายวิชาญ ศิริพัฒน์พรชัย เลขานุการผู้อำนวยการคลินิกเปรมประชาการแพทย์ ออกมาชี้แจงเพียงว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลใดๆ ได้ เนื่องจากต้องรอให้ทางร.พ.ภูมิพลมาตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมดก่อน จึงจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
ต่อมาทางนายกิตตินันท์ พร้อมด้วยนางสุรีย์ ได้นำศพด.ช.ทวินันท์มาที่สน.ดอนเมือง เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับทางคลินิกดังกล่าว โดยมีพ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ พรหมสวัสดิ์ ผกก.สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.อุดร แก้วสุขศรี รองผกก.สส. พ.ต.ท.อำนวย โพธิ์แสง พงส.(สบ3) เป็นผู้รับแจ้งความ
พ.ต.อ.ณรงค์ฤทธิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน พร้อมส่งศพด.ช.ทวินันท์ไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรม ศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ขณะเดียวกันจะได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นแพทย์คลินิก และแพทย์ร.พ.ภูมิพล มาสอบปากคำอย่างละเอียด ทั้งนี้ หากพบว่าการเสียชีวิตเกิดจากความบกพร่องของทางแพทย์ ก็จะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
--------------------------------------------------------------------------------------
ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต...-------------------------------------------------------------------------------------
นี่หรือ บัตรทองที่รักษาได้ทุกโรคของคนไทย เป็นอะไรก็แจกแต่ พารา.....