ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนพยานโจทก์คดีที่ดินรัชดาฯ นัดแรก 8 ก.ค.
ศาลฎีกา 30 เม.ย.- ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาฯ นัดไต่สวนพยานโจทก์และจำเลย คดีที่ดินรัชดาฯ ฝ่ายละ 5 นัด เริ่ม 8 ก.ค.นี้ “เศกสรร บางสมบุญ” เบิกความ “วีระ สมความคิด” เป็นพยานปากแรก ขณะที่ “พิชิฏ ชื่นบาน” ทนายตระกูลชินวัตร จะเป็นพยานจำเลย ปากแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.00 น. วันนี้ (30 เม.ย.) นายทองหล่อ โฉมงาม ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน และองค์คณะผู้พิพากษา รวม 9 คน ของศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ออกนั่งบัลลังก์พิจารณาตรวจพยานหลักฐานโจทก์-จำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2550 การจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา ระหว่างอัยการสูงสุด โจทก์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยที่ 1 และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร จำเลยที่ 2 ต่อจากวันที่ 29 เมษายน 2551 โดยโจทก์และทนายจำเลยทั้งสอง มาศาล จำเลยที่ 1 และที่ 2 ไม่มา
ทั้งนี้ ศาลมีคำสั่งระบุว่า ทนายจำเลยทั้งสองยื่นคำร้องโต้แย้งพยานเอกสารของโจทก์ ตามคำร้องลงวันที่ 29 เมษายน 2551 โจทก์แถลงว่า โจทก์ไม่โต้แย้งพยานเอกสารที่จำเลยอ้าง ในส่วนที่เป็นระเบียบ คำสั่ง และกฎหมาย ส่วนเอกสารอื่นโจทก์ยังคงโต้แย้ง โดยโจทก์ประสงค์จะให้สืบพยานบุคคลประกอบพยานเอกสาร
สอบโจกท์-จำเลยแล้ว โจทก์แถลงว่า พยานโจทก์ตามบัญชีพยานลงวันที่ 18 เมษายน 2551 โจทก์ขอให้ศาลไต่สวนพยาน 22 ปาก ขอให้ศาลนัดไต่สวนพยานโจทก์ 5 นัด ทนายจำเลยแถลงว่า จำเลยทั้งสองติดใจขอให้ศาลไต่สวนพยานบางปากที่โจทก์ขอให้ศาลไต่สวนอยู่แล้ว ซึ่งทนายจำเลยทั้งสองจะได้ขออนุญาตศาลถามพยานไปพร้อมกัน จึงยังคงเหลือพยานจำเลยทั้งสองที่ติดใจ ขอให้ศาลไต่สวนในชั้นไต่สวนพยานจำเลยทั้งสองอีกเพียง 22 ปาก ขอให้ศาลนัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสอง 5 นัด
ศาลพิเคราะห์แล้วให้นัดไต่สวนพยานโจทก์ วันที่ 8, 15, 22, 25และ 29 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.30 น. นัดไต่สวนพยานจำเลยทั้งสอง วันที่ 1, 5, 15, 19 และ 22 สิงหาคม 2551 เวลา 09.30 น. และให้นัดไต่สวนพยานหลักฐานเพิ่มเติมไว้ในวันที่ 26, 29 สิงหาคม และ 2 กันยายน 2551 เวลา 09.30 น. เหตุที่ไม่ได้นัดไต่สวนพยานหลักฐานต่อเนื่องติดต่อกันไปทุกวันทำการ เพราะคู่ความและศาลมีกิจธุระจำเป็น อันมิอาจจะก้าวล่วงเสียได้ทั้งนี้ ให้โจทก์และทนายจำเลยทั้งสองแถลงต่อศาลภายใน 7 วัน นับแต่วันนี้ (30 เม.ย.) ว่า จะขอให้ศาลไต่สวนพยานปากใดในวันใด หากพยานปากใดจำเป็นต้องขอให้ศาลออกหมายเรียก ให้ยื่นคำร้องขอให้ออกหมายเรียกมาพร้อมกันด้วย แล้วให้รีบดำเนินการส่งหมายเรียกให้พยาน และติดต่อประสานงาน เพื่อให้พยานมาศาลตามนัด หากพยานไม่สามารถมาศาลในวันเวลานัดได้ ก็ให้ประสานงานให้พยานมาศาล ในวันนัดไต่สวนพยานหลักฐานของแต่ละฝ่าย นัดอื่นซึ่งนัดไว้แล้ว หากจำเป็นต้องออกหมายเรียกพยานใหม่ ก็ขอให้รีบดำเนินการ เพื่อให้การไต่สวนพยานหลักฐานเสร็จสิ้นภายในกรอบเวลาที่กำหนด
อนึ่ง เพื่อให้การไต่สวนพยานหลักฐานเป็นไปได้โดยสะดวก และรวดเร็ว ให้นัดพร้อมในวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 เวลา 09.30 น. ให้โจทก์และจำเลยทั้งสองแถลงถึงประเด็นข้อเท็จจริงที่จะทำการไต่สวน รวมทั้งคำถามที่ประสงค์จะให้ศาลถามพยานแต่ละปาก ก่อนวันไต่สวนพยานหลักฐานในนัดนั้น ๆ ไม่น้อยกว่า 7 วัน
นายเศกสรร บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ คณะทำงานอัยการในคดีจัดซื้อที่ดินย่านรัชดา กล่าวภายหลังรับฟังคำสั่งศาลว่า พยานทั้ง 22 ปาก ที่ได้ยื่นขอให้ไต่สวน จะแบ่งพยานตามวันที่ศาลกำหนด โดยคนแรกที่จะมาเบิกความคือ นายวีระ สมความคิด ซึ่งเป็นผู้เปิดเผยประเด็นดังกล่าวคนแรก และไม่รู้สึกกังวลที่มีพยานหลายคนซ้ำกับพยานฝ่ายจำเลย เพราะคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ได้บันทึกผลปากคำพยานทั้งหมดแล้ว หากมีประเด็นอื่นที่จะทำให้เสียหายต่อคดี เราก็ต้องถามค้าน ติดตามระบบสืบพยาน
“หาก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน เดินทางมาเบิกความด้วยตัวเองก็ไม่มีปัญหา เพราะทั้ง 2 คน มาในฐานะจำเลย ถ้าเบิกความมา อัยการก็ทำหน้าที่ทนายในการสอบถาม ทีมงานทั้งหมดไม่มีแรงกดดันในการทำงาน และมีความมั่นใจในการทำหน้าที่ ส่วนผลจะออกมาอย่างไร เป็นดุลยพินิจของศาล” นายเศกสรร กล่าว
ด้านนายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของครอบครัวชินวัตร เปิดเผยว่า จะเป็นพยานจำเลยคนแรก เพราะเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจจาก พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมาน ตั้งแต่ชั้น คตส. ในการไปแก้ต่างคดี ทั้งนี้ ลักษณะการเบิกความจะเป็นการรวบรวมข้อเท็จจริงทางกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บุคคลทั้งสองจะเดินทางมาเบิกความด้วยตัวเองในเดือนสิงหาคม แต่จะเป็นวันใดนั้น ต้องไปปรึกษาเพื่อดูความพร้อมก่อน ทั้งนี้ จะแบ่งพยานเป็นกลุ่มตามประเด็น เพื่อมาตามวันที่ศาลนัด โดยจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องในประเด็นข้อเท็จจริง อาทิ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรมบัญชีกลาง อย่างไรก็ตาม การไต่สวนคงเป็นไปโดยเปิดเผย
ส่วนนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า พร้อมที่จะเดินทางไปเป็นพยานในเรื่องดังกล่าว เพราะเป็นผู้ที่กล่าวโทษเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าสถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ไม่รู้สึกกังวล เพราะทุกอย่างอยู่ในหัวทั้งหมด ดังนั้น การพูดอะไรก็เป็นข้อเท็จจริง ไม่ว่าจะพูดสักกี่ครั้ง และว่า “ผมยังไม่มีหลักฐานอะไรจะยื่นต่อศาลเพิ่มเติม ส่วนใหญ่เป็นหลักฐานเดิมที่เคยใช้แล้ว และไม่กลัว หากจะมีสถานการณ์ใดมากดดัน ก่อนถึงวันนัดไต่สวนพยาน”.-สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2008-04-30 16:11:32
http://news.mcot.net/politic/inside.php?value=bmlkPTMyNTgyJm50eXBlPXRleHQ=เดือน ก.ย. เดือนอันตราย