ของทุกประเทศที่เกี่ยวข้องแหละครับ ทรัพยากรใต้พื้นที่นั้นมันเป็นเหมือนบ่อขนาดใหญ่
อยู่ในบริเวณน่านน้ำระหว่างประเทศ ถ้าต่างคนต่างขุด ก็จะตีกันตายเพราะแย่งกันขุด
เลยต้องกำหนด Joint Development Area หรือพื้นที่พัฒนาร่วม เพื่อหาประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนเกาะกูด ถ้าดูตามพิกัดแผนที่ไทย ก็เป็นของไทย ถ้าดูพิกัดแผนที่กัมพูชา ก็เป็นของกัมพูชาด้วย ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนเรามันมาจากแผนที่ที่เศษฝรั่งทำไว้ทั้งนั้น
ภายหลังจากที่นายสนธิ ลิ้มทองกุลได้ตั้งข้อสงสัยและมีคำถามกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2549 และได้มีการเจรจาตกลงเรื่องการพัฒนาแหล่งพลังงานน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่มีอยู่จำนวนมหาศาลในบริเวณ "เกาะกูด" ว่าอาจจะมีผลกระทบอำนาจอธิปไตยของประเทศไทยที่มีอยู่เหนือเกาะกูดรวมทั้งบริเวณน่านน้ำที่อยู่รอบเกาะกูดหรือไม่
หลังจากนั้นในวันที่ 15 กันยายน 2549 กระทรวงการต่างประเทศก็ได้ออกมาแถลงข้อเท็จจริงปฏิเสธข้อสงสัยของนายสนธิ ลิ้มทองกุลว่า การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาเป็นเพียงการไปติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาแบ่งเขตทางทะเลและการพัฒนาร่วมในเขตพื้นที่ทับซ้อนเท่านั้น
"เวลานี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาปัญหาบริเวณเหนือเส้นละติจูดที่ 10 และยังไม่มีข้อยุติ"
ส่วนทาง พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ก็ได้ออกมาปฎิเสธเช่นเดียวกันและยืนยันอย่างหนักแน่นว่า
"รับรองด้วยเกียรติของทหารว่า เราจะเอาดินแดนไปเสียให้เขาไม่มีทางเป็นอันขาดและจะได้ชี้แจงในรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง" ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ไม่มีคำชี้แจงแต่อย่างใด
ผมจึงขอให้ข้อมูลเรื่องของเกาะกูดดังนี้ เกาะกูดนั้นอยู่ในบริเวณ "น่านน้ำภายใน" (Internal waters) ของประเทศที่ประเทศไทยได้ยึดถือเช่นนี้ตลอดมา ชั่วกาลนานแล้วในลักษณะเดียวกับอ่าวประวัติศาสตร์ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง อ่าวไทยตอนใน เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2502 และได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง เส้นฐานตรง และน่านน้ำภายในของประเทศไทยบริเวณที่ 1 "เกาะกูด" (Ko Kut) ตำบลที่ภูมิศาสตร์ (Geographical coordinate) ละติจูดเหนือ (LAT.N.) 11o - 33/.6 ลองจิจูดตะวันออก (LONG.E.) 102o - 35/ .7 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2513
เรื่องของ "เกาะกูด" เราเชื่อความสุจริตใจ และการหวงแหนอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะกูดของกระทรวงการต่างประเทศและของกองทัพโดยเฉพาะกองทัพเรือที่มีหน้าที่ในเรื่องนี้โดยตรง
แต่เราไม่เชื่อความสุจริตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
เกาะกูด ปัจจุบันเป็นกิ่งอำเภออยู่ในจังหวัดตราด เริ่มปรากฏหลักฐานตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ เมื่อ องเชียงสือ เจ้าเมืองญวนที่เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของรัชกาลที่ ๑ หนีออกจากกรุงเทพฯ มาลงเรือที่ เกาะสีชัง แล่นเรือชักใบมา ๗ วัน จึงถึงเกาะกูด ที่ไม่มีคนอยู่เลย เกาะกูดเป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกไทย มีเนื้อที่ ๑๐๕ ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ ๖๕,๖๒๕ ไร่ ความยาวของเกาะ ๒๕ กิโลเมตร ความกว้าง ๑๒ กิโลเมตร มีประชากรราว ๑,๔๑๒ คน ชนพื้นถิ่นดั้งเดิมของเกาะกูดส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่อพยพมาจากปัจจันตคีรีเขต(เกาะกง)ที่ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.2477 มีหมู่บ้านหลองมาดเป็นหมู่บ้านที่เก่าแก่ที่สุด ปัจจุบันเกาะกูดยังดำรงชีพด้วยการประมงชายฝั่ง เกษตรกรรมทั้งสวนยางพารา สวนมะพร้าว แซมสวนผลไม้อีกเล็กน้อย
ลักษณะโดยทั่วไป
เกาะกูดเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของประเทศไทย เกาะยังสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิด ลำธาร สายน้ำ ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกที่ขึ้นชื่อคือ น้ำตกคลองเจ้า ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ นับตั้งแต่อ่าวยายกี๋ หาดคลองเจ้า หาดอ่าวพร้าว อ่าวง่ามโข่ หาดอ่าวเบ้า หาดคลองหิน อ่าวพร้าวจนสุดปลายแหลมเทียน ล้วนแต่เป็นหาดที่มีทรายสวยงามน้ำทะเลใส ประกอบกับธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังหลากชนิดรวมทั้งเกาะแรด และเกาะไม้ชี้ ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะกูด
เกาะกูดมีระยะทางห่างจากอำเภอคลองใหญ่ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เดิมเป็นตำบลหนึ่งขึ้นอยู่กับเขตการปกครอง ของอำเภอแหลมงอบประชาชนชาวเกาะกูดมีความยากลำบากที่จะเดินทางไปติดต่อราชการ ประกอบกับเกาะกูดอยู่ใกล้ดินแดนประเทศกัมพูชาด้านเกาะกงมากกว่าฝั่งไทย ทางราชการจึงมีนโยบายเพื่อความมั่นคงและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน จึงยกฐานะเกาะกูดเป็นกิ่งอำเภอเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓ กิ่งอำเภอเกาะกูดประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อยรวม ๒๔ เกาะ โดยแบ่งเป็น ๓ หมู่เกาะ
1.หมู่เกาะกูด มี ๓ เกาะ ได้แก่ เกาะกูด เกาะแรด เกาะไม้ซี้
2.หมู่เกาะหมาก มี ๙ เกาะ ได้แก่ เกาะหมาก เกาะยะรั้งใน เกาะยะรั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาษ เกาะนก เกาะนอก และเกาะใน
3.หมู่เกาะรัง มี ๑๒ เกาะ ได้แก่ เกาะรังใหญ่ เกาะรังเล็ก เกาะตุ๊น เกาะกระ เกาะเทียน เกาะทองหลาง เกาะมะปริง เกาะยักษ์ เกาะกำปั่น เกาะใหญ่ เกาะกลาง เกาะเล็ก
สถานะทางกฎหมายของเกาะกูดที่อยู่ภายในน่านน้ำภายใน (Internal waters) หมายความว่า น่านน้ำที่อยู่ภายในเส้นฐาน (Baselines) ซึ่งเป็นเส้นที่ใช้วัดความกว้างของทะเลอาณาเขตและรัฐชายฝั่งย่อมมีอำนาจอธิปไตย (Sovereignty) อย่างสมบูรณ์ในอันที่จะสำรวจและแสวงประโยชน์ จัดการทรัพยากรธรรมชาติทั้งหลายบนพื้นดินและใต้พื้นดินท้องทะเล เหนือน่านน้ำภายในเช่นเดียวกับที่รัฐชายฝั่งมีอำนาอธิปไตยเหนือดินแดนที่เป็นแผ่นดินใหญ่ (Territory)
ดังนั้นหากเรือต่างชาติหรืออากาศยานต่างชาติจะเข้ามาในเขตน่านน้ำภายในของรัฐชายฝั่ง ต่างชาตินั้นจะต้องขออนุญาตจากรัฐชายฝั่งก่อน
การเป็นน่านน้ำภายในจึงต่างกับทะเลอาณาเขต (ของประเทศไทยเป็นระยะ 12 ไมล์ทะเลตามประกาศ วันที่ 6 ตุลาคม 2509) ซึ่งแม้รัฐชายฝั่งจะมีอำนาจอธิปไตยเหนือทะเลอาณาเขต เช่นเดียวกับน่านน้ำภายใน แต่เรือต่างชาติก็ไม่สามารถใช้สิทธิผ่านโดยสุจริต (Innocent passage) เหมือนในทะเลอาณาเขตได้
เรื่องของ "เกาะกูด"ยังไม่จบ
เราเชื่อโดยความสุจริตใจ และการหวงแหนอำนาจอธิปไตยเหนือเกาะกูดของกระทรวงการต่างประเทศและของกองทัพโดยเฉพาะกองทัพเรือที่มีหน้าที่ในเรื่องนี้โดยตรง
แต่เราไม่เชื่อความสุจริตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนอำพรางอยู่ในการเจรจาผลประโยชน์ในเรื่องนี้ รวมทั้งเราไม่เชื่อ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่เป็น "ขุนพลอยพยัก" ในระบบทักษิณ
ปรีชา สุวรรณทัต
นสพ.แนวหน้า วันที่ 20/9/2006