ประเมิน 4 เดือนรบ.สมัคร สอบตกแก้ความขัดแย้ง

[Can ไทเมือง]

ประเมิน 4 เดือนรบ.สมัคร สอบตกแก้ความขัดแย้ง
ไทยรัฐ [5 มิ.ย. 51 - 09:35]
 

นพ.พลเดช ปิ่นประทีป อดีตรมว.ว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าววันนี้ (5 มิ.ย.) ถึงสถานการณ์ทางการเมือง ทางคลื่นวิทยุ 98.0 เมกกะเฮิร์ท ในรายการเจาะลึกทั่วไทยว่า ตนสนับสนุนให้รัฐบาลประกาศถอยเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นวาระของสังคม เป็นฉันทมติของสังคมร่วมกันว่า เราจะศึกษาทบทวนแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นคนที่กลัวว่าจะไม่แก้ไข ก็สบายใจว่าแก้แน่ แต่ให้เวลาให้ความสำคัญกับกระบวนการ อย่ามาเร่งร้อนภายใน 3-6 เดือน ให้เวลา 2-3 ปี ใช้กระบวนการการมีส่วนร่วม ให้คนที่มีความเห็นต่างขั้วเข้าสู่กระบวนการ ถกเถียงพูดคุยกัน หาข้อสรุปเป็นเรื่อง ๆ ไป

นพ.พลเดช  กล่าวว่า กระบวนการแบบนี้ จะหาจุดที่อยู่ร่วมกันได้ หากสังคมเปร่งเสียงออกมา จะเป็นทางลงให้กับความขัดแย้งสามารถมีทางลงโดยไม่เสียหน้า และหากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยังไม่ถอยเรื่องการขับไล่รัฐบาล ก็ให้สาธารณะเป็นคนตัดสิน

"ขณะนี้รัฐบาลมีปัญหาใหม่ คือวิกฤติผู้นำ โดยนายกรัฐมนตรี 4 เดือนที่ผ่านมา การดูแลปัญหาความขัดแย้ง ผมถือว่า สอบตก หากจะทำให้เกิดความร่วมไม้ร่วมมือของสังคม การเปลี่ยนตัวผู้นำสำคัญ"นพ.พลเดช กล่าว และว่า ตนของเสนอให้พรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาล น่าจะทบทวน เชื่อคนในพรรคพลังประชาชนและพรรคร่วมรัฐบาลสามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้หลายคน
 
 

ทางออกของสังคมตอนนี้คือ ถอยเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญออกไป

จนกว่าการดำเนินคดีของอดีตนายกขึ้นสู่ศาลทั้งหมด

ห้ามยุ่งเรื่องบทเฉพาะกาล 309 เด็ดขาด

[Can ไทเมือง]

คตส.เต้นป.ส่งหมายเรียก ส่อใช้อำนาจรัฐบิดเบือนกม.
ไทยรัฐ[5 มิ.ย. 51 - 04:23]
 
นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงเมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 4 มิ.ย. ว่า คตส.ได้มีมติทำหนังสือถึงนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ  อดีตคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) ในฐานะที่แต่งตั้ง คตส.ตามประกาศ คปค.ฉบับที่ 30 ให้ดำเนินการกับพนักงานสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากปรากฏมีเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจรัฐที่น่าเป็นการบิดเบือนกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดความสะดวกในการทำหน้าที่ของ คตส.  สืบเนื่องมาจากกรณีที่สำนักงานกฎหมายนิติเอกราช จำกัด ได้แจ้งความกลับ คตส.ในข้อหาแจ้งความเท็จ และพนักงานสอบสวนกองปราบปรามได้มีหนังสือออกหมายเรียก คตส.ถึง 2 ครั้ง ในวันที่ 30 พ.ค.และ 10 มิ.ย. โดยในหมายเรียกมีการระบุว่า หากไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามกำหนด โดยปราศจากเหตุอันควรอาจเป็นเหตุให้ออกหมายจับ อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 มิ.ย. คตส.ทั้ง 11 คนจะไม่ไปพบพนักงานสอบสวน เพราะว่าการทำหนังสือไปนั้นถือเป็นการชี้แจงด้วยวาจาแล้ว   

โฆษก คตส.กล่าวต่อว่า  คตส.ยังได้ทำหนังสือถึงทุกศาลในส่วนกลางและปริมณฑล เหตุที่ต้องมีหนังสือไป เพราะไม่ทราบว่า พนักงานสอบสวนจะดำเนินการขอหมายศาลที่ใด จึงต้องกราบเรียนข้อเท็จจริงให้ศาลที่มีอำนาจออกหมายอาญา ได้ทราบว่า ไม่มีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน และเพื่อแสดงความประสงค์ว่าหากพนักงานสอบสวนมีคำร้องขอออกหมายจับ คตส. ทาง คตส.จะแต่งตั้งทนายความในชั้นไต่สวนคำร้องขอออกหมายจับ เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมในคดีต่อไป

...........................................

การใช้อำนาจบิดเบือนกระบวนการยุติธรรม เป็นการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ

คตส. ควรยื่นเรื่องให้ ปปช. สอบสวนดำเนินการต่อไป