ทัศนะวิจารณ์
กาแฟดำ
18 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 05:00:00
6 มาตรการ 6 เดือน :ยาหม่องรักษาแผลฉกรรจ์
ฟังดูดีครับ...น้ำ ไฟ รถเมล์ รถไฟฟรีตลอดตั้งแต่ 1 สิงหาคมนี้...พาดหัวหนังสือพิมพ์บางฉบับบอกว่า "คนจนเฮ" ด้วยซ้ำไป
กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : แต่พอหายเฮไปได้สักสองสามนาที วิเคราะห์ผลที่จะตามมา และเนื้อๆ ของมาตรการชุดนี้จริงๆ ก็พบว่า เป็นแค่ยาระงับปวดชั่วคราว
นักวิชาการบางคนบอกว่า เป็นเพียง "พาราเซต" แก้ปวดหัวประเดี๋ยวประด๋าว
อีกบางคนบอกว่า เหมือนเอา "ยาหม่อง" มาทาแผลฉกรรจ์
ที่ว่า "เฮ" นั้น อาจจะเป็นเสียงของนักเลือกตั้ง ที่มองว่านี่อาจจะเป็นการ "ปล่อยของ" ของนายกฯ สมัคร สุนทรเวช เพราะเชื่อว่า ในเร็วๆ นี้ อาจจะต้องยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่...และจะมีอะไรวิเศษไปกว่าการใช้เงินภาษีประชาชน เพื่อให้ "คนจนเฮ" กันไปคูหาเลือกตั้ง เพื่อกาบัตรให้กับตนเองและพรรคของตน
แน่นอนว่า คุณสมัครรีบปฏิเสธทันควัน บอกว่ามาตรการชุดนี้ไม่เกี่ยวกับการหาเสียง
แต่หนีไม่พ้นว่า อาจจะถูกมองว่า เป็น "ประชานิยมเฉพาะหน้า" ที่ฟังแล้วเหมือนรัฐบาลใจดี ซานตาคลอสมาก่อนคริสต์มาสตั้ง 5 เดือน
แต่มองลึกลงไปก็เห็นว่ามาตรการชุดนี้ไม่ได้ทำตามเป้าที่ประชาชนต้องการเห็นจริงๆ...นั่นคือ กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งยังไม่ปรากฏออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม
การเอาใจคนยากคนจนโดยใช้เงินภาษีประชาชนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคัดค้านหรือต่อต้านแน่นอน แต่การเสนออะไรฟรีให้กับชาวบ้านนั้นเป็นเรื่องง่าย ใครเป็นรัฐบาลก็ทำได้ ไม่ต้องมีกึ๋น ไม่ต้องใช้จินตนาการมาก
การแจกของฟรีให้ประชาชนชั่วครั้งชั่วคราว ไม่อาจจะแก้ปัญหาพื้นฐานที่บ้านเมืองกำลังเผชิญหน้าอยู่ นั่นคือ เรื่องเงินเฟ้อ และภาวะเงินฝืดที่ทำท่าว่าจะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน อย่างที่ฝรั่งเรียกว่า stagflation
การควักเงินออกมาแจกจ่ายอย่างนี้ ก็ย่อมจะแปลว่ารายได้รัฐบาลจะหายไปจำนวนหนึ่ง และในกรณีนี้รายได้ที่หดไปจะตกราว 4.9 หมื่นล้านบาท และหากทำเกิน 6 เดือน เงินก้อนนี้ก็จะสูงขึ้นไปอีก
เริ่มมีข่าวแล้วว่า รัฐบาลจะหาทางออกด้วยการแต่งบัญชี คือ สั่งให้โยกตัวเลขชุดนี้ไปใส่ในงบประมาณปี 2552 และเป็นไปได้ว่า รัฐบาลอาจจะต้องทำงบประมาณแบบขาดดุลต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 2 ถึง 3 ปี
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า 6 มาตรการ 6 เดือนนี้ จะทำให้การขาดดุลงบประมาณในปี 2551 สูงขึ้นมาเป็นประมาณ 220,000 ล้านบาท จากเดิมที่ประมาณเอาไว้ที่ 172,000 ล้านบาท
ถามว่ามาตรการชุดนี้จะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อที่ทำท่าว่าจะเข้าสู่เลขสองหลักในปลายปีนี้หรือไม่ นักธุรกิจบางคนบอกว่า ไม่มีผลอะไรมากนักทางด้านนี้ แต่นักเศรษฐกิจอีกบางคนเชื่อว่าน่าจะมีผลบ้าง อาทิเช่น อัตราเงินเฟ้อของเดือนสิงหาคมอาจจะต่ำกว่า 10% และถ้าหากเฉลี่ยทั้งปี อาจจะอยู่ที่ 7.3% เมื่อเทียบกับ 7.8% ที่เคยคาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้า
แต่จะมองจากด้านไหนก็ตาม ก็หนีไม่พ้นข้อสรุปว่านี่เป็นแค่ยาแก้ปวดที่อาจจะบรรเทาความรู้สึกร้ายๆ ของชาวบ้านไปได้ชั่วขณะเท่านั้น
หากวินิจฉัยโรคกันอย่างจริงจังแล้ว คนไข้ยังต้องการยาที่แรงกว่านี้ ชะงัดกว่านี้ และตรงกับอาการของโรคมากกว่านี้
ถ้าหมอใหญ่ที่ชื่อสมัครยังมุ่งจะสร้างความตึงเครียดทางการเมือง ด้วยการประกาศลุยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แทนที่จะทุ่มเทสรรพกำลังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่หนักหน่วงมากขึ้นทุกวัน ก็แน่ใจได้เลยว่า "6 มาตรการ 6 เดือน" ที่ว่านี้จะเป็นแค่การส่งสัญญาณว่า พรรครัฐบาลเตรียมจะลงศึกเลือกตั้งครั้งใหม่เท่านั้นเอง
เพราะรัฐบาลสมัครไม่กล้าหรือไม่มีวิสัยทัศน์พอที่จะประกาศ "แผนแม่บท" เพื่อฝ่าข้ามมรสุมใหญ่ทางเศรษฐกิจของบ้านเมืองเลยแม้แต่น้อย
http://www.bangkokbiznews.com/2008/07/18/news_277220.phpคนไม่มียาง สัตว์นรก รบ ลูกกรอก หมอนวดเลี๊ยบ ก็พวกสร้างภาพ
ขนาดเอาประเทศไปขายให้เขมรได้หน้าตาเฉย
นี่จะมาโปรโมทรายการหลอกเงิน ปชช ด้วยการเอาดอกเบี้ยล่อใจ เลวสุด ๆๆ จริง ๆๆ