ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
02-06-2025, 06:16
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==ปชป.ไม่ส่ง'ชัย'ให้ศาลรธน.เพราะ'เทพเทือก-ส.ส.สงขลา' มีหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐ???== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: [1]
==ปชป.ไม่ส่ง'ชัย'ให้ศาลรธน.เพราะ'เทพเทือก-ส.ส.สงขลา' มีหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐ???==  (อ่าน 4315 ครั้ง)
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« เมื่อ: 14-07-2008, 10:36 »

ผ่านไปเห็นมติชนลงข่าว ก็เลยเก็บมาให้ดูนะครับ มติชนวิเคราะห์กรณีปู่ชัยว่าเกิดสภาพ ยันกัน 2 ฝ่าย
คือทาง ปชป. ก็มี สส.ได้สัมปทานรัฐด้วย อาจทำให้ฝ่ายค้านไม่กล้าเข้าชื่อให้ตีความสถานภาพของ
ปู่ชัย เพราะอาจถูกตอบโต้จากฝ่ายรัฐบาล ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลเองก็ไม่กล้่าทำอะไรฝ่ายค้านเหมือนกัน

..ดูแล้วฝ่าย ปชป. มีเข้าข่าย 2 คนก็เท่ากับเสียเปรียบฝ่าย พปช. ที่เข้าข่ายคนเดียวนะครับ..

ความจริงน่าจะยื่นๆ เข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าถูกตอบโต้กรณี สส.สงขลา ท่าทางคงจะไม่รอด
แต่ของคุณสุเทพพอลุ้น เพราะเผลอไปถือหุ้นแค่ 50,000 บาท ถ้าศาลปราณีอาจรอดก็ได้


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปชป.ไม่กล้าส่ง'ชัย'ให้ศาลรธน.เชือด 'เทพเทือก-ส.ส.สงขลา' มีหุ้นบริษัทสัมปทานรัฐ
วันที่ 13 กรกฎาคม 2551 เวลา 21:49:29 น.
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?id=40641&catid=1

เผยเหตุประชาธิปัตย์ไม่กล้าเข้าชื่อส่งศาลรธน.วินิจฉัยคุณสมบัติ 'ชัย ชิดชอบ'ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทที่รับประทานบัตร
เหมืองหินจากรัฐขัด รธน. เพราะมี ส.ส.-แกนนำพรรครับประทานบัตร-มีหุ้นในบริษัทที่ได้รับสัญญาสัมปทานจากรัฐ
เบื้องต้น'เทพเทือก'มีหุ้นในบริษัทโทรศัพท์

หลังจากที่เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)ระบบสรรหา ได้ยื่นเรื่อง
ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)วินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า
สิ้นสุดลงตามรัฐธรรรมนูญ มาตรา 106(6)  หรือไม่ เนื่องจากมีหลักฐานจากบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินที่ยื่นต่อ
คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติระบุว่า นายชัยและนางละออง ชิดชอบ ภรรยา มีการกระทำ
เข้าข่ายต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 265(2)เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการในบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์
(1991) จำกัดที่ได้รับประทานบัตรทำเหมืองหิน(เลขที่ 27261/15163)ที่สวายจิก อ.เมือง บุรีรัมย์ อันเป็นสัญญา
ในลักษณะผูกขาดตัดตอนกับรัฐนั้น

ปรากฏว่า แม้เวลาจะผ่านไปเกือบ 2 สัปดาห์ แต่ไม่มี  ส.ส.ไม่ว่าทั้งจากพรรคร่วมรัฐบาล หรือ พรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านมีทีท่าจะจะเข้าชื่อกันจำนวน 1 ในของจำนวน ส.ส.ทั้งหมดที่มีอยู่หรือประมาณ 48 คนเพื่อ
ยื่นเรื่องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คุณสมบัติของนายนายชัยว่า ต้องพ้นจาก
ตำแหน่ง ส.ส.หรือไม่

ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายชัยสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.ก็หมายความว่า ต้องพ้นจากตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย

แหล่งข่าวจากสภาผู้แทนราษฎรกล่าวว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ยอมดำเนินการในเรื่องดังกล่าว อาจเป็นเป็นพราะ
มีส.ส.และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์บางคนมีหุ้นหรือเป็นเจ้าของบริษัททำเหมือง หรือบริษัทที่มีสัญญาสัมปทานกับรัฐ 
จึงเกรงว่า ถ้าศาลรัฐธรรมวินิจฉัยคุณสมบัตินายชัยว่า ต้องพ้นสภาพการเป็น ส.ส.  จะถูก ส.ส.พรรคพลังประชาชนตอบโต้
ด้วยการเข้าชื่อกันยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คุณสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จนต้องพ้นสภาพ ส.ส.บ้าง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของ ส.ส.ที่ยื่นต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช.ขณะที่เข้าตำแหน่งพบว่า 
นายลาภศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์และครอบครัว เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทบี.เอส.ไมนิ่ง
(2003) จำกัด

ขณะเดียวกัน นางสุไหม ลาภาโรจน์กิจ ภรรยานายลาภศักดิ์ยังมีชื่อเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวด้วย โดยบริษัท
มีทุนจดทะเบียนจำนวน 5 ล้านบาท และตั้งอยู่ที่ 139-141 ถ.นิพัทธ์อุทิศ 2 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ทั้งนี้ บริษัทบี.เอส.ไมนิ่ง (2003)  ได้รับประทานบัตรเหมืองแร่ยิปซัมที่ ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช
เนื้อที่ 39 ไร่เศษ ทะเบียนเลขที่ 26158/15234(นศ42/2538) ที่นายลาภศักดิ์เป็นผู้ถือหุ้นนั้น เป็นประทานบัตร
ประกอบกิจการเหมืองแร่ทุกชนิด

นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ถือหุ้นใน บมจ. เทเลคอมเอเชีย
จำกัด(ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นบริษัท ทรู คอร์เปอเรชั่น)ซึ่งได้รับสัมปทานโทรศัพท์พื้นฐาน 2 ล้านเลขหมายจากองค์การ
โทรศัพท์แห่งประเทศไทยจำนวน 5,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 50,000 บาท
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
moon
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 780


« ตอบ #1 เมื่อ: 14-07-2008, 11:05 »

ประชาธิปัตย์น่าจะใช้ประโยชน์ในโอกาสนี้ได้ ด้วยการแสดงสปิริต แสดงจุดยืนได้ชัดเจนขึ้น และสามารถทำให้ตัวเองสะอาดขึ้นด้วย

ถึงแม้ว่าพรรคของตัวเองมี 2 ก็ช่างมัน ต้องเอาส่วนรวม และที่เหนืออื่นใดคืออุดมการณ์ความถูกต้อง เป็นหลักให้ประชาชนทั่วไปได้เห็น

ผิดถือผิด ถูกคือถูก แล้วสิ่งที่จะได้กลับมาจากการเสียไป มันจะคุ้มค่ากับประเทศมากกว่า อย่ามัวมองแต่พวกพ้องอยู่เลย
บันทึกการเข้า
ตี๋ สักมังกือ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #2 เมื่อ: 14-07-2008, 11:08 »

ในบัญชีที่ยื่น ปปช. ผู้ยื่น 100,000

คู่สมรส 50,000

รวม 150,000


สำหรับกรณี นายลาภศักดิ์
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #3 เมื่อ: 14-07-2008, 11:48 »

ในบัญชีที่ยื่น ปปช. ผู้ยื่น 100,000
คู่สมรส 50,000
รวม 150,000

สำหรับกรณี นายลาภศักดิ์

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต่างจากของคุณสุเทพ ที่ถือหุ้น 50,000 สิครับ

แบบนี้ยิ่งน่าลุ้นเพราะ ทาง สส. ปชป. สามารถแถลงต่อศาลได้ว่า
แม้จะถือหุ้นแต่ไม่ได้มีเจตนาจะได้รับสัมปทานผูกขาดตัดตอนจากรัฐ
เนื่องจากถือหุ้นเพียงเล็กน้อย ได้ัปันผลปีละไม่กี่สตางค์

..เป็นไปได้ว่ามติชนอาจจะวิเคราะห์ผิดนะครับ..

