เห็นด้วยกับทุกท่านข้างต้น
แค่บุคลิก หรือโหงวเฮ้งนายกฯ ของไทยคนปัจจุบัน เทียบกับนายกฯ จีน เวินเจียเป่า ก็บอกให้รู้ว่า มวยคนละรุ่น
คงไม่มีคณะรัฐมนตรีชุดไหนที่สุดด้านสุดทนเท่ารัฐบาลของไทยชุดนี้แล้วล่ะค่ะ ที่พอสูสีก็ชุดรักษาการณ์ของทั่นเหลี่ยมกระมัง
เท่านี้ก็บ่งชี้ระดับคุณภาพแล้วว่า มันโหลยโท่ยขนาดไหน
ถ้าย้อนดูประวัติศาสตร์จีน สมัยพระนางซูสีไทเฮา ต่อเนื่องมาจนถึงอดีตประธานาธิบดีซุนยัตเซ็น จีนที่ได้ชื่อว่า ยิวแห่งเอเชีย หรือป่าว ? เกิดศึกภายในจนประเทศแทบจะเละเป็นโจ๊ก หมดสภาพกลายเป็นคนป่วย จนผู้คนเมื่อช่วงประมาณร้อยกว่าปีที่ผ่านมา ต้องอพยพไปทั่วโลก เสียชีวิตไปเท่าไหร่ไม่รู้ ฟังเรื่องการบอกเล่าจากญาติผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ หรือถ่ายทอดมาอีกทีหนึ่ง นี่สุดบรรยาย
นอกจากวาทะเรื่องแมวดำแมวขาวแล้ว อดีตผู้นำจีนที่ยิ่งใหญ่เติ้งเสี่ยวผิง (ถ้าจำไม่ผิด) บอกไว้ด้วยว่า เมื่อเปิดหน้าต่างบ้าน มันก็อาจจะต้องมีแมลง มีสิ่งแปลกปลอม พัดเข้ามาในบ้านบ้าง แต่เราก็จะเห็นความมุมานะ และความเอาจริงเอาจังที่จะสร้างชาติของจีน ส่วนตัวขอยกเครดิตให้ท่านผู้นำทุกท่าน มีผู้นำดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
หลังจากจีนเปิดประเทศ นำทัพนักกีฬาเข้าแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งแรกที่กรุงเตหะราน ก็สามารถครองตำแหน่งที่ 3 หลังจากนั้นก็ขยับอันดับขึ้นเป็นที่ 2 เมื่อมาร่วมแข่งขันที่กรุงเทพฯ ถัดจากนั้นอีก 4 ปี จีนก็ครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองที่กรุงนิวเดลี และผูกขาดตำแหน่งชนะเลิศมาตลอด ยกเว้นปีที่แข่งที่เกาหลีใต้ ไม่แน่ใจว่า เกาหลีใต้โกงจนได้ที่ 1 หรือเปล่า เพราะตอนโอลิมปิกที่เกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ แกโกงได้อย่างน่าเกลียดน่ากลัว ต่อเนื่องมาจนถึงบอลโลกเลยที่ตนเองเป็นเจ้าภาพร่วมกับญี่ปุ่น
ถ้าดูเบื้องหลังการสร้างสนามรังนก การสร้าง terminal 3 ของสนามบินปักกิ่ง การสร้างสะพานข้ามทะเลที่หังโจว การสร้างโรงละครไข่ใบยักษ์ และ ฯลฯ ที่รายการ discovery channel นำมาเสนอ แล้วจะทึ่งความสามัคคี การรวมพลังของคนจีนหลายหมื่นคนในการทำงานให้อภิมหาโครงการที่ว่านี้สำเร็จ ดูแล้วต้องคารวะหมดใจ
ตอนนี้อยากดูเบื้องหลัง การสร้างรถไฟหัวกระสุนของจีน