ผว.อุดรรับ ประชาธิปไตยอุดรยังไม่โต เหตุรุนแรงม็อบปิดล้อมเวทีพันธมิตรเช้ายันค่ำhttp://th.thaingo.org/board_2/view.php?id=41023/4/49 - ชมรมคนรักอุดรบุกปิดล้อมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ม.ราชภัฎอุดรธานี กดดันปิดเวทีวิชาการ ?สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและปฏิรูปการเมือง? ณ ห้องประชุม 1 โดยนายสุริยะใส กตะศิลา และนายชัยวัฒน์ สินสุวงษ์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมในเวทีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่เวลาประมาณ 08.30 น.วันนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมในนามชมรมคนรักอุดรประมาณ 1,000 คน บุกปิดล้อมอาคารเฉลิมพระเกียรติ ม.ราชภัฎอุดรธานี กดดันให้ปิดเวทีวิชาการ ?สมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและปฏิรูปการเมือง? ของเครือข่ายพันธมิตรอุดรธานี ที่มีผู้เข้าร่วมประมาณ 200 คน ณ ห้องประชุม 1 ในอาคารดังกล่าว
การชุมนุมนำโดยนพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล นายธีรชัย แสนแก้ว สส.พรรคไทยรักไทย นายขวัญชัย ไพรพนา (นายขวัญชัย สาระคำ) นายอุดม บากบั่น นักจัดรายการวิทยุ เอฟเอ็ม 97.50 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งพลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยโจมตีแกนนำพันธมิตรฯ พร้อมกับเสียงโฮ่ฮาของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งล้อมตัวอาคารไว้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 11.00 ผศ.จรูญ ถาวรจักร อธิการบดี ม.ราชภัฎอุดรธานี พล.ต.ต.เขมนัส สุขเจริญ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย ผกก.สภ.อ.เมืองอุดรธานี ประชุมร่วมกับแกนนำ 2 ฝ่าย มีข้อสรุปว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะปิดเวทีเสวนาและจะส่งแกนนำพันธมิตรออกจากจังหวัดอุดรธานี
ภายหลังที่เวทีพันธมิตรได้ยุติลง กลุ่มผู้ชุมนุมได้เฮโลเข้ามาที่บันไดทางเข้าออกจากตัวอาคารทุกทาง จนกลุ่มพันธมิตรไม่สามารถออกจากตัวอาคารได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายสุริยะใส กตะศิลา และนายชัยวัฒน์ สินสุวงษ์ ไปพักในห้องพักรับรองเพื่อรอให้กลุ่มผู้ชุมนุมสงบลงก่อน โดยต่อมานายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาเพื่อเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมให้เปิดทางให้แกนนำพันธมิตรออกไปโดยปลอดภัย แต่กลุ่มผู้ชุมนุมยังกระจัดกระจายและเฮโลเข้ามายังตัวอาคารปิดทางเข้าออก เป็นพัก ๆ จึงได้มีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภอ.เมืองอุดรธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน และทหาร รวมกว่า 500 คนมาควบคุมสถานการณ์โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้เข้าเจรจากับ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และนายธีระชัย แสนแก้ว ให้เปิดทางให้แกนนำพันธมิตรโดยนำกลุ่มผู้ชุมนุมออกจากตัวอาคาร
นพ.วิชัย จิตวณิชกุล สส.พรรคไทยรักไทย ได้ขึ้นปราศรัยต่อกลุ่มผู้ชุมนุมว่า ?แกนนำพันธมิตรต้องการจะถ่วงเวลาเพื่อสร้างข่าว และต้องการโยงใยสร้างความเสียหายแก่พรรคไทยรักไทยว่าอยู่เบื้องหลัง แต่วันนี้พรรคไทยรักไทยไม่ได้อยู่เบื้องหลัง เราอยู่เบื้องหน้า นพ.วิชัยกล่าว? ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องพักของแกนนำพันธมิตรท้าทายให้ออกมา รออยู่ประมาณ 15 นาทีก็เกิดอารมณ์โกรธจึงได้เดินตรงไปแตะประตูห้องพักพร้อมทั้งตะโกนด่าทอด้วยความฉุนเฉียว
ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. นายจารึก ปริญญาพล พร้อมด้วย พล.ต.ต.เขมนัส สุขเจริญ ได้เปิดแถลงณ์ต่อสื่อมวลชนถึงสถานการณ์ ว่าตนได้พยายามไก่เกลี่ยและรับประกันว่าจะนำตัวแกนนำพันธมิตรออกจากบริเวณที่ผู้ชุมนุมปิดล้อมอยู่อย่างปลอดภัย โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตั้งแถวป้องกันพร้อมด้วยโล่และกระบอง แต่ทางแกนนำพันธมิตรยังไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยจึงยังไม่สามารถออกไปได้
นอกจากนี้นายจารึกกล่าวเพิ่มเติมว่า ?การจัดประชุมวิชาการของเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นการจัดเวทีเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาประชาธิปไตยในท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่สร้างสรรค์ผมเห็นด้วยและทุกฝ่ายก็มีสิทธิแสดงความคิดเห็นด้วยเหตุผลไม่ใช่ใช้อารมณ์ เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ไม่ใช้ความรุนแรง และเหตุการณ์ในวันนี้ทำให้ต้องยอมรับว่าประชาธิปไตยในจังหวัดอุดรธานียังไม่เติบโตมากพอ แต่ตนก็หวังว่าเหตุการณ์ในวันนี้คงได้เป็นห้องเรียนรู้ประชาธิปไตยของชาวอุดรได้ดีและเร็วขึ้น? นายจารึกกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังปักหลักปิดล้อมอาคารอยู่จนเวลาพลบค่ำ แกนนำผู้ชุมนุมได้พยายามขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมไปรวมตัวกันที่บริเวณสนามฟุตบอลเพื่อที่จะพักรับประทานอาหารเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน และได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงฉวยโอกาสนำแกนนำพันธมิตรฯ ลงจากตึกขึ้นรถตำรวจคุ้มกันอย่างเน่นหนาออกจากที่ชุมนุมอย่างปลอดภัยโดยกลุ่มผู้ชุมนุมไหวตัวไม่ทัน เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. แล้วกลุ่มผู้ชุมนุมจึงได้สลายตัวในเวลาต่อมา
เฮ้ย ๆๆๆ ไอ้โอ๋ัฐวุฒิ...แบบใช่ไหมวะที่เรียกว่า "มีนักการเมืองหนุนหลัง"=====================================================================
ถ่oย!ทรท.นำไล่ฆ่า 2ส.ส.อุดรปลุกม็อบล้อมกรอบพันธมิตร'วิชัย'ด่า'ไอ้เหี้ำe'http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=71724 เมษายน 2549 กองบรรณาธิการ
พฤติกรรมสุดทราม 2 ส.ส.ไทยรักไทยชเลียร์นายด้วยการปลุกประชาชนห้ำหั่นกัน นำม็อบนับพันล้อมกรอบพันธมิตรฯ ขณะร่วมเสวนาในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี บุกทำร้าย "สุริยะใส" ชกท้อง ก้อนหินปา
"วิชัย" สุดถ่***เตะประตูห้องประชุมด่า "ไอ้***" ต่อหน้าผู้ว่าฯ-ผบก. แกนนำพันธมิตรฯ แถลงประณามปิดกั้นหน่วงเหนี่ยวคุกคาม ซ้ำรอย 6 ตุลา 19 เรียกร้อง "ทักษิณ-ชิดชัย" รับผิดชอบ ด้าน ทรท.ปัดเป็นเรื่องบุคคลไม่เกี่ยวกับพรรค
เมื่อวันที่ 23 เมษายน เวลา 10.00 น. กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดอุดรธานี ได้จัดเสวนาทางวิชาการเรื่อง ปฏิรูปการเมือง-วิกฤติทักษิณ กรณีเว้นวรรค ที่ห้องประชุมชั้น 2 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี โดยมีนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯ เป็นวิทยากร มีประชาชนเข้าฟังกว่า 300 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเสวนาเริ่มต้นไปได้เล็กน้อยก็มีประชาชนอ้างว่าเป็นกลุ่มชมรมคนรักอุดร นำโดยนายสมพงษ์ จันทร์งาม ประธานกลุ่ม นายขวัญชัย ไพรพนา นักจัดรายการวิทยุท้องถิ่น พาชาวบ้านประมาณ 400 คน ซึ่งทุกคนสวมเสื้อสีขาวและโพกผ้าขาวมีข้อความว่า "ชมรมคนรักอุดร" มาชุมนุมบริเวณด้านหน้าอาคาร โดยได้มีการโห่ร้องตะโกนขับไล่กลุ่มพันธมิตรฯ เรียกร้องให้ยกเลิกการจัดเสวนาดังกล่าว หลังจากนั้นได้เข้ายึดพื้นที่บริเวณชั้น 1 ของอาคารเฉลิมพระเกียรติซึ่งเป็นสถานที่เสวนา ปิดล้อมไม่ให้บุคคลใดเข้า-ออก
เมื่อเหตุการณ์เริ่มตึงเครียด เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.เขมณัส สุขเจริญ ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.สิทธิพร โนนจุ้ย ผกก.สภ.อ.เมืองอุดรธานี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ อส. ตชด. และทหารจาก มทบ.24 กว่า 200 นายมาควบคุมสถานการณ์ มีการเจรจากันระหว่างแกนนำพันธมิตรฯ กับนายจรูญ ถาวรจันทร์ อธิการบดี ม.ราชภัฏอุดรฯ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตกลงจะยุติการเสวนาและแยกย้ายกันกลับ
แต่เหตุการณ์เริ่มบานปลายขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกลุ่มต่อต้านเริ่มทยอยเข้ามา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องพาแกนนำพันธมิตรฯ ออกทางบันไดข้างลิฟต์ด้านหลังอาคาร แต่ก็ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 10 คนได้พยายามเข้ามาทำร้ายพร้อมขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหิน รองเท้าเข้าใส่ และด่าทอพันธมิตรฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามกันตัวไว้ จนต้องนำกลับขึ้นมาที่เดิมเพราะสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
นอกจากนี้กลุ่มดังกล่าวยังได้เกณฑ์คนภายนอกเข้ามาประท้วงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่มีเสียงตะโกนเป็นระยะว่า "ฆ่ามันๆ"
ต่อมานายจารึก ปริญญาพล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เดินทางมาพบและเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมเพื่อขอร้องให้สลายตัว ปล่อยนายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์ออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ แต่กลุ่มชาวบ้านยื่นเงื่อนไขให้นายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์เดินทางออกไปก่อนจึงจะสลายตัว
นายจารึกได้กลับเข้าไปแจ้งต่อกลุ่มพันธมิตรฯ ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปิดล้อมรับปากจะไม่ทำร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ ขณะเดินทางกลับออกจาก ม.ราชภัฏอุดรฯ แต่นายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์ไม่มั่นใจในความปลอดภัย ต้องการให้กลุ่มผู้ชุมนุมสลายตัวไปก่อนจึงจะออกไป
หลังการเจรจากันชั่วขณะ ผวจ.อุดรธานีก็ออกไปขอร้องกลุ่มผู้ชุมนุมให้สลายตัว โดยบอกว่ากลุ่มพันธมิตรฯ ได้เลิกเวทีการเสวนาแล้ว ก็ขอให้ต่างคนต่างกลับ ซึ่งผู้ชุมนุมยอมรับเงื่อนไข แจ้งว่าจะเปิดทางให้กลับ อย่างไรก็ตาม ได้มีผู้โทรศัพท์แจ้งนายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์ว่าหากลงมาจะถูกทำร้ายและยิงด้วยหนังสติ๊กขอให้ระวังตัวไว้ ทำให้ทั้ง 2 คนไม่กล้าลงมา ขณะที่ผู้ชุมนุมก็ยังคงปักหลักอยู่บริเวณด้านล่างอาคารเช่นเดิม
ช่วงเวลาดังกล่าว นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย เดินทางไปให้กำลังใจผู้ชุมนุม บอกว่าไม่ได้อยู่เบื้องหลังแต่อยู่เบื้องหน้า จากนั้นทั้ง 2 คนได้ขึ้นไปที่ห้องพักอาจารย์บริเวณชั้น 2 ของอาคาร เพื่อรับแกนนำพันธมิตรฯ ทั้ง 2 คน อ้างจะรับรองความปลอดภัย แต่แกนนำพันธมิตรฯ ไม่เชื่อ
สถานการณ์มีท่าทีว่าจะยืดเยื้อออกไปอีก เมื่อผู้ชุมนุมได้พากันย้ายรถยนต์ที่บรรทุกเครื่องขยายเสียงมาที่บริเวณสนามหญ้าหน้าอาคาร พร้อมกับโจมตีบุคคลทั้งสองว่าไม่กล้าสู้หน้าประชาชน
ด้านนายสุริยะใส ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ ASTV ว่า คนที่นำชาวบ้านมาปิดล้อมงานเสวนาครั้งนี้ไม่ใช่นายขวัญชัย ไพรพนา นักจัดรายการวิทยุท้องถิ่นอุดรฯ เพียงคนเดียว แต่ยังมี ส.ส.พรรคไทยรักไทยอีก 2 คน คือ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล และนายธีระชัย แสนแก้ว ที่เป็นคนนำชาวบ้านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ นพ.วิชัยขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดมยั่วยุให้เกิดการตะลุมบอนประทุษร้ายกันในตอนเช้า หลังจากนั้นฝูงชนก็กรูกันเข้ามาล้อมห้องประชุมด้วยอารมณ์โกรธ
"ระหว่างการกรูเข้ามาล้อมห้องประชุมนั้น มีการขว้างปาขวด ก้อนหิน ทำให้หลายคนได้รับบาดเจ็บ ผมโดนก้อนหินปา 2 ก้อน ขณะที่มีผู้บาดเจ็บบางคนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล ทั้งนี้ผมเชื่อว่าชาวอุดรฯ จะแยกแยะได้ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร กลุ่มคนที่ก่อเหตุถูกจัดตั้งโดยหัวคะแนนไทยรักไทย เพราะฉะนั้นจะไม่ถือโทษโกรธเคือง และที่จริงผู้เข้าร่วมเสวนาก็เป็นชาวอุดรฯ อยู่ในห้อง 400-500 คน" นายสุริยะใสกล่าว
นายสุริยะใสกล่าวว่า จะยังอยู่ในห้องประชุมต่อไป พร้อมกับผู้เข้าร่วมเสวนาอีกจำนวนหนึ่งที่ยังออกไปไม่ได้ และได้แจ้งกับผู้ว่าราชการจังหวัดว่าตนจะลงจากห้องประชุมก็ต่อเมื่อให้ผู้เข้าเสวนาทั้งหมดออกมาได้โดยปลอดภัยก่อน และให้แกนนำม็อบที่อยู่ข้างล่างพาชาวบ้านสลายตัวไปก่อน ซึ่งทางพันธมิตรฯ ได้ยุติการจัดเสวนาลงแล้วเพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า แต่จากการประเมินสถานการณ์ ถ้าตนและผู้เข้าร่วมเสวนาที่เหลืออยู่ลงไปจากห้องประชุมจะมีการขว้างปาแน่ เพราะมีการเตรียมก้อนหิน หนังสติ๊กเอาไว้ คนที่ลงไปก่อนก็ถูกตี ถูกชกไปหลายคน ขณะที่แกนนำม็อบยังมีการปราศรัยยั่วยุให้มีการประทุษร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ
"ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายซ่องโจร มีพฤติกรรมที่จะบุกรุกเข้ามาในห้องประชุมตลอดเวลา และมีบางส่วนกินเหล้าด้วย อย่างไรก็ตามเชื่อว่าคนกลุ่มนี้เป็นเพียงคนส่วนน้อยที่ทำลายภาพลักษณ์คนอุดรฯ" นายสุริยะใสระบุ
สำหรับการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่นั้น นายสุริยะใสกล่าวว่า ขณะนี้มีการเสริมกำลังตำรวจเข้ามารักษาการณ์ประมาณ 400-500 นาย แต่ยังไม่เชื่อมั่นความปลอดภัย เชื่อว่าถ้าเราลงไปก็เอาไม่อยู่ เพราะแกนนำยังไม่พาม็อบสลายตัว โดยเฉพาะ นพ.วิชัย ซึ่งขึ้นเวทีปราศรัยตั้งแต่เมื่อเช้าทำให้สถานการณ์เปลี่ยนทันที มีการยั่วยุจนมีคนกรูเขามาที่ห้องเสวนา
ส่วนนายไชยวัฒน์กล่าวว่า ผู้ว่าฯ อุดรฯ ได้เจรจากับ นพ.วิชัยตั้งแต่เช้า และ นพ.วิชัยได้บอกผ่านผู้ว่าฯ มาว่า ให้ตนและนายสุริยะใสเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก่อน โดยผู้ว่าฯ จะพาเดินผ่านแถวของกลุ่มผู้ชุมนุมไปจนถึงประตูรถ ซึ่งตนไม่มั่นใจในความปลอดภัย เพราะถ้าใครขว้างปาอะไรมาก็จับมือใครดมไม่ได้ และผู้ว่าฯ เองก็อาจได้รับอันตรายด้วย แม้แต่ขณะที่ผู้ว่าฯ กำลังเจรจาอยู่ก็ยังมีคนเตะประตูโครมๆ อ้างว่ารอนานไม่ได้ จนผู้ว่าฯ ต้องเงียบไป
นายไชยวัฒน์ระบุว่า กลุ่มที่มาปิดล้อมขณะนี้มีประมาณ 1 พันกว่าคน หลังจากมีการปิดล้อมอยู่นานกว่า 5 ชั่วโมง และมีแนวโน้มว่าจะนำกำลังคนมาเสริมอีกในช่วงเย็นประมาณ 1 พันคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานียังเป็นไปอย่างตึงเครียดแม้จะมี ผวจ.และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพยายามคลี่คลายก็ตาม จนเวลาผ่านไปเกือบ 10 ชั่วโมง จากการเจรจาอย่างหนักของ ผวจ.และ ผบก.อุดรธานี กลุ่มผู้ชุมนุมก็ยอมเคลื่อนย้ายออกจากชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ ไปชุมนุมยังสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัย นายสุริยะใสกับนายไชยวัฒน์จึงตัดสินใจออกจากตัวอาคารก่อนที่จะค่ำ โดยให้ทหารจาก มทบ.24 ยืนเรียงแถวเป็นกำแพงกั้นให้ทั้ง 2 คนขึ้นรถตำรวจที่จอดอยู่ด้านข้างอาคาร ขับออกจาก ม.ราชภัฏทันที กระนั้นก็ตาม กลุ่มต่อต้านส่วนหนึ่งได้กรูเข้าหารถ ด่าทอโห่ร้องขับไล่ แต่ตำรวจก็ขับรถฝ่าออกไปได้ จากนั้นก็มีชุดคุ้มกันนำทั้งสองเดินทางไปยังจังหวัดขอนแก่น
นายสุริยะใสเปิดเผยภายหลังผ่านเหตุการณ์ระทึกว่า ตนพยายามแยกแยะไม่อยากให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นการกระทำของคนอุดรฯ ทั้งจังหวัด เพราะเป็นกลุ่มจัดตั้งมีกระบวนการเตรียมการเป็นสัปดาห์ มีการออกใบปลิวปลุกระดมกันมาตลอด ตอนแรก นพ.วิชัยก็ขึ้นเวทีปราศรัยปกติ วิจารณ์พันธมิตรฯ บ้าง แต่สถานการณ์มาขมวดตอนที่ นพ.วิชัยขึ้นเวทีปลุกกระดมยั่วยุให้ประชาชนประทุษร้ายกลุ่มพันธมิตรฯ เป้าหมายไม่ใช่แค่ล้มเวทีเท่านั้น เพราะมีการเสริมกำลังเพิ่มเรื่อยๆ ด่าแบบหยาบคาย แน่จริงลงมา ลักษณะเอาเรื่อง
"ผู้ว่าฯ พยายามติดต่อ นพ.วิชัยกับนายธีระชัยให้เอาม็อบกลับ แต่ก็ไม่มีท่าทีตอบรับอะไร นพ.วิชัยมาถึงก็เตะประตูห้องปึ้ง ด่า ไอ้*** พวกมึงนี่ ผู้ว่าฯ กับ ผบก.ภ.อุดรฯ นั่งอยู่ในห้องเงียบกันหมด ถือว่าเป็นการกักขังหน่วงเหนี่ยวผม 8 ชั่วโมง จะหารือกันแกนนำพันธมิตรฯ ว่าจะดำเนินการอย่างไร ผมคงไม่ยอม"
นายสุริยะใสกล่าวว่า ช่วงแรกตนเชื่อตำรวจว่าสามารถคุ้มกันได้ จึงยอมเดินลงมา แต่กลับถูกทำร้าย ถูกปาเป็นห่าฝน ทั้งรองเท้า ขวดน้ำ ก้อนหิน บางคนกรูเข้าชก โดนเข้าที่ซี่โครงด้านซ้าย โดนก้อนหินขว้างที่หน้าอก พอหันหลังวิ่งขึ้นห้อง โดนบล็อกอีก คนที่อยู่บนห้องต้องวิ่งลงมาช่วย ดังนั้นที่บอกว่าพวกตนไม่อยากกลับเป็นการบิดเบือนชัดเจน
กรณีนายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย อ้างว่า นพ.วิชัยเข้าไปไกล่เกลี่ยแล้ว นายสุริยะใสกลับหาว่า นพ.วิชัยมาปลุกม็อบ นายสุริยะใสกล่าวว่า นายจตุพรอย่าปกป้องโจร นพ.วิชัยเข้ามาถีบประตู ผู้ว่าฯ ก็อยู่ พูดแบบนี้ในฐานะพี่น้องกันตนเสียความรู้สึกมาก
เหตุการณ์ที่จังหวัดอุดรธานี ทำให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเปิดหารืออย่างเคร่งเครียดที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา จากนั้นนายพิภพ ธงไชย นายสุวิทย์ วัดหนู และนายปานเทพ พัวพงศ์พันธ์ แถลงประณามเหตุการณ์ดังกล่าว
นายปานเทพกล่าวว่า เวทีการประชุมครั้งนี้เป็นการชุมนุมอย่างสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ไม่ได้เป็นการละเมิดกฎหมาย แต่สิ่งที่กลุ่มผู้ชุมนุมกระทำ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน เป็นการปิดกั้นการแสดงออก ความคิดเห็น มีการหน่วงเหนี่ยวกักขัง คุกคามประทุษร้ายร่างกาย ขว้างปาขวดน้ำ ก้อนหิน ยิงหนังสติ๊ก ที่สำคัญมีนักการเมืองจากพรรคไทยรักไทยเข้ามาเกี่ยวข้อง
"ที่ผ่านมารัฐบาลพยายามประกาศว่าได้ถอยแล้ว เว้นวรรคแล้ว แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกครั้งเกิดจากฝ่ายรัฐบาลก่อนทั้งสิ้น ครั้งนี้ก็ปรากฏชัดเจนว่ามี ส.ส.ไทยรักไทยคือนายธีระชัย แสนแก้ว และ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ขึ้นเวมีปราศรัยปลุกระดมประชาชนให้ต่อต้านแกนนำพันธมิตรฯ จนนำไปสู่ความรุนแรง เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องทบทวนบทบาทตัวเองอย่างเร่งด่วน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ต้องสอบสวน ส.ส.ไทยรักไทยที่เป็นแกนนำในการก่อเหตุครั้งนี้" นายปานเทพกล่าว
ด้านนายสุวิทย์ วัดหนู กล่าวว่า การกระทำครั้งนี้เห็นได้ชัดเจนว่ามีนักการเมืองพรรคไทยรักไทยอยู่เบื้องหลัง ไม่ต่างจากเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 ที่ปูพื้นด้วยการใช้สื่อวิทยุชุมปลุกระดมชาวบ้านให้รู้สึกเกลียดชังการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ อย่างไรก็ตาม การจัดเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ยังคงเหมือนเดิม แต่พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงและกังวลมีอยู่ 2 ที่ คือ นครราชสีมา และเชียงใหม่ ซึ่งพันธมิตรฯ ไม่กลัว เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
นายพิภพยืนยันเช่นกันว่า พันธมิตรฯ จะยังเดินหน้าจัดเวทีทางวิชาการเพื่อนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับรู้ทั้ง 2 ด้าน เพราะที่ผ่านรัฐบาลไทยรักไทยปิดหูปิดตาประชาชนมาตลอด
"พันธมิตรประชาชนฯ ขอประณามการใช้ความรุนแรงโดยมีนักการเมืองพรรคไทยรักไทยอยู่เบื้องหลังในครั้งนี้ เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้ที่จะต้องดูแลให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูลข่าวสารทั้งสองด้าน เพราะการชุมนุมของพันธมิตรฯ จะมีการประกาศล่วงหน้าตลอดเวลา เราทำอย่างเปิดเผย ปรากฏการณ์การขัดขวางเวทีที่ จ.อุดรธานี ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นรัฐบาลรักษาการชุดนี้ต้องออกมาแสดงความรับผิดชอบ ทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ผู้ปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบด้วยการแถลงข่าวถึงจุดยืนว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกในรัฐบาลรักษาการชุดนี้ และนับจากวันนี้หากมีความรุนแรงเช่นนี้เกิดขึ้น รัฐบาลต้องรับผิดชอบโดยไม่มีเงื่อนไข" นายพิภพกล่าว
นายสุริยันต์ ทองหนูเอียด ที่ปรึกษาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิเสรีในการแสดงออกบนพื้นฐานของประชาธิปไตย แต่สิ่งที่กลุ่มคนรักอุดรกระทำนั้นเป็นการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็น และเชื่อว่ากลุ่มที่มาทำการปิดกั้นนี้เป็นกลุ่มฐานคะแนนของพรรคไทยรักไทย
ด้านนายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย ซึ่งอยู่ในม็อบต้านพันธมิตรฯ ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ขนคนไปล้อมกลุ่มพันธมิตรฯ หรือกักขังหน่วงเหนี่ยวนายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์แต่อย่างใด ในช่วงเช้าตนกับ นพ.วิชัยได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จาก ผวจ.อุดรฯ และ ผบก.ภ.อุดรฯ ว่าขอให้ไปช่วยเคลียร์กับประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรักอุดรที่ไม่ชอบพวกพันธมิตรฯ ซึ่งได้ขอร้องให้อธิการบดี ม.ราชภัฏอุดรฯ ตั้งแต่เมื่อวันเสาร์แล้วว่าไม่ควรให้กลุ่มพันธมิตรฯ มาใช้เวทีของมหาวิทยาลัย แต่ถูกปฏิเสธ และทางกลุ่มคนรักอุดรทราบมาว่านายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ จะเดินทางมาในงานด้วย จึงได้นัดหมายรวมกลุ่มกันเพื่อแสดงออกว่าคนอุดรฯ ไม่ต้อนรับกลุ่มพันธมิตรฯ ด้วยความสงบ
นายธีระชัยกล่าวว่า เมื่อเดินทางไปยัง ม.ราชภัฏอุดรธานี ก็ได้เจรจาให้นายสุริยะใสและนายไชยวัฒน์รีบกลับไปโดยจะรับรองความปลอดภัย แต่ทั้ง 2 กลับบ่ายเบี่ยง มีท่าทีต้องการถ่วงเวลาเพื่อให้ดูประหนึ่งว่าถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งเรื่องนี้ตนมีพยานทั้งประชาชนและ ผวจ.อุดรธานียืนยันให้ได้ ว่าตนและ นพ.วิชัยพยายามช่วยเหลือทั้งสองคนว่าจะไม่ถูกทำร้ายหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น
"การที่กลุ่มพันธมิตรฯ ไปแถลงข่าวว่าพวกผมและคนรักอุดรกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยไม่มีข้อเท็จจริงแบบนี้ ถือเป็นการทำลายคนอุดรฯ ทั้งจังหวัด จะยิ่งทำให้คนอุดรฯ เกลียดกลุ่มพันธมิตรฯ มากขึ้น ทั้งที่ทั้งสุริยะใสและไชยวัฒน์ไม่ได้ถูกกักขังหรือถูกทำร้ายใดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นการเขวี้ยงขวดน้ำหรือการขว้างปาอะไร ผมอุตส่าห์ไปช่วยก็มาหาว่าผมกับ นพ.วิชัยไปอยู่เบื้องหลัง แบบนี้ใช้ไม่ได้ ผมถามว่าทำไมพูดจบแล้วไม่รีบกลับจะมา ยื้ออยู่บนเวทีทำไม ถ้าไม่ใช่เพื่อให้คนเห็นว่ามีการล้อมกักขัง แถมนายสุริยะใสก็ยังไปกวนตีนเขา ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ หรือผู้กำกับที่พูดดีๆ แล้วว่าขอให้รีบออกไป แต่ก็ยังไม่ยอมออก แล้วอ้างว่าไม่ปลอดภัย" นายธีระชัยกล่าว
สำหรับท่าทีของพรรคไทยรักไทย นายภิมุข สิมะโรจน์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า เรื่องนี้พรรคไทยรักไทยไม่เกี่ยวข้อง เป็นเรื่องส่วนบุคคลของ นพ.วิชัยเพียงคนเดียว และก็ยังไม่มีการยืนยันว่า นพ.วิชัยได้ขนคนไปปิดล้อมสถานที่จริงหรือไม่ อาจไม่ใช่ นพ.วิชัยเป็นผู้ทำก็ได้ อีกทั้งพรรคไทยรักไทยก็มี ส.ส.และสมาชิกมาก การดำเนินการใดๆ หากเป็นเรื่องส่วนตัวพรรคคงไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งหมดคงไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพรรคไม่ได้ไปตั้งเวทีอะไรในนามมองพรรค
นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองโฆษกพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ตนเพิ่งขึ้นมาจากภาคใต้ พอทราบเรื่องก็โทรศัพท์หานายธีระชัย แสนแก้ว เขาก็เล่าให้ฟังว่าผู้ว่าฯ ตามให้เขามาไกล่เกลี่ย เขาก็ไปพูดกับผู้ชุมนุมยืนยันไม่มีการทำร้าย เรื่องถูกชก เรื่อง นพ.วิชัยเตะประตู ตนก็เพิ่งได้ยินจากนายสุริยะใส ตนก็พยายามโทร.หานายสุริยะใส แต่เขาไม่รับสาย ไม่ได้ปกป้องใคร ต่างคนต่างมีหน้าที่กัน พอได้ข่าวก็ห่วงใยฉันมิตรอยู่
"อยากให้พันธมิตรฯ ทบทวนตัวเองเหมือนกัน ไปภาคใต้ก็เหมือนวีรบุรุษ แต่อุดรฯ เป็นเขตพื้นที่พรรคไทยรักไทย และมีเรื่องกันมาผมก็ไม่เห็นด้วยกับการปิดล้อมกัน ทุกฝ่ายก็ใช้สิทธิของตนเอง มีปัญหาก็ใช้กฎหมายเป็นหลัก ไม่มีใครอยากให้เกิดภาพแบบนี้ ยอมรับไม่เป็นผลดีกับพรรคไทยรักไทย พื้นที่อื่นก็ไม่พอใจ ต่อไปนี้ก็ต้องระมัดระวังขึ้น" รองโฆษกพรรคไทยรักไทยกล่าว
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า การแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่แตกต่างกันสามารถกระทำได้ แต่ไม่ควรจะพัฒนากลายเป็นการก่อความรุนแรง หรือละเมิดสิทธิของกลุ่มบุคคลหรือประชาชนกลุ่มอื่น ทั้งที่กลุ่มพันธมิตรฯ เดินทางไปสัมมนาที่อุดรธานีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นไม่ควรที่จะมีการปลุกระดมให้ประชาชนที่มีความเห็นไม่ตรงกันออกมาแสดงออกถึงความรุนแรง และไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย และอาจจะบานปลายเหมือนกรณีความรุนแรงที่ จ.เชียงใหม่
"มีความไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งที่เหตุการณ์ครั้งนี้มี ส.ส.ระดับประเทศคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง ทั้งที่นักการเมืองจะต้องทำหน้าที่คลี่คลายความขัดแย้งของประชาชนในกรณีที่มีความเห็นแตกเป็นหลายฝ่าย แต่กลับทำตัวเป็นผู้ยุยงให้เกิดปัญหาความแตกแยกเสียเอง ขอเรียกร้องให้นักการเมืองคนดังกล่าวยุติการกระทำที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง และขอให้เจ้าหน้าที่บ้านเมือง โดยเฉพาะรัฐบาล จะต้องเอาใจใส่ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นได้" นายองอาจกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เมื่อครั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รักษาการนายกฯ เดินทางไปหาเสียงที่ จ.อดุรฯ ปลายเดือน มี.ค. เมื่อลงจากเครื่องบินได้มีประชาชนกลุ่มหนึ่งไปชุมนุมต่อต้านที่สนามบิน ขณะที่ นพ.วิชัย ชัยจิตวณิชกุล ก็นำประชาชนมาชุมนุมประจันหน้ากันหวิดเกิดเหตุปะทะกัน
นายขวัญชัย ไพรพนา ดีเจท้องถิ่น จ.อุดรฯ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าภารกิจของกลุ่มคนรักอุดรได้รับชัยชนะ เพราะกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่สามารถเปิดเวทีได้ต่อไป ตนจะตามคัดค้านกลุ่มพันธมิตรฯ ทุกครั้งที่จะมีการเปิดเวทีเสวนา
นายสมพงษ์ จันทร์งาม ประธานกลุ่มคนรักอุดร กล่าวว่า ตนขอให้จังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศนำการชุมนุมวันนี้ไปเป็นแบบอย่าง โดยที่ไหนพันธมิตรฯ มีการเปิดเวที ก็ให้รวมตัวกันออกมาขับไล่ ไม่ให้จัดเวทีได้สำเร็จ.
เยี่ยงอย่างจากอุดรธานี - ถิ่นไทยรักไทย - พลังประชาชน เชียวนะโว้ยยยย แบบนี้
ตู่ - "รัฐศาสตร์ รามคำแหง 8 ปี" จะแปรญัตติ "เทงบทะลักล้นทะลาย" ให้เมืองอุดร ฯ รึเปล่า
ไหน ๆ ก็จะ "ตัดงบ" 14 จังหวัดภาคใต้แล้วไม่ใช่หรือ ?
( ว่าแต่รัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง สอนมาว่า "รัฐบาลในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
มีอำนาจตัดงบหรือกลั่นแกล้งภูมิภาคหรือประชาชนส่วนไหนก็ได ้ที่ประชาชนในพื้นที่นั้นไม่ต้อนรับรัฐมนตรีในรัฐบาลของตน" ใช่หรือเปล่าวะ ?)[/color]