ตัดแปะ
นายสุริยะใส กล่าวว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้ว พบว่า ชายคนดังกล่าว
ไม่ได้มึนเมา แต่เพิ่งจะมาเมาตอนคุมตัวไปสถานีตำรวจ โดยรีบนำแอลกอฮอล์ที่ติดตัวมากรอกเข้าไปทั้งขวดและมีการนำอาวุธสงครามมาด้วย ทั้งนี้ ข่าวเรื่องการใช้มือปืน รวมทั้งสร้างสถานการณ์ความรุนแรงช่วงนี้มีมากขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องปรับบริเวณ เพื่อให้ง่ายต่อการรักษาความปอลดภัย ซี่งหากกระทบกระทั่งกับประชาชนก็คงต้องขออภัยด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในรถมีกระเป๋าอาวุธอีกหลายใบ ดูแล้วน่าจะทำเป็นขบวนการเหมือนว่าจะมีการกระจายอาวุธ เครื่องไม้เครื่องมือให้กับพรรคพวก ถือว่ามีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนว่า อาจจะเจตนาเอาชีวิตแกนนำ
ด้าน นายอมร ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ระบุว่า การตั้งข้อหาพกพาอาวุธของตำรวจถือว่าอ่อนเกินไป เพราะขณะที่รถพุ่งเข้ามาชนนั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าไปชาร์จทันที และ
เมื่อเปิดประตูออกมาก็อยู่ในสภาพที่ถือปืนพร้อมจะยิง มีอาวุธอยู่ด้านหน้า 5กระบอก และในมืออีกกระบอก ทุกกระบอกอยู่ในภาพพร้อมยิง จึงน่าจะมีเจตนามาก่อนความวุ่นวายอย่างแน่นอน ดังนั้นตำรวจจึง
ควรตั้งข้อหาพยายามฆ่า นายอมร เล่าต่อว่า
เมื่อเปิดกระโปรงหลังรถของคนร้าย ก็พบกระเป๋าพร้อมอาวุธ 7-8 ใบ รวมแล้วเท่ากับมีปืนถึง 10 กว่ากระบอก ตรงนี้ตำรวจก้รีบนำไปสถานีตำรวจทันทีโดยไม่ค้นทั้งๆ ที่อาจจะนำอาวุธมาแจกจ่ายให้กับทีมสองก็ได้ นอกจากนั้น ในวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ ปราศรัยบนเวทีนั้น มีคนเห็นชายคนดังกล่าวได้สวมเสื่อแจ๊กเก็ตในรถมาป้วนเปี้ยนบริเวณนี้ และพยายามจะเข้ามาด้วย
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000089844