ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
27-11-2024, 22:32
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ต่างชาติ USA.ด่ากองทุนหมู่บ้าน"เหลี่ยม" เหลวเละเทะกู้ซื้อเหล้า-บุหรี่ 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
ต่างชาติ USA.ด่ากองทุนหมู่บ้าน"เหลี่ยม" เหลวเละเทะกู้ซื้อเหล้า-บุหรี่  (อ่าน 2634 ครั้ง)
oho
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 712


« เมื่อ: 10-08-2008, 19:41 »


ต่างชาติมองกองทุนหมู่บ้านเหลว
http://www.komchadluek.net/2008/08/10/x_main_a001_215545.php?news_id=215545
 
นักวิชาการต่างชาติเผยผลวิจัยการใช้เงินกองทุนหมู่บ้าน ที่ผ่านมาไม่ช่วยให้เกิดการลงทุนต่อยอดธุรกิจจริง    ชี้รายจ่ายหลักหมดไปกับค่าซ่อมบ้านซ่อมรถ ซื้อนม เหล้า บุหรี่ หวั่นยิ่งสร้างหนี้พอกพูนให้ชาวบ้าน ขณะที่หนี้เสียพุ่งถึง 19% ขณะที่เอสเอ็มอีไทยอ่อนแองลงเทียบกับก่อนวิกฤติ

นายโรเบิร์ต ทาวน์เซ่น นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเอ็มไอที สหรัฐอเมริกา เปิดเผยถึงงานวิจัยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามนโยบายรัฐบาลว่า ผลกระทบที่เกิดจากโครงการดังกล่าวพบว่า ไม่มีการนำเงินไปลงทุนในภาคเกษตรหรือธุรกิจต่อเนื่องเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายของโครงการ แต่เป็นการกู้เงินเพื่อนำไปใช้ในการบริโภคเสียเป็นส่วนมาก  โดยรายจ่ายหลักเช่น การซ่อมแซมบ้าน ซ่อมแซมรถ ซื้อน้ำมันรถ นม เหล้าและบุหรี่ อีกทั้งตั้ง แต่มีเงินกู้กองทุนหมู่บ้านเข้าไปในชุมชนแล้วกลับทำให้เงินกู้นอกระบบและเงินกู้จากสถาบันการเงินขยายตัวตามไปด้วย ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่ประชาชนต้องนำเงินมาใช้คืนกองทุนหมู่บ้าน

 นอกจากนั้นผลจากการตรวจสอบของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านก่อนปล่อยกู้ทำให้สถาบันการเงินปล่อยเงินกู้มากขึ้น เพราะถือว่าผ่านการตรวจสอบมาแล้วชั้นหนึ่ง ที่สำคัญยังทำให้ดอกเบี้ยทั้งในส่วนของเงินกู้นอกระบบและสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่สินทรัพย์ในครัวเรือนกลับลดลงเพราะการกู้ที่ได้มาง่ายขึ้นไม่จำเป็นต้องมีสินทรัพย์เพื่อประกันความเสี่ยงต่อไป

 อย่างไรก็ดีพบว่าทำให้รายได้ครอบครัวเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้มาจากการลงทุนด้านการเกษตรยกเว้นลงทุนปลูกข้าว โดยส่วนใหญ่มาจากรายรับนอกภาคเกษตร การรับจ้างทำงาน ซึ่งส่งผลให้ค่าแรงในภาคชนบทเติบโตขึ้นด้วย ขณะที่หนี้เสียซึ่งวัดจากมาตรฐานการผิดนัดชำระหนี้เกิน 3 เดือน เพิ่มสูงถึง 19% แตกต่างจากตัวเลขของสถาบันการเงินของรัฐที่ระบุว่ามีหนี้เสียประมาณ 4% เท่านั้น




 ด้านนางแอนนา พอลสัน นักวิจัยจากธนาคารกลางสหรัฐ สาขาชิกาโก้  ซึ่งวิจัยเรื่องผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีก่อนวิกฤติปี 40 และหลังวิกฤติแตกต่างกันอย่างไร โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ผลวิจัยพบว่าผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีหลังปี 40 มีทักษะทางธุรกิจน้อยกว่าก่อนวิกฤติ โดยพิจารณาจากเงินลงทุนในกิจการต่างๆ พบว่าน้อยกว่ามาก นอกจากนี้ระยะเวลาการทำธุรกิจของผู้ประกอบการก่อนวิกฤติจะยาวนานกว่า ชี้ได้ว่าผู้ประกอบการหลังวิกฤติเศรษฐกิจมีโอกาสเลิกทำธุรกิจส่วนตัวได้เร็วกว่ามาก โดยจะหันกลับมารับจ้างหรือกินเงินเดือนทันทีหากเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งสาเหตุเกิดจากหลังวิกฤติมีคนตกงานและค่าจ้างแรงงานต่ำเมื่อภายหลังค่าแรงเพิ่มก็จะทิ้งธุรกิจส่วนตัวหันมารับจ้างกันเป็นส่วนมาก

 ขณะที่นายอัมมาร สยามวาลา ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงงานวิจัยทั้งสองชิ้น ว่า งานวิจัยดังกล่าวมีข้อมูลครบถ้วนและทำให้เห็นภาพรวมได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่แตกต่างจากภาครัฐอยู่บ้าง ทั้งนี้มองว่าการส่งเสริมธุรกิจเอสเอ็มอีของภาครัฐมักไม่ประสบผลสำเร็จ สามารถขายสินค้าได้แค่ในชุมชนเท่านั้น  ไม่สามารถแข่งขันกับตลาดภายนอกหรือตลาดที่ใหญ่กว่าได้ ทำให้ฐานะของผู้ประกอบการรายย่อยไม่มั่นคง ไม่มีคุณภาพชีวิตที่ดีเท่ากับคนชั้นกลางในเมือง


 
บันทึกการเข้า
so what?
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,729


« ตอบ #1 เมื่อ: 10-08-2008, 19:54 »

ไอ้นักวิชาการเฮงซวย ดีแต่เห่าหอนอยู่ในมหาลัย ไม่เคยมีปัญญาบริหารเงินหมื่นล้านแสนล้านอย่างท่านทักษิณ แน่จริงลองมาลงเลือกตั้งดูมั้ยล่ะ


กองเชียร์จำเลยหนีศาลเค้าว่ามาอย่างงั้นครับ   
บันทึกการเข้า
Sweet Chin Music
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1,613



« ตอบ #2 เมื่อ: 10-08-2008, 20:00 »

เอาไปช่วย TPBS รึเปล่า อิอิ
บันทึกการเข้า


You'll Never Walk Alone
เข้าไปกันได้ค๊าป- - - >http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sweetchinmusic&group=1
อนัตตา (ไร้สี ไร้กลิ่น ไร้ฝ่าย)
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 620



« ตอบ #3 เมื่อ: 10-08-2008, 20:09 »

ผมว่าจุดประสงค์ของกองทุนนั่นดีแน่นอน แต่ลักษณะของกองทุนมันเอื้อต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิดจริงๆ

คือถ้าหมู่บ้านไหนมีแนวคิดทางธุรกิจดี แต่ขาดเงินทุน กูยืมจากธนาคารไม่ได้ กองทุนหมู่บ้านถือเป็นสวรรค์

แต่ถ้าหมู่บ้านไหนขาดความคิดทางธุรกิจ กินเหล้าเมายาสนุกโดยนิสัย ทำงานรับจ้างไปวันๆ

กองทุนหมู่บ้านก็คือสวรรค์เหมือนกัน  
บันทึกการเข้า

西施无情
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 456


ไซซีไ้ร้ใจ


« ตอบ #4 เมื่อ: 10-08-2008, 20:32 »

ถ้าหากจะเอาไปซื้อเหล้า บุหรี่ จริงก็คงจะเป็นเพราะเอามาย้อมใจ หลังจากกู้กองทุนมาแล้วต้องเอาไปจ่ายหนี้จากน้ำท่วมนาข้าวเสียหาย ขาดทุนปู้ยี้ปู้ยำ

บันทึกการเข้า

我愛你, 陈一冰,
เล่าปี๋
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 2,417


ทำดีได้ดีมีไฉน ทำชั่วได้ดีมีถมไป


« ตอบ #5 เมื่อ: 10-08-2008, 20:43 »

ไอ้นักวิชาการเฮงซวย ดีแต่เห่าหอนอยู่ในมหาลัย ไม่เคยมีปัญญาบริหารเงินหมื่นล้านแสนล้านอย่างท่านทักษิณ แน่จริงลองมาลงเลือกตั้งดูมั้ยล่ะ


กองเชียร์จำเลยหนีศาลเค้าว่ามาอย่างงั้นครับ   


                      
บันทึกการเข้า

ขงเบ้งดูดาว เฮอะเอ่อเอ้ย เมื่อดาวตก เสียวในหัวอกเมือเห็นดาว
ไม่พราวไสว  หรือว่าตัวเราจะหมดบุญ จึงเป็นไป
ดาวที่สดใสเมื่อก่อนนั้น  พลันมืดมัว....
samepong(ยุ่งแฮะ)
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,402



« ตอบ #6 เมื่อ: 10-08-2008, 23:42 »

ผมว่าจุดประสงค์ของกองทุนนั่นดีแน่นอน แต่ลักษณะของกองทุนมันเอื้อต่อการนำไปใช้ในทางที่ผิดจริงๆ

คือถ้าหมู่บ้านไหนมีแนวคิดทางธุรกิจดี แต่ขาดเงินทุน กูยืมจากธนาคารไม่ได้ กองทุนหมู่บ้านถือเป็นสวรรค์

แต่ถ้าหมู่บ้านไหนขาดความคิดทางธุรกิจ กินเหล้าเมายาสนุกโดยนิสัย ทำงานรับจ้างไปวันๆ

กองทุนหมู่บ้านก็คือสวรรค์เหมือนกัน  

กองทุนหมู่บ้าน ถ้าบริหารเป้ฯกองทุนนะมันดี แต่บริหารเป้นเงินซือเสียงทางนโยบาย มันดีไหม หละ
บันทึกการเข้า

เวลาจะพิสูจน์ความเชื่อ สักวัน ไม่ว่าความเชื่อนั้นจะถูกหรือผิด ผมขอรับไว้ด้วยตัวเอง คิเสียว่าทำแล้วเสียใจดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
หน้า: [1]
    กระโดดไป: