นอกจากจะไม่เคยเห็นด้วยเลยกับโครงการตำนำพริกละลายแม่น้ำนี้มาตั้งแต่ต้น
(สมัยหมอสุรพงษ์ ยังเป็น รมว. กระทรวง IT มาออก ถึงลูกถึงคน)
เพราะถ้ายังไม่มี software อะไรมาเชื่อมต่อรองรับการใช้งาน
บัตรฉลาด (คนเสนอที่ไม่รู้ได้กี่ %) ที่ว่าก็ไม่มีประโยชน์อะไรมากไปกว่า
เอามาถ่ายเอกสารแล้วเซ็นรับรองสำเนา
เหมือนบัตรรุ่นเก่าที่ไม่เคยเอาบัตรแถบแม่เหล็กไปรูดที่ไหน แม้แต่ที่อำเภอ
นึกถึงตาสีตาสายายมียายมา จะใช้ทำอะไรได้
ก็ดูแต่ธนาคารที่ตั้งตู้ self-service แม้แต่ในกทม. ถิ่นเจริญ
ก็ยังเห็นลูกค้าไปต่อคิวใช้บริการกับพนักงานกันถ้วนทั่ว
เอาเงินหลายพันล้านไปใช้พัฒนาการศึกษาก่อนไม่ดีกว่าหรือ?
ประเด็นที่สอง ก็ privacy
อ่านที่คุณ โกวเฮง อุตส่าห์หามาให้ดู
ยังไง skeptic (พวกพี่ Mulder @ X-Files) อย่างเรา
ก็อดคิดระแวงมิได้ว่า จะเป็นอย่างหนัง Enemy of the State
หากข้อมูลและเทคโนโลยีตกไปอยู่ในมือผู้ร้าย
ก็รัฐบาล ช่างน่าไว้วางใจเสียนี่กระไร