ที่ ปชป. ไม่ทำอะไรอาจเพราะกำลังมุ่งถอดถอนรัฐบาลเป็นประเด็นหลักก็ได้
แต่น่าแปลกที่ฝ่าย พปช. ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยหรือว่ายังไม่รู้ ? 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ตี๋ สักมังกือ
สมาชิกสามัญขั้นที่ 3
****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 174


« ตอบ #4 เมื่อ: 14-07-2008, 12:07 »

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต่างจากของคุณสุเทพ ที่ถือหุ้น 50,000 สิครับ

แบบนี้ยิ่งน่าลุ้นเพราะ ทาง สส. ปชป. สามารถแถลงต่อศาลได้ว่า
แม้จะถือหุ้นแต่ไม่ได้มีเจตนาจะได้รับสัมปทานผูกขาดตัดตอนจากรัฐ
เนื่องจากถือหุ้นเพียงเล็กน้อย ได้ัปันผลปีละไม่กี่สตางค์

..เป็นไปได้ว่ามติชนอาจจะวิเคราะห์ผิดนะครับ..

ที่ ปชป. ไม่ทำอะไรอาจเพราะกำลังมุ่งถอดถอนรัฐบาลเป็นประเด็นหลักก็ได้
แต่น่าแปลกที่ฝ่าย พปช. ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยหรือว่ายังไม่รู้ ? 


ผมแปลกใจกว่าที่ว่า ทำไมท่านเรืองไกร ไม่ยื่นไปพร้อมกับท่านชัย และเจ้าของโรงโม่หิน เข้าใจว่ามีอีกนะครับ พรรคอื่นก็มี 


เพราะประเด็นไปอยู่เรื่อง การผูกขาดตัดตอนหรือไม่ แค่นั้นเอง


หากไม่เอาเรื่อง แจ้งเท็จ
บันทึกการเข้า
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #5 เมื่อ: 14-07-2008, 21:21 »

ปชป ไม่กล้า  งั้นรอดูพลังประชาชน เป็นตัวอย่าง 

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=329181

พปช. ร้อง กกต. ถอนถอน 28 ส.ส. 33 ส.ว. ถือหุ้นบ.สัปมทานรัฐ-ถือหุ้นบ.สื่อ
เวลาประมาณ 15.30 น. นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน และทีมที่ปรึกษากฎหมายพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางมาที่สำนักงาน กกต. เพื่อยื่นถอนถอน 28 ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ และ 33 ส.ว. ในข้อหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือโทรคมนาคม ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 48 บัญญัติห้ามไว้ และเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทที่เข้าคู่สัญญาในลักษณะผูกขาดตัดตอน หรือในบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 265 บัญญัติห้ามไว้ และต้องสิ้นสุดสมชิกภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106

นายศุภชัย กล่าวอีกว่า กฎหมายทั้ง 2 มาตรา มีเจตนาที่จะให้ ส.ส. และ ส.ว. ไม่ไปถือหุ้น ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทใดๆ ที่เป็นคู่สัญญากับรัฐแม้แต่หุ้นเดียว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ตนได้มาจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลทั้งหมดเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง

เมื่อถามว่า ที่มายื่นให้ตรวจสอบ เป็นการดิสเครดิตฝ่ายที่ทำการตรวจสอบแกนนำพรรคพลังประชาชนใช่หรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ไม่ใช่การดิสเครดิต เพราะคำนี้แปลว่าเรื่องนั้นต้องไม่จริง แต่เป็นความปรารถนา ที่อยากให้ทุกคนปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ในเมื่อทุกคนเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ดีงาม ดังนั้นเมื่อรัฐธรรมนูญระบุว่าการถือหุ้นเป็นความผิดต้องพ้นสมาชิกภาพ เขาทำผิดก็ต้องพ้นไป ซึ่งกรณีนี้เป็นกรณีเดียวกับที่มีการกล่าวหานายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าเป็นคู่สัญญาสัมปทานกับรัฐ ทั้งที่กรณีของนายชัย แตกต่างจากกรณีดังกล่าวมาก และนายชัยไม่มีความผิดด้วยซ้ำ เมื่อถามต่อว่า ได้มีการตรวจสอบสมาชิกของพรรคพลังประชาชนหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า ของพรรคพลังประชาชน ผมยังไม่ตรวจสอบ ผมตรวจสอบแต่พรรคประชาธิปัตย์ ถ้าสื่ออยากจะไปตรวจสอบก็ให้ดำเนินการเอา ถ้าเห็นว่าผิด ก็ยื่นต่อกกต.ได้




ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 48 บัญญัติห้ามไว้ และเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วน หรือ บริษัทที่เข้าคู่สัญญาในลักษณะผูกขาดตัดตอน หรือในบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 265 (2)บัญญัติห้ามไว้ และต้องสิ้นสุดสมชิกภาพตามรัฐธรรมนูญมาตรา 106(6) กฎหมายทั้ง 2 มาตรา มีเจตนาที่จะให้ ส.ส. และ ส.ว. ไม่ไปถือหุ้น ในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทใดๆ ที่เป็นคู่สัญญากับรัฐแม้แต่หุ้นเดียว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ได้มาจากการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลทั้งหมดเมื่อครั้งเข้ารับตำแหน่ง

รายชื่อ 28 สส.และ 33 สว.ที่กระทำการขัดรัฐธรรมนูญ ตามมาตรา 48 มีดังนี้

สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ทั้ง 28 คนประกอบด้วย

1.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ถือหุ้นในบริษัทธนายง จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีพีไอโพลี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด( มหาชน )2. นายอนุชา บูรพชัยศรี ถือหุ้นในบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) บริษัท โทเทิล แอคเซส คอมมูนิเคชัน จำกัด ( มหาชน ) และบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ( มหาชน ) 3.นายสมเกียรติ ฉันทวานิช ถือหุ้นในบริษัทไทยออย จำกัด ( มหาชน ) บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด( มหาชน ) บริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ป บริษัท ปตท. จำกัด ( มหาชน ) และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด ( มหาชน )

4. นายสกลธี ภัทยิกุล ถือหุ้นในบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด ( มหาชน ) 5. คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช ถือหุ้นในบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ( มหาชน ) 6.นายชนินทร์ รุ่งแสง ถือหุ้นในบริษัท ปตท. จำกัด( มหาชน ) และบริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด( มหาชน ) 7. นางสาวรัชดา ธนาดิเรก ถือหุ้นในบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด ( มหาชน ) และ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด ( มหาชน ) 8. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ถือหุ้นในบริษัทไทยออยล์ จำกัด ( มหาชน )

9.นายสราวุธ อ่อนละมัย ถือหุ้นในบริษัทโทเทิล แอคเซส คอมมูนิเคชัน จำกัด ( มหาชน ) 10. นายเธียรชัย สุวรรณเพ็ญ ถือหุ้นในบริษัท อสมท. จำกัด ( มหาชน ) 11.นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ถือหุ้นในบริษัทการบินไทย จำกัด( มหาชน ) และ บริษัทธนายง จำกัด( มหาชน ) 12.นางสาวนริศา อดิเทพวรพันธุ์ ถือหุ้นในบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด( มหาชน ) 13.นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ถือหุ้นในบริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด( มหาชน ) 14.นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ ถือหุ้นในบริษัทการบินไทย จำกัด ( มหาชน ) 15. นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร บริษัท ปตท.จำกัด( มหาชน )

16.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ถือหุ้นในบริษัทไทยออยล์ จำกัด( มหาชน ) 17. นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ถือหุ้นใน บริษัทการบินไทย จำกัด ( มหาชน ) 18.นายจุติ ไกรฤกษ์ ถือหุ้นในบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด( มหาชน ) บริษัทการบินไทย จำกัด ( มหาชน ) บริษัททีพีไอ โพลีน จำกัด ( มหาชน )บริษัทจัสมิน อินเตอร์แนชั่นแนล จำกัด( มหาชน ) บริษัททรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน ) บริษัททีทีแอนด์ที จำกัด ( มหาชน ) และ บริษัท ชินแซทเทลไลท์ จำกัด ( มหาชน ) 19.นายวิชัย ล้ำสุทธิ ถือหุ้นในบริษัท ปตท.จำกัด( มหาชน ) 20.นายเจือ ราชสีห์ ถือหุ้นในบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด( มหาชน ) และบริษัท เดอะโคเจนเนอเรชั่น จำกัด ( มหาชน )

21. นายวินัย เสนเนียม ถือหุ้นในบริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด( มหาชน ) 22.นายลาภศักดิ์ ลาภาโรจน์กิจ ถือหุ้นในบริษัท ปตท.จำกัด( มหาชน ) 23.นางนิภา พริ้งศุลกะ ถือหุ้นในบริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จำกัด ( มหาชน ) 24.พล.อ.พิชาญเมธ ม่วงมณี ถือหุ้นในบริษัทการบินไทย จำกัด ( มหาชน ) 25. ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ถือหุ้นในบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด ( มหาชน )

26.นายประกอบ จิรกิต ถือหุ้นในบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน ) บริษัทบ้านปู จำกัด มหาชน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด ( มหาชน ) และบริษัทเบญจจินดา โฮลดิ้งจำกัด 27.นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ถือหุ้นในบริษัท ปตท.จำกัด ( มหาชน ) และบริษัทการบินไทยจำกัด ( มหาชน ) และ28.นายเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ ถือหุ้นในบริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด ( มหาชน ) บริษัททีทีแอนด์ที จำกัด ( มหาชน )

สมาชิกวุฒิสภา 33 คน ประกอบด้วย

1 . ร.ศ.กอบกุล พันธ์เจริญวรกุล ส.ว. สรรหาภาควิชาการ ถือหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2 .ศ.เกียรติคุณตรึงใจ บูรณสมภพ ส.ว.สรรหาภาควิชาการ ถือหุ้นบริษัท เทเลคอมเอเชียคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) 3 . นายธนู กุลชน สว.สรรหาภาควิชาการถือหุ้นบริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) 4 .ศ.วิรัตน์ พาณิชย์พงษ์ ส.ว.สรรหาภาควิชาการ ถือหุ้น บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) 5 .นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว.สรรหาภาควิชาการ ถือหุ้นบริษัททรูคอร์เปอร์เรชั่น

6 .นายฐิระวัตร กุลละวณิชย์ ส.ว.สรรหาภาครัฐ ถือหุ้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 7 .นายพิเชต สุนทรพิพิธ ส.ว.สรรหาภาครัฐ ถือหุ้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 8 .พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวาณิช ส.ว.สรรหาภาครัฐ ถือหุ้น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัททรูคอร์เปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) 9 .นายถาวร ลีนุตพงษ์ ส.ว.สรรหาภาคเอกชน ถือหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทไออาณืพีซี จำกัด (มหาชน) 10 .นายบุญชัย โชควัฒนา ส.ว.สรรหาภาคเอกชน ถือหุ้น บริษัทสหโคเจน(ชลบุรี) จำกัด (มหาชน)

11 .นายพิชัย อุตมาภินันท์ ส.ว.สรรหาภาคเอกชน ถือหุ้น บริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) 12 . นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหาภาคเอกชน ถือหุ้น บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 13 .นางอุไร คุณานันทกุล ส.ว.สรรหาภาควิชาชีพ ถือหุ้น บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 14 .พล.ต.ต.เกริก กัลยาณมิตร ส.ส.สรรหาถือหุ้นบริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) 15 . รศ.ทัศนา บุญทอง ส.ว.สรรหาภาควิชาชีพ ถือหุ้น บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน)

16 นางพรพันธ์ บุญรัตน์พันพ์ ส.ว.สรรหาภาควิชาชีพ ถือหุ้น บริษัท ปตท.อะไรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทปตท.เคมิคอล จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 17 .นายสมชาย แสวงการ ส.ส.สรรหาภาควิชาชีพ ถือหุ้นบริษัท ปตท.อะโรแมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 18 .นางทิพย์วัลย์ สมุทรักษ์ ส.ว.สรรหาภาคอื่นๆ ถือหุ้น บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) และบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 19 .นายวรวุฒิ โรจนพานิช ส.ส.สรรหาภาคอื่นๆ ถือหุ้น บริษัททางด่วนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 20 นายสุรพงษ์ ตันศรีธนกุล ส.ว.กาญจนบุรี ถือหุ้น บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัทธนายง จำกัด (มหาชน)

21 .นายสิทธิศักดิ์ ยนต์ตระกูล ส.ว.กาฬสินธ์ ถือหุ้น บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และบริษัทชินแซทเทไลท์ จำกัด (มหาชน) 22 .นายมงคล ศรีคำแหง ส.ว.จันทบุรี ถือหุ้นบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 23 .นายชูชัย เลิศพงษ์อดิศร ส.ว.เชียงใหม่ ถือหุ้นบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 24 .นายสุพจน์ เลียดประถม ส.ว.ตราด ถือหุ้นบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 25 .พล.อ.พงศ์เอก อภิรักษ์ โยธิน ส.ว.พะเยา ถือหุ้น บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)

26 .นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส.ส.พิษณุโลก ถือหุ้น บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัทไอทีวี จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) บริษัทชินแซทเทไลท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) และบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) 27 .นายประวัติ ทองสมบูรณ์ ส.ว.มหาสารคาม ถือหุ้น บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) 28 .นายจรัล จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.สระบุรี ถือหุ้น บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท.อะโรเมติกส์และการกลั่น จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 29 .นายสุรพงษ์ ตันศรีธนกุล ส.ว.กาญจนบุรี ถือหุ้นบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน)

30 .พล.ต.ท.มาโนช ไกรวงศ์ ส.ว.สุราษฎร์ธานี ถือหุ้น บริษัทสยามรังนกทะเลใต้จำกัด 31 .พล.ต.อ.โกวิท ภักดีภูมิ ส.ว.อ่างทอง ถือหุ้น บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ธนายง จำกัด (มหาชน) บริษัทไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) บริษัทบ้านปู จำกัด (มหาชน) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัทระบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) 32 .นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ส.อุตรดิตถ์ ถือหุ้นบริษัททีพีไอโพลีน จำกัด (มหาชน) และ 33 นางพรทิพย์ จันทร์รัตน์ปรีชา ส.ว. ชัยภูมิ ถือหุ้นบริษัท ปตท. จำ


รายชื่อยังไม่ครบมั๊ง   
บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #6 เมื่อ: 14-07-2008, 21:38 »

ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต่างจากของคุณสุเทพ ที่ถือหุ้น 50,000 สิครับ

แบบนี้ยิ่งน่าลุ้นเพราะ ทาง สส. ปชป. สามารถแถลงต่อศาลได้ว่า
แม้จะถือหุ้นแต่ไม่ได้มีเจตนาจะได้รับสัมปทานผูกขาดตัดตอนจากรัฐ
เนื่องจากถือหุ้นเพียงเล็กน้อย ได้ัปันผลปีละไม่กี่สตางค์

..เป็นไปได้ว่ามติชนอาจจะวิเคราะห์ผิดนะครับ..

ที่ ปชป. ไม่ทำอะไรอาจเพราะกำลังมุ่งถอดถอนรัฐบาลเป็นประเด็นหลักก็ได้
แต่น่าแปลกที่ฝ่าย พปช. ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลยหรือว่ายังไม่รู้ ? 
ถือหุ้นได้นี่ครับถ้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการบริหารกิจการหรือจำนวนหุ้นไม่พอที่จะบริหารกิจการได้

มาตรา ๔๘ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะเป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นในกิจการ
หนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ หรือโทรคมนาคม มิได้ ไม่ว่าในนามของตนเองหรือให้
ผู้อื่นเป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นแทน หรือจะดำเนินการโดยวิธีการอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ที่สามารถบริหารกิจการดังกล่าวได้ในทำนองเดียวกับการเป็นเจ้าของกิจการหรือถือหุ้นในกิจการดังกล่าว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2008, 21:43 โดย solidus » บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #7 เมื่อ: 14-07-2008, 21:57 »

ปชป ไม่กล้า  งั้นรอดูพลังประชาชน เป็นตัวอย่าง 

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=329181

...

รายชื่อยังไม่ครบมั๊ง 

ขอบคุณครับ ฝ่ายรัฐบาลรับลูกรวดเร็วทันใจดีจริงๆ
เปิดมาก่อนแบบนี้ เดี๋ยว ปชป. อาจยื่นเพิ่มเติมบ้าง
แค่ สส. พปช. ก็ 2 ร้อยกว่าคนคงมีเข้าข่ายกันบ้าง
จะได้คึกคักครึกครื้นกันทั้งสภา 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #8 เมื่อ: 14-07-2008, 22:43 »

ขอบคุณครับ ฝ่ายรัฐบาลรับลูกรวดเร็วทันใจดีจริงๆ
เปิดมาก่อนแบบนี้ เดี๋ยว ปชป. อาจยื่นเพิ่มเติมบ้าง
แค่ สส. พปช. ก็ 2 ร้อยกว่าคนคงมีเข้าข่ายกันบ้าง
จะได้คึกคักครึกครื้นกันทั้งสภา 
น่าจะโดนหลายอยู่ครับถ้าเอาแต่เรื่องถือหุ้นโดยไม่สนว่ามีอำนาจในการบริหารกิจการหรือไม่

มาตรา ๒๖๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาต้อง

(๒) ไม่รับหรือแทรกแซงหรือก้าวก่ายการเข้ารับสัมปทานจากรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงาน
ของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือเข้าเป็นคู่สัญญากับรัฐ หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ
อันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับ
สัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม

ให้นำความใน (๒) (๓) และ (๔) มาใช้บังคับกับคู่สมรสและบุตรของสมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภา และบุคคลอื่นซึ่งมิใช่คู่สมรสและบุตรของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภานั้น ที่ดำเนินการในลักษณะผู้ถูกใช้ ผู้ร่วมดำเนินการ หรือผู้ได้รับมอบหมายจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาให้กระทำการตามมาตรานี้ด้วย
บันทึกการเข้า
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #9 เมื่อ: 14-07-2008, 23:08 »

"หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับ
สัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
"



ทางตรง ก็บานเบอะแล้ว ยังมีทางลูก ทางเมียที่ยังไม่สืบอีก


ดูซิศาลจะตีความ เลี่ยงไปยังไง    




บันทึกการเข้า
Solidus
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3,381



« ตอบ #10 เมื่อ: 14-07-2008, 23:13 »

"หรือเป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับ
สัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
"


ทางตรง ก็บานเบอะแล้ว ยังมีทางลูก ทางเมียที่ยังไม่สืบอีก


ดูซิศาลจะตีความ เลี่ยงไปยังไง    


ถ้าเอาแค่ถือหุ้นโดยไม่สนว่ามีอำนาจบริหารหรือไม่ก็เพียบล่ะครับ เพราะรวมคู่สมรส บุตร รวมทั้งนอมินีอื่น ๆ อีก แถมยังไม่ระบุว่าต้องเป็นหุ้นประเภทไหนอีก หุ้นลม หุ้นเงินฝากก็โดนไปโดยเพราะถือเป็นหุ้นส่วนด้วย อย่างคู่สมรสของบางคนที่นำเงินไปลงทุนเป็นต้น



* Untitled-2.jpg (29.75 KB, 500x125 - ดู 1020 ครั้ง.)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-07-2008, 23:17 โดย solidus » บันทึกการเข้า
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #11 เมื่อ: 15-07-2008, 10:06 »

สงสาร ส.ส.ภายภาคหน้าเสียจริง
คราวต่อไปต้องเหลือแต่ตัวจริงๆ  มีหุ้นฝากลูกฝากเมียฝากญาติก็ไม่ได้

คนในวงการธุรกิจ ไม่ต้องเข้ามาเลย 


ใครผิดเนี่ย  นายรัฐธรรมนูนใช่มั๊ยครับ 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #12 เมื่อ: 15-07-2008, 10:13 »

ขอบคุณครับ ฝ่ายรัฐบาลรับลูกรวดเร็วทันใจดีจริงๆ
เปิดมาก่อนแบบนี้ เดี๋ยว ปชป. อาจยื่นเพิ่มเติมบ้าง
แค่ สส. พปช. ก็ 2 ร้อยกว่าคนคงมีเข้าข่ายกันบ้าง
จะได้คึกคักครึกครื้นกันทั้งสภา 



แบบว่าเผื่อคุณจีเธอจะไม่ทราบข้อมูลลับๆ คริ คริ



"‘สดศรี’แฉยับ‘สุเมธ’ป้องปชป.มีมติแจกใบแดงไปแล้ว-ลือ 3 กกต.ฝ่ายพันธมิตร

โดย หนังสือพิมพ์ประชาทรรศน์
15 กรกฎาคม 2551

“สดศรี” ออกโรงแฉแหลกคดี “ใบแดง” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “วิฑูรย์ นามบุตร” ระบุที่ประชุมมีมติเสียงส่วนใหญ่ให้ใบแดงไปแล้ว แต่ “สุเมธ” ดึงเรื่องขอไปพิจารณาต่อเอง อ้างสมควรต้องสอบเพิ่ม เหน็บไม่รู้ว่ามีมือที่มองไม่เห็นอีกหรือเปล่าถึงได้ทำให้เกิดความล่าช้า ชี้หากพิจารณามาตรฐานเดียวกันรับรองได้ว่าไม่รอดแม้แต่พรรคเดียว ขณะที่ใน กกต. ข่าวลือกระฉ่อน มี 3 กกต. อยู่ข้างพันธมิตรฯ และประชาธิปัตย์ ด้านรองโฆษก พปช. ระบุถึงเวลาที่ กกต. จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ประชาชนเห็นว่ามีความเป็นกลางจริงหรือไม่ และหากทำหน้าที่โดยมิชอบก็มีสิทธิ์โดนทั้งถอดถอนและความผิดอาญา


* ชี้ กกต.ไม่เป็นกลางมีสิทธิ์ติดคุก-ถูกถอดถอน
ในขณะที่หลายพรรคการเมืองต่างก็โดนแจกใบแดงและทำท่าว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงขั้นยุบพรรคกันเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็นพรรคชาติไทย มัชฌิมาธิปไตย เพื่อแผ่นดิน รวมถึงเป้าหมายสำคัญอย่างพรรคพลังประชาชน แต่ก็กลับปรากฏว่าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีเรื่องร้องเรียนรองหัวหน้าพรรค นายวิฑูรย์ นามบุตร พร้อมด้วยผู้สมัคร ที่ จ.อุบลราชธานี มีการจัดมหรสพ แจกตั๋วหนังและใช้เป็นเวทีปราศรัยหาเสียง ปรากฏเป็นหลักฐานวีซีดี มีเอกสารและพยานชัดแจ้ง เรื่องราวกลับเงียบหาย ส่อให้เห็นถึงการทำงานที่เลือกปฏิบัติ จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จงใจให้ความช่วยเหลือพรรคพวกหรือไม่ รวมไปถึงข้อกังวลสงสัยที่เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มคน องค์กร และพรรคการเมืองบางพรรค ที่มีแนวทางร่วมกันในการจ้องล้มล้างรัฐบาลนั้น

“สดศรี”แฉมีมติแจกใบแดงไปแล้ว
กรณีดังกล่าว นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการพรรคการเมือง เปิดเผยว่า กรณีของนายวิฑูรย์ ได้มีการเสนอเข้ามาในที่ประชุม กกต. แล้วครั้งหนึ่ง จากตอนนั้นถือว่านานมาก และในที่ประชุมครั้งดังกล่าวก็ได้มีมติโดยส่วนใหญ่ให้ใบแดงแก่นายวิฑูรย์ แต่มีกรรมการท่านหนึ่งคือ นายสุเมธ อุปนิสากร ได้ขอนำเรื่องไปพิจารณาต่อเอง เนื่องจากเห็นว่าควรจะมีการสอบสวนเพิ่มเติม ดังนั้นจึงมีการยกเลิกการลงมติไป

หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการสอบสวนที่มีการสอบสวนเพิ่มเติม ทั้งหมดมีมติให้ใบแดงเช่นกัน แต่สุดท้าย กกต.กลางก็ตีเรื่องกลับไปให้ กกต.จ.อุบลราชธานีสอบสวนใหม่ ถึงตอนนี้เรื่องดังกล่าวผ่านพ้นไป 2-3 เดือนแล้ว กรณีดังกล่าวยังไม่มีการประชุมหารือกัน เพราะต้องรอให้เรื่องเข้ามาในวาระการประชุมก่อน ดังนั้น จึงยังไม่สามารถตอบคำถามได้มาก

อย่างไรก็ตามคดีนี้ต้องจับตาดูให้ดี กกต. จะทำอะไรก็ต้องระวัง และไม่ว่าตัดสินใจหรือมีวิธีการทำงานอย่างไร กกต. ต้องสามารถอธิบายให้ประชาชนฟังได้

ลือกระหึ่ม 3 กกต.อยู่ฝ่ายพันธมิตร
“ก็สงสัยอยู่ว่าทำไมเรื่องเงียบไปนาน ไม่รู้ว่ามีมือที่มองไม่เห็นอีกหรือเปล่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดให้ กกต. เร่งทำงานให้เสร็จสิ้นเร็วๆ ถ้า กกต. พิจารณาให้เท่าเทียมกันทุกพรรคจริง อาจไม่มีพรรคไหนเหลืออยู่เลย ก็ต้องเลือกตั้งกันใหม่”

ทั้งนี้ นางสดศรี ยังกล่าวว่า กกต. เตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งใหม่เสมอ และหากมีการเลือกตั้งใหม่ กกต. ก็จะวางแผนกฎระเบียบใหม่เพื่อรองรับการทุจริตด้วย อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าขณะนี้ กกต. ทำงานได้ยากขึ้น พร้อมกับขอให้กลุ่มที่ทำให้เกิดความแตกแยกกันในประเทศ ยุติบทบาทตัวเองลงเพื่อบ้านเมืองจะได้ไม่วุ่นวาย

ขณะเดียวกันแหล่งข่าวใน กกต. ระบุด้วยว่าใน กกต.เอง ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์และพูดจาตั้งข้อสงสัยกันหนาหู ว่าในจำนวน กกต. ทั้ง 5 คนนั้น มี 3 คนที่เป็น กกต.สายพันธมิตรฯ และมีความเชื่อมโยงกับพรรคประชาธิปัตย์อย่างเหนียวแน่นจริงหรือไม่

ย้อน “วิฑูรย์” แก้ตัวฟังไม่ขึ้น
ส่วนกรณีที่นายวิฑูรย์ ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมกับท้าลาออกนั้น นายสมบัติ รัตโน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเป็นผู้ร่วมร้องกรณีนายวิฑูรย์ กล่าวว่าต้องเข้าใจว่านายวิฑูรย์เป็นรองหัวหน้าพรรค ดังนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอยู่แล้วที่จะออกมาพูดสร้างความเชื่อมั่นของตนเองและพรรค

ถึงไม่มีการพูดเช่นนี้ พรรคประชาธิปัตย์เองก็ต้องมาไล่บี้ให้ทำอยู่ดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวนายวิฑูรย์และพรรคก็ต้องรู้อยู่แก่ใจแล้วว่าความจริงคืออะไร แล้วเมื่อผลออกมาว่านายวิฑูรย์ทำผิดจริง ผลก็คือได้รับใบแดง อย่างไรเสียก็ต้องออกจากการเป็น ส.ส. อยู่ดี เพราะฉะนั้นที่ออกมาพูดเช่นนี้ก็ไม่ได้สร้างความน่าเชื่อถือหรือหวือหวาอะไร เพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจกันตามระเบียบอยู่แล้ว

ถึงอย่างไร นายสมบัติ ยังเชื่อมั่นว่า กกต. จะพิจารณาตามกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมกับขอให้มีการพิจารณาสอบสวนโดยเร็ว เพราะเท่าที่ผ่านมา กกต. มักจะทำงานสอบสวนคดีของพรรคประชาธิปัตย์ช้า ซึ่งเรื่องนายวิฑูรย์ได้มีการร้องไปตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา

กกต.ถึงเวลาต้องพิสูจน์ตัวเอง
ส่วน นายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า ในฐานะผู้ร่วมยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กลางสอบสวนกรณีนายวิฑูรย์ ส่อทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ด้วยการจัดมหรสพและแจกตั๋วภาพยนตร์ โดยให้หัวคะแนนไปแจกจ่ายให้ประชาชนในช่วงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ซึ่งพรรคได้ติดตามความเคลื่อนไหวมาตลอด แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุใด กกต.กลาง จึงยังไม่นำเข้าที่ประชุมพิจารณาเสียที

นายศุภชัยกล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวนายวิฑูรย์ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งชัดเจน เข้าข่ายปราศรัยและจัดมหรสพ พร้อมแจกคูปองที่สามารถนำไปแลกตั๋วหนังได้ฟรี ซึ่งสิ่งที่พูดทั้งหมด มีทั้งพยานหลักฐาน พยานบุคคล รวมทั้งวีซีดีที่บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย ซึ่งทาง กกต.กลาง อย่าปฏิบัติตนให้ถูกกล่าวหาว่าทำอะไรอยู่ หรือเป็นการทำประโยชน์เพื่อให้พรรคการเมืองใดหรือไม่ ทั้งที่มีความผิดชัดเจน

เรื่องดังกล่าวจะว่าไปแล้วก็ไม่แตกต่างจากกรณีที่ จ.เพชรบูรณ์ ที่มีการแจกเงิน 1.3 ล้านบาท ถูกจับได้คาหนังคาเขาแต่สุดท้ายได้แค่ใบเหลือง เพราะฉะนั้น กกต.ควรพิสูจน์ว่าที่เป็นองค์กรอิสระนั้นทำงานโดยอิสระจริงๆ

"ผมมองว่า หากเรื่องนี้ไม่แดงแล้ว ทั้งที่พยานหลักฐานชัดเจน ผมก็จะดูว่า กกต.มีพฤติการณ์ใดที่กระทำไปโดยชอบหรือไม่ หากไม่ชอบอาจใช้ช่องทางกฎหมายดำเนินการทางอาญาต่อไป และมีสิทธิ์ถูกยื่นถอดถอนได้"

อีกทั้ง ยังกล่าวถึง นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี หลังจากมีการกล่าวในรายการสนทนาประสาสมัครแสดงความมั่นใจว่ากรณีดังกล่าวพรรคประชาธิปัตย์จะถูกยุบพรรคแน่นอนนั้น นายศุภชัย ยืนยันว่านายสมัครมองในมุมมองที่เป็นนักกฎหมายเหมือนกัน

กกต.อ้างข้อมูลไม่ครบรอสอบเพิ่ม
ด้าน นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวตอบโต้กรณีที่นายสมัคร ระบุว่า กกต. เตรียมให้ใบแดงนายวิฑูรย์ โดยยืนยันว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้รั่วไหลจาก กกต.อย่างแน่นอน เพราะการพิจารณาสำนวนของ กกต.ต้องเป็นความลับ ซึ่งไม่ทราบว่านายกรัฐมนตรี รับทราบข้อมูลมาจากที่ใด และจะไม่ทำให้ กกต.รู้สึกกดดันในการทำงาน เพราะ กกต.ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ยึดข้อเท็จจริงเป็นหลัก อย่างไรก็ตามขณะนี้สำนวนของนายวิฑูรย์ ยังอยู่ที่ กกต.อุบลราชธานี ไม่มีการส่งถึง กกต.กลางแต่อย่างใด และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการต่อรองยุบพรรคอย่างแน่นอน

ด้าน นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า กกต.เคยพิจารณาแล้ว แต่เห็นว่าข้อมูลไม่ครบถ้วน จึงมอบหมายให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ไปสอบข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน ขณะนี้อยู่ในชั้นของอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย ซึ่งสำนวนยังไม่ถึง กกต. ทั้งนี้ยืนยันว่า กกต.จะพิจารณาเหมือนกับคดีอื่นๆ โดยยึดพยานหลักฐานและข้อกฎหมายเป็นหลัก ไม่ได้ดูว่าเป็นพรรค หรือ บุคคลใด ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดเช่นนั้น เป็นการพูดในเชิงโยนหินถามทางมากกว่า ไม่ได้กดดันการทำงานของ กกต.

ส่วนที่นายสมัคร ระบุว่า มาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองในขณะนี้ นายประพันธ์ กล่าวว่า มาตรา 237 เขียนให้ชัดเจนขึ้น หากมีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง พรรคจะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย ซึ่งการยุบพรรคไม่ใช่จะยุบได้ทุกเรื่อง ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องใช้ดุลพินิจอย่างรอบคอบว่าพรรคมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ อย่างไรก็ตามหากจะมีการแก้ไขมาตราดังกล่าวก็เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจ กกต. พร้อมปฏิบัติตาม"
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #13 เมื่อ: 15-07-2008, 10:23 »

อ่ะ...The Last Emperor ขอได้รับเกียรติ์ในการมัดตราสังข์ปชป. ใครจะเป็นผู้นำร่างไร้วิญญาณปชป.ขึ้นเมรุจุดไฟเผาซากน๊า....ติ๊กต๊อกๆๆๆๆ



"นายประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ทราบเรื่องข่าวรั่วที่ กกต.จะให้ใบแดงนายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส. และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งจะนำไปสู่การยุบพรรค โดยสำนวนดังกล่าวอยู่ในชั้นการสอบสวนของอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนที่ กกต.ให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม และขอยืนยันว่า กกต.พิจารณาเรื่องร้องคัดค้านตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงเป็นหลัก ไม่ได้คำนึงถึงตัวบุคคลหรือพรรคการเมือง

“การที่นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงเรื่องดังกล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ก็ไม่ได้เป็นการกดดันการพิจารณาของ กกต. ที่ยึดความเป็นกลางและธรรม” นายประพันธ์ กล่าว

นายประพันธ์ ยังเชื่อว่าวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ไม่ได้เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญมาตรา 237 ในเรื่องการยุบพรรค เพราะกฎหมายที่เกี่ยวกับการยุบพรรคนั้น เป็นหลักการที่มีมาตั้งแต่รัฐธรรมนูญปี 2540 แล้ว เพียงแต่ในรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 237 วรรคสอง เป็นการเขียนให้ชัดเจนเท่านั้น และการจะยุบพรรคหรือไม่ เป็นดุลพินิจของศาล ไม่ใช่ว่าจะต้องยุบทุกพรรค ทั้งนี้หากจะมีการแก้ไขรัฐธรมนูญในเรื่องดังกล่าว เป็นเรื่องของผู้ที่มีอำนาจ กกต.ทำตามกฎหมายเท่านั้น

ด้านนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน เชื่อว่า เรื่องใบแดงนายวิฑูรย์ไม่ได้รั่วไปจาก กกต. แต่มองว่าเป็นบุคคลคนภายนอกนำข้อมูลจากภายในของ กกต.ไปพูด เพราะเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในชั้นการสอบสวนของอนุกรรมการฯ และไม่ต้องการให้มองว่าการที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดเรื่องดังกล่าวเป็นการกดดัน กกต.

ส่วนการประชุม กกต.ในวันนี้ (14 ก.ค.) คาดว่าประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง จะนำผลการพิจารณาของคณะทำงานร่วมระหว่าง กกต.กับอัยการสูงสุด ที่เสนอให้ส่งเรื่องยุบพรรคชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตยให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายสมชัย กล่าวว่า การที่นายทะเบียนพรรคการเมืองจะนำเรื่องดังกล่าวขอมติจากที่ประชุม กกต.เพื่อความรอบคอบ และตามขั้นตอนสามารถเสนอขอมติจาก กกต.ใหม่ได้ แม้ว่าจะมีมติไปแล้วในก่อนหน้านี้.- สำนักข่าวไทย"
บันทึกการเข้า
soco
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,842



« ตอบ #14 เมื่อ: 15-07-2008, 10:28 »

อ้าวคุณหญิงก็ไปถือหุ้นกับเขาด้วย 


ลุงหมักไม่บอกเด็ก ๆ รึ 
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #15 เมื่อ: 15-07-2008, 10:32 »

อ้าวคุณหญิงก็ไปถือหุ้นกับเขาด้วย 


ลุงหมักไม่บอกเด็ก ๆ รึ 


คุณหญิงกัลยา  หรือ คุณหญิงเป็ดหล่ะ?  ชัดๆซิ...จะได้โพสต์ข้อมูลลับๆได้ถูก
บันทึกการเข้า
jumjim
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #16 เมื่อ: 15-07-2008, 10:40 »

ไอ้เอี้ยจ๊ะ นี่แม่ง จอมแปะจริง ๆ เลยว่ะ กรูนับถือ  ว่าง ๆ เอาลิ้นมาแปะปลายจู๋กรูหน่อยเดะ เผื่อติดเยี่ยวไป สมองเมิงจะได้ดีกว่า สัต ว์ มั่ง
บันทึกการเข้า
jumjim
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #17 เมื่อ: 15-07-2008, 11:00 »

กำพืด กรูไม่ดีเหมือนมีงหรอกไอ้กระจอก แต่กรูไม่เคยเลียตรีนใครว่ะ   ถ้ากรูไม่มีจู๋ จะไปเยี่ยวรดกระบาลไอ้***เหลี่ยมมันได้ไงว๊ะ ไอ้ควาย อย่าลืมน๊ะโว่ย กรูให้ออปชั่นมึงพิเศษ เลยจู๋ได้ เอาไปลูบตาได้ หรือจะให้เอาถูหัวมึงก็ได้ ว่ะ   

ฉายาไส้เดือนกรูแม่งเอาหรอก มันลิขสิทธิ์ ของมึง ไอ้ควา อะ อะ วาย   


 
บันทึกการเข้า
jumjim
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 82


« ตอบ #18 เมื่อ: 15-07-2008, 11:18 »

ฮ่า ฮ่า  เมิงไม่เคยดูตัวเองเลยว๊ะ ไอ้สติแตก  กรู่ได้ยินคนด่า ไส้เดือนครั้งแรกในชีวิต ก็ตอนคนในบอร์ดเค้าด่าเมิงนี่แหละ

 
บันทึกการเข้า
eAT
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,066



« ตอบ #19 เมื่อ: 15-07-2008, 11:25 »

งานนี้มันส์ เหมือนคราวที่แล้ว กะฟัน ปชป เต็ม แต่ดันย้อน
กลับไปฟัน สมัครแทน คราวนี้ เอากันทั้งสภา เดี๋ยวก็รู้ ยื่น
ไปแล้ว ใครจะโดน แล้วถ้าโดนฝ่ายไหนจะมากกว่ากัน
บันทึกการเข้า
The Last Emperor
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
กระทู้: 6,714


« ตอบ #20 เมื่อ: 15-07-2008, 11:27 »

งานนี้มันส์ เหมือนคราวที่แล้ว กะฟัน ปชป เต็ม แต่ดันย้อน
กลับไปฟัน สมัครแทน คราวนี้ เอากันทั้งสภา เดี๋ยวก็รู้ ยื่น
ไปแล้ว ใครจะโดน แล้วถ้าโดนฝ่ายไหนจะมากกว่ากัน


เห็นด้วยครับ ทั้งถอดถอน-ยุบพรรค....สรุปแล้วทั้งสภาเลย   
บันทึกการเข้า
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #21 เมื่อ: 15-07-2008, 14:07 »

สงสาร ส.ส.ภายภาคหน้าเสียจริง
คราวต่อไปต้องเหลือแต่ตัวจริงๆ  มีหุ้นฝากลูกฝากเมียฝากญาติก็ไม่ได้

คนในวงการธุรกิจ ไม่ต้องเข้ามาเลย 

ใครผิดเนี่ย  นายรัฐธรรมนูนใช่มั๊ยครับ 

รัฐธรรมนูญไม่ผิดหรอกครับ แต่เป็นแพะ!!!

มีกฎหมายกำหนดวิธีจัดการเรื่องนี้เอาไว้แล้วครับ
โดยไม่ต้องไปซุกซ่อนไว้กับลูกเมีย หรือคนขับรถ
รวมทั้งไม่ต้องไปซุกไว้กับบริษัทตามเกาะต่างๆ

เพียงแต่ที่ผ่านมา กลัวเสียอำนาจบริหารจัดการ
ระหว่างดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็เลยต้อง
ไปซุกหุ้นไว้ในรูปแบบดังกล่าว

ซึ่งก็เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนทั้งนั้น 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
ริวเซย์
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 4,637


Worrior in The Blue Armor


เว็บไซต์
« ตอบ #22 เมื่อ: 15-07-2008, 14:13 »

ใครผิดก็ให้ดำเนินไปตามกฎหมายครับ

การเมืองใหม่จะได้ใสสะอาดกว่าที่เป็นอยู่

ไล่การเมืองเน่าๆออกไปจากประเทศไทยเสียทีเถอะ
บันทึกการเข้า

ถ้ามีแฟนแบบนี้เอาไหมครับ^^


แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #23 เมื่อ: 15-07-2008, 15:06 »

คนถือหุ้นถือเป็นผู้รับสัมปทาน งั้นไล่ดูดีกว่าว่าใครถือ ปตท อยู่บ้าง ไล่ไป ไล่มา สงสัย สส ทั้งสภา 
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #24 เมื่อ: 15-07-2008, 19:56 »

ทางตรง ก็บานเบอะแล้ว ยังมีทางลูก ทางเมียที่ยังไม่สืบอีก


ดูซิศาลจะตีความ เลี่ยงไปยังไง    


ท่าทางจะรอดแล้ว ปชป   มาร์ค แสดงความเห็นแล้ว สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ถือหุ้นเลย   แต่...
แต่อะไรไปอ่านเอาเอง

"มาร์ค"ชี้ พปช.ยื่นสอบหุ้น ส.ส.ปชป.เป็นเกมการเมือง

    วันนี้ (15 ก.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบส.ส.ของพรรค ที่มีหุ้นส่วนในกิจการหนังสือพิมพ์วิทยุโทรทัศน์และบริษัทที่ได้รับสัมปทานกับรัฐ ว่า ควรปล่อยให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง วินิจฉัยตามกระบวนการ แต่ตนมองว่าเป็นการเล่นหุ้นมากกว่าการถือหุ้น ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวเป็นคุณสมบัติที่ต้องห้าม ก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบ เชื่อว่าเป็นเกมทางการเมืองของพรรคพลังประชาชนที่ดึงพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาเกี่ยวข้อง.


http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=170226&NewsType=1&Template=1
บันทึกการเข้า
morning star
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,119


don't let them make up your mind


« ตอบ #25 เมื่อ: 15-07-2008, 21:35 »



ชักจะชอบ รธน ฉบับนี้ซะแล้ว
บันทึกการเข้า

อย่าเดินตามใคร เพราะเรามีจุดมุ่งหมายของเราเอง
วิหค อัสนี
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 946



« ตอบ #26 เมื่อ: 15-07-2008, 22:08 »

ตอบ จขกท ครับ...

ถ้ามันจะฮั้วกันถึงขนาดนั้นจริงๆ ล่ะก็ .... ก็คงต้องพึ่งภาคประชาชนช่วยล่ารายชื่อ โละมันไปให้หมดๆ ทั้งสภาแล้วล่ะ โทษฐานได้รับเลือกมานั่งในสภาเป็นตัวแทนประชาชน มีหน้าที่ปกป้องรักษาผลประโยชน์และความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนที่เลือกเขามา แต่กลับเอาแต่สมคบกันใช้อำนาจในทางฉ้อฉล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกในสภากันเอง
บันทึกการเข้า

_______ดังนี้แล
__เปลวไฟจักลุกโชน
___หามีวันดับลงได้
_ตราบที่ในมือพวกสูเจ้า
ยังแต่น้ำมันเตาให้ราดรดไป
jerasak
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 5,432



« ตอบ #27 เมื่อ: 16-07-2008, 03:13 »

ตอบ จขกท ครับ...

ถ้ามันจะฮั้วกันถึงขนาดนั้นจริงๆ ล่ะก็ .... ก็คงต้องพึ่งภาคประชาชนช่วยล่ารายชื่อ โละมันไปให้หมดๆ ทั้งสภาแล้วล่ะ โทษฐานได้รับเลือกมานั่งในสภาเป็นตัวแทนประชาชน มีหน้าที่ปกป้องรักษาผลประโยชน์และความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนที่เลือกเขามา แต่กลับเอาแต่สมคบกันใช้อำนาจในทางฉ้อฉล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกในสภากันเอง

ความจริงผมเอาบทวิเคราะห์นี้มาโพสต์โดยไม่ได้ปักใจเชื่อสักเท่าไหร่
และตอนนี้พรรคพลังประชาชน ก็เปิดเกมส์ขึ้นก่อนแล้ว

..ไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะพาพวกตัวเอง ติดกับดักไปด้วยอีกกี่คน..

ผมเองคิดว่าทาง ปชป. ไม่ได้กังวลกับกรณีนี้มากอย่างในบทวิเคราะห์
เพราะดูยังไงก็เป็นเรื่องจุกจิกวุ่นวายเกินเหตุ เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ
คงไม่ได้มุ่งหวังให้ต้องวุ่นวายกับการถือหุ้นเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้
และเราคงไม่ต้องล่ารายชื่อหรอกครับ แค่เล่นกันเองก็ป่วนทั้งสภาแล้ว 
บันทึกการเข้า

= A dreamer lives for eternity.=
== นัฝัมีชีวิพื่นิรัร์าล ==
Caocao
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 557



« ตอบ #28 เมื่อ: 16-07-2008, 09:21 »

ความจริงผมเอาบทวิเคราะห์นี้มาโพสต์โดยไม่ได้ปักใจเชื่อสักเท่าไหร่
และตอนนี้พรรคพลังประชาชน ก็เปิดเกมส์ขึ้นก่อนแล้ว

..ไม่รู้ว่าทำแบบนี้จะพาพวกตัวเอง ติดกับดักไปด้วยอีกกี่คน..

ผมเองคิดว่าทาง ปชป. ไม่ได้กังวลกับกรณีนี้มากอย่างในบทวิเคราะห์
เพราะดูยังไงก็เป็นเรื่องจุกจิกวุ่นวายเกินเหตุ เจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ
คงไม่ได้มุ่งหวังให้ต้องวุ่นวายกับการถือหุ้นเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้
และเราคงไม่ต้องล่ารายชื่อหรอกครับ แค่เล่นกันเองก็ป่วนทั้งสภาแล้ว 

ดูข่าวเนชั่นเมื่อซักครู่ พวกตัวเองก็ติดเพียบครับไม่ต่างกัน แถมตัวเป้งๆติดทั้งนั้น มีหวังรัฐบาลหนาวถ้ากกต. ตัดสินจริง มีหวังได้ยุบสภาสมหวังแน่ๆ
บันทึกการเข้า

หลับเถิดทหารกล้า ปวงประชาจะคุ้มครอง
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #29 เมื่อ: 16-07-2008, 23:00 »

ตอบ จขกท ครับ...

ถ้ามันจะฮั้วกันถึงขนาดนั้นจริงๆ ล่ะก็ .... ก็คงต้องพึ่งภาคประชาชนช่วยล่ารายชื่อ โละมันไปให้หมดๆ ทั้งสภาแล้วล่ะ โทษฐานได้รับเลือกมานั่งในสภาเป็นตัวแทนประชาชน มีหน้าที่ปกป้องรักษาผลประโยชน์และความเป็นธรรมให้กับพี่น้องประชาชนที่เลือกเขามา แต่กลับเอาแต่สมคบกันใช้อำนาจในทางฉ้อฉล เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกในสภากันเอง



ปชป.เตรียมยื่นถอด "ทั่นชัย" ถือหุ้นบริษัทรับสัมปทานรัฐ
 
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 16 กรกฎาคม 2551 15:58 น.
 
 
       นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือหุ้นในบริษัทที่รับสัมปทานจากรัฐ ซึ่งอาจจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 265 (2) ว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นถอดถอนนายชัย เพื่อแสดงให้เห็นว่าพรรคไม่ได้นิ่งเฉยกับเรื่องนี้ หรือกลัวว่าจะกระทบพรรค เพราะมี ส.ส. ที่โดนกรณีเดียวกัน แต่เป็นการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน ที่ต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะทำในนามพรรค หรือทำในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เบื้องต้นกำลังรวบรวม ส.ส. ที่เห็นด้วยให้ครบตามจำนวน 1 ใน 10 ที่รัฐธรรมนูญกำหนด

 
 



บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
หน้า: [1]
    กระโดดไป: