ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
25-05-2025, 04:57
378,182 กระทู้ ใน 21,926 หัวข้อ โดย 9,412 สมาชิก
สมาชิกล่าสุด: MAN4U
ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด (รุ่นแรก)  |  ทั่วไป  |  สภากาแฟ  |  ==สรุปประเด็นกรณีรัฐบาลสมัครกับปราสาทพระวิหาร (เพื่อการเผยแพร่)== 0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หน้า: 1 2 3 [4]
==สรุปประเด็นกรณีรัฐบาลสมัครกับปราสาทพระวิหาร (เพื่อการเผยแพร่)==  (อ่าน 19582 ครั้ง)
The Last Emporer
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 81



« ตอบ #150 เมื่อ: 02-07-2008, 18:23 »

คณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณาเรื่องปราสาทพระวิหารวันที่ 7 กค.

คณะของไทยเดินทางไปวันที่ 5 กค.(รมต.นพดลน่าจะไปด้วย)

เจ้าหน้าที่UNESCOเป็นผู้เตรียมเอกสารเข้าประชุม

และเป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นเรื่องนโยบายของจนท.ระดับสูง

ไทยได้แจ้งข้อมูลคำสั่งศาลปกครองและมติครม.ไปยังคณะกรรมการทุกประเทศทันไหม

ถ้าไม่ทันหรือไม่ได้นำเข้าที่ประชุม

กัมพูชาจะมีเอกสารที่สมบูรณ์(ชงเองกินเอง)

การขึ้นทะเบียนไม่น่ามีปัญหา

ใคร?รับผิดชอบ





บันทึกการเข้า
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #151 เมื่อ: 04-07-2008, 00:06 »

สื่อเขมร กระพือข่าว ไทย ประกาศสงครามกับ กัมพูชา ยกเลิกข้อตกลงเท่ากับตัดสัมพันธ์ทางทูต
สื่อเขมรกระพือข่าวไทยยกเลิกสนับสนุนการ ขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเท่ากับประกาศสงครามกับกัมพูชายกเลิกแถลงการณ์ร่วม เท่ากับการตัดสัมพันธ์ทางการทูตทางอ้อม เอเอฟพีรายงาน ตร.ปราบจราจลเข้าอารักขาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ หวั่นม็อบประท้วงหลังไทยระงับการสนับสนุนขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลก

สำนัก ข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ทางการกัมพูชาได้จัดส่งตำรวจปราบจลาจลเข้าไปประจำการบริเวณสถานทูตไทยประจำ กรุงพนมเปญ เพราะหวั่นเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงจากการประท้วงของชาวกัมพูชาหลัง รัฐบาลไทยระงับการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกไปก่อน หน้านี้ ทั้งนี้ ทุช นารุธ หัวหน้าสำนักงานตำรวจกัมพูชาเปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประจำการเพื่อให้ความคุ้มครองต่อสถานทูตเพราะ เกรงว่าจะเกิดเหตุไม่ดีกับสถานทูตเหมือนเมื่อครั้งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2548 มาแล้วโดยเมื่อปี 2548 ชาวกัมพูชาก่อจลาจลเผาสถานทูตไทยและธุรกิจของคนไทยในกัมพูชา พร้อมปล้นสะดมภ์ก่อให้เกิดความเสียหายไปไม่น้อย
พล.อ.เขียว โสภาค โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชากล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลถูกส่งไปประจำการหลังจากทางกระทรวงได้รับรายงาน ว่า ชาวกัมพูชาหลายพันคนเตรียมชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าสถานทูตไทย โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้ประจำการอยู่ในจุดอารักขาตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ความคุ้มครองผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

เรา ป้องกันไม่ให้เกิดการประท้วงใดๆขึ้น เราจะป้องกันไม่ให้เกิดอะไรที่ไม่ดีเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับสถานทูตไทย เมื่อปี 2548ขึ้น พล.อ.เขียว โสภาค กล่าว พร้อมกับเสริมว่าสถานการณ์ในเวลานี้ยังคงอยู่ความควบคุมทุกอย่าง

เอ เอฟพีรายงานว่าผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่ามีตำรวจหน่วยปราบจลาจลประจำการ อยู่ด้านนอกที่ทำการสถานทูตโดยมีรถดับเพลิงสำหรับสลายมวลชนเตรียมพร้อมอยู่ ด้วยหลายคัน

ในขณะที่สื่อมวลชนกัมพูชาเสนอข่าวความคืบหน้าหลังคณะ รัฐมนตรีไทยมีมติปฎิ บัติตามคำสั่งศาลปกครองโดยยกเลิกการให้การสนับสนุนกัมพูชาอย่างกว้างขวาง โดยหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชาระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาได้รับหนังสืออย่างเป็นทางการจากรัฐบาลไทยที่ปฏิเสธการให้การ สนับสนุนกัมพูชาตามแถลงการณ์ร่วมระหว่างกันแล้ว แต่ไม่สนใจที่ไทยประกาศให้แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวเป็นโมฆะ เพราะปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาและอยู่ในดินแดนกัมพูชา

ขณะที่ องค์กรศูนย์วัฒนธรรมและศีลธรรมสังคมแห่งชาติของกัมพูชาประกาศจะ ยื่นขออนุญาตจัดการชุมนุมซึ่งมีผู้เข้าร่วมราว 3,000-5,000 คน โดยจะเดินขบวนจากวิมานเอกราชไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยในกรุงพนมเปญ เพื่อแสดงความรู้สึกของชาวกัมพูชาว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชา หากคนไทยจะคัดค้านการขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกก็แสดงว่าไม่เคารพการตัดสินของศาล โลก

รัศมีกัมพูชารายงานโดยอ้างคำพูดของผู้บังคับการตำรวจกรุงพนมเปญ ยืนยันว่า จะไม่ยอมให้มีการเดินขบวนใดๆ ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง พร้อมระบุด้วยว่าหากมีการเดินขบวนจริงตำรวจก็จะทำการจับกุม

เราจะไม่ ปล่อยให้มีการต่อว่าอย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นเด็ดขาด เพราะเราเคยมีบทเรียนจากการที่กลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้าไปทำลายสถานทูต และบริษัทของไทยในพนมเปญ ทำให้รัฐบาลกัมพูชาต้องจ่ายเงินชดเชยหลายล้านดอลลาร์

ขณะที่เจ้า หน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยกัมพูชายืนยันว่า ทางการกัมพูชาจะคุ้มครองความปลอดภัยให้กับสถานทูตไทย คนไทย และผลประโยชน์ของไทยในกัมพูชา โดยนายเขียว สุเพีย โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา รับว่า ได้ข่าวไม่สู้ดีเกี่ยวกับความปลอดภัยของสถานทูตและประชาชนไทย จึงวางกำลังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้าย แต่รับประกันความปลอดภัยว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

ด้านหนังสือพิมพ์ เกาะสันติภาพรายงานว่า มีการเพิ่มกำลังตำรวจปราบจราจลอยู่ภายนอกสถานทูตไทยประมาณ 20 นายพร้อมกระบองไฟฟ้า กุญแจมือ และอาวุธครบมือ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีการปลุกกระแสความโกรธเคืองไปตามระบบสื่อสารโทร คมนาคมของกัมพูชาด้วย แต่สถานการณ์ทั่วไปยังอยู่ในความสงบ

ส่วน หนังสือพิมพ์มนสิการแขมร์ถึงกับระบุว่า การประกาศยกเลิกการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่ฝ่าย เดียวของไทย เท่ากับเป็นการประกาศสงคราม โดยนักการทูตบางคนตั้งข้อสังเกตว่า การประกาศยกเลิกข้อตกลงใดๆ ระหว่างประเทศเป็นเสมือนการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตโดยทางอ้อม แต่รัฐบาลไทยทำเช่นนั้นได้เพราะเคารพการตัดสินใจของประชาชนผ่านฝ่ายค้าน แต่หากเป็นกัมพูชาคงต้องถูกจับเข้าคุก นอกจากนี้ยังมีการอ้างว่ามีข่าวลือว่ามีการเตรียมการเพื่อประท้วงไทยในเร็วๆ นี้หากการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารล้มเหลว เพราะไทยเตรียมคัดค้านในการประชุมที่เมืองควิเบคของแคนาดา

หนังสือ พิมพ์รัศมีกัมพูชาอ้างเจ้าหน้าที่กัมพูชาที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า กัมพูชาไม่ประหลาดใจกับการถอนการสนับสนุนของไทย ซึ่งเคยคัดค้านการขอขึ้นทะเบียนมาแล้ว แต่กัมพูชายังเชื่อว่าจะโชคดีเพราะการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดก โลกไม่ใช่เรื่องการเมือง แต่กัมพูชาเห็นว่าปราสาทพระวิหารเป็นสมบัติของมนุษยชาติ และขอให้ชาวกัมพูชาตระหนักถึงความเป็นคนที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี และมีวัฒนธรรม

ทั้งนี้คณะกรรมการมรดกโลกได้เห็นชอบในหลักการที่จะ บรรจุปราสาทพระวิหารใน บัญชีมรดกโลกแล้วตั้งแต่การประชุมที่นิวซีแลนด์ เพียงแต่กัมพูชาต้องทำรายงานและแผนการอนุรักษ์ให้เรียบร้อยเท่านั้น และกัมพูชาได้แสดงความจริงใจในฐานะประเทศข้างเคียงไทย โดยได้รับประกันอย่างชัดเจนว่า การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารคจะไม่ทำให้ไทยสูญเสียดินแดน กัมพูชาจึงได้ทำแผนที่ขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกใหม่ซึ่งไทยก็ได้ให้ความเห็นชอบ แล้ว คณะกรรมการมรดกโลกจึงต้องเข้าใจว่า กัมพูชาได้ทำสิ่งที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร เพื่อให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ

ส่วนที่นครควิเบค ประเทศแคนาดา สถานที่จัดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยที่ 32 ระหว่างวันที่ 2-10 กรกฎาคม เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของงานเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 400 ปี ซึ่งทำให้ควิเบคเป็นเมืองที่มีผู้อยู่อาศัยที่เก่าแก่ที่สุดในภาคพื้น อเมริกาเหนือ โดยหลังจากพิธีการต้อนรับจากเจ้าภาพต่อผู้เข้าร่วมประชุมในวันที่ 2 กรกฎาคมแล้ว การประชุมที่เป็นสารัตถะเริ่มหารือกันในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ และจะเข้าสู่วาระสำคัญคือการพิจารณาคำขอขึ้นทะเบียนมรดกโลกของประเทศต่างๆ อีก 45 แห่ง รวมทั้งปราสาทพระวิหารของกัมพูชาในระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคม โดยผลการพิจารณาจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งนายรอนนี่ อามีลัน โฆษกขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ระบุว่าเป็นวาระสำคัญที่เป็นหัวใจของการประชุม จนถึงขณะนี้ ยูเนสโก ขึ้นทะเบียนสถานที่ต่างๆเป็นมรดกโลกไปแล้ว 851 แหล่ง ใน 141 ประเทศ และจะพิจารณาเพื่อชี้ขาดในการประชุมครั้งนี้อีก 45 แหล่งจาก 40 ประเทศ


ระฆังยกแรก จะดังเมื่อ ไทยคัดค้านเป็นผล และยูเนสโกขอเลื่อน หรือระงับการจดทะเบียนปราสาทเขาพระวิหารของกัมพูชา   
สงสารแต่คนไทยที่ไปทำงานที่เขมร   ป่านนี้นอนไม่หลับกันแล้ว
   
บันทึกการเข้า
Cheel2
สมาชิกสามัญขั้นที่ 2
***
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 65


« ตอบ #152 เมื่อ: 04-07-2008, 01:40 »


สรุป !!!
เขาพระวิหาร เป็นของ เขมร เรียบร้อยแร้ว เนื่องจากไทยไป ยอมรับ แผนที่เขมร (เมิงจะรีบยอมรับไปทำไมวะ) และไทยอาจจะเสีย พื้นที่รอบๆ อีกมากมาย ประเทศโดนเจียด ( นพดล เคยประกาศ ไว้ว่าไทยจะไม่เสียแม้แต่ตรางนิ้ว ทีวี เดี่ยวนี้แม้งก็โคตรลาว เอาไมค์จ่อปากนักการเมือง แร้วก็จบ) ง่ายๆถ้ากูดูแต่ทีวี
กูยังนั้งโง่อยู่ เลย ตอนนี้มันบอกมันกำลังไปขอร้องเค้าอยู่ และมันจะเป็นคน คืนเขาพระวิหารให้ไทย ? งง ยิ่งดูกรูยิ่ง หลอนกับ รัฐบาล สรุปแร้วยังสรุปไม่ได้

ตอนนี้ เขมรมันจะเลือกตั้งไรไม่รู้มัน เขาพระวิหาร เลยเป็นตัวช่วย + ไทยก็ช่วย คะแนนเสียงบาน
เขาพระวิหาร จะเป็นแหล่ง ท่องเที่ยว พนัน เศรษกิจที่สำคัญของเขมร ส่วนประเทศไทยมีแต่เสียกับเสีย
ไทยกลัวเขมรจะก่อสงคราม ! เผาสถานทูต ฆ่าคนไทยในเขมร อื่นๆ เดียวนี้ไทยกลัวเขมรแล้ว
เขมรใช้ความรุ่นแรง แล้วไทยไม่มีสิทธิ ตอบโต้หรือทำไรหรือ ? เราถูก ฝรั้งเศษ โกง ไทยนิ่งไม่ยอมรับ  ตอนนี้มีทางออก ไทยยอมรับ ?

รัฐบาลนี้ทำงาน 1 ชิ้นใหญ่ แต่ข่าวออกน้อย  คือ คลี่คลาย พื้นที่ซับซ้อน ไทยเขมรเขาพระวิหาร
บันทึกการเข้า
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #153 เมื่อ: 07-07-2008, 15:48 »

ความไม่แน่นอนการเมืองไทย ปองพลแฉเหตุเสียปราสาทวิหาร

นายปองพล อดิเรกสาร ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก กล่าวเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (6 ก.ค.) ในรายการ "เช้าวันใหม่" ทางสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 อสมท วันนี้ (7 มิ.ย.) ถึงปัญหาการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ว่า การประชุมเพิ่งเริ่มเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา พิจารณา การขึ้นทะเบียนโบราณสถาน 47 แห่ง เป็นมรดกโลก จึงเลื่อนการพิจารณาปราสาทพระวิหาร ไปพิจารณาเป็นลำดับสุดท้าย (คืนวันที่ 7  ก.ค.ตามเวลาท้องถิ่น)  เพื่อให้ได้มีโอกาสพิจารณากันอย่างถี่ถ้วน ป้องกันการก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างประเทศ

 

ประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก กล่าวต่อว่า วาระการพิจารณาประเด็นปราสาทพระวิหารคงไม่สามารถเลื่อนการพิจารณาออกไปอีกได้ ส่วนประเด็นรัฐบาลไทยเสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกร่วมนั้น เคยเสนอมาหลายครั้ง แต่ทางรัฐบาลกัมพูชาไม่ยินยอม ต้องการเสนอขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยดำเนินการเช่นนี้มาถึง 2 ปี แล้ว ทำให้มีความได้เปรียบ รวมทั้งกรรมการทั้ง 21 ชาติ มีข้อมูลพร้อมแล้ว สำหรับการตัดสินใจ เนื่องจาก icomos หน่วยทำงานให้คณะกรรมการมรดกโลกในการวิเคราะห์วิจัย ทำรายงาน และประเมิน เสนอแนะเกี่ยวกับมรดกโลกทางวัฒนธรรม  ทำรายงานเผยแพร่เรื่องนี้ออกไปหมดแล้ว รวมทั้งสหรัฐอเมริกา ก็ช่วยรัฐบาลกัมพูชาล็อบบี้กรรมการทั้ง 21 ชาติ ได้หมดแล้วเช่นกัน
 

นายปองพล กล่าวต่ออีกว่า ในปี 2548 ประเทศไทยมีอำนาจในการต่อรองเรื่องนี้  รัฐบาลไทยได้เจรจาต่อรองกระทั่งรัฐบาลกัมพูชายินยอมให้เสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกร่วมกัน อย่างไรก็ตาม เกิดการปฏิวัติ ในปี 2549   เปลี่ยนรัฐบาล ความไม่แน่นอนในประเทศไทยเกิดขึ้น รัฐบาลกัมพูชาที่ดำเนินการเรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติ จึงไปขอความร่วมมือจากสหรัฐอเมริกาช่วยเจรจาประเด็นนี้ให้ ทำให้หลายประเทศเป็นกลางหันไปสนับสนุนรัฐบาลกัมพูชา  หลังได้รับเชิญไปชมปราสาทพระวิหารแล้ว

 

"ประเด็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายนพดล ปัทมะ) ไปลงนามเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2551 ที่ประเทศฝรั่งเศส รวมทั้งมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2551 สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก   ไม่มีผลต่อการลงมติครั้งนี้แต่อย่างใด เพราะรัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร ถือเป็นอัจฉริยภาพในการสร้างสรรค์เพียงประเด็นเดียว ตามคำพิพากษาของศาลโลก ไม่ได้ล้ำดินแดนของประเทศไทยแต่อย่างใด" นายปองพลกล่าว 
 http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=96147
 
 เอาความคืบหน้ามาให้ดูครับ
 
 
บันทึกการเข้า
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #154 เมื่อ: 07-07-2008, 17:26 »

ทัศนะวิจารณ์ กาแฟดำ
7 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 05:00:00
ยิ่งดิ้น ยิ่งมัดแน่น
เช้าวันนี้ เราควรจะได้รู้แล้วว่าคณะกรรมการมรดกโลกขององค์การยูเนสโกที่มาจาก 21 ประเทศ ประชุมกันที่เมืองควิเบก ประเทศแคนาดา ตัดสินว่าจะให้ "เลื่อน" หรือ "รับ" ข้อเสนอของกัมพูชา เรื่องปราสาทพระวิหารหรือไม่

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : และผลที่ออกมาจะเป็นตัวชี้ว่าไทยเราพลาดท่าเสียทีเขามากน้อยเพียงใด

วันนี้เช่นเดียวกันที่อาจจะมีคำตัดสินจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ว่าการลงนามของคุณนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศกับรองนายกฯ สกอาน ของกัมพูชา และตัวแทนของยูเนสโก ในแถลงการณ์ร่วมเรื่องนี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 หรือไม่

 ไม่ว่าผลทั้งสองประเด็นนี้จะออกมาอย่างไรก็หนีไม่พ้นคำถามที่ว่าใครในรัฐบาลจะแสดงความรับผิดชอบ

หากคณะกรรมการมรดกโลก ตัดสินใจรับการเสนอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกบนพื้นฐานของคำแถลงการณ์ร่วมไทยกับกัมพูชา ก็แปลว่าเขาไม่สนใจไยดีกับการแจ้ง "ระงับ" การใช้เอกสารนั้นหลังจากศาลปกครองกลางของไทยมีคำสั่งเช่นนั้น

ซึ่งก็หมายความว่าเขมรไม่ถอนข้อเสนอนั้นด้วยตนเอง ยังผลักดันเดินหน้าต่อไปเพราะถือว่าการลงนามของรัฐมนตรีต่างประเทศไทยนั้นเป็น "ข้อผูกพัน" หรือ commitment ที่ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงได้

ซึ่งก็ตีความได้ว่ากัมพูชา พร้อมจะเผชิญหน้ากับไทยในเวทีสากลอีกหลายๆ เวทีต่อไปในกรณีเขาพระวิหาร

ซึ่งย่อมไม่ใช่สัญญาณที่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านสองประเทศเป็นแน่แท้

และนั่นก็จะทำให้นายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช และรัฐมนตรีต่างประเทศ นพดล ปัทมะ ต้องพิจารณาตนเองว่าจะต้องแสดงความรับผิดชอบอย่างไร

หากกัมพูชาถอนข้อเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกในนาทีสุดท้ายเพื่อพูดจากับฝ่ายไทยให้เกิดความชัดเจนและเพื่อความเข้าใจอันดีของประชาชนสองประเทศและแก้ข้อครหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนทั้งสองฝั่ง ก็จะทำให้บรรยากาศผ่อนเบาลงบ้าง

แต่ก็ยังต้องขึ้นอยู่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ดีว่าการลงนามในคำแถลงการณ์ร่วมวันนั้น เข้าข่ายมาตรา 190 ของรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาหรือไม่?

หากศาลรัฐธรรมนูญท่านบอกว่าไม่ผิดมาตรา 190 ก็ลดปัญหาใหญ่ไปเปลาะหนึ่ง แต่หากท่านตัดสินว่าผิด จะกลายเป็นประเด็นใหญ่ที่ผลพวงทางการเมืองอย่างกว้างขวาง

เพราะเท่ากับว่าคณะรัฐมนตรีของนายกฯสมัคร ได้กระทำการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญในมาตราสำคัญยิ่ง

อาจจะหมายถึงการที่ต้องลาออกทั้งคณะรัฐมนตรีและนักการเมืองที่เกี่ยวข้องก็จะต้องโดนลงโทษในข้อหาทำผิดรัฐธรรมนูญอีกด้วย

นี่คือผลของ "ความย่ามใจ" ของคนที่เป็นนักการเมืองที่คิดว่าเมื่อพรรคของตนได้รับเลือกตั้งมาด้วยเสียงข้างมากและไม่มีใครสามารถจะมา "จับผิด" พวกตนได้อีก (เพราะคิดว่าเมื่อมีเสียงมากในสภา จะทำอะไรก็ไม่ผิดอีกต่อไป)

 เมื่อจวนตัว คุณนพดล ก็โยน "เผือกร้อน" กลับไปที่รัฐบาลก่อนที่มีพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยบอกว่าในสมัยประชุมครั้งที่ 31 ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายนถึง 2 กรกฎาคม 2550 นั้น ไทยสนับสนุนอย่างแข็งขันต่อการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ในการประชุมครั้งที่ 32

ซึ่งออกจะเป็น "ข้อมูลใหม่" ที่คุณนพดลไม่เคยแถลงมาก่อน เพราะหากเป็นจริงเช่นนั้น จะมีความจำเป็นอันใดที่กัมพูชาจะต้องเจรจากับรัฐบาลคุณสมัคร เพื่อขอ "การสนับสนุนอย่างแข็งขัน" ซ้ำอีกเล่า?

การที่รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบันเพิ่งเอาเอกสารการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 31 มาแจกจ่ายผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากเรื่องราวได้บานปลายไปใหญ่โตแล้ว จึงเท่ากับเป็นการกระทำที่แสดงถึงเจตนาที่จะ "เลือกเสนอข้อเท็จจริงบางด้านในบางเวลา" เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าประสงค์ของตนเองเท่านั้น


ยิ่งทำให้คนไทยต้องเรียกร้องให้สืบสาวราวเรื่องประเด็นเขาพระวิหารย้อนกลับไปทุกย่างก้าวอีกครั้งหนึ่ง ไม่ว่าผลการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลกที่ควิเบก และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาในรูปไหนก็ตาม

สำหรับรัฐมนตรีต่างประเทศคนนี้ ในเรื่องนี้ ยิ่งดิ้นก็ดูเหมือนจะยิ่งติดกับดักของตนเอง

(เข้ามาเกาะติดความเห็นหลากหลายต่อสถานการณ์ร้อนแรงได้ตลอดเวลาที่ www.suthichaiyoon.com โฉมใหม่...ทั้งร้อน ทั้งด่วนทั้งแรง...)


http://www.bangkokbiznews.com/2008/07/07/news_273502.php


การที่รัฐมนตรีต่างประเทศคนปัจจุบันเพิ่งเอาเอกสารการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 31 มาแจกจ่ายผู้สื่อข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากเรื่องราวได้บานปลายไปใหญ่โตแล้ว จึงเท่ากับเป็นการกระทำที่แสดงถึงเจตนาที่จะ "เลือกเสนอข้อเท็จจริงบางด้านในบางเวลา" เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าประสงค์ของตนเองเท่านั้น......



นายนพดล เคยให้สัมภาษณ์ว่าคนไทยจะต้องรู้สึกถึงบุญคุณของเขาที่ได้ทำงานหนักหลายเดือนมานี้เกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหาร ด้วยความที่เป็นคนมี'ต้นทุนต่ำทางสังคม' ของเขา ผมจึงไม่เคยให้ความสนใจ และ คิดว่าเป็นคำพูดไร้สาระ ของคนไร้สาระ เท่านั้น....

วันนี้คนไทยย่อมรู้ดีว่า เขาได้ทำร้ายจิตใจคนไทยที่ไม่ใช่'บัตรเติมเงิน'ทั้งประเทศด้วยการยกดินแดนเขาพระวิหารให้ประเทศเขมรของสมเด็จฮุนเซน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของนักธุรกิจการเมือง แม๊ว ผู้ต้องคดีทุจริตมากมาย..

พฤติกรรมการปกปิด ปิดบัง ซ่อนเร้นเอกสารการ ข้อตกลงต่างๆ ไม่เสนอให้สาธารณชน ให้ประชาชนรับรู้ข้อตกลงลับ การรับรองเอกสาร 22 พฤษภาคม 2551 และเอกสารการประชุมก่อนหน้านั้น ล้วนแต่มีเจตนาจะกระทำตามคำสั่งของนักธุรกิจการเมืองเจ้าขอ'งพรรคปล้นชาติ' อย่างแท้จริง


ผมเชื่อคนไทยที่ไม่ได้เป็นสาวก ลิ่วล้อของนักธุรกิจการเมือง ไม่ได้เป็น'บัตรเติมเงิน'ในเวบเสรีไทยนี้ นึกไม่ถึงว่า คนที่เคยได้รับพระมหากรุณาฯ พระราชทานทุนรางวัล'อนันทมหิดล'ให้ร่ำเรียนกฏหมายที่ประเทศอังกฤษ มีโอกาส วาสนาดีกว่าคนไทยมากมาย จะขายจิตใจ ขายชีวิตให้อดีตนายกฯ ผู้ต้องหาคดีทุจริตมากมาย ขายแผ่นดินไทยให้เขมร.....

บุญคุณของอดีตนายกฯ คนนั้น นอกจากทรัพย์สินเงินทอง มีอะไรให้มากมายล้นพ้นอย่างไร จึงประพฤติตัวเนรคุณประเทศไทย  ทรยศต่อชาติ บัดซบ เลวสถุนพรรค์นั้น




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-07-2008, 17:28 โดย ปุถุชน » บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
ปุถุชน
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10,332



« ตอบ #155 เมื่อ: 07-07-2008, 17:34 »

'หนอนในโถส้วม' เคยตั้งคำถามว่า
ทำไมประเทศไทยจึงปล่อยกรณีเขาพระวิหารมาถึงวันนี้....



สุจริตชน คนไทยย่อมรู้ว่า
เขมรยื่ดเรื่อง หน่วงเหนี่ยวมาถึงวันนี้.....

เพราะประจวบเหมาะ ประเทศไทยมีรัฐบาลนอมินี..
มีนายกฯที่ไร้วุฒิภาวะ อยากจะมีลาภยศอันไม่พึงได้
และรัฐมนตรีต่างประเทศที่ขายชีวิต ขายจิตใจ
ให้นักธุรกิจการเมือง จึงร่วมกันสมคบคิด.....

บันทึกการเข้า

“หัวใจของการเมือง คือ ความไม่เห็นแก่ตัว หากเห็นแก่ตัวและพรรคของตัวแล้ว จะเห็นแก่มวลชนได้อย่างไร ดังนั้น นักการเมืองควรมีศีลธรรม ยึดถือธรรม บูชาธรรมยิ่งกว่าคนธรรมดา เมื่อเราทราบดีว่า การเมือง เศรษฐกิจ และสังคมปัจจุบันมีปัญหาที่ต้องแก้ไข หากผู้ที่อาสาเข้ามายังจะใช้วิธีการเดิมๆ อีก ย่อมจะแก้ไขไม่ได้ เพราะปัจจุบันเป็นผลของอดีต และจะเป็นเหตุของอนาคต ต้องคิดให้ดี พูดให้ดี และทำให้ดี ในอนาคตจึงจะมีความหวังได้ มิฉะนั้นผู้สนับสนุนผู้ถูกร้อง(พ.ต.ท.ทักษิณ) จะต้องผิดหวังในที่สุด”


อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประเสริฐ นาสกุล ได้มีคำวินิจฉัยส่วนตัวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความผิดในคดีซุกหุ้น......
personal jesus
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



« ตอบ #156 เมื่อ: 07-07-2008, 17:40 »




เราคนไทยต้องสำนึกบุญคุณ ไอ้นพเหล่
ชาติชั่วอีก  เอ๊อออ เกิดมาเพิ่งเคยพบเคยเห็น
มีคนที่โคราช ไปแถวๆบ้านเกิด นพเหล่
พ่อแม่ คงปลื้มสุดๆ กับวีรกรรมลูก

**** ฮ่าฮ่าฮ่า หนอนในโถส้วม
เอิ๊กก แสดงว่ามันไม่เคยทำ
ความสะอาดส้วม
บันทึกการเข้า

แอ่นแอ๊น
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,591


"Angela Gheorghiu" My goddess


เว็บไซต์
« ตอบ #157 เมื่อ: 07-07-2008, 22:19 »

http://www.oknation.net/blog/inter/2008/07/07/entry-5
เขมรทำคลิปแฉ สมัครหนุนขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร ฟังนาทีที่ 2 เสียงหมักไปพูดตั้งแต่ไปเขมรเหรอ?
บันทึกการเข้า

       

"เมื่อเจตนาเบี่ยงเบนไปจากความจริง การนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง บางทีก็เป็นเพียงภาษาสุภาพสำหรับการพูดเท็จนั่นเอง" : วิถีแห่งปราชญ์ พิมพ์ครั้งที่ ๗ หน้า ๒๐๖
mebeam
ขาประจำขั้น 2
******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 634


Fear can hold you prisoner. Hope can set you Free.


« ตอบ #158 เมื่อ: 07-07-2008, 23:20 »

ข่าวต้นชั่วโมง ช่อง 9 ยืนยันว่า UNESCO อนุมัติแล้ว
ยังไม่มีใครตั้งกระทู้เลย

รอดูผลกระทบในไทย    ในเขมรไม่น่ามีผลกระทบใดๆ   
บันทึกการเข้า
samrung
ขาประจำ
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 226



« ตอบ #159 เมื่อ: 08-07-2008, 08:29 »

[size=1/pt]เราอาจจะต้องเสียอธิปไตยไปด้วย เพราะเขมรมีการขอสิทธิบริหารจัดการพื้นที่ทับซ้อนด้วย[/size]

 
บันทึกการเข้า
p
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,264


« ตอบ #160 เมื่อ: 08-07-2008, 08:54 »


ในที่สุดก็ปรากฏผลชัดเจนออกมาแล้วครับว่า
นพดล ปัทมะขายชาติ
นพดล ปัทมะขายชาติ
นพดล ปัทมะขายชาติ


 

บันทึกการเข้า

ถ้ามัวคิดแต่จะโกงและเอาเปรียบคนอื่น จะสอนลูกหลานให้เป็นคนดีได้อย่างไร
55555
ขาประจำขั้นที่ 3
*******
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,263



« ตอบ #161 เมื่อ: 16-07-2008, 19:36 »

ขุดขึ้นมาดูว่าใคร เคยเถียงไว้มั่ง ว่าเราไม่เสียดินแดน.....

ร่วมทั้ง ปองพล ข้างบนด้วย....

วันนี้ ผมบังเอิญได้ฟังวิทยุ อ.เทพมนตรี ลิมปพยอม ...แฉ เละ...

เดี๋ยวพรุ่งนี้ คงเป็นข่าวใหญ่...

เห็นได้ยินว่า ไอ้พวกชั่วนั่น ไม่เพียงแต่หลอกคนไทย แต่มันยังบังอาจเพ็ดทูล อีกด้วย....


บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4]
    กระโดดไป: